สุขสันต์วันชาติอินเดีย
ชาวห้องเพลงทุกคน ขออวยพรให้ประชาชนคนอินเดียทุกหมู่เหล่า ทุกเพศทุกวัย
ทั้งในประเทศอินเดีย และนอกประเทศ มีความสุขสวัสดีทุกคนด้วยครับ (ค่ะ)
แม้ว่าอินเดีย
ได้รับอิสรภาพในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ 1947 (ซึ่งวันนั้นถือเป็นวันประกาศเอกราชของอินเดีย)
แต่ก็ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรของตนเองใช้ รัฐบาลในขณะนั้นจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้น
และได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่
26 มกราคม 1950
อินเดียจึงได้ถือเอาวันนั้นเป็น
วันชาติ (Republic Day of India) ที่อินเดียได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอย่างสมบูรณ์
สานฝันของ
มหาตมะ คานธี และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ให้กลายเป็นความจริงในที่สุด
บทความส่วนนี้ ย่อความมาจาก เพจ Learning Pune
วันชาติอินเดีย ประชาชนคนพันกว่าล้านคนถือว่าเป็นวันสำคัญที่สุด และในการเฉลิมฉลองของทุกๆปี
อินเดียเลือกเชิญผู้นำที่สำคัญของโลกในปีนั้นๆ มาเป็น
“แขกเกียรติยศ” เพียง 1 คนเท่านั้น
และในวันที่
26 มกราคม 2555 แขกเกียรติยศที่อินเดียเชิญได้แก่
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๘ ของไทย
และในปีนี้ประเทศอินเดียได้เชิญ นายกรัฐมนตรี
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ให้ไปเป็นเกียรติในฐานะ
แขกเกียรติยศ อีกครั้ง
ซึ่งระหว่างที่เขียนบทความ ท่านนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะก็ได้เดินทางไปที่กรุง
นิวเดลฮี เรียบร้อยแล้ว
อินเดีย เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก จีน
มีการทำนายว่า
อินเดีย จะเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่คู่กับ จีน ในอนาคต
อินเดีย เจริญอย่างรวดเร็ว รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เทคโนโลยี่ และ การศึกษา ถ้าถามว่า ถ้าคนไทยรุ่นใหม่ที่ไม่ติดค่านิยมเก่าๆ
ที่ต้องไปเรียนที่ อเมริกา อังกฤษ หรือประเทศที่มีค่าครองชีพสูงแล้ว
อินเดีย เป็นประเทศที่น่าไปศึกษาต่อมากที่สุด
และเมืองที่อยากจะแนะนำก็คือ เมือง
บังคาลอร์ Bengaluru ที่ได้สมญาว่า
ซิลิคอน วัลเลย์ ของอินเดีย Sillicon Valley of India
บังคาลอร์ หรือ บังกาลอร์ เป็นเมืองใหญ่ 1 ใน 5 ของอินเดีย เป็นเมืองที่
สะอาดและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
อากาศที่นั่น สบายๆตลอดปี ค่าครองชีพก็ถูกมาก เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆในโลก
บังกาลอร์ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มี
จุดเด่นในด้านการศึกษา โดยเฉพาะ
สาขาวิชาด้านเทคโนโลยี
เพราะ“บังกาลอร์” เป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยี และได้รับการขนานนามว่าเป็น
เมืองหลวงทางด้าน I.T
และได้สมญาว่า
“ซิลิคอน วัลเล่ย์ แห่งอินเดีย” (Silicon Valley)
สถาบันการศึกษาในเมืองนี้จึงมีหลายที่ ที่ดังๆ เช่น
Indian Institute of Technology Bangalore (IITs) ที่ถือเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำในด้านเทคโนโลยี
ภาพอินเดียในอดีตที่อยู่ในจินตนาการคนไทยก็คือ
สกปรก ล้าหลัง
แต่ในยุคปัจจุบัน อินเดีย ยุคใหม่ หลุดจากภาพต่างๆในอดีตแทบหมดแล้ว
เหลือแต่ยุคใหม่ของ อินเดีย ที่มีความเจริญแบบก้าวกระโดดขึ้นมาทันมหาอำนาจต่างๆในปัจจุบัน
คนไทยยุคนี้ จึงควรหันมาให้ความสนใจกับ อินเดีย ให้มากขึ้น
ป.ล อินเดีย เป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น ภาษา ประเพณี ศาสนา ฯลฯ
สมควรแก่การไปศึกษา และ เรียนรู้
ป.ล 2 นอกจาก บังกาลอร์ แล้ว คนไทยนิยมไปศึกษาต่อที่เมือง
ปูนี Pune
ใครสนใจลองคลิกเวปไซค์ด้านล่างดู
https://learningpune.org/
ป.ล 3 วรรณกรรมอินเดียที่คนไทยคุ้นเคยคือ
รามเกียรติ์ และ มหาภารตะ
ป.ล 4 ใครสนใจนำเข้าสินค้าประเภทเหล็ก แนะนำเมือง
Ludhiana และเมือง Jalandhar
cnck
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง 26/1/2018 สุขสันต์วันชาติอินเดีย...แขกเกียรติยศ....ซิลิคอน วัลเล่ย์ cnck
