[CR] รีวิว: ฝึกงานต่างประเทศได้อะไรกลับมาเยอะ!! เยอะกว่าที่ตัว จขกท. คิดนะเฮ่ยยย

หลังจากหายไปนาน หลังจากกระทู้พาเที่ยวนอร์เวย์....(มันนานมากค่ะ...ตอนนี้น่าจะบูดแล้ว 5555)
ตอนนี้ จขกท. ก็เรียนจบแล้ว รอดพ้นค่ะ....ก็อยากจะมารีวิวช่วงเวลาหลังเรียนจบให้น้องๆที่กำลังค้นหาต้วเองเนอะ....

ช่วงระหว่างเรียนมหาลัย หรือหลังเรียนจบ ทุกๆคนคงอยากที่จะใช้เวลาค้นหาตัวเอง
หาอะไรทำเพื่อที่จะค้นหาและรู้จักตัวเองมากขึ้นเนอะ....ตัวเราเองก็เป็นหนี่งในนั้น
เราอยากที่จะลองใช้สิ่งที่เรียนมา ใช้ประสบการณ์จากมหาลัย อยากลองดูว่าเราจะไปได้ซักแค่ไหน
มันก็เลยทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆนี้เกิดขึ้น

หลังเรียนจบเราก็เลยตัดสินใจสมัครฝึกงานไปกับ World Youth Alliance องค์กรที่สนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชนที่เราแสนจะอิน
และอีกอย่างเค้าก็เป็นองค์กรที่เน้นเยาวชนเป็นหลักด้วย....

https://www.wya.net/ < นี่เว็บเค้าเผื่ออ่านรอเน้อ

ถ้าถามว่ารู้จักองค์กรนี้ได้ยังไง...ก็ต้องย้ายไปโน่นตอนปีสอง สมัยเอ๊าะๆ มหาลัยส่งพวกเรานักศึกษาไปฟิลิปปินส์ ไปร่วมงานประชุมขององค์กรนี้ ทำให้เราได้รู้จักที่นี่ตั้งแต่นั้นมา ต่อมาก่อนจะจบทางมหาลัยก็ได้ส่งเราไปเก็บตกกับองค์กรนี้อีกรอบเพื่อ training program และด้วยการที่มันเข้มข้นมาก อยู่ดีดีก็เอาตัวเองไปวุ่นอยู่กับหนังสือหนาๆ เล่มหนึงที่รวมเรื่องปรัชญาสิทธิมนุษยชนไว้ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อสอบให้ผ่าน ตอนนั้นรู้แค่ว่าต้องสอบให้ผ่าน เพราะกลัวมหาลัยจะเสียชื่อ 5555 เลยต้องสู้ สุดท้ายผ่านมาได้ พร้อมกับสิทธ์การเลือกไปฝึกงานที่ office ที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ ซึ่งตอนนั้นก็ตื่นเต้นนะ แต่ขอเก็บสิทธิ์นั้นไว้ก่อน….

จนใกล้จบ ตอนเทอมสุดท้าย เริ่มคิดว่าเราจะเริ่มชีวิตหลังเรียนจบตรงไหนดี...นึกยังไงก็ยังนึกไม่ออก แต่รู้ว่าอยากจะทำอะไรซักอย่างที่เกี่ยวกับที่เรียนมา สิทธิมนุษยชนก็อิน สิทธิเด็กก็อิน สันติภาพก็อิน...แล้วจะเลือกอะไรดี ตอนนั้นก็ว่าจะลองดูคณะต่อโทด้วยนะ แต่ก็ยังไม่ชัวร์และเอาจริงๆ ก็อยากพักผ่อนจากการเรียนซักพัก (ก็นะสี่ปี เรียนอย่างเดียวแทบจะไม่ได้พัก) เลยอยากทำอะไรซักอย่างก่อน…จนกระทั่ง ความคิดที่แอบอยู่ลึกๆก็ผุดขึ้นมา เอ๊ะ หรือเราควรจะไปฝึกงานดี…..ฝึกที่ไหนหล่ะ….ที่ไทย? กับที่ไหนล่ะ ไม่ค่อยจะรู้จักซะด้วย แล้วก็นึกถึงองค์กร World Youth Alliance นี่แหละ ที่ที่เราคุ้นเคยตั้งแต่สมัยเรียน เลยเข้าไปดูเว็บไซด์…..อุ๊ต๊ะะะ มีให้เลือกช่วงเวลาไปตั้ง 3 ช่วงเลยอะ…..ต้นปี กลางปี ปลายปี อยากไปตอนไหนเลือกเลยจ้าาา แค่สมัครให้ทันแค่นั้นแหละ แล้วอะไรไม่รู้ดลใจ ให้เราเลือกที่แรกคือ Kenya….เรารู้สึกว่าเป็นประเทศที่น่าค้นหา อยากจะไปรู้จัก แต่เมกาฯก็น่าสนใจ ปธน. เค้าน่ารู้จักดีนะ...แฮะๆ ก็เลย สมัครไปสองที่ กับความรู้สึกที่ว่า มันต้องได้ซักที่หน่าา...แต่ขอให้เป็น Kenya เถอะะะ ขอร้อง!

