รบกวนขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการค้ำประกันรถยนต์ครับ โดยเป็นเรื่องของคุณพ่อของผมเมื่อวานนี้มีพนักงานบริษัทติดตามหนี้โทรมาติดตามหนี้ค้ำประกันรถยนต์น้องสาวของคุณพ่อครับ
คุณพ่อของผมและน้องสาวของคุณทั้งคู่เป็นราชการครูเกษียณครับ โดยคุณพ่อของผมเกษีนณมาได้ 5 ปีแล้วครับ
ซึ่งกรณีการค้ำประกันดังกล่าวเกิดขึ้นตอนปี 54 น้องสาวของคุณพ่อผมถูกฟ้องร้องเรื่องรถยนต์โดยธนาคารเกียรตินาคินที่ไม่ส่งค่างวดและมีการไกล่เกลี่ยกันที่ศาลพัทยาครับ โดยน้องสาวของคุณพ่อขอร้องให้คุณพ่อช่วยค้ำประกันในการไกล่เกลี่ยหนี้ครั้งนี้ให้ครับ
คุณพ่อเห็นว่าเป็นน้องสาวเลยยอมเซ็นค้ำประกันให้ หลังจากนั้นคุณพ่อผมก็ได้ติดตามกับน้องสาวว่าได้มีการเคลียร์หนี้แล้วหรือไม่ ทางน้องสาวแจ้งว่าเคลียร์เรียบร้อยแล้วเลยไม่ได้ติดตามต่อครับ หลังจากนั้นก็ติดต่อน้องสาวของคุณพ่อไม่ได้อีกเลยครับ
จนถึงเมื่อวานมีเจ้าหน้าที่บริษัทติดตามหนี้โทรมาแจ้งว่าน้องสาวของคุณพ่อตั้งแต่ที่ไกล่เกลี่ยไว้ไม่เคยได้ส่งเงินให้ทางนั้นเลยครับ ซึ่งตั้งแต่ปี 54 ทางคุณพ่อซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันไม่เคยได้รับหนังสือหรือโทรศัพท์แจ้งจากทางธนาคารว่าน้องสาวคุณพ่อขาดส่งเงินเลยสักครั้งครับ
คุณพ่อผมพยายามติดต่อกับทางน้องสาวไม่สามารถติดต่อได้ ในส่วนของรถที่ทำเรื่องไกล้เกลี่ยไว้นั้น ลองสอบถามไปที่ลูกชายและลูกสาวของน้องคุณพ่อก็ไม่ทราบว่ารถอยู่ที่ไหน เนื่องจากน้องสาวคุณพ่อออกจากบ้านไปเนื่องจากมีเรื่องทะเลาะกับลูกๆ ทั้ง 3 คนได้สักพักแล้วครับ
ผมขออนุญาตสอบถามดังนี้ครับ
1. ไม่ทราบว่ากรณีนี้ผมควรแนะนำให้คุณพ่อของผมดำเนินการอย่างไรบ้างครับ?
2. ลูกชายและลูกสาวทั้ง 3 คนของน้องสาวคุณพ่อ สามารถเป็นผู้รับชำหนี้ดังกล่าวแทนได้หรือไม่ครับ? หากจะให้ทั้ง 3 เป็นผู้รับชำระหนี้แทนหรือบางส่วนได้ต้องดำเนินการอย่างไรบ้างครับ?
3. กรณีนี้หากโดนฟ้องศาลควรจบที่ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยหรือสู้กันในชั้นศาลแบบไหนจะทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ค้ำประกันได้น้อยกว่ากันครับ
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำมากๆ นะครับ (^/\^)
รบกวนขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการค้ำประกันรถยนต์ครับ
คุณพ่อของผมและน้องสาวของคุณทั้งคู่เป็นราชการครูเกษียณครับ โดยคุณพ่อของผมเกษีนณมาได้ 5 ปีแล้วครับ
ซึ่งกรณีการค้ำประกันดังกล่าวเกิดขึ้นตอนปี 54 น้องสาวของคุณพ่อผมถูกฟ้องร้องเรื่องรถยนต์โดยธนาคารเกียรตินาคินที่ไม่ส่งค่างวดและมีการไกล่เกลี่ยกันที่ศาลพัทยาครับ โดยน้องสาวของคุณพ่อขอร้องให้คุณพ่อช่วยค้ำประกันในการไกล่เกลี่ยหนี้ครั้งนี้ให้ครับ
คุณพ่อเห็นว่าเป็นน้องสาวเลยยอมเซ็นค้ำประกันให้ หลังจากนั้นคุณพ่อผมก็ได้ติดตามกับน้องสาวว่าได้มีการเคลียร์หนี้แล้วหรือไม่ ทางน้องสาวแจ้งว่าเคลียร์เรียบร้อยแล้วเลยไม่ได้ติดตามต่อครับ หลังจากนั้นก็ติดต่อน้องสาวของคุณพ่อไม่ได้อีกเลยครับ
จนถึงเมื่อวานมีเจ้าหน้าที่บริษัทติดตามหนี้โทรมาแจ้งว่าน้องสาวของคุณพ่อตั้งแต่ที่ไกล่เกลี่ยไว้ไม่เคยได้ส่งเงินให้ทางนั้นเลยครับ ซึ่งตั้งแต่ปี 54 ทางคุณพ่อซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันไม่เคยได้รับหนังสือหรือโทรศัพท์แจ้งจากทางธนาคารว่าน้องสาวคุณพ่อขาดส่งเงินเลยสักครั้งครับ
คุณพ่อผมพยายามติดต่อกับทางน้องสาวไม่สามารถติดต่อได้ ในส่วนของรถที่ทำเรื่องไกล้เกลี่ยไว้นั้น ลองสอบถามไปที่ลูกชายและลูกสาวของน้องคุณพ่อก็ไม่ทราบว่ารถอยู่ที่ไหน เนื่องจากน้องสาวคุณพ่อออกจากบ้านไปเนื่องจากมีเรื่องทะเลาะกับลูกๆ ทั้ง 3 คนได้สักพักแล้วครับ
ผมขออนุญาตสอบถามดังนี้ครับ
1. ไม่ทราบว่ากรณีนี้ผมควรแนะนำให้คุณพ่อของผมดำเนินการอย่างไรบ้างครับ?
2. ลูกชายและลูกสาวทั้ง 3 คนของน้องสาวคุณพ่อ สามารถเป็นผู้รับชำหนี้ดังกล่าวแทนได้หรือไม่ครับ? หากจะให้ทั้ง 3 เป็นผู้รับชำระหนี้แทนหรือบางส่วนได้ต้องดำเนินการอย่างไรบ้างครับ?
3. กรณีนี้หากโดนฟ้องศาลควรจบที่ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยหรือสู้กันในชั้นศาลแบบไหนจะทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ค้ำประกันได้น้อยกว่ากันครับ
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำมากๆ นะครับ (^/\^)