[SR] เมื่อผมหยุดเดินทางแล้วมาสร้าง.. “ Hostel “ (ปี 2)

เสน่ห์หนึ่งของการเดินทางที่ผมชอบคือ บางครั้งโชคชะตามักแกล้งพาเราเถลไถลออกนอกเส้นทางไปเจอสถานที่ที่เราไม่ได้ตั้งใจจะไป หลายครั้งสถานที่เหล่านั้นไม่ได้มีรีวิวให้อ่านในอินเตอร์เน็ตหรือแม้แต่คนท้องถิ่นบางคนยังไม่รู้จักด้วยซ้ำแต่บางครั้งสถานที่นั้นกลับทำให้เราตกหลุมรักได้มากกว่าเป้าหมายที่เราตั้งใจจะไปแต่แรกเสียอีก




                                                         ปี 2016 นี้ ...... ผมก็ยังมีโอกาสได้ทำอีก Hostel




ไม่ยอมหยุดเดินทาง..?
จริงๆคือตลอดปีแรกที่ชีวิตต้องวุ่นกับการทำ Hostel แรกในชีวิตไปพร้อมๆกับทำงานอาชีพหลักของตัวเองไปด้วยไม่ได้ขยับไปไหนเลย ตอนนั้นในใจรู้สึกทั้งเหนื่อยแทบขาดใจแต่ก็มีความสุขที่ได้เห็นนักเดินทางที่มาพักประทับใจ Hostel ที่พวกเราทุ่มเทปลุกปั้นมา ตอนนั้นก็คิดว่าชีวิตน่าจะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกพักใหญ่ๆ แต่แล้วหลังจากเปิด Hostel แรกมาได้ปีกว่าๆ วันหนึ่งก็มีเสียงโทรศัพท์ปลายสายมาจากประเทศจีน เป็นรุ่นพี่ที่เคยแชร์บ้านด้วยกันสมัยทำงานที่เมืองจีนโทรมาบอกว่ามีตึกน่าสนใจอยากชวนทำ Hostel และจะขอให้ไปดูให้หน่อยแต่เจ้าของเขาจะให้เช่าแค่ชั้น 2 ของตึกที่ติดถนน ข้างล่างเป็นร้านค้าไม่มีทางขึ้นจากทางอื่น ถ้าจะเช่าต้องหาทางสร้างบันไดขึ้นไปเองส่งรูปมาให้ดูเป็นตึกหน้าตาเชยๆเก่าๆหลังหนึ่ง


ร่องรอยในความทรงจำ..
เวลาเดือนนึงผ่านไป.. สองเดือนผ่านไป.. ตึกนั้นก็ยังไม่อยู่ในย่านที่เราโคจร ปลายสายจากประเทศจีนโทรมาถี่ขึ้นจากอาทิตย์ละครั้ง ท้ายสุดเป็นวันละสามครั้ง 5555+  สุดท้ายเลยต้องยอมขับรถไปดูให้แกพอจอดรถตรงถนนหน้าตึกก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าจะเคยมา ดูรูปก็ตรง Location ถนนท่าแพ ใกล้แยกไนท์พลาซ่า ก็ตรงตามที่ให้มา พอเดินทะลุช่องตึกเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ จำได้เลยว่าด้านหลังเป็นตึกที่ลูกพี่ลูกน้องเราทำร้าน Jazz Bar อยู่ พี่เค้าเคยชวนเรามาครั้งนึงแต่เป็นช่วงกลางคืน ตอนยืนอยู่ตรงถนนยังรู้สึกพลุกพล่านจอแจอารมณ์แบบใจกลางเมืองอยู่เลยแต่พอเดินผ่านช่องทะลุเข้ามาแค่ประมาณ 20 เมตร บรรยากาศเหมือนเดินหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่งไปเลย มีตึกอิฐสีส้ม เก่าๆหลังเล็กๆอยู่หลังนึงแอบอยู่ในสวนป่า มีเสียงเพลงแจ๊สจากวงดนตรีในร้านเล่นคลอเบาๆ มีชาวต่างชาติหลากหลายประเทศนั่งอยู่หน้าร้านเต็มไปหมด เหมือนเรากำลังอยู่เมืองนอกที่ไหนสักแห่งไม่ใช่บ้านเรา จำได้ว่าตอนนั้นตกหลุมรักร้านนี้ไปเลยแต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสได้มาอีกเนื่องจากวุ่นอยู่กับการสร้าง Hostel ที่แรกจนเวลาล่วงเลยผ่านมาเป็นปีทำให้ลืมร้านนี้ไปเลย


