บางครั้งการย้ายบ้าน
จะไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายว่าต้องจ่ายมากเท่าไร
ถ้าบ้านเหล่านั้นเป็นโครงสร้างที่มีเรื่องราว
มีตำนานประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
มีความเสี่ยงต่อการรื้อถอนหรือน้ำท่วม
จะต้องถูกย้ายไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยมากขึ้น
ผู้ย้ายบ้านมืออาชีพจะขุดรอบรากฐานบ้านก่อน
แล้วยกขึ้นวางบนรางเลื่อน
ที่ตั้งบนแม่แรงไฮดรอลิกที่ติดล้อ
พร้อมกับเคลื่อนย้ายลงที่ถนนอย่างรอบคอบ
ก่อนจะย้ายไปยังตำแหน่งใหม่ที่วางผังไว้แล้ว
โดยปกติแล้วระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
หรือไม่กี่ไมล์มากที่สุด เท่าที่เคยขนย้ายกัน
แต่ในบางกรณี
ถ้าโครงสร้างเป็นใจให้กับการรื้อถอน
และมีหนทางขนย้ายไกลมาก
ก็มักจะรื้ออิฐ/หินทีละก้อน ๆ ก่อน
แล้วขนไปประกอบขึ้นใหม่ตามลำดับในที่ใหม่
ด้วยวิธีการนี้จะย้ายบ้านกันหลายประเทศ
ไปในระยะทางหลายร้อยไมล์
แต่ลองนึกถึงการย้ายบ้าน
ระยะทางไกลมากกว่า 3,600 ไมล์
ข้ามมหาสมุทรจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่ง
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงหลังเดียว
แต่เกิดขึ้นถึงสองหลังในช่วงปี ค.ศ.1920
.
.
.
Virginia House ตั้งอยู่ที่ Warwickshire
ประเทศอังกฤษในปี 1900
© Virginia Historical Society
.
.
Virginia House ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง
ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำ
James
ในย่าน
Windsor Farms ของ
Richmond
รัฐ
Virginia สหรัฐอเมริกา
ในปี 1536
อาคารนี้เดิมเป็นคฤหาสน์อังกฤษ
อยู่ห่างออกไป 3.600 ไมล์ใน
Warwickshire อังกฤษ
บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินส่วนตัว
ของเจ้าของรายหนึ่ง ก่อนขายให้กับ
Thomas Hawkins /Thomas Fisher นักการเมือง
ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนภูมิทัศน์ที่งดงาม
Thomas Hawkins เรียกบ้านของตนว่า
Hawk's Nest เป็นที่รู้จักกันดีว่า
ใช้เป็นสถานที่รับรองแขกผู้มีเกียรติ
รวมทั้ง
Queen Elizabeth I
ในปี ค.ศ. 1925 เกือบ 4 ศตวรรษต่อมา
Lloyds Bank ได้นำคฤหาสน์มาขายทอดตลาด
เอกสารรายการที่ตีพิมพ์ที่ใช้สำหรับ
การประมูลทรัพย์สินของคฤหาสน์ ได้ระบุว่า
" การขายชิ้นส่วนที่สำคัญที่รื้อถอนได้ครั้งยิ่งใหญ่
มีรายการเช่น ประตูไม้โอ๊คเก่าแก่ที่หายากจำนวนมาก ไม้กระดาน ไม้ขื่อ รอด ตง ไม้อื่น ๆ
และอิฐที่ดีเยี่ยมปริมาณมหาศาล หินทราย
ไม้โอ๊กเก่าแก่ ไม้คาน ไม้ซุง และไม้นั่งร้าน "
Alexander W. Weddell นักการทูตชาวอเมริกันผู้มั่งคั่ง
และภรรยา Virginia Chase Steedman
ได้เห็นโฆษณาชิ้นนี้และเสนอซื้อทรัพย์สินทั้งหมด
ก่อนที่จะทำการประมูลราคาขาย
มีการเจรจาตกลงเป็นการภายใน
ขอซื้อทรัพย์สินทั้งหมด/บ้านทั้งหลัง
โดยตกลงกันที่ราคา £3,500
ก่อนการประมูลราคาขายจะถูกจัดขึ้น
การขายบ้านให้กับชาวอเมริกัน
ทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจอย่างมาก
กับสื่อมวลชนอังกฤษ และชาวอังกฤษบางคน
Alexander W. Weddells ผู้ซื้อบ้านหลังนี้
ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะมีข่าวลือว่า
ชาวอเมริกันตั้งใจรื้อถอนบ้านหลังนี้ทิ้งทั้งหมด
แต่เมื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงสัญญาซื้อขาย
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่งได้เขียนจดหมายขอโทษต่อ Alexander Weddell ว่า
" ถ้าคุณไม่ก้าวเข้ามาซื้อบ้านหลังนี้
วัสดุโครงสร้างที่จะรื้อถอนขายแล้ว
พวกมันก็จะสูญหายไปตลอดกาล
(กระจัดกระจายไปหลายแห่ง/เสื่อมสภาพ)
และในขณะนี้พวกมันจะนำไปใช้
ในการสร้างอาคารหลังใหม่ "
.
