สวัสดีค่ะ “พี่หยอดวัดยาง” กลับมาอีกครั้ง
คราวนี้มารีวิววิธีการขอวีซ่า Schengen ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กันค่ะ
ข้อมูลทั้งหมดนี้อัพเดตเดือน ม.ค. 2561 นะคะ
“พี่หยอด” กรอกแบบฟอร์มช่วงต้นเดือนและได้คิวไปยื่นวีซ่าในช่วงปลายเดือน ม.ค. ค่ะ (เดินทาง 28 ก.พ.)
สำหรับการยื่นขอวีซ่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เราสามารถยื่นขอให้ทั้งแบบยื่นตรงกับทางสถานทูต และผ่านทางสู่ศูนย์รับยื่นวีซ่า TLScontact ประเทศไทย ซึ่งจะเสียงค่าบริการเพิ่มเติมเล็กน้อย เท่าที่เคยหาข้อมูลมาในการยื่นขอวีซ่าตรงกับทางสถานทูตนั้น อาจจะต้องรอคิวค่อนข้างนาน เพราะมีจำนวนจำกัดในการให้บริการในแต่ละวันค่ะ แต่ข้อดีก็คือเราไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม
เอาเป็นว่า แล้วแต่แต่ละคนสะดวกดีกว่า ว่าอยากยื่นผ่านช่องทางไหน
แต่สำหรับ “พี่หยอด” แล้ว ขอใช้ช่องทางผ่าน TLScontact เพราะว่าวันเดินทางค่อนข้างจะกระชั้นชิด เกรงว่าถ้ารอคิวจากสถานทูตจะกระชั้นชิดไปนิดค่ะ โดยการยื่นวีซ่าผ่าน TLScontact นี้จะมีค่าบริการสำหรับวีซ่าทุกประเภท 863 บาทต่อคนค่ะ
เอาล่ะ เรามาเริ่มกรรมวิธีกันเลยดีกว่า... จะพยายามอธิบายให้ครบทุกขั้นตอนนะคะ
อย่างแรกที่เราต้องทำก็คือ เข้าไปที่เว็บไซต์นี้ค่ะ
https://ch.tlscontact.com/th/bkk/index.php?l=en
(สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้นะคะ จะมีให้เลือกเปลี่ยนภาษาอยู่ด้านล่างซ้ายของหน้าเพจค่ะ)
นี่เป็นหน้าหลัก เมื่อเข้าไปแล้วเราต้องทำการ Register ลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานก่อน
ก็กดเข้าไปที่
Create an Account ได้เลยค่ะ จากนั้นก็มากรอกข้อมูลในการ register เล็กน้อยตามด้านล่างนี้
เมื่อกรอกรายละเอียดส่วนนี้เสร็จแล้ว จะมีหน้าต่างใหม่เด้งขึ้นมาว่า ให้เราไปเช็คอีเมล์ที่ให้ไว้ เพราะว่าเราต้องไปกด activate account จากในอีเมล์ที่ทาง TLScontact ส่งไปค่ะ โดยเราจะต้องเข้าไป activate account ภายใน 24 ชั่งโมง ถ้าเกินไปกว่านั้นต้องสมัครใหม่เลยค่ะ
อันนี้เป็นหน้าตาของ e-mail ที่ได้รับค่ะ
เราก็เพียงแค่คลิ๊กตาม link ที่เค้าให้มาก็เป็นอันเรียบร้อย และเมื่อคลิ๊กไปปุ๊ป ก็จะเด้นกลับที่หน้าเพจของ TLScontact และมีข้อความแจ้งว่าเราได้ activate account เรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปเราสามารถ log in เพื่อเข้าไปกรอกวีซ่ากันได้แล้ว
(ใช้ e-mail address และ password ที่เรากรอกไว้ตอนสมัครตอนแรกค่ะ)
และนี้คือหน้าตาของหน้า Log in ค่ะ
และเมื่อเรา Log in กันเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะเจอกับหน้านี้ค่ะ
เป็นเหมือนหน้า Home สำหรับการกรอกรายละเอียดต่างๆของเรา จะมีรายละเอียดต่างๆที่เราควรจะรู้
เช่น Reference Number หมายเลขการยื่นขอวีซ่าของเรา เป็นต้น
สำหรับการยื่นขอวีซ่า นี้จะมีอยู่ 9 ขั้นตอนด้วยกัน
