สวัสดีชาวพันธุ์ทิพย์ทุกคนค่ะ นี้คือกระทู้แรกที่เราลงในพันธุ์ทิพย์ เราหวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่อ่าน เป็นแรงผลักดันให้กับใครที่ยังอยากออกไปตามหาฝัน ในราคาที่ประหยัดที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ของเราได้ที่ Bloggang :
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=junket-globe&month=12-01-2018&group=7&gblog=3
สำหรับกระทู้ปีนป่ายที่อินโดนีเซียนี้ ขอแบ่งกระทู้เป็น 4 ช่วง คือ ก่อนเดินทาง โบรโม่ อิเจ้นท์ และบาหลี
(สำหรับรายละเอียดแพลนเดินทางและสรุปค่าใช้จ่าย เราจะให้ข้อมูลไว้ตั้งแต่ต้นๆ กระทู้กันเลยค่ะ)
ทริปนี้เกิดจากเพื่อนอยากจะไปโบรโม่ เรามีแพลนว่าจะไปกันมาเป็นปี แต่ก็มีเหตุให้ต้องเลื่อนตลอด แล้ววันนี้เราก็ได้ไปกันเสียที
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอไปที่ช่วงแรกกันเลย
ก่อนเดินทาง
ทริปโบรโม่ ไปกันประมาณ 4 คน กำลังดี เพราะว่าถ้าจะให้สะดวกที่สุด สำหรับการเดินทางที่มีเวลาน้อย คงจะต้องเช่ารถพร้อมคนขับ เพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทางในแต่ละสถานที่ที่อยู่ไกลกันเหลือเกิน
สถานที่หลักๆ ที่เราต้องการจะไปมี 3 ที่ คือ
>> MOUNT BROMO >> BLUE FRAME IJEN >> BALI SURF
ตามหัวข้อกระทู้เลย >> ไปเยือนลมหายใจเทพเจ้าที่โบรโม่ นั่งดูแสงไฟสีฟ้าที่อิเจ้นท์ ลั้นลากับเซิร์ฟที่บาหลี <<
เมื่อมีสถานที่ที่ต้องไปในครั้งนี้แล้ว เราจึงเริ่มหาวันเดินทาง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมของการเที่ยวโบรโม่ คือ
Low season Jan-May
High season May-Sep
Peak season Sep-Jan
เราเลือกเดินทาง 17-21 พ.ย. 2017 เวลา 5 วัน 4 คืน (อยู่ที่อินโด 4 วัน 3 คืน)
** ช่วงเวลานี้เป็นหน้าฝนที่อินโดนีเซีย เจอฝนทั้งที่โบรโม่และอิเจ้นท์เลย ทำไมถึงเป็นช่วงพีคนะ? ** แต่ฟ้าหลังฝน หมอกมันก็จะสุดยอดดดด
เริ่มจากการจองตั๋วเครื่องบิน
ขาไป ดอนเมือง > สิงคโปร์ > สุราบายา
Scoot TZ 867 17/11/17 23.35 pm. - 18/11/17 02.55 am.
TigerAir TR 264 18/11/17 07.40 am. - 18/11/17 09.00 am.
เราเลือกสายการบิน Scoot และต่อด้วย Tiger โดยสามารถโหลดกระเป๋าแบบ Check-Thru ได้เลย แต่ค่าอาหารบนเครื่องบินแพงมากกกกก ทำใจไม่กิน ประหยัดๆ
ขากลับ บาหลี > มาเลเซีย > ดอนเมือง
AirAsia AK 375 21/11/17 21.55 pm. - 22/11/17 0.50 am.
AirAsia AK 890 22/11/17 06.55 am. - 22/11/17 08.05 am.