.
.
บ้านถูกรื้อถอนและบรรทุกบนรถขนของ
© Virginia Historical Society
.
.
Virginia House สร้างขึ้นใหม่
ใน Richmond รัฐ Virginia
© Virginia Historical Society
.
.
บริษัทที่ได้รับการว่าจ้างให้ทำการรื้อถอน
จัดส่งข้ามประเทศ และสร้างบ้านขึ้นใหม่
ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบอาคารเบื้องต้น
และได้ข้อสรุปว่า หินที่สร้างขึ้นในบ้าน
จะเสียหายหนักมาก ถ้าพยายามจะรื้อออก
บริษัทจึงให้คำแนะนำว่า
ถ้าจะทำให้ง่ายขึ้น/เร็วขึ้นก็ด้วยการระเบิดบ้าน
ซึ่งจะทำให้บ้านพังทะลายลงมาก่อน
แล้วค่อยเก็บกู้ก้อนหินที่ยังคงสภาพดี
และโชคดีที่หินส่วนใหญ่คงสภาพเหมือนเดิมหลายก้อนมากจนนำไปใช้งานต่อในสหรัฐได้
ก้อนหินทั้งหมดได้ถูกบรรจุลงในกล่อง
และส่งข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
Virginia House ที่สร้างขึ้นใหม่
ไม่ได้จำลองแบบของอาคารเดิมทั้งหมด
แต่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย
ปีกทางทิศตะวันตกของบ้าน
เป็นแบบจำลองของคฤหาสน์ขนาดเล็ก
ใน
Northamptonshire ของ
Lawrence Washington
ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ
George Washington
ปีกด้านตะวันออกของบ้านตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของครอบครัว
Spencer-Churchill
เฉพาะตรงกลางของบ้านที่ทำเสมือน
ต้นฉบับดั้งเดิม Warwickshire
เลียนแบบของเดิมที่มีหน้าจั่วโค้งและลายฉลุ
ครอบครัว Alexander W.Weddells
ยังเพิ่มความสะดวกทันสมัยให้กับบ้าน
เช่น ห้องสุขา/เครื่องทำความร้อนจากส่วนกลาง
.
.
.
มุมมองบ้านจากภายในสวน
© Virginia Historical Society
.
.
ในขณะที่ Weddells กำลังยุ่งอยู่กับ
การสร้างบ้านใน Richmond
โครงการแบบเดียวกันนี้
ก็กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างด้วยเช่นกัน
บ้านหลังใหม่ของ Mr.Thomas Williams Jr
อยู่ห่างออกไปเพียง 200 ฟุต
โดยตั้งชื่อคฤหาสน์ว่า
Agecroft Hall
Mr.Thomas Williams Jr เป็นผู้ประกอบการ
ที่ร่ำรวยมากในรัฐ Virginia
ได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งในการรื้อบ้าน
ยุค
Tudor ศตวรรษที่ 15 หลังนี้
ซึ่งแต่เดิมตั้งอยู่ที่
Irwell Valley ใน
Lancashire
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหราชอาณาจักร
แล้วทำการขนส่งข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
และก่อสร้างขึ้นมาใหม่บนที่ดินขนาด 23 เอเคอร์
ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำ James ด้วยเช่นกัน
ทั้ง Mr.Thomas Williams Jr
กับ Alexander W. Weddells
ต่างไม่สนใจที่จะลอกแบบโครงสร้าง
และการใช้งานภายในแบบดั้งเดิม
แต่มีการปรับปรุงคฤหาสน์ให้น่าสนใจ
และใช้งานได้สะดวกสบาย
แต่รักษาบางส่วนให้เหมือนเดิม
เพื่อหวนรำลึกถึงบรรพบุรุษชาวอังกฤษ
การฟื้นฟูบ้านของทั้งสองคน
มีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกันประมาณ
250,000 เหรียญ(เงินในยุคนั้น)
โดยบ้าน Agecroft Hall เสร็จสมบูรณ์
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 1928
ก่อนบ้าน Virginia House
ของ Alexander W. Weddell
Mr.Thomas Williams Jr เสียชีวิตในปีถัดมา และตามพินัยกรรมระบุว่า Agecroft Hall
จะเป็นพิพิธภัณฑ์หลังการตายของภรรยาม่าย
.
