ปัญหาเด็กวิทย์-คณิต บอกครอบครัวยังไงดีว่าตัวเองสนใจในด้านศิลป์ และภาษามาก! 🚨
แหะๆ! มาอีกแล้วปัญหาเด็กวิทย์ เล่าตั้งแต่แรกเลยนะ เราอ่ะสอบติดแบบไม่ได้ตั้งใจคือตอนสอบมันทำข้อสอบแค่ 2 วิชาเราเลยสมัครไป สรุปว่าสอบติดไม่ใช่แค่ตอน ม.ต้น ดันมาติดตอน ม.ปลาย เลยต้องรับเคราะห์ยาว 😱 เพราะคิดว่าสอบติดขนาดนี้แล้วเราคงมีหัวด้านนี้มั้ง?
ตอนที่ขึ้น ม.4 ใหม่ๆก็ยังไม่เท่าไหร่เราใช้ชีวิตปกติมาจนดำเนินมาถึงปัจจุบันที่ต้องคิดว่ามหาลัยจะเรียนอะไรดี ก่อนหน้านี้เราคิดหนักมาก 😍 จนมีคนให้ลองเปิดใจรับทุกวิชา เราได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่างจากเปิดโลกทัศน์ และได้มารับรู้ตัวเอง #เพิ่งมาฉลาด ไม่เคยกลับมานั่งคิดเลยว่าที่ผ่านมาเราสนใจและชอบเรื่องภาษา เราจะตั้งใจเรียนมากเป็นพิเศษ (ไม่รู้ตัวด้วยว่าตอนเรียนโครตสนใจ) และศิลปะที่มีผลงานในระดับดีอยู่ตลอด 🎊
#ทั้งสองอย่างนี้มักจะทำออกมาดีแต่ไม่ถึงขั้นเวอร์วังอะไรขนาดนั้น ไม่งั้นคงรู้ตัวและไม่ยื่นใบสมัครสอบ 😭
แล้วก็เป็นคนชอบอ่านประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ งานศิลป์ต่างๆ 🎨 และวรรณกรรมที่เค้าแปลมาให้อ่าน(อ่านเพลินๆนะไม่ได้เจาะลึก) ปกติไม่อ่านอะไรเลยนอกจากการ์ตูนแต่เรื่องพวกนี้พอเห็นทีไรต้องกดเข้าไปอ่านทุกที #สนุกมากเวอร์ 🎼
เข้าเรื่อง....!! เราอ่ะพยายามบอกทางครอบครัวไปหลายรอบแล้วว่าเราชอบ สนใจแล้วก็พยายามหาภาษาที่จะเรียนเพิ่ม (เนื่องจากว่าชอบหลายประเทศมากเลยยังติดสินใจไม่ได้) เพื่อที่จะเดินตามจุดหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเรียนและเหยียบแผ่นดินที่มอบแรงบันดาลใจให้เราเรียนภาษานี้
แต่.... คำตอบของพวกท่านไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ พ่อกับแม่มักจะชอบพูดว่า 'ก็ดีนิ อยากเรียนก็เรียนไป' ไม่ก็ 'ที่พูดมาทำให้มันได้ก่อนแล้วค่อยมาพูด' อะไรประมาณนี้ เอาตามตรงคือมันบั่นทอนจิตใจเราอ่ะ! 🌪
คือก็รู้ว่าผลลัพธ์ออกมายังไงขึ้นอยู่กับตัวเราใช่ป่ะ แต่ว่าเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยแรงใจ 💥 ตลอดมาเราถึงไม่มีใครก็ให้กำลังใจตัวเองเสมอ ที่เราบอกไปก็คิดว่าพวกท่านจะชอบแล้วก็คอยให้กำลังใจ ถึงตอนนี้ก็ยังพยายามให้เข้าใจเรา เลยอยากจะมาฟังความเห็นของทุกคน!
🚨 ทำยังไงให้ครอบครัวยอมรับและเคารพความคิดเห็นของเด็กวิทย์-คณิตที่ชอบ'ศิลป์ภาษา' เราโดนจับให้เรียนตลอดจนไม่มีเวลาให้สิ่งที่ชอบเลย!