บินกับ AirAsia ซึ่งค่าอาหารถูกมากเมื่อเทียบกับขามา เราเลือกบริการอาหารบนเครื่องทั้ง 2 เที่ยวบิน แต่การเดินทางกลับ เราไม่ได้ซื้อตั๋วแบบต่อเครื่อง จึงต้องออกนอก ตม. และ Check-in อีกครั้งหนึ่ง
** ตั๋วทั้ง 2 ขา จะเดินทางตอนกลางคืน แวะพักที่สนามบินกลางทาง และเดินทางอีกครั้งในเช้าตรู่วันถัดไป **
พอเราได้วันเดินทางที่แน่นอนแล้ว ก็ทำการติดต่อทาง Agent ที่รับจัดทัวร์ประเภทนี้ ซึ่งมีบล็อกมากมายที่ช่วยเรามากในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในพันธุ์ทิพย์ เราจึงทำเป็นสรุปราคาของแต่ละเจ้ามาให้ดูกันค่ะ
ตารางราคาเช่ารถพร้อมทัวร์ โบรโม่ อิเจ้นท์ 4 วัน 3 คืน (ราคา ณ พ.ย. 2017)
โดยจะแยกเป็นเอเจ้นท์ และสิ่งที่รวมอยู่ในราคาทัวร์ ถ้าเจ้าไหนไม่มีจะไฮไลท์เป็นสีเขียว มีส่วนสีฟ้าด้านล่างเป็นช่องทางการติดต่อกับเอเจ้นท์ต่างๆ
จากตารางด้านบนเราเลือกทัวร์กับ Da Rifi เพราะราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆ และได้อะไรที่รู้สึกว่าครบกว่าที่อื่น แต่สำหรับเราคิดว่าคนขับที่เอเจ้นท์จัดมาให้ไม่ค่อยโอเค
โดยเราได้สอบถามราคาทัวร์ที่รวมบาหลีด้วย ทาง Da Rifi เสนอราคามาให้เรา 2,500,000 IDR ต่อคน และเราต่อเหลือ 2,200,000 IDR ต่อคน ไม่รวมโรงแรมที่บาหลี 1 คืน ซึ่งคิดว่าเป็นราคาที่โอเค เราจึงตกลงกับที่นี่
หลังจากตกลงราคากันเรียบร้อยแล้ว Da Rifi หรือ Dyana ก็ให้ Whatsapps ของคนขับรถให้กับเรา เพื่อให้เราติดต่อกับคนขับโดยตรงค่ะ ซึ่งคนขับของเรา คือ Ari ... พอติดต่อกับคนขับรถนำเที่ยวแล้ว เราก็ส่งแพลนสถานที่ๆ เราต้องการไปให้เขาค่ะ
ตารางด้านล่างเป็นแพลนที่เราส่งให้ Ari ซึ่งเขาโอเคตามแพลน
เทียบกับตารางด้านล่างอีกอันหนึ่ง ซึ่งเป็นตารางตามที่เราไปได้จริงๆ
จะเห็นว่าบาหลีเราตัดออกไปเกือบทุกที่เลย (ยกเว้นนาขั้นบันได อันนี้เราขอไม่ไปเอง) เนื่องจากเวลาเราไม่พอ บาหลีรถติดมหาโหดมาก และระยะทางจากท่าเรือไปสถานที่เที่ยวก็ไกลใช้ย่อยนะจ๊ะ การเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ (สำหรับคนที่ขี่เป็น) สะดวกที่สุด แต่เจ้าของกระทู้ขี่ไม่เป็น
เรทเงิน
อินโดนีเซียใช้เรท รูเปียร์ หรือ IDR ปกติอยู่ที่ 1 IDR = 0.0025 บาท
ณ วันที่เราแลกไปได้เรท 0.00248 บาท
วิธีการคำนวณง่ายๆ คือ ตัด 0 ออก 4 ตัว เช่น 10,000 IDR = 25 บาท ถ้าเป็น 1,000 IDR = 2.5 บาท
เวลา
โบรโม่และอิเจ้นท์ (เกาะชวา) เวลาเท่ากับที่ไทย
บาหลี เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม.