:
.
© dw_ross/Flickr
.
.
© Fopseh/Wikimedia
.
.
© Fopseh/Wikimedia
.
.
© Kris/Flickr
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/WnGJEB
https://goo.gl/SnJi4H
https://goo.gl/JCpnU1
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ในสมัยกรุงธนบุรี
ตอนสร้างเมืองหลวงใหม่อีกครั้ง
พระเจ้าตากสินมหาราชก็มีการเกณฑ์
ไพร่พลจำนวนมาก ไปรื้ออิฐเก่ากำแพงเมือง
จากกรุงศรีอยุธยาโดยรื้อมาเป็นจำนวนมาก
แล้วขนส่งมาทางเรือมาลงที่บางกอก
เพื่อนำมาสร้างเวียงวังวัด/ป้อมปราการพระนคร
มีการรื้อต่อ ๆ กันมาจนถึงปลายรัชสมัยที่ 4
ทั้งนี้มีปรากฏในพระราชพงศาวดาร
เพราะขาดแคลนกำลังแรงงาน/แหล่งที่ผลิตอิฐ
ที่มักจะได้ไม่ทันตามความต้องการในยุคนั้น
ทำให้สภาพภายในพระนครศรีอยุธยา
ที่ก่อสร้างจากอิฐถูกทำลายสูญหายไปหลายแห่ง
รวมทั้งในยุคหลัง ๆ
ก็ยังมีการรื้ออิฐไปใช้งานโดยทางการเอง
กับชาวบ้านเข้าไปแอบรื้ออิฐ
ในพระนครศรีอยุธยาไปใช้งาน
จนต่อมาทางการต้องเข้าไปควบคุม
และเข้มงวดกว่าเดิม เพราะเริ่มรู้สำนึก
และรู้คุณค่าความสำคัญทางประวัติศาสตร์
จนบางคนคิดว่าเป็นฝีมือทำลายของพม่า
ในยุคนั้นช่วงปี พ.ศ.2310
อนึ่ง ในตัวเมืองสงขลาแต่เดิม
ก็ยังมีป้อมปราการและกำแพงเมืองหลายแห่ง
ต่อมามีอำมาตย์จากกรุงเทพฯ
มากินเมืองหลังปี พ.ศ.2500
ต้องการพัฒนาเมืองเลยรื้อทิ้ง/ทุบทิ้ง
กำแพงเมือง
ที่คิดว่ากีดขวางทางถนนหนทาง/ดูไม่งามตา
แบบเป็นทัศนะอุจาดในสายตาชนชั้นปกครอง
จนเหลือเพียงจุดเดียวที่ยังเห็นได้ชัดใจกลางเมือง
คือ หน้าตลาดทรัพย์สินสงขลา
ที่เดิมเป็นเรือนจำสงขลาในช่วงนั้น
อยู่ตรงข้ามบ้านพัก
พะธำมะรง หรือ พธำมะรงค์
(ผู้คุมเรือนจำ)พ่อของป๋าเปรม
กับอีกจุดหนึ่งกำลังฟื้นฟูแถว
โรงสีแดงหับโห้หิ้น ถนนนครนอก(ด้านหลังติดทะเล)
.