ซึ่งในหน้านี้ก็จะมีรายละเอียดบอกทั้งหมด ข้อ 1-9 เลยค่ะ แต่หลักๆสำหรับเราคือ ข้อ 1-3 นั้นคือ กรอก นัดหมาย ปริ้น และยื่นค่ะ
โดยด้านขวาบน จะมีจุดสีเขียว เหลือง แดง และเทา เป็นสัญลักษณ์ในการบ่งบองสถานะของแต่ละขั้นตอนที่เราดำเนินการว่าเรียบร้อยแล้วหรือยัง
(กรอบสี่เหลี่ยมรอบๆ แต่ละขั้นตอนก็จะเป็นสีเดียวกับจุดเหล่านี้นะคะ)
เขียว – เสร็จเรียบร้อย
เหลือง – อยู่ระหว่างดำเนินการ
แดง - อาจะมีความผิดพลาด (ควรเข้าไปตรวจสอบความถูกต้อง)
เทา – ยังไม่เสร็จเรียบร้อย
สำหรับการกรอก Application Form นี้ เราสามารถกรอกได้ล่วงหน้าก่อนวันเดินทางไม่เกิน 90 วัน และควรกรอกอย่างน้อย 20 วันทำการก่อนวันเดินทาง
เมื่อพร้อมแล้วก็มากรอกเอกสารกันเลย คลิ๊กที่
Create an Applicant ในข้อ 1 ค่ะ
สำหรับ
Purpose of Travel ถ้าเป็นสำหรับการไปท่องเที่ยวทั่วไปให้เลือกเป็น
“Short Stay Tourist Visit” จากนั้นก็กรอกข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลพื้นฐานอื่นๆเกี่ยวกับตัวเราค่ะ เช่น อาชีพ ที่ทำงาน ที่อยู่
และจะมีในส่วนของการกรอกรายละเอียดการเดินทางของเราด้วยค่ะ
ใม่ว่าจะเป็นวันที่จะอยู่ในประเทศ จำนวนวันที่จะอยู่ และต้องใส่ที่อยู่โรงแรมหรือที่พักที่เราจะไปพักด้วย
(ใส่เฉพาะช่องที่มี * ก็ได้นะคะ บางข้อก็ไม่มีข้อมูลเหมือนกัน อย่างเช่นถ้าเราไปเที่ยวเอง พักโรงแรม ก็จะไม่ต้องกรอกช่อง Host Given Name / Host Surname)
นอกจากนี้ก็จะมีการกรอกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่างๆ ว่าใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้
ซึ่งโดยปกติก็น่าจะตอบว่า By the applicant ก็คือออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และบอกวิธีการในการใช้จ่ายด้วยว่าใช้เป็น เงินสด Cash หรือวิธีอื่นๆ (แล้วแต่สะดวกค่ะ)
และอีกส่วน ก็จะเป็นการสอบถามประวัติการเข้าประเทศในโซน Schengen ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศล่าสุดที่เราได้เดินทางไป และถามว่าเรามีญาติหรือครอบครัวที่ถือสัญชาติยุโรปหรือไม่
และสุดท้าย ท้ายสุดสำหรับการกรอก application ก็คือ เราต้องการให้ส่ง passport กลับมาให้เราทางไปรษณีย์หลังจากมีการพิจารณาวีซ่าเสร็จแล้วหรือไม่... ซึ่งตัวเราเองเลือกที่จะให้ส่งกลับมาที่บ้านเลยค่ะ เพราะเกรงว่าจะไม่มีเวลาไปรับเล่มด้วยตัวเอง ในส่วนนี้เราก็กรอกที่อยู่ที่ต้องการให้ส่งเล่มมาได้เลย โดยจะเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มเติมอีกคนละ 180 บาท
เมื่อกรอกเอกสารครบทุกส่วนแล้ว ตรวจทานให้ครบอีกรอบนะคะ ถ้าชัวร์แล้วก็กด
Done ได้เลย
โดยระหว่างที่เรากรอกเอกสารนี้ เราสามารถ
Save Draft ไว้ได้เรื่อยๆ นะคะ แล้วกลับมากรอกต่อไปในภายหลัง
เมื่อคลิ๊ก Done แล้ว ก็จะเด้งกลับมาที่หน้า Home ค่ะ หน้าตาแบบนี้ มีจุดสีเขียวก็แสดงว่า กรอกครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว และจะมีส่วนที่เราจะต้อง print แบบฟอร์มนี้ออกมาก็คือ