และนี้เป็นตารางค่าใช้จ่ายทั้งทริปต่อคน รวมทุกอย่างยกเว้นค่าของฝาก
* ค่าโรงแรม เราจ่ายเองเฉพาะที่บาหลี เพราะเราจองโรงแรมไปเอง ราคา 636.99 บาท
** ค่าอาหาร โรงแรมที่โบรโม่และอิเจ้นท์ ทัวร์ 5,592.40 (ทัวร์ 5,456 บาท และน้ำ + เบียร์ ที่หากินเพิ่มเอง 136.40)
*** ค่าอื่นๆ คือ ถุงมือขึ้นอิเจ้นท์ 24.80 บาท (ไม่จำเป็น) ห้องน้ำ 4.96 บาท เรียนเซิร์ฟ 200,000 IDR (496 บาท)
เมื่อแพลนพร้อม คนพร้อม และถึงเวลาแล้ว เราขออนุญาต >>> เริ่มต้นเดินทาง สู่ดินแดนหลากอารยธรรม <<<
BROMO
วันแรก 17/11/17
ยังไม่ทันได้ไปไหนเลย เราก็เจออุปสรรคซะแล้ว
* เพื่อนคนหนึ่ง ป่วย ไม่สามารถมาร่วมได้ เราจึงเหลือกันแค่ 2 สาว 1 หนุ่ม
** ลืมซิมที่เติมเงินไว้สำหรับใช้ที่อินโดซะแล้ว ทริปนี้เราจึงไม่มีเน็ตใช้อยู่คนเดียว อาศัย Wi-Fi ที่พัก และตามจุดพักต่างๆ และขอเพื่อนแชร์เป็นบางครั้ง
แล้วพวกเราก็ออกเดินทางตอนกลางคืน แวะพักที่สนามบินสิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางอีกทีในเช้าวันถัดไป
สภาพแต่ละคน (ประสบการณ์นอนสนามบินครั้งแรก) Mission completed
วันที่ 2 18/11/17
ขอวาบมาที่ถึงสุราบายาเลยแล้วกันนะค่ะ
เรามาถึงสนามบินสุราบายา อินโดนีเซีย ตอน 9 โมงกว่าๆ และใช้เวลาใน ตม. นานอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่องเขียวช่องแดง (มีของต้องสำแดงหรือไม่) ที่อินโดฯ มีช่องแดงช่องเดียว เขาไม่เปิดใช้ช่องเขียว (หรือวันที่เราไปเขาไม่เปิดก็ไม่รู้) พวกเราจึงต้องใช้เวลาตรวจกระเป๋ากันสักพักใหญ่
ซึ่งก่อนขึ้นเครื่องที่สิงคโปร์เราก็ได้ส่งข้อความถึง Ari แล้วว่าเรากำลังจะถึงในตอนเช้า
ออกมาจากโซนตรวจของได้ เราก็เห็นป้ายเขียนชื่อเรากับเพื่อน 2 คน บอกให้รู้ว่า Ari มารอเราแล้ว
ทำความรู้จักกันสักเล็กน้อย Ari พูดภาษาอังกฤษได้ในระดับดี
จากนั้นก็ทำธุระส่วนตัวกันก่อน ล้างหน้า แปรงฟัน แต่ไม่ได้อาบน้ำนะ 555+ เตรียมพร้อมเดินทางไปโบรโม่
10 โมงกว่าๆ การเดินทางของพวกเราก็เริ่มต้นขึ้น เริ่มต้นด้วยอาหารกลางวันก่อน
หิวววว
มื้อแรก Ari พาเราไปจุดพักรถ มี KFC ที่นั้น เราก็เลยกิน KFC กัน รสชาติบ้านเขากับบ้านเราไม่เหมือนกัน ข้าวเราอร่อยกว่า ซอสพริกเขาเผ็ดกว่า (เราชอบซอสพริกเขามาก ขนจากมินิมาร์ทหมดชั้นกลับบ้านเลย 555+)
หลังจากอิ่มหน่ำกับไก่ทอดแล้ว เราก็เดินทางสู่โบรโม่ แต่เราจะไปน้ำตก Madakaripura กันก่อน ฟ้าฝนก็ไม่ค่อยเป็นใจกับเราเสียเท่าไร ระหว่างทางที่เราไปฝนก็ตกลงมา แรงงงงง มากด้วย ทำให้เราตัดสินใจว่าจะมาน้ำตกพรุ่งนี้ตอนขากลับลงมา (น้ำตกอยู่เส้นทางที่ไปโบรโม่ค่ะ)
ปกติก็ใช้เวลาเดินทางนานอยู่แล้ว แต่ด้วยฝนที่ตกหนักมาก ทำให้เราใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง กว่าจะถึงที่พัก