การย้ายบ้านสองหลังข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
จะไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายว่าต้องจ่ายมากเท่าไร
ถ้าบ้านเหล่านั้นเป็นโครงสร้างที่มีเรื่องราว
มีตำนานประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
มีความเสี่ยงต่อการรื้อถอนหรือน้ำท่วม
จะต้องถูกย้ายไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยมากขึ้น
ผู้ย้ายบ้านมืออาชีพจะขุดรอบรากฐานบ้านก่อน
แล้วยกขึ้นวางบนรางเลื่อน
ที่ตั้งบนแม่แรงไฮดรอลิกที่ติดล้อ
พร้อมกับเคลื่อนย้ายลงที่ถนนอย่างรอบคอบ
ก่อนจะย้ายไปยังตำแหน่งใหม่ที่วางผังไว้แล้ว
โดยปกติแล้วระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
หรือไม่กี่ไมล์มากที่สุด เท่าที่เคยขนย้ายกัน
แต่ในบางกรณี
ถ้าโครงสร้างเป็นใจให้กับการรื้อถอน
และมีหนทางขนย้ายไกลมาก
ก็มักจะรื้ออิฐ/หินทีละก้อน ๆ ก่อน
แล้วขนไปประกอบขึ้นใหม่ตามลำดับในที่ใหม่
ด้วยวิธีการนี้จะย้ายบ้านกันหลายประเทศ
ไปในระยะทางหลายร้อยไมล์
แต่ลองนึกถึงการย้ายบ้าน
ระยะทางไกลมากกว่า 3,600 ไมล์
ข้ามมหาสมุทรจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่ง
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงหลังเดียว
แต่เกิดขึ้นถึงสองหลังในช่วงปี ค.ศ.1920
.
.
Virginia House ตั้งอยู่ที่ Warwickshire
ประเทศอังกฤษในปี 1900
© Virginia Historical Society
.
Virginia House ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง
ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำ James
ในย่าน Windsor Farms ของ Richmond
รัฐ Virginia สหรัฐอเมริกา
ในปี 1536
อาคารนี้เดิมเป็นคฤหาสน์อังกฤษ
อยู่ห่างออกไป 3.600 ไมล์ใน Warwickshire อังกฤษ
บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินส่วนตัว
ของเจ้าของรายหนึ่ง ก่อนขายให้กับ
Thomas Hawkins /Thomas Fisher นักการเมือง
ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนภูมิทัศน์ที่งดงาม
Thomas Hawkins เรียกบ้านของตนว่า
Hawk's Nest เป็นที่รู้จักกันดีว่า
ใช้เป็นสถานที่รับรองแขกผู้มีเกียรติ
รวมทั้ง Queen Elizabeth I
ในปี ค.ศ. 1925 เกือบ 4 ศตวรรษต่อมา
Lloyds Bank ได้นำคฤหาสน์มาขายทอดตลาด
เอกสารรายการที่ตีพิมพ์ที่ใช้สำหรับ
การประมูลทรัพย์สินของคฤหาสน์ ได้ระบุว่า
" การขายชิ้นส่วนที่สำคัญที่รื้อถอนได้ครั้งยิ่งใหญ่
มีรายการเช่น ประตูไม้โอ๊คเก่าแก่ที่หายากจำนวนมาก ไม้กระดาน ไม้ขื่อ รอด ตง ไม้อื่น ๆ
และอิฐที่ดีเยี่ยมปริมาณมหาศาล หินทราย
ไม้โอ๊กเก่าแก่ ไม้คาน ไม้ซุง และไม้นั่งร้าน "
Alexander W. Weddell นักการทูตชาวอเมริกันผู้มั่งคั่ง
และภรรยา Virginia Chase Steedman
ได้เห็นโฆษณาชิ้นนี้และเสนอซื้อทรัพย์สินทั้งหมด
ก่อนที่จะทำการประมูลราคาขาย
มีการเจรจาตกลงเป็นการภายใน
ขอซื้อทรัพย์สินทั้งหมด/บ้านทั้งหลัง
โดยตกลงกันที่ราคา £3,500
ก่อนการประมูลราคาขายจะถูกจัดขึ้น
การขายบ้านให้กับชาวอเมริกัน
ทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจอย่างมาก
กับสื่อมวลชนอังกฤษ และชาวอังกฤษบางคน
Alexander W. Weddells ผู้ซื้อบ้านหลังนี้
ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะมีข่าวลือว่า
ชาวอเมริกันตั้งใจรื้อถอนบ้านหลังนี้ทิ้งทั้งหมด
แต่เมื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงสัญญาซื้อขาย
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่งได้เขียนจดหมายขอโทษต่อ Alexander Weddell ว่า
" ถ้าคุณไม่ก้าวเข้ามาซื้อบ้านหลังนี้
วัสดุโครงสร้างที่จะรื้อถอนขายแล้ว
พวกมันก็จะสูญหายไปตลอดกาล
(กระจัดกระจายไปหลายแห่ง/เสื่อมสภาพ)
และในขณะนี้พวกมันจะนำไปใช้
ในการสร้างอาคารหลังใหม่ "
.
