ปสก.เที่ยวเกาหลีใต้ ครั้งเเรก ตปท.ครังเเรก เเบคเเพค ตปท.ครั้งเเรกกับเพื่อน 2 คน
เกาหลีใต้ เป็นประเทศในฝันที่ฉันอยากไปสัมผัสบรรยากาศ อยากไปให้เห็นว่าในวีรีย์ที่ดูกับในชีวิตจริงมันต่างกันมากขนาดไหน
มันเริ่มจากการวางเเผนเป็นปี
เดือน มกราคม 2560 เรานัดเจอเพื่อนเก่าเเก่สมัย มัธยม คุยกันเรื่องซีรีย์เเบบติ่งๆ ก็เลยมีความคิดว่าจะไปเที่ยวเกาหลีดูสักครั้ง
เดือน มีนามคม 2560 เพื่อนไลน์มาบอกว่าจองตั๋วเลยป่าว ตั๋วโปรมาเเล้ว จัดสิจร้ารออะไร ไปกลับได้มาคนละ 8,360 บาท ประมาณนั้น
จองตั๋วเสร็จเราก็หา โรงเเรมรอเลย ตอนเเรกจองเเถวๆ ฮงเเดไป เเต่เพิ่งมาเปลี่ยน โรงเเรมใหม่ๆแถวๆ jongno 3 ga สงสัยเป็นชะตาฟ้าลิขิตให้เรามาอยู่ตรงนี้ 55
ทริปนี้เราออกเดินทางกันเดือน ธันวาคม 2560 ตอนเชคอินที่เคาท์เตอร์ เรา re-pack กระเป๋า 3 รอบ ถ้าเป็นเราที่ต่อเเถวเราคงบ่นในใจว่า "ทำไมเมิงงงงไม่ซื้อ นน. กระเป๋าเพิ่มว้าาาาา"
วาร์ปมาที่ landing ที่ เกาหลีเลย ตั้งเเต่รอเชคอิน รอขึ้นเครื่อง landing เรากับเพื่อนตั้งปณิธานเอาไว้เเล้วว่าจะไม่มีการโพสสเตตัสใดๆหากยังไม่สามารถผ่าน ตม.ไปได้ เผื่อไม่ผ่านจะได้ไม่อายใครมาก แล้วก็กลับบ้านเเบบเงียบๆ
555
เรามาต่อเเถว ตม. นะคะประมาณ 5-6 เเถว ก็ไม่มีไรมากนะ เข้าไป ตม.มองหน้าเเปป แสกนนิ้ว มองกล้อง ผ่าน!!! ไวไปมั้ยคะ คือ เอกสารที่เตรียมมายังไม่ได้โชว์เลย นามบัตรยังไม่ได้เเจก สกิลภาษาอังกฤษที่เรียนมาตั้งเเต่อนุบาลยังไม่ได้ใช้เลย ใบลาที่เเอบเอาของบริษัทติดไปด้วย ไม่เคยได้หยิบอะไรออกมาอวดก็ให้ผ่านได้ง่ายๆ ค่ะขอบคุณสำหรับตราปั้ม ที่ได้ข่าวว่า ปีใหม่มานี้เค้ายกเลิกไปแล้ว
พอด่าน ตม.เรียบร้อย รับกระเป๋าเสร็จเราก็เดินมาหารถไฟที่จะต่อเข้าเมืองกันค่ะ คืองงกะทางเดินมาก ถามเค้าไปทั่ว เเรกๆสำเนียงอังกฤษ-เกาหลี มันก็จะ งงๆ นิดนึง เเต่ก็มาจนได้ เเต่ก็มาตกม้าตายตอนซื้อบัตรจะขึ้นรถนี่เเหละ ยืนดูเค้ากดอยู่ตั้งนาน กว่าจะได้บัตรมา
เราพักที่ jongno 3 ga เราต้องขึ้น AREX แบบ All stop station เเล้วลงที่สถานี Gongdeok เเล้วไปขึ้นสายสีม่วง เเล้วงลงที่ jongno 3 ga
ระหว่างนั้นเองเรื่องไม่คาดคิดเรื่องที่ 1 ก็เกิดขึ้น
