ประสบการณ์ที่ (ไม่) น่าจดจำในการซื้อรถคันแรก อยากให้อ่าน ยาวหน่อย

เราวางแผนไว้ว่าอยากได้รถสักคันเพื่อที่จะพาครอบครัวไปเที่ยว ตอนแรกวางแผนไว้ว่าอยากได้ นิสสัน อัลเมร่า เพราะเราชอบตัวนี้ แต่ด้วยความที่พ่อเขาบอกแนะนำให้เราเอาเป็นตัวของโตโยต้าจะดีกว่า พอดีวันนั้นได้ไปเดินเที่ยวงานฤดูหนาว และได้ไปเจอบูธของโตโยต้าพอดี และบังเอิญที่ได้เจอเซลคนนึง เขาดูพูดจาดูดี และเขาได้ให้นามบัตรมา ถ้าเราสนใจให้ติดต่อเขาไป พอเราได้รายละเอียดของรถมาเราก็ศึกษา และตัดสินใจที่จะเลือกรถของโตโยต้า เราเลยติดต่อเซลที่เราได้นามบัตรเขาไป
              พอดีเขามาตั้งบูธที่ถนนคนเดินใกล้บ้าน เราเลยนัดเขาเพื่อคุยเรื่องรายละเอียดของรถ ด้วยความที่เราเป็นคนเชื่อคนง่ายและไม่ได้ปรึกษาใครก่อน ในวันนั้นเราดูรายละเอียดเรื่องราคารถ และรุ่นรถ เราเลือกสีขาว รุ่น E  เซลบอกว่าสีขาวนี้เหลือแค่คันเดียว ให้เราโอนเงินมัดจำรถไว้ก่อนไหม 5000 บาท เราก็เลยโอนให้เซลเลยวันนั้น และเซลบอกว่าอีกวันจะส่งใบจองรถให้ทางไลน์ เรากับเซลคุยกันทางไลน์มาตลอดค่ะ เซลให้เราเตรียมเอกสารการทำสัญญารถ และเตรียมเงินดาวน์ว่าจะดาวน์เท่าไหร่ เราตัดสินใจดาวน์อยู่ที่ 60000 บาท (ราคารถ 559000)  ผ่อน 7 ปี (7,xxx)
               มีอยู่วันหนึ่งค่ะ เซลนัดเราไปเจอกันที่ห้าง และได้เราจับคูปอง 3000 บาท สำหรับคนที่จองรถ และได้ถือโอกาสคุยกับเซลในเรื่องของส่วนลด เซลเขาถามเราว่าเราจะเลือกเป็นส่วนลดเงินดาวน์หรือส่วนลดดอกเบี้ย เราเลยเลือกเป็นส่วนลดดอกเบี้ย เพื่อที่จะให้ค่างวดของเราถูกลง พอเราเตรียมเอกสารทำสัญญารถเรียบร้อย เซลก็ให้สินเชื่อมาหาเราถึงที่ทำงาน แต่ที่แปลกคือ สินเชื่อบอกว่า ไม่มีส่วนลดดอกเบี้ยนะ มีแต่ส่วนลดเงินดาวน์ 10000 บาท ที่เราจะได้รับวันออกรถ เราเลยถามเขาว่า อ่าว แล้วทำไมเซลบอกว่ามีส่วนลดดอกเบี้ย สินเชื่อเขาก็ตอบว่า เซลคงเข้าใจผิด เราก็เลยตกลงตามนั้น ส่วนลดเงินดาวน์ก็ดีว่ะ (คิดในใจ)
               วันนั้นเราทำการเซ็นสัญญาไปหลายหน้ามาก แต่ที่ตลกคือ เราไม่ได้อ่านรายละเอียดเลยสักหน้า เราเซ็นชื่ออย่างเดียว พอเราเซ็นชื่อเสร็จเรียบร้อย ก่อนสินเชื่อจะกลับเขาบอกเราถึงเรื่อง ประกันสินเชื่อรถยนต์ ว่ามี 2 แบบ นะ ให้เราเลือกเอา คือจะจ่ายเลยวันออกรถ หรือ ให้หักจาก เงินดาวน์ และค่างวดของเราก็จะเพิ่มขึ้น เราเลยบอกว่าในส่วนเรื่องประกันตัวนี้ เราขอไปปรึกษาทางบ้านก่อนละกันค่ะ แล้วเราจะติดต่อไปอีกที