สุขสันต์วันชาติอินเดีย
ชาวห้องเพลงทุกคน ขออวยพรให้ประชาชนคนอินเดียทุกหมู่เหล่า ทุกเพศทุกวัย
ทั้งในประเทศอินเดีย และนอกประเทศ มีความสุขสวัสดีทุกคนด้วยครับ (ค่ะ)
แม้ว่าอินเดียได้รับอิสรภาพในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ 1947 (ซึ่งวันนั้นถือเป็นวันประกาศเอกราชของอินเดีย)
แต่ก็ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรของตนเองใช้ รัฐบาลในขณะนั้นจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญขึ้น
และได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ 26 มกราคม 1950
อินเดียจึงได้ถือเอาวันนั้นเป็นวันชาติ (Republic Day of India) ที่อินเดียได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอย่างสมบูรณ์
สานฝันของ มหาตมะ คานธี และนักต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย ให้กลายเป็นความจริงในที่สุด
บทความส่วนนี้ ย่อความมาจาก เพจ Learning Pune
วันชาติอินเดีย ประชาชนคนพันกว่าล้านคนถือว่าเป็นวันสำคัญที่สุด และในการเฉลิมฉลองของทุกๆปี
อินเดียเลือกเชิญผู้นำที่สำคัญของโลกในปีนั้นๆ มาเป็น “แขกเกียรติยศ” เพียง 1 คนเท่านั้น
และในวันที่ 26 มกราคม 2555 แขกเกียรติยศที่อินเดียเชิญได้แก่
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๘ ของไทย
และในปีนี้ประเทศอินเดียได้เชิญ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ให้ไปเป็นเกียรติในฐานะ แขกเกียรติยศ อีกครั้ง
ซึ่งระหว่างที่เขียนบทความ ท่านนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะก็ได้เดินทางไปที่กรุง นิวเดลฮี เรียบร้อยแล้ว
อินเดีย เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก จีน
มีการทำนายว่า อินเดีย จะเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่คู่กับ จีน ในอนาคต
อินเดีย เจริญอย่างรวดเร็ว รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เทคโนโลยี่ และ การศึกษา ถ้าถามว่า ถ้าคนไทยรุ่นใหม่ที่ไม่ติดค่านิยมเก่าๆ
ที่ต้องไปเรียนที่ อเมริกา อังกฤษ หรือประเทศที่มีค่าครองชีพสูงแล้ว อินเดีย เป็นประเทศที่น่าไปศึกษาต่อมากที่สุด
และเมืองที่อยากจะแนะนำก็คือ เมือง บังคาลอร์ Bengaluru ที่ได้สมญาว่า
ซิลิคอน วัลเลย์ ของอินเดีย Sillicon Valley of India
บังคาลอร์ หรือ บังกาลอร์ เป็นเมืองใหญ่ 1 ใน 5 ของอินเดีย เป็นเมืองที่สะอาดและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
อากาศที่นั่น สบายๆตลอดปี ค่าครองชีพก็ถูกมาก เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆในโลก
บังกาลอร์ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีจุดเด่นในด้านการศึกษา โดยเฉพาะสาขาวิชาด้านเทคโนโลยี
เพราะ“บังกาลอร์” เป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยี และได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองหลวงทางด้าน I.T
และได้สมญาว่า“ซิลิคอน วัลเล่ย์ แห่งอินเดีย” (Silicon Valley)
สถาบันการศึกษาในเมืองนี้จึงมีหลายที่ ที่ดังๆ เช่น
Indian Institute of Technology Bangalore (IITs) ที่ถือเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำในด้านเทคโนโลยี
ภาพอินเดียในอดีตที่อยู่ในจินตนาการคนไทยก็คือ สกปรก ล้าหลัง
แต่ในยุคปัจจุบัน อินเดีย ยุคใหม่ หลุดจากภาพต่างๆในอดีตแทบหมดแล้ว
เหลือแต่ยุคใหม่ของ อินเดีย ที่มีความเจริญแบบก้าวกระโดดขึ้นมาทันมหาอำนาจต่างๆในปัจจุบัน
คนไทยยุคนี้ จึงควรหันมาให้ความสนใจกับ อินเดีย ให้มากขึ้น
ป.ล อินเดีย เป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น ภาษา ประเพณี ศาสนา ฯลฯ
สมควรแก่การไปศึกษา และ เรียนรู้
ป.ล 2 นอกจาก บังกาลอร์ แล้ว คนไทยนิยมไปศึกษาต่อที่เมือง ปูนี Pune
ใครสนใจลองคลิกเวปไซค์ด้านล่างดู
https://learningpune.org/
ป.ล 3 วรรณกรรมอินเดียที่คนไทยคุ้นเคยคือ รามเกียรติ์ และ มหาภารตะ
ป.ล 4 ใครสนใจนำเข้าสินค้าประเภทเหล็ก แนะนำเมือง Ludhiana และเมือง Jalandhar
cnck