ระหว่างที่เราคุยกับเพื่อนในรถไฟนั้น เราก็สังเกตว่ามีลุงคนนึงเค้า กำลังฟังเรื่องที่เราคุยกับเพื่อนว่าจะไปลง jongno 3 ga ไรแบบนี้ เราสังเกตเเละ ลุงเเกตั้งใจฟังเรามาก พอถึงสถานีเดินมาข้างๆเราพร้อมลากกระเป๋าขนาด 30นิ้วของเราเดินออกจากตัวรถไป และเรียกให้เราเดินตาม นาทีนั้นก็งงตัวเองว่าทำไมไม่ได้รู้สึกถึงความน่ากลัว เราก็เดินตามเค้าไป เพื่อนเราก็ทำน่างง ขยิบตาถามเราว่า มันเกิดไรขึ้น กกรู ก้ไม่รู้ๆๆๆๆ เราก็ขยิบปากบอกเพื่อนไปแบบนั้น
เราเดินตามลุงมาเรื่อยๆ ป้าเมียเเกก็เดินมากับเรา เราได้คุยกับป้าด้วยสกิลเกาหลีง่อยๆ ได้ใจความว่า ลุงเเกก็เป็นเเบบนี้ ชอบช่วยเหลือคน เราก็ อ่อๆๆ เเบบนี้นี่เอง ลุงเเกเดินไวมากจนเราต้องรีบเดินตามกระเป๋าเราเเล้วทิ้งป้าเมียเเกไว้ด้านหลัง จนถึงทางออก 4 สถานี jongno 3 ga
เราเพิ่งสัมผัสได้ว่าคนที่หนาวตาย เค้าคงกำลังเป็นเเบบนี้ คือ มันหนาวมาก หนาวจนเราเเสบมือ ทั้งที่อากาศมันเเค่ -4 องศา
สงสัยเป็นเพราะเราไม่เคยเจออากาศเเบบนี้ พออกไปจากรถไฟใต้ดินลุงก็ถามว่าเราพักที่ไหน เราก็เอารูปให้ดู เเกก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ไปที่เกตเฮ้าส์ที่เราจองไว้ พร้องกับถามทางเเละบอกพวกเค้าว่าเรากำลังจะถึงในไม่ช้า เรารู้สึกขอบคุณคุณลุงมาก เราลืมถ่ายรูปลุงมา เเต่เราจำซอยบ้านลุงได้
ลุงบอกทางเราว่าเกตเฮาส์ไปทางไหน ซึ่งมันอยู่คนละฝั่งถนนกับบ้านลุง
รูปปากซอยบ้านลุง ที่เราลองหาใน google map
พอเราเก็บของเสร็จเราก็มาเดิน ตรงซอยบ้านลุงเเต่เราก็หาลุงไม่เจอ 55 คือ ซอยนั้น มันมี ลุง ทั้งเเก่มาก แก่น้อย เเละลุงที่กำลังจะเเก่อยู่เต็มไปหมด เราเเยกแยะไม่ได้เลย เราเลยคิดว่า คงไม่มีโอกาสได้เจอลุงอีกแล้ว เราเลยไปหาอะไรกินเพื่อคลายหนาวเเละประทังชีวิตต่อไป
นี่คือ อาหารมื้อเเรก ณ กรุงโซล ประเทศ เกาหลีใต้
ถ้าคนชอบกินเนื้อนะ ร้านนี้น่าจะเหมาะ เเต่เราไม่ทานเนื้อไง เลยกินเเต่ ไข่ม้วน กับ กิมจิ
อันนี้คือ ละเเวกที่พักเรา
อากาศหนาวๆนี่มันทำเราท้อมากเลย เเพลนที่เราเตรียมมาอย่างดี มันมั่วไปหมด เพราะหนาว มืดไว บางครั้งก็หลง55
หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ เวลามันเดินไวมาก มันมืดไวมาก เราไปต่อกันที่ Ewha U. เดินไปถ่ายรูปตรงที่เค้าฮิตๆกัน
ซื้อถุงเท้าหนาๆที่ร้านนี้
เดินดูของในซอยต่างๆ เเละกินโอเด้ง หรือ อะไรสักอย่างที่เสียบไม้อยู่ข้างทาง เเล้วก็กลับห้อง เราถึงห้องตอนประมาณ 2 ทุ่ม เเล้วก็นอน จำได้ว่าวันนั้นตื่นมาอีกที คือ 7 โมงเช้า นอนไปได้ไง 10 ชม.