ผ่านไปประมาณสองอาทิตย์ ก็ได้การตอบรับจาก office ที่อเมริกาจ้าาา (หลังจาก interview อะไรเรียบร้อยนะ) นางรีบบบบ กลัวเราเทใจให้ Kenya หรอออ….เราก็……เอ่ออ...ยังไงดีน้าา….ชีวิตนี้คงไม่พ้นการปรึกษาเพื่อนๆ หรือปรึกษาพ่อกับแม่ แน่นอนค่ะ พ่อกับแม่เราสนับสนุนอเมริกา ฮึฮึ ทำไมน่ะหรอ...พ่อกับแม่คงกลัวลูกจะไปสุดเหวี่ยงในเคนย่ามากไป...แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นลึกๆ...ก็อยากจิไปเคนย่าง่ะ (ขอใช้ภาษาเพื่อความเข้าใจในอารมณ์) และสุดท้ายมาจบที่ความคิดเห็นจากเพื่อนองค์กรนี้นี่แหละที่เคยรู้จักกันแล้วเค้าก็เคยไปฝึกมาแล้ว เค้าก็อธิบายว่ามันต่างกันยังไงบ้าง ยูจะได้อะไรจากการไป Kenya...หรือยูจะได้อะไรจากการไป US ซึ่งสุดท้ายเป็นการตัดสินใจที่ยากมากๆครั้งนีงในชีวิตเลยนะ แต่ในเมื่อ US ต้องการชั้นก่อน ชั้นก็ขอไปกับเค้าค่ะ! อือ เป็นคนใจง่าย…..

อะ...ก่อนที่จะไปกัน มารู้กติกา...ก็ไม่เชิง ประมาณว่าทางองค์กรก็จะมี requirement ให้นิดส์นิง
1. เป็น member ขององค์กรนี้ (ตามไป website ค่ะ ไม่เสียตัง)
2. ทำกิจกรรมของเขาด้วย (Forum, conference, training เทือกๆนี้)
3. ผ่าน Track-A Training ปรกติก็จะมีทำ online หรือใครจะไป summer camp แบบเราก็ได้ (ตามไปดูที่ website เช่นกันค่ะ)
คร่าวๆ ก็ประมาณนี้อะเนอะ


โอเคค่ะ ต่อ สรุปกระทู้นี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักอเมริกาาาาา….นี่ก็เว่อร์...เอาแค่นิวยอร์กพออ เพราะ office อยู่ที่ Manhattan New York CITYYYY yea yeaa….  น ะ ค ะ ตอนนั้น บอกกับตัวเอง นี่คิดไรอยู่...เมกาฯนี่ไม่ได้คิดจะไปช่วงนี้เลยนะ แต่ตั้งใจจะหาประสบการณ์แล้วก็ต้องเต็มที่! และหนู!!! ด้วยเกียรติแห่งลูกผู้หญิง ตั้งใจทำงาน และใช้ประสบการณ์อันมีค่าครั้งนี้ให้เต็มที่ ที่ ที่!!! ไปค่ะ ลุยยย!!!
.
.
.
ปิ้ววววววว แป๊ปเดียวถึงเวลาเดินทางแล้ววว หลังเรียนจบ 1 เดือนจ้าา รอเกรดออกทั้งหมด กลัวไม่รอด 5555 นั่งเครื่อง Eva Air พอดีมีพี่รู้จักเค้าช่วยดูให้ จองตั๋วแบบกระชั้นชิดมาก หาเองคงแพงกว่านี้ อ้อ! เรื่องประกันการเดินทาง…..ทำไปเถอะนะ ยิ่งไปตอนอากาศเย็นๆ หิมะตก เป็นหวัดอย่างน้อยก็ไปหาหมอได้แบบสบายกระเป๋า ที่สำคัญ หมอที่เมกา ราคาหนักมาากค่ะ เห็นแล้วนี่แทบจะหายป่วยไปเลย
.
.
.

การเดินทางก็ต่อเครื่องที่ไต้หวัน นั่งอีก 10 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง JFK ค่ะ จอง Van เข้าเมืองไว้ (25$) ซึ่งเค้าจะไปส่งเราถึงบ้านเลย กรอกที่อยู่ในเว็บไปก่อน อีกเหตุผลนึงคือเพราะว่ามันกลางคืนแล้วเราเลยจะไม่เสี่ยงค่ะ ขอแบบไม่ต้องลุยมาก กระเป๋าสองใบใหญ่ๆ ลากขึ้นลงรถไฟนี่แย่แน่ๆ
.
.
ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ขอเพลงบิ้วหน่อย https://www.youtube.com/watch?v=LCINmOZGV6Q

ตอนนั้นมืดมากก แอบรู้สึกว่านี่ฉันอยู่นิวยอร์กจริงๆ ใช่มั้ย….ก็นะ airport มันไกลนิดหนีง พอเข้าเมือง ตอนนั้นไม่คิดอะไรมากก็ฟิวกรุงเทพฯ เลยค่ะ
รถติดมาก คนเยอะ ไฟห้างเต็มไปหมด ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของ Manhattan แล้ว...มันจะเที่ยงคืนแล้ว
เริ่มจะอยากโดดลงไปที่เตียงแล้วหลับไปเลย….