พรหมลิขิตบันดาลชักพา..
กลับมาที่ตึกหลักที่ตั้งใจมาดูเป็นตึกติดถนน 2 ชั้นทั้งหมด 5 คูหา แต่ที่ให้เช่ามีแค่ 2 คูหาริมสุดเฉพาะชั้นบนซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะทำประโยชน์ใดๆจากห้องชั้น 2 ทั้ง 2 ห้องนี้ คิดว่าคงมีคนมาดูหลายคนแล้วแต่ไม่มีใครตกลงเช่าทั้งที่ทำเลก็ดี ปัญหาหลักใหญ่เลยคือหาที่ทำทางขึ้นไม่ได้เนื่องจากตึกปลูกเต็มพื้นที่ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เหลือเพียงแค่ด้านหลังซึ่งติดอยู่กับตึกอิฐเท่านั้น ตอนนั้นคิดหาวิธีวนไปวนมาหลายวันขณะจะถอดใจแล้วพอดีลูกพี่ลูกน้องโทรมาหาบอกว่าไม่เจอกันนานอยากนัดเจอกันหน่อย เลยนัดไปเจอกันที่ร้านพี่เค้าก็ชวนคุยสัพเพเหระกัน คุยกันไปคุยมาโยงมาถึงเรื่องห้องบนตึกติดถนนที่ให้เช่าและเรื่องทางขึ้น พี่เค้าบอกเอางี้มั้ยถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ให้นะนี่เห็นเป็นพี่น้องกันพี่ให้ชั้น 2 ของตึกอิฐที่ปกติใช้เป็นห้องสำหรับซ้อมดนตรีของนักดนตรีร้านพี่เขาตอนนั้นให้เราเอาไปทำเป็นล็อบบี้แล้วเจาะผนังเชื่อมตึกข้างหน้าเลยทางขึ้นก็ใช้ของตึกอิฐเดิมนี่แหล่ะแต่มีข้อแลกเปลี่ยนคือบางวันพี่ขอเอาวงดนตรีขึ้นมาแสดงบนนี้บ้างนะให้แขกโรงแรมดูบ้าง โอ้โห.. คือตอนนั้นอยากกระโดดกอดพี่เขาเลย..!! (ลืมคิดไปเลยว่ากำลังจะเหนื่อยแค่ไหนภาพตอนทำ Hostel แรกลอยมาตอนขับรถกลับบ้าน...5555+)


แตกต่างแต่กลมกลืน..
สิ่งที่ผมชอบและได้พบเจอในระหว่างการเดินทางที่บางครั้งเราจะเห็นคนนำเอาตึกเก่ามารีโนเวทเพื่อใช้งานในรูปแบบต่างๆแต่ยังเคารพหน้าตาของตึกเดิมอยู่และนี่คือสิ่งที่ผมมักจะนำมาเป็นโจทย์ให้กับตัวเองและผู้ออกแบบที่มาร่วมงานทั้ง Hostel แห่งแรกรวมถึงแห่งนี้คือเราจะทำโรงแรมที่มีความกลมกลืนกับเพื่อนบ้านและไม่มีความต้องการที่จะเป็นผู้มาใหม่ที่ดูแปลกแยกจากบริบทรอบข้างเดิม คนที่เดินผ่านไปมาผ่านตึกนี้เป็นสิบๆปีหรือหลายสิบปีจะยังรู้สึกว่ามันไม่ได้แตกต่างจากเดิมไป อีกทั้งคราวนี้ตึกทั้ง 2 ตึกติดกันนี้ต่างเป็นตึกที่มีมากอายุกว่า 100 ปีแล้ว ตามที่ได้รับข้อมูลจากเจ้าของตึกซึ่งเป็นรุ่นหลานของผู้สร้างตึกมา ตึกนี้เป็นตึกแรกๆของถนนท่าแพซึ่งเป็นถนนสายเก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดสายหนึ่งคู่เมืองเชียงใหม่มาเนิ่นนาน เดิมแรกเริ่มตึกอิฐเป็นตึกที่ถูกสร้างขึ้นก่อนและถูกใช้เป็นที่พักค้างแรมของเหล่าพ่อค้าและคนงานที่นำเอาของจากต่างอำเภอหรือต่างจังหวัดรอบๆเชียงใหม่เข้ามาขายที่ “ตลาดวโรรส” หรือ “กาดหลวง” ที่ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นตลาดเก่าแก่ที่มีประวัติอันยาวนานมานับร้อยปีและในเวลาต่อมาตึกอิฐได้ถูกเปลี่ยนการใช้งานเป็นร้านขายและโรงอบขนมปังให้แก่ชาวเชียงใหม่และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ย่านนี้ จนกระทั่งความเจริญได้เข้ามาถนนท่าแพถูกเปลี่ยนเป็นถนนลาดยาง ชาวบ้านพากันแห่สร้างตึกปูนชิดติดถนนเพื่อค้าขาย ช่วงเวลานั้นเองลานหน้าตึกอิฐหลังนี้ที่เคยเป็นลานโล่งได้กลายเป็นตำแหน่งปลูกสร้างตึกปูนขึ้นมาและไม่มีการใช้งานตึกอิฐนี้อีกเลยกว่าครึ่งศตวรรษ โอเค โม้มานาน เราไปดู hostel ที่ 2 ที่ผมมีโอกาสได้ทำกับเพื่อนๆอีกกลุ่มหนึ่งของผมกันนะครับ !!


1.    จากครั้งแรกที่ไปเจอจะเห็นเป็นตึกเก่าๆโทรมๆตึกหนึ่งแต่ทำเลถือว่าดีพอใช้เลยจึงโทรไปสอบถามได้ความว่าเจ้าของให้เช่าในราคาสมเหตุสมผลแต่ประเด็นคือให้เช่าเฉพาะชั้น 2 และไม่มีทางขึ้นทางอื่นนอกจากต้องผ่านร้านค้าชั้นล่างซึ่งเป็นไปไม่ได้ในการที่จะทำแบบนั้นเลยต้องคิดกันหนักเลยตอนนั้น


2.    ที่ตั้งตึกอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นของถนนไนท์พลาซ่าแค่ 50 เมตรและสามารถเดินไปตลาดวโรรสได้แค่ 200 เมตร ห่างจากแม่น้ำปิง 300 เมตร และห่างจากประตูท่าแพ(ถนนคนเดินวันอาทิตย์) 700 เมตร สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ห่างจากสนามบินเชียงใหม่ 5 กิโลเมตรหรือขับรถประมาณ 10 นาทีเท่านั้นเองครับ


3.    สภาพตึกทั้งสองตอนที่เราได้เข้าไปดูครั้งแรกสภาพค่อนข้างเก่าและพื้นเป็นพื้นไม้เป็นส่วนใหญ่มีส่วนที่เป็นปูนอยู่นิดเดียวและเวลาจะทำอะไรจะต้องรบกวนเจ้าของร้านทั้ง 3 ร้านที่อยู่ข้างล่างห้องเรา






4.    “รื้อ” อีกแล้วครับ เพื่อนที่ชวนมาหุ้นด้วยใน Hostel นี้เป็นคนออกแบบและคุมงานเองเลยถือว่าโชคดีมากที่ได้คนออกแบบเก่งๆมาช่วยอีกแล้ว (คนละคนกับที่แรกนะครับแต่ก็เก่งเหมือนกัน)






5.    “ก่อร่าง” ต้องคุมงานเองแทบทุกวันอีกแล้วเนื่องจากเป็นงาน renovate อาคารเก่าจึงต้องสื่อสารกับช่างให้เข้าใจตรงกันมากที่สุดเพื่อลดข้อผิดพลาดในการก่อสร้างซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น งบน้อยและไม่อยากให้บานปลาย เลยต้องละเอียดถี่ถ้วนกันให้สุดๆๆๆครับ








6.    “ภาพเสร็จ” หลังจาก 6 เดือน อันยาวนาน(อีกแล้ว)กับโปรเจค Hostel ที่ 2 ในช่วงเวลาห่างกันแค่ปีเดียว ถ้านับจนถึงตอนนี้ก็เปิดมาได้ครบ 1 ปีพอดีนะครับสำหรับหลังที่สองนี้ ถ้าใครมาเชียงใหม่ก็แวะมาเยี่ยมเยียนทักทาย Hostel ทั้งสองที่นี้ได้นะครับ





















“ขอบคุณที่ติดตามตั้งแต่ทำ Hostel นักแบกเป้วัยรุ่นที่พึ่งหลุดมาจากมหาวิทยาลัย จนมาถึง Hostel สำหรับนักเดินทางวัยกลางคนแต่ยังไม่ยอมแก่หลังนี้ครับ”
ชื่อสินค้า:   Trace Hotelistro
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่