เริ่มวันที่ 2 ที่ไม่ได้มีการเเพลนล่วงหน้า อาศัยข้อมูลสถานที่ จากเเพลนที่เตรียมมา
เราเริ่มกันที่ เดินลัดเลาะเเถวบ้านเรา มันมีกำเเพงวังอยู่เราเลยเดินไปเรื่อยๆ จนไปเจออุโมงค์ที่เค้าเพิ่งสร้างให้ให้เดินลอด
ไปโผล่อีกทีก็ที่ Secret garden ที่ Changdeonkgung Palace เราซื้อตั๋วเเบบ combine palace ราคา 10000 วอน สำหรับเข้าทุก พระราชวัง
ที่เเรกคือ Secret Garden มันเหมือนเป็นสวนของพระราชสำนักอ่ะ มีหน้องทรงหนังสือ หรือ ห้องสมุดนี่เเหละ ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไร มัวเเต่ถ่ายรูป
เเต่เราสังเกตอย่างนึงคือ การจัดการที่ดีของที่นี่ในการเข้าชมโบราณสถานนะ คือ เค้าจะมีเป็นรอบๆ สำหรับเเต่ละภาษา ถ้าคุณมาไม่ทันรอบที่เป็นภาษา อังกฤษก็คือต้องมาใหม่วันหลัง หรือจะเข้าฟังรอบที่เป็นภาษาญี่ปุ่นก็ได้ เเต่ไม่ให้ต่างชาติเข้าฟังรอบที่เป็นภาษาเกาหลี เเละคนเกาหลีก็ห้ามเข้ารอบที่เป็นภาษาอื่นๆ งงป้ะ ตอนเรกเรางง มันไม่เหมือนที่ไทยไง คือ ไปตอนไหนก็เข้าได้ไง เเต่ไกด์หล่อให้อภัย
สวยอ่ะ เเต่หิมะไม่ค่อยเยอะเท่าไร มันเลยดูเเห้งเเล้งไปหน่อย ออกจากที่นี่เราก็ไปต่อที่หมู่บ้านบุกชอน ฮันอก ป้ะไม่เเน่ใจว่าเรียกถูกมั้ย
คือ ยอมรับว่าโง่มากที่ไม่ดูแผนที่ให้ดีเลยทำให้การเดินทางเสียเวลามาก ทั้งๆที่สถานที่ต่างๆ มันใกล้ กับที่พักมาก กว่าจะรู้ตัว ก็วันที่ 3 ว่าเราจะขึ้นรถไฟทำไมทั้งๆที่มันใกล้กันขนาดนี้
เราเดินมาถึงซอยของหมู่บ้านวัฒนธรรมก็น่าจะใช่ เป็นที่ๆเค้าอนุรักษ์บ้านเเบบเก่าๆ การทำงานเเฮนด์เมด ต่างๆ ในซอยนี้ไว้เยอะเเยะมากมาย เราเดินกันไปมา จนหิว เลือกร้านไม่ถูกว่าจะกินร้านไหน จนสุดท้ายมาจบที่ร้านลุง ที่ตรงกับคอนเซปทริปเรามาก คือ อร่อย ประหยัด ได้บรรยากาศแบบดั้งเดิม ฮึๆๆ
เราเข้ามาพร้อมกับสั่ง fish cake ไม้ละ 1000 วอน มา 3 ไม้ หร้อมเซต ซุปกิมจิ มา 1 เซต ข้าว 2 ถ้วย เเละเรื่องราวที่ต้องจำเรื่องที่ 2 ก็เกิดขึ้นเมื่อ........
เราเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นเเล้วหยิบเเก้วมา 2 ใบ อาจุมม่าที่นั่งในร้าน เหมือนจะเป็นเเม่เจ้าของร้าน ก็เดินมาบอกเราด้วยภาษาเกาหลีว่า จะกินน้ำหรอกจ้ะ ทำไมเธอใช้เเก้วนี้ล่ะ เราก็ไม่ได้คิดไร ลืมนึกถึงซีรีย์ที่ดูว่าเค้ากินน้ำกันยังไง อาจุมม่ายืนยันว่าเราต้องเปลี่ยนเเก้วนะ เพราะถ้าจะใช้เเก้วนี้คือเราต้องใช้เฉพาะตอนกินเบียร์เท่านั้น เรากับเพื่อนนี่งงเลยจร้า เออจริงของเเก เวลาเค้ากินน้ำกันที่นั่นเค้าจะใช้เหมือนเเก้วสเเตนเลส เเต่ถ้ากินเบียร์จะใช้เเก้วใส กินโซจูจะใช้เเก้วเป็ก กินมักกอลลี จะใช้เหมือนถ้วยทองเหลือง อ่ะ ป้าแกไม่อยากให้เราทำผิดวัมนธรรมแกเลยเปลี่ยนเเก้วให้เราเรียบร้อยเลยจร้า เเต่ร้านลุงซุปกิมจิกับ fish cake ที่เราสั่งมากินเข้ากันมา เเล้วต้องเอามันรูดใส่ลงไปในซุปเลยนะ จะอร่อยสุด เเถมราคาถูกด้วย ทั้งหมด 10000 มื้อนี้ถูกที่สุด
อันนี้รูปในร้านลุง มันจะมืดๆ ติสๆ หน่อยนะ
[CR] South Korea 5D4N2P
เกาหลีใต้ เป็นประเทศในฝันที่ฉันอยากไปสัมผัสบรรยากาศ อยากไปให้เห็นว่าในวีรีย์ที่ดูกับในชีวิตจริงมันต่างกันมากขนาดไหน
มันเริ่มจากการวางเเผนเป็นปี
เดือน มกราคม 2560 เรานัดเจอเพื่อนเก่าเเก่สมัย มัธยม คุยกันเรื่องซีรีย์เเบบติ่งๆ ก็เลยมีความคิดว่าจะไปเที่ยวเกาหลีดูสักครั้ง
เดือน มีนามคม 2560 เพื่อนไลน์มาบอกว่าจองตั๋วเลยป่าว ตั๋วโปรมาเเล้ว จัดสิจร้ารออะไร ไปกลับได้มาคนละ 8,360 บาท ประมาณนั้น
จองตั๋วเสร็จเราก็หา โรงเเรมรอเลย ตอนเเรกจองเเถวๆ ฮงเเดไป เเต่เพิ่งมาเปลี่ยน โรงเเรมใหม่ๆแถวๆ jongno 3 ga สงสัยเป็นชะตาฟ้าลิขิตให้เรามาอยู่ตรงนี้ 55
ทริปนี้เราออกเดินทางกันเดือน ธันวาคม 2560 ตอนเชคอินที่เคาท์เตอร์ เรา re-pack กระเป๋า 3 รอบ ถ้าเป็นเราที่ต่อเเถวเราคงบ่นในใจว่า "ทำไมเมิงงงงไม่ซื้อ นน. กระเป๋าเพิ่มว้าาาาา"
วาร์ปมาที่ landing ที่ เกาหลีเลย ตั้งเเต่รอเชคอิน รอขึ้นเครื่อง landing เรากับเพื่อนตั้งปณิธานเอาไว้เเล้วว่าจะไม่มีการโพสสเตตัสใดๆหากยังไม่สามารถผ่าน ตม.ไปได้ เผื่อไม่ผ่านจะได้ไม่อายใครมาก แล้วก็กลับบ้านเเบบเงียบๆ 555