ที่พักของเรา คือ Yoschi hotel
ลิงค์โรงแรม Yoschi hotel :
http://www.hotelyoschi.com/
อยู่ริมถนนในเขต Ngadisari ก่อนถึงหมู่บ้าน Cemoro Lawang อีกฝากของโรงแรมติดกับหน้าผา มีชานนั่งเล็กๆ ยื่นออกไป หลังฝนตกบรรยากาศสุดบรรยายจริงๆ
ห้องพักเล็กๆ นอน 3 คน (ที่จริงเขาให้ 2 ห้อง แต่เราอยากนอนด้วยกัน 3 คน) ไม่มีพัดลมหรือแอร์ อากาศก็เย็นมากแล้ว ไฟฟ้าก็เปิดเป็นเวลา ห้องอาบน้ำอุ่นกับห้องน้ำปกติแยกกัน สภาพพอรับได้ สำหรับนอนแค่คืนเดียวนะ แต่อาหารที่นี่อร่อยค่ะ และบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงัดมาก
Duck chan เพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้ ผู้ให้ความอบอุ่นยามค่ำคืน 555+
หลังจากมาถึงโรงแรมเราก็เหนื่อยกันมากๆ พากันแยกย้ายไปอาบน้ำและพักผ่อนเลย เพราะทั้งวันนี้อยู่บนรถอย่างเดียว ขอหลับสักงีบ ... ตื่นมาอีกทีก็ทุ่มแล้ว ได้เวลาอาหารค่ำ เราทานมื้อค่ำกันที่โรงแรมจร้าาา
หน้าตาอาหารค่ำวันนี้
Ari ได้แจ้งว่าพรุ่งนี้เราจะออกจากที่พักกัน ตี 1 !!! จะเช้าไปไหน!!! เพราะว่าจะมีคนไปชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นกันเยอะมาก เขาจะมาเรียกเราตรงเวลา
หลังจากกินอิ่ม นั่งสักพัก เราก็เลยขอตัวไปนอนกัน นอนกันตั้งแต่หัววัน 5555+ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพรุ่งนี้
zzzzZZZzzzZZZZZ
วันที่ 3 19/11/17
เที่ยงคืนอีเพื่อนก็ตื่นแล้วจร้า หล่อนตื่นมาอาบน้ำ!!! เราขอบ๊ายบาย
พอ ตี 1 ปุ๊บ Ari ก็มาเรียกพวกเรากันปั๊บ เขาแนะนำให้รู้จักกับคนขับรถจิ๊พที่เป็นเพื่อนกัน แล้วเราก็ไปลุยโบรโม่กันเถอะ
เป็นการขับรถตอนมืด บนเขา ที่น่ากลัวมาก ขึ้นๆ ลงๆ จนมีช่วงหนึ่งที่เป็นทางเรียบตลอดทาง แต่ไม่มีทางถนน เป็นพื้นที่กว้างๆ ขับกันแบบไม่รู้จะไปทางไหน เพราะเมื่อวานฝนตกหนัก วันนี้หมอกเลยหนักมากเช่นกัน เรามารู้ตอนฟ้าสว่างว่าทุ่งกว้างๆ ก็คือตีนภูเขาไฟโบรโม่ (มาถูกทางได้ไง?)
เห็นแต่ท้ายรถจิพคันหน้า นับถือรถจิพคันแรกจริงๆ 555
มาถึงจุดชมวิวที่ Pananjakan Viewpoint ตอนตี 3 กว่าๆ ... คนเยอะมากกกกกก แบบมาจองที่นั่งแถวหน้ากันอะไรประมาณนี้ ถ้าเราไม่ออก ตี 1 คงไม่ได้ที่แถวหน้าหรอก นี้เบียดเข้าไปกันจนได้เกาะขอบหน้า แต่ก็ไม่แคล้วมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ออกไปนอกรั้วกั้น ทำให้รูปที่ได้บนจุดชมวิวไม่ค่อยสวยเท่าไร
พระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นเร็ว หลังจากที่เรารอเกือบ 2 ชั่วโมง ในอากาศที่หนาวเย็น แสงแรงของวันก็โผล่มาให้เราเห็นที่บริเวณหมู่บ้าน Cemoro Lawang กัน เป็นภาพที่มองด้วยตาเปล่าอินท์สุด รูปถ่ายถ่าย ยังไงก็ไม่สวยเท่าเห็นด้วยตา เพิ่งเข้าใจวันนี้เอง
หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นเต็มที่แล้ว เราก็ลงจากจุดชมวิว เพื่อเดินทางไปต่อที่ภูเขาไฟโบรโม่
*********** GO GO GO ***********
โบรโม่ อิเจ้นท์ บาหลี (4 วัน 3 คืน ทุกอย่าง 15,000).. สัมผัสควัน กลิ่นกำมะถัน และ กระดานโต้คลื่น
สวัสดีชาวพันธุ์ทิพย์ทุกคนค่ะ นี้คือกระทู้แรกที่เราลงในพันธุ์ทิพย์ เราหวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่อ่าน เป็นแรงผลักดันให้กับใครที่ยังอยากออกไปตามหาฝัน ในราคาที่ประหยัดที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ของเราได้ที่ Bloggang : https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=junket-globe&month=12-01-2018&group=7&gblog=3
สำหรับกระทู้ปีนป่ายที่อินโดนีเซียนี้ ขอแบ่งกระทู้เป็น 4 ช่วง คือ ก่อนเดินทาง โบรโม่ อิเจ้นท์ และบาหลี
(สำหรับรายละเอียดแพลนเดินทางและสรุปค่าใช้จ่าย เราจะให้ข้อมูลไว้ตั้งแต่ต้นๆ กระทู้กันเลยค่ะ)
ทริปนี้เกิดจากเพื่อนอยากจะไปโบรโม่ เรามีแพลนว่าจะไปกันมาเป็นปี แต่ก็มีเหตุให้ต้องเลื่อนตลอด แล้ววันนี้เราก็ได้ไปกันเสียที
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอไปที่ช่วงแรกกันเลย
ก่อนเดินทาง
ทริปโบรโม่ ไปกันประมาณ 4 คน กำลังดี เพราะว่าถ้าจะให้สะดวกที่สุด สำหรับการเดินทางที่มีเวลาน้อย คงจะต้องเช่ารถพร้อมคนขับ เพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทางในแต่ละสถานที่ที่อยู่ไกลกันเหลือเกิน
สถานที่หลักๆ ที่เราต้องการจะไปมี 3 ที่ คือ
>> MOUNT BROMO >> BLUE FRAME IJEN >> BALI SURF
ตามหัวข้อกระทู้เลย >> ไปเยือนลมหายใจเทพเจ้าที่โบรโม่ นั่งดูแสงไฟสีฟ้าที่อิเจ้นท์ ลั้นลากับเซิร์ฟที่บาหลี <<
เมื่อมีสถานที่ที่ต้องไปในครั้งนี้แล้ว เราจึงเริ่มหาวันเดินทาง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมของการเที่ยวโบรโม่ คือ
Low season Jan-May
High season May-Sep
Peak season Sep-Jan
เราเลือกเดินทาง 17-21 พ.ย. 2017 เวลา 5 วัน 4 คืน (อยู่ที่อินโด 4 วัน 3 คืน)
** ช่วงเวลานี้เป็นหน้าฝนที่อินโดนีเซีย เจอฝนทั้งที่โบรโม่และอิเจ้นท์เลย ทำไมถึงเป็นช่วงพีคนะ? ** แต่ฟ้าหลังฝน หมอกมันก็จะสุดยอดดดด
เริ่มจากการจองตั๋วเครื่องบิน
ขาไป ดอนเมือง > สิงคโปร์ > สุราบายา
Scoot TZ 867 17/11/17 23.35 pm. - 18/11/17 02.55 am.
TigerAir TR 264 18/11/17 07.40 am. - 18/11/17 09.00 am.
เราเลือกสายการบิน Scoot และต่อด้วย Tiger โดยสามารถโหลดกระเป๋าแบบ Check-Thru ได้เลย แต่ค่าอาหารบนเครื่องบินแพงมากกกกก ทำใจไม่กิน ประหยัดๆ
ขากลับ บาหลี > มาเลเซีย > ดอนเมือง
AirAsia AK 375 21/11/17 21.55 pm. - 22/11/17 0.50 am.
AirAsia AK 890 22/11/17 06.55 am. - 22/11/17 08.05 am.