.
บ้านถูกรื้อถอนและบรรทุกบนรถขนของ
© Virginia Historical Society
.
.
Virginia House สร้างขึ้นใหม่
ใน Richmond รัฐ Virginia
© Virginia Historical Society
.
บริษัทที่ได้รับการว่าจ้างให้ทำการรื้อถอน
จัดส่งข้ามประเทศ และสร้างบ้านขึ้นใหม่
ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบอาคารเบื้องต้น
และได้ข้อสรุปว่า หินที่สร้างขึ้นในบ้าน
จะเสียหายหนักมาก ถ้าพยายามจะรื้อออก
บริษัทจึงให้คำแนะนำว่า
ถ้าจะทำให้ง่ายขึ้น/เร็วขึ้นก็ด้วยการระเบิดบ้าน
ซึ่งจะทำให้บ้านพังทะลายลงมาก่อน
แล้วค่อยเก็บกู้ก้อนหินที่ยังคงสภาพดี
และโชคดีที่หินส่วนใหญ่คงสภาพเหมือนเดิมหลายก้อนมากจนนำไปใช้งานต่อในสหรัฐได้
ก้อนหินทั้งหมดได้ถูกบรรจุลงในกล่อง
และส่งข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
Virginia House ที่สร้างขึ้นใหม่
ไม่ได้จำลองแบบของอาคารเดิมทั้งหมด
แต่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย
ปีกทางทิศตะวันตกของบ้าน
เป็นแบบจำลองของคฤหาสน์ขนาดเล็ก
ใน Northamptonshire ของ Lawrence Washington
ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ George Washington
ปีกด้านตะวันออกของบ้านตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของครอบครัว Spencer-Churchill
เฉพาะตรงกลางของบ้านที่ทำเสมือน
ต้นฉบับดั้งเดิม Warwickshire
เลียนแบบของเดิมที่มีหน้าจั่วโค้งและลายฉลุ
ครอบครัว Alexander W.Weddells
ยังเพิ่มความสะดวกทันสมัยให้กับบ้าน
เช่น ห้องสุขา/เครื่องทำความร้อนจากส่วนกลาง
.
.
มุมมองบ้านจากภายในสวน
© Virginia Historical Society
.
ในขณะที่ Weddells กำลังยุ่งอยู่กับ
การสร้างบ้านใน Richmond
โครงการแบบเดียวกันนี้
ก็กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างด้วยเช่นกัน
บ้านหลังใหม่ของ Mr.Thomas Williams Jr
อยู่ห่างออกไปเพียง 200 ฟุต
โดยตั้งชื่อคฤหาสน์ว่า Agecroft Hall
Mr.Thomas Williams Jr เป็นผู้ประกอบการ
ที่ร่ำรวยมากในรัฐ Virginia
ได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งในการรื้อบ้าน
ยุค Tudor ศตวรรษที่ 15 หลังนี้
ซึ่งแต่เดิมตั้งอยู่ที่ Irwell Valley ใน Lancashire
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหราชอาณาจักร
แล้วทำการขนส่งข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
และก่อสร้างขึ้นมาใหม่บนที่ดินขนาด 23 เอเคอร์
ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำ James ด้วยเช่นกัน
ทั้ง Mr.Thomas Williams Jr
กับ Alexander W. Weddells
ต่างไม่สนใจที่จะลอกแบบโครงสร้าง
และการใช้งานภายในแบบดั้งเดิม
แต่มีการปรับปรุงคฤหาสน์ให้น่าสนใจ
และใช้งานได้สะดวกสบาย
แต่รักษาบางส่วนให้เหมือนเดิม
เพื่อหวนรำลึกถึงบรรพบุรุษชาวอังกฤษ
การฟื้นฟูบ้านของทั้งสองคน
มีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกันประมาณ
250,000 เหรียญ(เงินในยุคนั้น)
โดยบ้าน Agecroft Hall เสร็จสมบูรณ์
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 1928
ก่อนบ้าน Virginia House
ของ Alexander W. Weddell
Mr.Thomas Williams Jr เสียชีวิตในปีถัดมา และตามพินัยกรรมระบุว่า Agecroft Hall
จะเป็นพิพิธภัณฑ์หลังการตายของภรรยาม่าย
.