เรามาต่อเเถว ตม. นะคะประมาณ 5-6 เเถว ก็ไม่มีไรมากนะ เข้าไป ตม.มองหน้าเเปป แสกนนิ้ว มองกล้อง ผ่าน!!! ไวไปมั้ยคะ คือ เอกสารที่เตรียมมายังไม่ได้โชว์เลย นามบัตรยังไม่ได้เเจก สกิลภาษาอังกฤษที่เรียนมาตั้งเเต่อนุบาลยังไม่ได้ใช้เลย ใบลาที่เเอบเอาของบริษัทติดไปด้วย ไม่เคยได้หยิบอะไรออกมาอวดก็ให้ผ่านได้ง่ายๆ ค่ะขอบคุณสำหรับตราปั้ม ที่ได้ข่าวว่า ปีใหม่มานี้เค้ายกเลิกไปแล้ว
พอด่าน ตม.เรียบร้อย รับกระเป๋าเสร็จเราก็เดินมาหารถไฟที่จะต่อเข้าเมืองกันค่ะ คืองงกะทางเดินมาก ถามเค้าไปทั่ว เเรกๆสำเนียงอังกฤษ-เกาหลี มันก็จะ งงๆ นิดนึง เเต่ก็มาจนได้ เเต่ก็มาตกม้าตายตอนซื้อบัตรจะขึ้นรถนี่เเหละ ยืนดูเค้ากดอยู่ตั้งนาน กว่าจะได้บัตรมา
เราพักที่ jongno 3 ga เราต้องขึ้น AREX แบบ All stop station เเล้วลงที่สถานี Gongdeok เเล้วไปขึ้นสายสีม่วง เเล้วงลงที่ jongno 3 ga
ระหว่างนั้นเองเรื่องไม่คาดคิดเรื่องที่ 1 ก็เกิดขึ้น
ระหว่างที่เราคุยกับเพื่อนในรถไฟนั้น เราก็สังเกตว่ามีลุงคนนึงเค้า กำลังฟังเรื่องที่เราคุยกับเพื่อนว่าจะไปลง jongno 3 ga ไรแบบนี้ เราสังเกตเเละ ลุงเเกตั้งใจฟังเรามาก พอถึงสถานีเดินมาข้างๆเราพร้อมลากกระเป๋าขนาด 30นิ้วของเราเดินออกจากตัวรถไป และเรียกให้เราเดินตาม นาทีนั้นก็งงตัวเองว่าทำไมไม่ได้รู้สึกถึงความน่ากลัว เราก็เดินตามเค้าไป เพื่อนเราก็ทำน่างง ขยิบตาถามเราว่า มันเกิดไรขึ้น กกรู ก้ไม่รู้ๆๆๆๆ เราก็ขยิบปากบอกเพื่อนไปแบบนั้น
เราเดินตามลุงมาเรื่อยๆ ป้าเมียเเกก็เดินมากับเรา เราได้คุยกับป้าด้วยสกิลเกาหลีง่อยๆ ได้ใจความว่า ลุงเเกก็เป็นเเบบนี้ ชอบช่วยเหลือคน เราก็ อ่อๆๆ เเบบนี้นี่เอง ลุงเเกเดินไวมากจนเราต้องรีบเดินตามกระเป๋าเราเเล้วทิ้งป้าเมียเเกไว้ด้านหลัง จนถึงทางออก 4 สถานี jongno 3 ga
เราเพิ่งสัมผัสได้ว่าคนที่หนาวตาย เค้าคงกำลังเป็นเเบบนี้ คือ มันหนาวมาก หนาวจนเราเเสบมือ ทั้งที่อากาศมันเเค่ -4 องศา
สงสัยเป็นเพราะเราไม่เคยเจออากาศเเบบนี้ พออกไปจากรถไฟใต้ดินลุงก็ถามว่าเราพักที่ไหน เราก็เอารูปให้ดู เเกก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ไปที่เกตเฮ้าส์ที่เราจองไว้ พร้องกับถามทางเเละบอกพวกเค้าว่าเรากำลังจะถึงในไม่ช้า เรารู้สึกขอบคุณคุณลุงมาก เราลืมถ่ายรูปลุงมา เเต่เราจำซอยบ้านลุงได้