บินกับ AirAsia ซึ่งค่าอาหารถูกมากเมื่อเทียบกับขามา เราเลือกบริการอาหารบนเครื่องทั้ง 2 เที่ยวบิน แต่การเดินทางกลับ เราไม่ได้ซื้อตั๋วแบบต่อเครื่อง จึงต้องออกนอก ตม. และ Check-in อีกครั้งหนึ่ง
** ตั๋วทั้ง 2 ขา จะเดินทางตอนกลางคืน แวะพักที่สนามบินกลางทาง และเดินทางอีกครั้งในเช้าตรู่วันถัดไป **
พอเราได้วันเดินทางที่แน่นอนแล้ว ก็ทำการติดต่อทาง Agent ที่รับจัดทัวร์ประเภทนี้ ซึ่งมีบล็อกมากมายที่ช่วยเรามากในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในพันธุ์ทิพย์ เราจึงทำเป็นสรุปราคาของแต่ละเจ้ามาให้ดูกันค่ะ
ตารางราคาเช่ารถพร้อมทัวร์ โบรโม่ อิเจ้นท์ 4 วัน 3 คืน (ราคา ณ พ.ย. 2017)
โดยจะแยกเป็นเอเจ้นท์ และสิ่งที่รวมอยู่ในราคาทัวร์ ถ้าเจ้าไหนไม่มีจะไฮไลท์เป็นสีเขียว มีส่วนสีฟ้าด้านล่างเป็นช่องทางการติดต่อกับเอเจ้นท์ต่างๆ
จากตารางด้านบนเราเลือกทัวร์กับ Da Rifi เพราะราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆ และได้อะไรที่รู้สึกว่าครบกว่าที่อื่น แต่สำหรับเราคิดว่าคนขับที่เอเจ้นท์จัดมาให้ไม่ค่อยโอเค
โดยเราได้สอบถามราคาทัวร์ที่รวมบาหลีด้วย ทาง Da Rifi เสนอราคามาให้เรา 2,500,000 IDR ต่อคน และเราต่อเหลือ 2,200,000 IDR ต่อคน ไม่รวมโรงแรมที่บาหลี 1 คืน ซึ่งคิดว่าเป็นราคาที่โอเค เราจึงตกลงกับที่นี่
หลังจากตกลงราคากันเรียบร้อยแล้ว Da Rifi หรือ Dyana ก็ให้ Whatsapps ของคนขับรถให้กับเรา เพื่อให้เราติดต่อกับคนขับโดยตรงค่ะ ซึ่งคนขับของเรา คือ Ari ... พอติดต่อกับคนขับรถนำเที่ยวแล้ว เราก็ส่งแพลนสถานที่ๆ เราต้องการไปให้เขาค่ะ
ตารางด้านล่างเป็นแพลนที่เราส่งให้ Ari ซึ่งเขาโอเคตามแพลน
เทียบกับตารางด้านล่างอีกอันหนึ่ง ซึ่งเป็นตารางตามที่เราไปได้จริงๆ
จะเห็นว่าบาหลีเราตัดออกไปเกือบทุกที่เลย (ยกเว้นนาขั้นบันได อันนี้เราขอไม่ไปเอง) เนื่องจากเวลาเราไม่พอ บาหลีรถติดมหาโหดมาก และระยะทางจากท่าเรือไปสถานที่เที่ยวก็ไกลใช้ย่อยนะจ๊ะ การเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ (สำหรับคนที่ขี่เป็น) สะดวกที่สุด แต่เจ้าของกระทู้ขี่ไม่เป็น
เรทเงิน
อินโดนีเซียใช้เรท รูเปียร์ หรือ IDR ปกติอยู่ที่ 1 IDR = 0.0025 บาท
ณ วันที่เราแลกไปได้เรท 0.00248 บาท
วิธีการคำนวณง่ายๆ คือ ตัด 0 ออก 4 ตัว เช่น 10,000 IDR = 25 บาท ถ้าเป็น 1,000 IDR = 2.5 บาท
เวลา
โบรโม่และอิเจ้นท์ (เกาะชวา) เวลาเท่ากับที่ไทย
บาหลี เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม.