Download filled Schengen Application Form เราก็คลิ๊กที่
Download Schengen Form ได้เลยค่ะ
และสำหรับคนที่เดินทางพร้อมกับครอบครัวหลายคน เราสามารถกรอก application form พร้อมกันได้เลยใน account เดียว
เพียงแค่คลิ๊กที่
Duplicate ที่ใต้ application ของเราก็จะมี pop-up ขึ้นมาให้เราเลือกติ๊กว่า จะมีส่วนไหนที่อยากใช้ข้อมูลเหมือนกับของเราบ้าง
อันนี้คือดีงามเพราะเราจะได้ไม่ต้องมาพิมพ์ซ้ำๆ หลายรอบ จะเหลือให้พิมพ์ก็เพียงแต่ข้อมูลส่วนตัวที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกันก็แค่นั้นค่ะ
และเมื่อกรอกครบแล้วสำหรับสมาชิกในครอบครัว ก็จะกลับมาที่หน้า Home และมี list รายชื่อ applicants เพิ่มเติมมาเหมือนในรูปนี้
ทันนี้เราก็สามารถ Download Schengen Form ของทุกคนออกมาได้เลยค่ะ
อันนี้เป็นหน้าตาของ
Application Form ที่ download และ print ออกมาค่ะ (ตัวอย่างแค่ส่วนหัวนะ)
ขั้นตอนต่อไปก็คือ
ข้อ 2 Validation นั่นเอง
โดยเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการเปลี่ยนใดๆในเอกสารและผู้ร่วมเดินทางแล้วนะคะ จากนั้นคลิ๊กที่
Confirm
เมื่อคลิ๊ก Confirm เรียบร้อยแล้ว จากกรอบสี่เหลี่ยมสีส้ม ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว คือเรียบร้อยแล้ว
และเราจะสามารถคลิ๊กที่
See your document list เพื่อดูเอกสารที่เราจำเป็นต้องใช้ในการยื่นวีซ่า
จากนั้นก็ขยับมาที่
ข้อ 3 Deposit your application at the TLScontact center หรือการจองวันที่เราจะนัดหมายไปยื่นเอกสารขอวีซ่าค่ะ
ก็จะมีตารางวันที่ และ เวลา ให้เราเลือกค่ะ เวลาสีฟ้าคือที่ยังว่างอยู่ ก็เลือกกันตามสบาย
แต่ทาง TLScontact แนะนำให้มาก่อนเวลานิดนึงนะคะ เพราะถ้ามาช้ากว่าเวลาที่จองไว้ จะถือว่าสละสิทธิ์ทันที และต้องไปทำการจองคิวใหม่
และเมื่อจองวัน-เวลา ที่ต้องการแล้วก็จะมี pop-up สรุปมาให้อีกครั้ง เราก็แค่กด Confirm ค่ะ
และเมื่อเลือกวัน-เวลาเสร็จแล้ว ตรงข้อ 3 นี้จะขึ้น วัน-เวลานัดหมาย และมี Appointment Confirmation with TLScontact มาให้ค่ะ
ส่วนนี้เราก็กด Print เอกสารออกมาเตรียมไว้ได้เลย
และในเอกสาร
Appointment Confirmation นี้ก็จะมีตารางค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องจ่ายในวันยื่นวีซ่า
ซึ่งประกอบด้วย ค่าวีซ่า 2,300 บาท และค่าบริการของ TLScontact 863 บาท ค่ะ
และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เราก็จะได้รับ e-mail อีกครั้งจากทาง TLScontact หัวข้อ
Your appointment has been confirmed ค่ะ
[CR] เที่ยวรัวรัว : วิธีการขอเชงเก้นวีซ่าประเทศ Switzerland 2018
คราวนี้มารีวิววิธีการขอวีซ่า Schengen ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กันค่ะ
ข้อมูลทั้งหมดนี้อัพเดตเดือน ม.ค. 2561 นะคะ
“พี่หยอด” กรอกแบบฟอร์มช่วงต้นเดือนและได้คิวไปยื่นวีซ่าในช่วงปลายเดือน ม.ค. ค่ะ (เดินทาง 28 ก.พ.)