อ้าววว!!! แล้วเทอไม่ Jet lag หรอ….ไม่ค่ะ เป็นคนไม่มีปัญหาเรื่องนี้ มืดเมื่อไหร่ก็นอนได้ 5555
นั่งๆ หลับๆ รถนี่ก็บิ้วมากก เป็นเพลง Empire State of Mind นี่แหละ….New York New York ต้อนรับสุดๆ...อินี่ก็งัวๆเงียๆ อยากจะอินไปกับเพลงแต่...ไว้ก่อนนะ พี่มีเวลาอินอีก 4 เดือน….
.
.
.
.
หลังจากนั่งอยู่ในรถแบบงัวเงียๆ คนขับรถก็จอดค่ะ…ท่ามกลางถนนที่เงียบ แล้วก็พูดบ้านเลขที่...
เอ้าาบ้านชั้นนน คนแรกเล้ยยยย เย่! อะ ทุลักทุเลลงจากรถค่ะ เฮียคนขับน่ารักมากช่วยยึกกระเป๋าลงมาจนถึงหน้าประตู
พอขอบคุณ แท้งกิ้วอะไรกันเสร็จก็กดออดที่หน้าบ้านค่ะ
……...กด…….เงียบ……
…...อะ กด……...เงียบอีก…..
ตายแร้ววว เขารู้มั้ยว่ามีชั้นยืนหนาวอยู่หน้าบ้านนนน T.T
ซักพัก...มีคนลงมาทิ้งขยะ….โชคดีไม่นาน 7 นาที อะ….
นางบอก อ้าาาาววววววว มานานยังจ๊ะ ออดที่บ้านมันเสียย.…
เอ้าเจ๊.....ทำไมมมม แล้วถ้าเจ๊ไม่ลงมานิ๊หนูต้องนอนหน้าบ้านมั้ยคะะะะ (คือโง่เอง ไม่ได้ซื้อซิมไง)
อะไม่เป็นไร ให้อภัย! ดีใจแค่ไหนแล้วที่มีคนมาเปิดประตูให้….

เข้าบ้านปุ๊ปสิ่งแรกไม่ใช่ถอดรองเท้าค่ะ มันคือเสื้อหนาว….ต้องแขวนไว้

แล้วเราก็ขึ้นลิฟท์ตามเขาไป อย่าง still งงๆ….
ติ๊งงง ชั้น 3 เดินออกไป….เหยยยย นี่มันบ้านชัดๆ ความรู้สึกแบบ ชั้นถึงบ้านแล้ว ฮือ
มีเพื่อนสองคนนั่งอยู่ที่โซฟา ท่าทางกำลังเม้ากันอยู่ เราก็เด็กใหม่ไง ไปทักทายนางๆหน่อย...ฮาาาย
อะ พอสมน้ำสมเนื้อ ชั้นเหนื่อย ไว้มาเม้าด้วยนะะะ

เจ๊ก็นำไปที่ห้องค่ะ เป็นห้องนอนเล็กๆ กระทัดรัด style New York City มี roommate คนนึง
ซึ่งเคยส่งข้อความทักทายกันใน instagram บ้างแล้ว นางเป็นน้องสาวของเพื่อนที่ไปเจอกันที่ฟิลิปปินส์
เลยสนิทกันง่ายหน่อย สบาย หมดปัญหาเรื่อง roommate เย่

ทำการรื้อของ ยัดเข้าตู้เสื้อผ้าที่แบ่งกันคนละฝั่ง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว...เพราะอยากนอนมากมากแล้ว….
ไปเลือกห้องน้ำที่อยากฝังตัวอยู่ มีห้องน้ำ 2 ห้อง โชคดีที่รอบนั้น interns ที่ไปผู้หญิงหมดเลยจ้าา เลยไม่ต้องคิดมากเรื่องห้องน้ำ
อยากได้อันไหน สะดวกอันไหนก็ไปอันนั้นเลอออ อะเค ได้เวลานอน….แต่
ไม่ได้กระโจนอยากที่วาดฝันไว้….เพราะ...โดนนอนชั้นบนค่าาา เตียงสองชั้น ปีนก็ยาก แต่เดี๋ยวมันก็จะชินค่ะ 5555 หลังๆ หลับตาปีนได้เลย



เดี๋ยวมาต่อนะ
ชื่อสินค้า:   ฝึกงานต่างประเทศ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่