และนี้เป็นตารางค่าใช้จ่ายทั้งทริปต่อคน รวมทุกอย่างยกเว้นค่าของฝาก
* ค่าโรงแรม เราจ่ายเองเฉพาะที่บาหลี เพราะเราจองโรงแรมไปเอง ราคา 636.99 บาท
** ค่าอาหาร โรงแรมที่โบรโม่และอิเจ้นท์ ทัวร์ 5,592.40 (ทัวร์ 5,456 บาท และน้ำ + เบียร์ ที่หากินเพิ่มเอง 136.40)
*** ค่าอื่นๆ คือ ถุงมือขึ้นอิเจ้นท์ 24.80 บาท (ไม่จำเป็น) ห้องน้ำ 4.96 บาท เรียนเซิร์ฟ 200,000 IDR (496 บาท)
เมื่อแพลนพร้อม คนพร้อม และถึงเวลาแล้ว เราขออนุญาต >>> เริ่มต้นเดินทาง สู่ดินแดนหลากอารยธรรม <<<
BROMO
วันแรก 17/11/17
ยังไม่ทันได้ไปไหนเลย เราก็เจออุปสรรคซะแล้ว
* เพื่อนคนหนึ่ง ป่วย ไม่สามารถมาร่วมได้ เราจึงเหลือกันแค่ 2 สาว 1 หนุ่ม
** ลืมซิมที่เติมเงินไว้สำหรับใช้ที่อินโดซะแล้ว ทริปนี้เราจึงไม่มีเน็ตใช้อยู่คนเดียว อาศัย Wi-Fi ที่พัก และตามจุดพักต่างๆ และขอเพื่อนแชร์เป็นบางครั้ง
แล้วพวกเราก็ออกเดินทางตอนกลางคืน แวะพักที่สนามบินสิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางอีกทีในเช้าวันถัดไป
สภาพแต่ละคน (ประสบการณ์นอนสนามบินครั้งแรก) Mission completed
วันที่ 2 18/11/17
ขอวาบมาที่ถึงสุราบายาเลยแล้วกันนะค่ะ
เรามาถึงสนามบินสุราบายา อินโดนีเซีย ตอน 9 โมงกว่าๆ และใช้เวลาใน ตม. นานอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่องเขียวช่องแดง (มีของต้องสำแดงหรือไม่) ที่อินโดฯ มีช่องแดงช่องเดียว เขาไม่เปิดใช้ช่องเขียว (หรือวันที่เราไปเขาไม่เปิดก็ไม่รู้) พวกเราจึงต้องใช้เวลาตรวจกระเป๋ากันสักพักใหญ่
ซึ่งก่อนขึ้นเครื่องที่สิงคโปร์เราก็ได้ส่งข้อความถึง Ari แล้วว่าเรากำลังจะถึงในตอนเช้า
ออกมาจากโซนตรวจของได้ เราก็เห็นป้ายเขียนชื่อเรากับเพื่อน 2 คน บอกให้รู้ว่า Ari มารอเราแล้ว
ทำความรู้จักกันสักเล็กน้อย Ari พูดภาษาอังกฤษได้ในระดับดี
จากนั้นก็ทำธุระส่วนตัวกันก่อน ล้างหน้า แปรงฟัน แต่ไม่ได้อาบน้ำนะ 555+ เตรียมพร้อมเดินทางไปโบรโม่
10 โมงกว่าๆ การเดินทางของพวกเราก็เริ่มต้นขึ้น เริ่มต้นด้วยอาหารกลางวันก่อน หิวววว
มื้อแรก Ari พาเราไปจุดพักรถ มี KFC ที่นั้น เราก็เลยกิน KFC กัน รสชาติบ้านเขากับบ้านเราไม่เหมือนกัน ข้าวเราอร่อยกว่า ซอสพริกเขาเผ็ดกว่า (เราชอบซอสพริกเขามาก ขนจากมินิมาร์ทหมดชั้นกลับบ้านเลย 555+)
หลังจากอิ่มหน่ำกับไก่ทอดแล้ว เราก็เดินทางสู่โบรโม่ แต่เราจะไปน้ำตก Madakaripura กันก่อน ฟ้าฝนก็ไม่ค่อยเป็นใจกับเราเสียเท่าไร ระหว่างทางที่เราไปฝนก็ตกลงมา แรงงงงง มากด้วย ทำให้เราตัดสินใจว่าจะมาน้ำตกพรุ่งนี้ตอนขากลับลงมา (น้ำตกอยู่เส้นทางที่ไปโบรโม่ค่ะ)
ปกติก็ใช้เวลาเดินทางนานอยู่แล้ว แต่ด้วยฝนที่ตกหนักมาก ทำให้เราใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง กว่าจะถึงที่พัก
ที่พักของเรา คือ Yoschi hotel
ลิงค์โรงแรม Yoschi hotel : http://www.hotelyoschi.com/