.
© dw_ross/Flickr
.
.
© Fopseh/Wikimedia
.
.
© Fopseh/Wikimedia
.
.
© Kris/Flickr
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/WnGJEB
https://goo.gl/SnJi4H
https://goo.gl/JCpnU1
.
.
ภาพเพิ่มเติม Virginia House
.
.
.
.
.
.
.
.
Agecroft Hall
.
.
.
.
.
.
.
.
เรื่องเดิม หามเริน
.
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
ในสมัยกรุงธนบุรี
ตอนสร้างเมืองหลวงใหม่อีกครั้ง
พระเจ้าตากสินมหาราชก็มีการเกณฑ์
ไพร่พลจำนวนมาก ไปรื้ออิฐเก่ากำแพงเมือง
จากกรุงศรีอยุธยาโดยรื้อมาเป็นจำนวนมาก
แล้วขนส่งมาทางเรือมาลงที่บางกอก
เพื่อนำมาสร้างเวียงวังวัด/ป้อมปราการพระนคร
มีการรื้อต่อ ๆ กันมาจนถึงปลายรัชสมัยที่ 4
ทั้งนี้มีปรากฏในพระราชพงศาวดาร
เพราะขาดแคลนกำลังแรงงาน/แหล่งที่ผลิตอิฐ
ที่มักจะได้ไม่ทันตามความต้องการในยุคนั้น
ทำให้สภาพภายในพระนครศรีอยุธยา
ที่ก่อสร้างจากอิฐถูกทำลายสูญหายไปหลายแห่ง
รวมทั้งในยุคหลัง ๆ
ก็ยังมีการรื้ออิฐไปใช้งานโดยทางการเอง
กับชาวบ้านเข้าไปแอบรื้ออิฐ
ในพระนครศรีอยุธยาไปใช้งาน
จนต่อมาทางการต้องเข้าไปควบคุม
และเข้มงวดกว่าเดิม เพราะเริ่มรู้สำนึก
และรู้คุณค่าความสำคัญทางประวัติศาสตร์
จนบางคนคิดว่าเป็นฝีมือทำลายของพม่า
ในยุคนั้นช่วงปี พ.ศ.2310
อนึ่ง ในตัวเมืองสงขลาแต่เดิม
ก็ยังมีป้อมปราการและกำแพงเมืองหลายแห่ง
ต่อมามีอำมาตย์จากกรุงเทพฯ
มากินเมืองหลังปี พ.ศ.2500
ต้องการพัฒนาเมืองเลยรื้อทิ้ง/ทุบทิ้งกำแพงเมือง
ที่คิดว่ากีดขวางทางถนนหนทาง/ดูไม่งามตา
แบบเป็นทัศนะอุจาดในสายตาชนชั้นปกครอง
จนเหลือเพียงจุดเดียวที่ยังเห็นได้ชัดใจกลางเมือง
คือ หน้าตลาดทรัพย์สินสงขลา
ที่เดิมเป็นเรือนจำสงขลาในช่วงนั้น
อยู่ตรงข้ามบ้านพักพะธำมะรง หรือ พธำมะรงค์
(ผู้คุมเรือนจำ)พ่อของป๋าเปรม
กับอีกจุดหนึ่งกำลังฟื้นฟูแถว
โรงสีแดงหับโห้หิ้น ถนนนครนอก(ด้านหลังติดทะเล)
.
.
.
.