สำหรับการยื่นขอวีซ่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เราสามารถยื่นขอให้ทั้งแบบยื่นตรงกับทางสถานทูต และผ่านทางสู่ศูนย์รับยื่นวีซ่า TLScontact ประเทศไทย ซึ่งจะเสียงค่าบริการเพิ่มเติมเล็กน้อย เท่าที่เคยหาข้อมูลมาในการยื่นขอวีซ่าตรงกับทางสถานทูตนั้น อาจจะต้องรอคิวค่อนข้างนาน เพราะมีจำนวนจำกัดในการให้บริการในแต่ละวันค่ะ แต่ข้อดีก็คือเราไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม
เอาเป็นว่า แล้วแต่แต่ละคนสะดวกดีกว่า ว่าอยากยื่นผ่านช่องทางไหน
แต่สำหรับ “พี่หยอด” แล้ว ขอใช้ช่องทางผ่าน TLScontact เพราะว่าวันเดินทางค่อนข้างจะกระชั้นชิด เกรงว่าถ้ารอคิวจากสถานทูตจะกระชั้นชิดไปนิดค่ะ โดยการยื่นวีซ่าผ่าน TLScontact นี้จะมีค่าบริการสำหรับวีซ่าทุกประเภท 863 บาทต่อคนค่ะ
เอาล่ะ เรามาเริ่มกรรมวิธีกันเลยดีกว่า... จะพยายามอธิบายให้ครบทุกขั้นตอนนะคะ
อย่างแรกที่เราต้องทำก็คือ เข้าไปที่เว็บไซต์นี้ค่ะ
https://ch.tlscontact.com/th/bkk/index.php?l=en
(สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้นะคะ จะมีให้เลือกเปลี่ยนภาษาอยู่ด้านล่างซ้ายของหน้าเพจค่ะ)
นี่เป็นหน้าหลัก เมื่อเข้าไปแล้วเราต้องทำการ Register ลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานก่อน
ก็กดเข้าไปที่ Create an Account ได้เลยค่ะ จากนั้นก็มากรอกข้อมูลในการ register เล็กน้อยตามด้านล่างนี้
เมื่อกรอกรายละเอียดส่วนนี้เสร็จแล้ว จะมีหน้าต่างใหม่เด้งขึ้นมาว่า ให้เราไปเช็คอีเมล์ที่ให้ไว้ เพราะว่าเราต้องไปกด activate account จากในอีเมล์ที่ทาง TLScontact ส่งไปค่ะ โดยเราจะต้องเข้าไป activate account ภายใน 24 ชั่งโมง ถ้าเกินไปกว่านั้นต้องสมัครใหม่เลยค่ะ
อันนี้เป็นหน้าตาของ e-mail ที่ได้รับค่ะ
เราก็เพียงแค่คลิ๊กตาม link ที่เค้าให้มาก็เป็นอันเรียบร้อย และเมื่อคลิ๊กไปปุ๊ป ก็จะเด้นกลับที่หน้าเพจของ TLScontact และมีข้อความแจ้งว่าเราได้ activate account เรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปเราสามารถ log in เพื่อเข้าไปกรอกวีซ่ากันได้แล้ว
(ใช้ e-mail address และ password ที่เรากรอกไว้ตอนสมัครตอนแรกค่ะ)
และนี้คือหน้าตาของหน้า Log in ค่ะ
และเมื่อเรา Log in กันเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะเจอกับหน้านี้ค่ะ
เป็นเหมือนหน้า Home สำหรับการกรอกรายละเอียดต่างๆของเรา จะมีรายละเอียดต่างๆที่เราควรจะรู้
เช่น Reference Number หมายเลขการยื่นขอวีซ่าของเรา เป็นต้น
สำหรับการยื่นขอวีซ่า นี้จะมีอยู่ 9 ขั้นตอนด้วยกัน
ซึ่งในหน้านี้ก็จะมีรายละเอียดบอกทั้งหมด ข้อ 1-9 เลยค่ะ แต่หลักๆสำหรับเราคือ ข้อ 1-3 นั้นคือ กรอก นัดหมาย ปริ้น และยื่นค่ะ