ลุงบอกทางเราว่าเกตเฮาส์ไปทางไหน ซึ่งมันอยู่คนละฝั่งถนนกับบ้านลุง
รูปปากซอยบ้านลุง ที่เราลองหาใน google map
พอเราเก็บของเสร็จเราก็มาเดิน ตรงซอยบ้านลุงเเต่เราก็หาลุงไม่เจอ 55 คือ ซอยนั้น มันมี ลุง ทั้งเเก่มาก แก่น้อย เเละลุงที่กำลังจะเเก่อยู่เต็มไปหมด เราเเยกแยะไม่ได้เลย เราเลยคิดว่า คงไม่มีโอกาสได้เจอลุงอีกแล้ว เราเลยไปหาอะไรกินเพื่อคลายหนาวเเละประทังชีวิตต่อไป
นี่คือ อาหารมื้อเเรก ณ กรุงโซล ประเทศ เกาหลีใต้
ถ้าคนชอบกินเนื้อนะ ร้านนี้น่าจะเหมาะ เเต่เราไม่ทานเนื้อไง เลยกินเเต่ ไข่ม้วน กับ กิมจิ
อันนี้คือ ละเเวกที่พักเรา
อากาศหนาวๆนี่มันทำเราท้อมากเลย เเพลนที่เราเตรียมมาอย่างดี มันมั่วไปหมด เพราะหนาว มืดไว บางครั้งก็หลง55
หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ เวลามันเดินไวมาก มันมืดไวมาก เราไปต่อกันที่ Ewha U. เดินไปถ่ายรูปตรงที่เค้าฮิตๆกัน
ซื้อถุงเท้าหนาๆที่ร้านนี้
เดินดูของในซอยต่างๆ เเละกินโอเด้ง หรือ อะไรสักอย่างที่เสียบไม้อยู่ข้างทาง เเล้วก็กลับห้อง เราถึงห้องตอนประมาณ 2 ทุ่ม เเล้วก็นอน จำได้ว่าวันนั้นตื่นมาอีกที คือ 7 โมงเช้า นอนไปได้ไง 10 ชม.
เริ่มวันที่ 2 ที่ไม่ได้มีการเเพลนล่วงหน้า อาศัยข้อมูลสถานที่ จากเเพลนที่เตรียมมา
เราเริ่มกันที่ เดินลัดเลาะเเถวบ้านเรา มันมีกำเเพงวังอยู่เราเลยเดินไปเรื่อยๆ จนไปเจออุโมงค์ที่เค้าเพิ่งสร้างให้ให้เดินลอด
ไปโผล่อีกทีก็ที่ Secret garden ที่ Changdeonkgung Palace เราซื้อตั๋วเเบบ combine palace ราคา 10000 วอน สำหรับเข้าทุก พระราชวัง
ที่เเรกคือ Secret Garden มันเหมือนเป็นสวนของพระราชสำนักอ่ะ มีหน้องทรงหนังสือ หรือ ห้องสมุดนี่เเหละ ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไร มัวเเต่ถ่ายรูป