คืออย่างน้อยเราก็ชอบและได้แรงบันดาลใจอยู่ตลอดไม่เหมือนที่รู้สึกกับวิทย์คณิตเลย 🎓
ปล.ไม่ได้จะทิ้งวิทย์-คณิตนะแต่ตะเรียรควบกันไป
🚨 ทำยังไงให้ครอบครัวยอมรับและเคารพความคิดเห็นของเด็กวิทย์-คณิตที่ชอบ'ศิลป์ภาษา'
แหะๆ! มาอีกแล้วปัญหาเด็กวิทย์ เล่าตั้งแต่แรกเลยนะ เราอ่ะสอบติดแบบไม่ได้ตั้งใจคือตอนสอบมันทำข้อสอบแค่ 2 วิชาเราเลยสมัครไป สรุปว่าสอบติดไม่ใช่แค่ตอน ม.ต้น ดันมาติดตอน ม.ปลาย เลยต้องรับเคราะห์ยาว 😱 เพราะคิดว่าสอบติดขนาดนี้แล้วเราคงมีหัวด้านนี้มั้ง?
ตอนที่ขึ้น ม.4 ใหม่ๆก็ยังไม่เท่าไหร่เราใช้ชีวิตปกติมาจนดำเนินมาถึงปัจจุบันที่ต้องคิดว่ามหาลัยจะเรียนอะไรดี ก่อนหน้านี้เราคิดหนักมาก 😍 จนมีคนให้ลองเปิดใจรับทุกวิชา เราได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่างจากเปิดโลกทัศน์ และได้มารับรู้ตัวเอง #เพิ่งมาฉลาด ไม่เคยกลับมานั่งคิดเลยว่าที่ผ่านมาเราสนใจและชอบเรื่องภาษา เราจะตั้งใจเรียนมากเป็นพิเศษ (ไม่รู้ตัวด้วยว่าตอนเรียนโครตสนใจ) และศิลปะที่มีผลงานในระดับดีอยู่ตลอด 🎊
#ทั้งสองอย่างนี้มักจะทำออกมาดีแต่ไม่ถึงขั้นเวอร์วังอะไรขนาดนั้น ไม่งั้นคงรู้ตัวและไม่ยื่นใบสมัครสอบ 😭
แล้วก็เป็นคนชอบอ่านประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ งานศิลป์ต่างๆ 🎨 และวรรณกรรมที่เค้าแปลมาให้อ่าน(อ่านเพลินๆนะไม่ได้เจาะลึก) ปกติไม่อ่านอะไรเลยนอกจากการ์ตูนแต่เรื่องพวกนี้พอเห็นทีไรต้องกดเข้าไปอ่านทุกที #สนุกมากเวอร์ 🎼
เข้าเรื่อง....!! เราอ่ะพยายามบอกทางครอบครัวไปหลายรอบแล้วว่าเราชอบ สนใจแล้วก็พยายามหาภาษาที่จะเรียนเพิ่ม (เนื่องจากว่าชอบหลายประเทศมากเลยยังติดสินใจไม่ได้) เพื่อที่จะเดินตามจุดหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเรียนและเหยียบแผ่นดินที่มอบแรงบันดาลใจให้เราเรียนภาษานี้
แต่.... คำตอบของพวกท่านไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ พ่อกับแม่มักจะชอบพูดว่า 'ก็ดีนิ อยากเรียนก็เรียนไป' ไม่ก็ 'ที่พูดมาทำให้มันได้ก่อนแล้วค่อยมาพูด' อะไรประมาณนี้ เอาตามตรงคือมันบั่นทอนจิตใจเราอ่ะ! 🌪
คือก็รู้ว่าผลลัพธ์ออกมายังไงขึ้นอยู่กับตัวเราใช่ป่ะ แต่ว่าเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยแรงใจ 💥 ตลอดมาเราถึงไม่มีใครก็ให้กำลังใจตัวเองเสมอ ที่เราบอกไปก็คิดว่าพวกท่านจะชอบแล้วก็คอยให้กำลังใจ ถึงตอนนี้ก็ยังพยายามให้เข้าใจเรา เลยอยากจะมาฟังความเห็นของทุกคน!
🚨 ทำยังไงให้ครอบครัวยอมรับและเคารพความคิดเห็นของเด็กวิทย์-คณิตที่ชอบ'ศิลป์ภาษา' เราโดนจับให้เรียนตลอดจนไม่มีเวลาให้สิ่งที่ชอบเลย!
คืออย่างน้อยเราก็ชอบและได้แรงบันดาลใจอยู่ตลอดไม่เหมือนที่รู้สึกกับวิทย์คณิตเลย 🎓
ปล.ไม่ได้จะทิ้งวิทย์-คณิตนะแต่ตะเรียรควบกันไป