โดยด้านขวาบน จะมีจุดสีเขียว เหลือง แดง และเทา เป็นสัญลักษณ์ในการบ่งบองสถานะของแต่ละขั้นตอนที่เราดำเนินการว่าเรียบร้อยแล้วหรือยัง
(กรอบสี่เหลี่ยมรอบๆ แต่ละขั้นตอนก็จะเป็นสีเดียวกับจุดเหล่านี้นะคะ)
เขียว – เสร็จเรียบร้อย
เหลือง – อยู่ระหว่างดำเนินการ
แดง - อาจะมีความผิดพลาด (ควรเข้าไปตรวจสอบความถูกต้อง)
เทา – ยังไม่เสร็จเรียบร้อย
สำหรับการกรอก Application Form นี้ เราสามารถกรอกได้ล่วงหน้าก่อนวันเดินทางไม่เกิน 90 วัน และควรกรอกอย่างน้อย 20 วันทำการก่อนวันเดินทาง
เมื่อพร้อมแล้วก็มากรอกเอกสารกันเลย คลิ๊กที่ Create an Applicant ในข้อ 1 ค่ะ
สำหรับ Purpose of Travel ถ้าเป็นสำหรับการไปท่องเที่ยวทั่วไปให้เลือกเป็น “Short Stay Tourist Visit” จากนั้นก็กรอกข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลพื้นฐานอื่นๆเกี่ยวกับตัวเราค่ะ เช่น อาชีพ ที่ทำงาน ที่อยู่
และจะมีในส่วนของการกรอกรายละเอียดการเดินทางของเราด้วยค่ะ
ใม่ว่าจะเป็นวันที่จะอยู่ในประเทศ จำนวนวันที่จะอยู่ และต้องใส่ที่อยู่โรงแรมหรือที่พักที่เราจะไปพักด้วย
(ใส่เฉพาะช่องที่มี * ก็ได้นะคะ บางข้อก็ไม่มีข้อมูลเหมือนกัน อย่างเช่นถ้าเราไปเที่ยวเอง พักโรงแรม ก็จะไม่ต้องกรอกช่อง Host Given Name / Host Surname)
นอกจากนี้ก็จะมีการกรอกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่างๆ ว่าใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้
ซึ่งโดยปกติก็น่าจะตอบว่า By the applicant ก็คือออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และบอกวิธีการในการใช้จ่ายด้วยว่าใช้เป็น เงินสด Cash หรือวิธีอื่นๆ (แล้วแต่สะดวกค่ะ)
และอีกส่วน ก็จะเป็นการสอบถามประวัติการเข้าประเทศในโซน Schengen ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศล่าสุดที่เราได้เดินทางไป และถามว่าเรามีญาติหรือครอบครัวที่ถือสัญชาติยุโรปหรือไม่
และสุดท้าย ท้ายสุดสำหรับการกรอก application ก็คือ เราต้องการให้ส่ง passport กลับมาให้เราทางไปรษณีย์หลังจากมีการพิจารณาวีซ่าเสร็จแล้วหรือไม่... ซึ่งตัวเราเองเลือกที่จะให้ส่งกลับมาที่บ้านเลยค่ะ เพราะเกรงว่าจะไม่มีเวลาไปรับเล่มด้วยตัวเอง ในส่วนนี้เราก็กรอกที่อยู่ที่ต้องการให้ส่งเล่มมาได้เลย โดยจะเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มเติมอีกคนละ 180 บาท
เมื่อกรอกเอกสารครบทุกส่วนแล้ว ตรวจทานให้ครบอีกรอบนะคะ ถ้าชัวร์แล้วก็กด Done ได้เลย
โดยระหว่างที่เรากรอกเอกสารนี้ เราสามารถ Save Draft ไว้ได้เรื่อยๆ นะคะ แล้วกลับมากรอกต่อไปในภายหลัง