               จากวันนั้นเราก็ไปศึกษาเรื่องประกันสินเชื่อรถยนต์ว่ามันเป็นยังไง หลักๆที่เราทราบคือ ถ้าผู้ซื้อรถเป็นอะไรไป ผู้ค้ำไม่ต้องรับผิดชอบ และรถก็จะตกเป็นของผู้รับผลประโยชน์ และทางธนาคารก็จะรับผิดชอบในส่วนของค่ารถให้อีกด้วย แต่เราคิดไปคิดมา เราไม่อยากทำนะ ไม่อยากให้ค่างวดเพิ่มขึ้น อีกอย่าง ประกันตัวนี้เขาไม่ได้บังคับให้เราทำด้วย เราเลยตัดสินใจบอกสินเชื่อผ่านทางไลน์ ว่าเราขอไม่ทำประกันนะ
               ละหลังจากวันที่เราทำสัญญากับสินเชื่อ เรารอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ทางสินเชื่อติดต่อมาว่า ขอคนค้ำอีกคนนึงนะ เราก็ตอบตกลงตามนั้น พอเวลาผ่านไปสองอาทิตย์ เราก็รอว่าสินเชื่อจะผ่านไหม มีอยู่วันนึง มีทางธนาคารโทรมาหาเราถามถึงเรื่องรายละเอียดว่าเราชื่อนี้ใช่ไหม ทำงานที่นี่ ใช่ไหม จะเอารถยี่ห้อไหน อะไรยังไง และยังโทรเข้าที่ทำงานเราด้วย เพื่อเช็คข้อมูลของเรา และโทรหาคนค้ำอีก ไอ้เรานึกในใจแล้วแหละว่าสินเชื่อต้องผ่านแล้วแน่นอน เพราะเราเคยทำบัตรเครดิตมาก่อน ถ้าวันใดที่เขาโทรมาเช็คข้อมูล วันนั้นแหละผ่านแน่ แต่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น พอหลังจากที่ทางธนาคารโทรมาแล้ว เซลก็โทรมาหาเราว่า ตอนนี้สินเชื่อจะผ่านแล้ว ถ้าเราตกลงเอาประกันด้วย แต่ถ้าเราไม่ตกลงเอาประกัน สินเชื่อก็ไม่ผ่าน เราเลยบอกกับเซลว่า ขอเราปรึกษาทางบ้านก่อนละกัน
                ณ ตอนนั้น เราปรึกษาพี่ที่ทำงานเขาก็บอกว่าขึ้นอยู่กับเรา เป็นสิทธิ์ของเรา ถ้าเราไม่เอาก็บอกเขาและขอเงินมัดจำ 5000 คืนด้วย เราเลยตัดสินใจบอกเซลทางไลน์ว่า ไม่เอาแล้วค่ะ งั้นเราขอเงินมัดจำคืนละกัน เซลบอกว่า ใจเย็นๆ ค่ะ เดี๋ยวพี่เช็คให้ ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที เซลโทรแล้วทำน้ำเสียงตกใจว่า น้อง สินเชื่อก็ผ่านละนิ พี่เห็นในสัญญา น้องเซ็นเรียบร้อยว่า น้องตกลงเอาประกัน คือ ตอนนั้น เรา งง มาก กูไปเซ็นตอนไหนว่า เราเลยบอกเซลไปอีกทีว่า พี่ค่ะ สรุปไม่เอาละนะ รถอ่ะ เพราะเราไม่อยากทำประกัน และขอเงินมัดจำคืนด้วยค่ะ เซลบอกว่า ใจเย็นๆ พี่ขอคุยกับผู้จัดการแปป ผ่านไป 15 นาที เซลไลน์มาบอกว่า น้องสินเชื่อผ่านแล้วนะ ไม่ต้องทำประกันแล้ว หาวันออกรถได้เลย (คือเหตุการณ์แบบนี้ มันทำให้เราสงสัยค่ะ ว่ามันคือยังไงกันแน่ เซลหลอกหรอ หรือยังไง)