เเต่เราสังเกตอย่างนึงคือ การจัดการที่ดีของที่นี่ในการเข้าชมโบราณสถานนะ คือ เค้าจะมีเป็นรอบๆ สำหรับเเต่ละภาษา ถ้าคุณมาไม่ทันรอบที่เป็นภาษา อังกฤษก็คือต้องมาใหม่วันหลัง หรือจะเข้าฟังรอบที่เป็นภาษาญี่ปุ่นก็ได้ เเต่ไม่ให้ต่างชาติเข้าฟังรอบที่เป็นภาษาเกาหลี เเละคนเกาหลีก็ห้ามเข้ารอบที่เป็นภาษาอื่นๆ งงป้ะ ตอนเรกเรางง มันไม่เหมือนที่ไทยไง คือ ไปตอนไหนก็เข้าได้ไง เเต่ไกด์หล่อให้อภัย
สวยอ่ะ เเต่หิมะไม่ค่อยเยอะเท่าไร มันเลยดูเเห้งเเล้งไปหน่อย ออกจากที่นี่เราก็ไปต่อที่หมู่บ้านบุกชอน ฮันอก ป้ะไม่เเน่ใจว่าเรียกถูกมั้ย
คือ ยอมรับว่าโง่มากที่ไม่ดูแผนที่ให้ดีเลยทำให้การเดินทางเสียเวลามาก ทั้งๆที่สถานที่ต่างๆ มันใกล้ กับที่พักมาก กว่าจะรู้ตัว ก็วันที่ 3 ว่าเราจะขึ้นรถไฟทำไมทั้งๆที่มันใกล้กันขนาดนี้
เราเดินมาถึงซอยของหมู่บ้านวัฒนธรรมก็น่าจะใช่ เป็นที่ๆเค้าอนุรักษ์บ้านเเบบเก่าๆ การทำงานเเฮนด์เมด ต่างๆ ในซอยนี้ไว้เยอะเเยะมากมาย เราเดินกันไปมา จนหิว เลือกร้านไม่ถูกว่าจะกินร้านไหน จนสุดท้ายมาจบที่ร้านลุง ที่ตรงกับคอนเซปทริปเรามาก คือ อร่อย ประหยัด ได้บรรยากาศแบบดั้งเดิม ฮึๆๆ
เราเข้ามาพร้อมกับสั่ง fish cake ไม้ละ 1000 วอน มา 3 ไม้ หร้อมเซต ซุปกิมจิ มา 1 เซต ข้าว 2 ถ้วย เเละเรื่องราวที่ต้องจำเรื่องที่ 2 ก็เกิดขึ้นเมื่อ........
เราเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นเเล้วหยิบเเก้วมา 2 ใบ อาจุมม่าที่นั่งในร้าน เหมือนจะเป็นเเม่เจ้าของร้าน ก็เดินมาบอกเราด้วยภาษาเกาหลีว่า จะกินน้ำหรอกจ้ะ ทำไมเธอใช้เเก้วนี้ล่ะ เราก็ไม่ได้คิดไร ลืมนึกถึงซีรีย์ที่ดูว่าเค้ากินน้ำกันยังไง อาจุมม่ายืนยันว่าเราต้องเปลี่ยนเเก้วนะ เพราะถ้าจะใช้เเก้วนี้คือเราต้องใช้เฉพาะตอนกินเบียร์เท่านั้น เรากับเพื่อนนี่งงเลยจร้า เออจริงของเเก เวลาเค้ากินน้ำกันที่นั่นเค้าจะใช้เหมือนเเก้วสเเตนเลส เเต่ถ้ากินเบียร์จะใช้เเก้วใส กินโซจูจะใช้เเก้วเป็ก กินมักกอลลี จะใช้เหมือนถ้วยทองเหลือง อ่ะ ป้าแกไม่อยากให้เราทำผิดวัมนธรรมแกเลยเปลี่ยนเเก้วให้เราเรียบร้อยเลยจร้า เเต่ร้านลุงซุปกิมจิกับ fish cake ที่เราสั่งมากินเข้ากันมา เเล้วต้องเอามันรูดใส่ลงไปในซุปเลยนะ จะอร่อยสุด เเถมราคาถูกด้วย ทั้งหมด 10000 มื้อนี้ถูกที่สุดอันนี้รูปในร้านลุง มันจะมืดๆ ติสๆ หน่อยนะ