เมื่อคลิ๊ก Done แล้ว ก็จะเด้งกลับมาที่หน้า Home ค่ะ หน้าตาแบบนี้ มีจุดสีเขียวก็แสดงว่า กรอกครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว และจะมีส่วนที่เราจะต้อง print แบบฟอร์มนี้ออกมาก็คือ Download filled Schengen Application Form เราก็คลิ๊กที่ Download Schengen Form ได้เลยค่ะ
และสำหรับคนที่เดินทางพร้อมกับครอบครัวหลายคน เราสามารถกรอก application form พร้อมกันได้เลยใน account เดียว
เพียงแค่คลิ๊กที่ Duplicate ที่ใต้ application ของเราก็จะมี pop-up ขึ้นมาให้เราเลือกติ๊กว่า จะมีส่วนไหนที่อยากใช้ข้อมูลเหมือนกับของเราบ้าง
อันนี้คือดีงามเพราะเราจะได้ไม่ต้องมาพิมพ์ซ้ำๆ หลายรอบ จะเหลือให้พิมพ์ก็เพียงแต่ข้อมูลส่วนตัวที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกันก็แค่นั้นค่ะ
และเมื่อกรอกครบแล้วสำหรับสมาชิกในครอบครัว ก็จะกลับมาที่หน้า Home และมี list รายชื่อ applicants เพิ่มเติมมาเหมือนในรูปนี้
ทันนี้เราก็สามารถ Download Schengen Form ของทุกคนออกมาได้เลยค่ะ
อันนี้เป็นหน้าตาของ Application Form ที่ download และ print ออกมาค่ะ (ตัวอย่างแค่ส่วนหัวนะ)
ขั้นตอนต่อไปก็คือ ข้อ 2 Validation นั่นเอง
โดยเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการเปลี่ยนใดๆในเอกสารและผู้ร่วมเดินทางแล้วนะคะ จากนั้นคลิ๊กที่ Confirm
เมื่อคลิ๊ก Confirm เรียบร้อยแล้ว จากกรอบสี่เหลี่ยมสีส้ม ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว คือเรียบร้อยแล้ว
และเราจะสามารถคลิ๊กที่ See your document list เพื่อดูเอกสารที่เราจำเป็นต้องใช้ในการยื่นวีซ่า
จากนั้นก็ขยับมาที่ ข้อ 3 Deposit your application at the TLScontact center หรือการจองวันที่เราจะนัดหมายไปยื่นเอกสารขอวีซ่าค่ะ
ก็จะมีตารางวันที่ และ เวลา ให้เราเลือกค่ะ เวลาสีฟ้าคือที่ยังว่างอยู่ ก็เลือกกันตามสบาย
แต่ทาง TLScontact แนะนำให้มาก่อนเวลานิดนึงนะคะ เพราะถ้ามาช้ากว่าเวลาที่จองไว้ จะถือว่าสละสิทธิ์ทันที และต้องไปทำการจองคิวใหม่
และเมื่อจองวัน-เวลา ที่ต้องการแล้วก็จะมี pop-up สรุปมาให้อีกครั้ง เราก็แค่กด Confirm ค่ะ
และเมื่อเลือกวัน-เวลาเสร็จแล้ว ตรงข้อ 3 นี้จะขึ้น วัน-เวลานัดหมาย และมี Appointment Confirmation with TLScontact มาให้ค่ะ
ส่วนนี้เราก็กด Print เอกสารออกมาเตรียมไว้ได้เลย
และในเอกสาร Appointment Confirmation นี้ก็จะมีตารางค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องจ่ายในวันยื่นวีซ่า
ซึ่งประกอบด้วย ค่าวีซ่า 2,300 บาท และค่าบริการของ TLScontact 863 บาท ค่ะ
และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เราก็จะได้รับ e-mail อีกครั้งจากทาง TLScontact หัวข้อ Your appointment has been confirmed ค่ะ