อยู่ริมถนนในเขต Ngadisari ก่อนถึงหมู่บ้าน Cemoro Lawang อีกฝากของโรงแรมติดกับหน้าผา มีชานนั่งเล็กๆ ยื่นออกไป หลังฝนตกบรรยากาศสุดบรรยายจริงๆ
ห้องพักเล็กๆ นอน 3 คน (ที่จริงเขาให้ 2 ห้อง แต่เราอยากนอนด้วยกัน 3 คน) ไม่มีพัดลมหรือแอร์ อากาศก็เย็นมากแล้ว ไฟฟ้าก็เปิดเป็นเวลา ห้องอาบน้ำอุ่นกับห้องน้ำปกติแยกกัน สภาพพอรับได้ สำหรับนอนแค่คืนเดียวนะ แต่อาหารที่นี่อร่อยค่ะ และบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงัดมาก
Duck chan เพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้ ผู้ให้ความอบอุ่นยามค่ำคืน 555+
หลังจากมาถึงโรงแรมเราก็เหนื่อยกันมากๆ พากันแยกย้ายไปอาบน้ำและพักผ่อนเลย เพราะทั้งวันนี้อยู่บนรถอย่างเดียว ขอหลับสักงีบ ... ตื่นมาอีกทีก็ทุ่มแล้ว ได้เวลาอาหารค่ำ เราทานมื้อค่ำกันที่โรงแรมจร้าาา
หน้าตาอาหารค่ำวันนี้
Ari ได้แจ้งว่าพรุ่งนี้เราจะออกจากที่พักกัน ตี 1 !!! จะเช้าไปไหน!!! เพราะว่าจะมีคนไปชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นกันเยอะมาก เขาจะมาเรียกเราตรงเวลา
หลังจากกินอิ่ม นั่งสักพัก เราก็เลยขอตัวไปนอนกัน นอนกันตั้งแต่หัววัน 5555+ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพรุ่งนี้
zzzzZZZzzzZZZZZ
วันที่ 3 19/11/17
เที่ยงคืนอีเพื่อนก็ตื่นแล้วจร้า หล่อนตื่นมาอาบน้ำ!!! เราขอบ๊ายบาย
พอ ตี 1 ปุ๊บ Ari ก็มาเรียกพวกเรากันปั๊บ เขาแนะนำให้รู้จักกับคนขับรถจิ๊พที่เป็นเพื่อนกัน แล้วเราก็ไปลุยโบรโม่กันเถอะ
เป็นการขับรถตอนมืด บนเขา ที่น่ากลัวมาก ขึ้นๆ ลงๆ จนมีช่วงหนึ่งที่เป็นทางเรียบตลอดทาง แต่ไม่มีทางถนน เป็นพื้นที่กว้างๆ ขับกันแบบไม่รู้จะไปทางไหน เพราะเมื่อวานฝนตกหนัก วันนี้หมอกเลยหนักมากเช่นกัน เรามารู้ตอนฟ้าสว่างว่าทุ่งกว้างๆ ก็คือตีนภูเขาไฟโบรโม่ (มาถูกทางได้ไง?)
เห็นแต่ท้ายรถจิพคันหน้า นับถือรถจิพคันแรกจริงๆ 555
มาถึงจุดชมวิวที่ Pananjakan Viewpoint ตอนตี 3 กว่าๆ ... คนเยอะมากกกกกก แบบมาจองที่นั่งแถวหน้ากันอะไรประมาณนี้ ถ้าเราไม่ออก ตี 1 คงไม่ได้ที่แถวหน้าหรอก นี้เบียดเข้าไปกันจนได้เกาะขอบหน้า แต่ก็ไม่แคล้วมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ออกไปนอกรั้วกั้น ทำให้รูปที่ได้บนจุดชมวิวไม่ค่อยสวยเท่าไร
พระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นเร็ว หลังจากที่เรารอเกือบ 2 ชั่วโมง ในอากาศที่หนาวเย็น แสงแรงของวันก็โผล่มาให้เราเห็นที่บริเวณหมู่บ้าน Cemoro Lawang กัน เป็นภาพที่มองด้วยตาเปล่าอินท์สุด รูปถ่ายถ่าย ยังไงก็ไม่สวยเท่าเห็นด้วยตา เพิ่งเข้าใจวันนี้เอง
หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นเต็มที่แล้ว เราก็ลงจากจุดชมวิว เพื่อเดินทางไปต่อที่ภูเขาไฟโบรโม่
*********** GO GO GO ***********