                จากนั้นเราก็บอกเซลว่าขอเวลาไปหาวันดี ออกรถ ก่อนละจะแจ้งให้ทราบ เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้นะ ในวันเดียวกันนั้นเลย ตอนประมาณบ่ายสี่โมงเย็น เซลโทรหาเราว่าขอให้เราไปเปิดบัญชีธนาคารให้หน่อยนะ ทางสินเชื่อเขาขอมา เพื่อที่จะสะดวกต่อการจ่ายค่างวด เราก็ตอบตกลงไป (ทำไมปัญหาเยอะจังนึกว่าจบแล้ว) พอเรากลับมาถึงบ้าน ประมาณห้าโมงเย็น เราโทรหาเซล บอกว่าเรากำลังจะไปดูฤกษ์รถนะ และเซลกลับถามเรามาว่า ตอนนี้นะน้องมีแคมเปญมาใหม่ ให้ร้องไปหาเพื่อนหรือคนรู้จักที่ขับยาริสมาและขอเล่มรถเขาด้วย แล้วน้องจะได้รับส่วนลดเงินดาวน์ 10000 เราก็ถามเซลกลับว่า งั้นเราก็ได้ส่วนลดเป็น 20000 เลย ใช่ไหม เซลกลับตอบว่า ส่วนลดได้แค่ 10000 นะค่ะ (เราตกใจมากเพราะวันที่ทำสัญญาสินเชื่อคุยกับเราว่าเราได้ส่วนลดเงินดาวน์ 10000 นะ วันออกรถ )
                เราเลยถามเซลว่า ทำไมเซลพูดไม่ตรงกันกับสินเชื่อค่ะ สินเชื่อพูดอีกอย่าง เซลพูดอีกอย่าง เซลตอบเราว่า สินเชื่อเขาไม่ค่อยรู้เรื่องแคมเปญของพี่เท่าไหร่ (มีด้วยหรอ ที่เซลกับสินเชื่อจะไม่รู้เรื่อง ทั้งสองฝ่ายไม่ทำงานร่วมกันหรอ) เราหมดกำลังใจมาก ละจะไปหาที่ไหนเราไม่มีคนรู้จักที่ขับยาริสเลย คิดในใจว่าถ้าไม่ได้ส่วนลดเราก็ไม่เอาละวะ รถคันนี้คงไม่ใช่ของเรา เราเลยบอกเซลว่า พี่ตอนนี้มันมีปัญหาอะไรอีกหรอ ทำไมเรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้ เราเลยบอกเซลว่าขอเวลาเราก่อนละกัน เราจะติดต่อกลับไป
                เย็นวันนั้น เราเลยปรึกษาเพื่อน เราจะร้องไห้แล้ว ว่าทำไมเซลพูดกลับไปกลับมา เพื่อนก็บอกว่าเราโดนเซลยิ้มใส่ละแหละ และที่เราพลาดอีกคือ เราไม่มีใบจองรถด้วย เพื่อนบอกว่า โดนแล้วแหละ ทำไมโง่ มัดจำรถไปตั้ง 5000 แต่ไม่มีใบจองรถให้ วันนั้นเราก็คุยกับเซลทางไลน์ด้วยในเรื่องส่วนลด เราบอกว่าเราไม่ยอมนะ สินเชื่อบอกว่าเราได้ส่วนลด 10000 บาท วันออกรถ แต่เซลกลับบอกว่าให้เราไปหาเพื่อนที่ขับยาริสมาก่อน ถึงจะได้ส่วนลด เราด่าเซลในไลน์อย่างเยอะ เซลพยายามโทรหาเราแต่เราไม่รับนะ เราโมโหและเสียใจมาก เราบอกเขาผ่านไลน์ว่าเราจะยืนยันข้อตกลงตามเดิมนะ ที่คุยกับสินเชื่อไว้ตอนทำสัญญา เซลเลยว่าจะขอคุยกับสินเช่ือดูอีกทีละกัน
                มาอีกวันนึง เซลโทรมา เซลบอกว่าคุยกับสินเชื่อแล้วเขาว่าเราน่าจะเข้าใจผิดนะ เรื่องส่วนลด ในวันที่ทำสัญญานั้น เขาแค่พูดให้เราฟังเฉยๆ (แต่เรายืนยันนะว่าสินเชื่อบอกกับเราว่าเราจะได้ส่วนลดแน่นอนวันออกรถ 10000 บาท) เราเลยถามเซลว่าละตอนนี้จะให้ทำไงค่ะ เราไม่มีรู้จักใครเลยที่ขับยาริส เซลว่าเขาจะช่วยหาละกัน คนที่ขับยาริส เขาพอจะรู้จักอยู่บ้าง เราก็ตกลงตามนี้
                แต่มีเพื่อนเราคนนึงเขามีเพื่อนที่ขับยาริสเขาว่าจะลองถามให้ ด้วยความที่ว่าอยากได้รถใหม่แล้วอ่ะ ยอมๆไปก็ได้ว่ะ เราเลยบอกเซลว่าเรามีเพื่อนที่ขับยาริสละนะ เซลบอกว่าขอแค่บัตรประชาชนกับเล่มรถแค่นั้น เราบอกว่าได้แน่ค่ะ แต่จะช้าหน่อยนะ เพื่อนเราเขาไม่ค่อยว่าง เราเลยส่งแค่ชื่อเพื่อนเราให้เขาไปก่อน เซลว่าได้ก่อนสิ้นเดือนยิ่งดีนะ
                และท้ายถึงท้ายที่สุด เราได้วันออกรถแล้ว เราก็แจ้งเซลไป เซลเขาก็ตกลงเตรียมรถให้เรา วันก่อนจะออกรถสองวัน เซลโทรมาคอนเฟิมรายละเอียดและของแถม สรุปคือเราก็ได้ส่วนลดอยู่แล้วแหละ ตามที่ตกลงกันไว้ (แต่คิดๆดูนะ เรายังส่งเอกสารของเพื่อนเราให้เซลยังไม่ครบเลยนะ ความจริงเอกสารทั้งหมดเพื่อนส่งให้เราหมดละ เราอยากลองแกล้งเซลดูบ้าง เลยบอกว่า ค้างเล่มรถค่ะ ที่เพื่อนยังไม่ได้ส่งมาให้)
                พอถึงวันรับรถวันที่ 26 ที่ผ่านมา เราก็เข้าไปรับรถด้วยความราบรื่น 555 ไปถึงไปเจอเซล และเข้าไปจ่ายเงินที่เหลือ เราจ่ายไปแค่ 45000 เองนะ ส่วนลด 10000 และหักค่ามัดจำรถอีก 5000 (เซลแอบถามนะค่ะว่า เราได้เอกสารยังเอ่ย เราก็บอกว่า อ้อ ได้ละค่ะ เดี๋ยวส่งให้ทางไลน์ตอนนี้เลย) จะให้คิดว่าไงดีค่ะ ไอ้เรื่องส่วนลดเนี้ย ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าส่วนลดเราได้อยู่แล้วหรอ หรือ ยังไง......
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่