ตอบคำถาม ที่ถามมาว่า
ตามหลักการดูดวงจีน พิจารณาว่าดวงเป็นคนชอบธาตุอะไร(ธาตุให้คุณ) ด้วยวิธีไหนได้บ้างคะ
จากดวงเกิดทั้ง 8 ทั้งแปดหลัก..อย่างเช่น ดวงดิถี ไม้หยิน แต่หลักอื่นๆที่เหลือก็แตกต่างกันในแต่ละดวง
จำเป็นไหมที่ธาตุให้คุณต้องเป็นธาตุน้ำ หรือมีหลักการวิเคราะห์องค์ประกอบยังไงบ้าง

คำตอบคือ
ก่อนอื่นผมอยากเรียกร้องให้การศึกษาโหราศาสตร์จีนมีการใช้คำทับศัพท์ และอธิบายศัพท์ภาษาจีนทุกครั้ง อันจะส่งผลให้ผู้เรียนไม่เกิดการ งง ในภายหลังในหลายๆกรณี เช่นกรณีนี้ ท่านกำลังถามว่า ธาตุให้คุณ หรือ ชอบธาตุอะไร ในศัพท์โหราศาสตร์จีน เราเรียกว่า เอ่งซิ้ง(แต้จิ๋ว) หรือย่งเสิน 用神 มีอีกคำที่ควรทราบคือ ฮีเอ่งซิ้ง หรือ สี่ย่งเสิน。喜用神 มักใช้ในบริบทเดียวกัน ความหมายใกล้เคียงกัน จนคนชอบเอาไปใช้ปะปนกัน

用神 หรือที่คนไทยชอบแปลว่า ธาตุให้คุณ ถ้าเราย้อนกลับมามองที่ภาษาจีนต้นฉบับเราจะพบว่า มันแปลแบบดื้อๆเลยว่า บารมีที่มีประโยชน์ ตรงนี้เราจะไม่แปลคำว่า 神 เสิน เป็นเทวดา หรือเทพ ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันผิดๆ บารมีที่มีประโยชน์นี้ก็เลยแปลว่า คุณหาธาตุอะไรก็ได้ ที่คุณพิจารณาตามหลักการแล้วว่า จะเกิดประโยชน์กับดวงชะตานี้ ซึ่งมันควรจะเป็นธาตุที่มีอยู่ในดวงนั้นเอง ไม่ใช่ว่า พอหาธาตุให้คุณได้ วิธีเสริมมักแนะนำกันไปในทาง เสื้อผ้า สีบ้าน ทิศทางฮวงจุ้ย อัญมณี ผมมักจะถามคนทั่วไปสั้นๆว่า ร่างกายคุณถ้าอยากให้วิ่งเร็วเท่ารถยนต์ คุณเอาล้อรถมาแขวนคอมันจะช่วยให้วิ่งเร็วขึ้นไหม ฉันใดก็ฉันนั้น ดวงชะตา ก็ไม่อาจจะได้รับความดีความเจริญจากเรื่องภายนอกดวงชะตาได้ง่ายนัก คือไม่ใช่ว่าไม่ได้เลย แต่ได้น้อย เมื่อเทียบกับเรามี ธาตุให้คุณ ในดวงเราเอง เพราะฉะนั้น ธาตุให้คุณมันเลยมีสองระดับคือ ธาตุให้คุณที่ฉันอยากได้ ซึ่งอาจมีหรือไม่มีในดวงชะตาคุณ กับ ธาตุให้คุณที่ฉันมีมัน โดยเลือกจากตัวที่ดีที่สุดในดวงชะตาตนเอง หรือถ้าพูดเป็นภาษาสมัยใหม่คือ คิดบวกมองหาข้อดีของดวงตัวเอง ... การหาธาตุให้คุณเชิงอุดมคติที่ตำราบอก คุณต้องใช้ประสบการณ์ความสามารถ และทุ่มเทอ่านตำราอย่างมาก เพราะดวงจีนมีแปดตัวแต่มีความแปรผันสูง จับทิศทางเอามาวางเป็นข้อๆได้ยากนัก การศึกษาแบบจีนๆเป็นการศึกษาเอาความรู้สึกผสมกับความรู้ความจำ แล้วคิดคำตอบออกมา ต่างกับการเรียนแบบฝรั่งที่ จำ แล้วคิด ถือว่าใช้ได้ละ

ตรงนี้ขออธิบายแบบนี้คือ เช่น สูตรมันมีว่า ผักหนึ่งกิโลกรัม ต้องมีพันกรัม ถ้าฝรั่งมาขายผัก เค้าจะหาตราชั่งอย่างดีมาชั่งผักคุณให้ได้ พันกรัมเป๊ะๆ การกระทำแบบนี้ก็โดยอาศัย ความรู้ที่จำมาว่า หนึ่งกิโลกรัม หาได้จากการใช้ตราชั่งแบบนี้ เข็มหน้าปัดชี้ไปที่เท่านี้ เอามาคิดในหัว ทำการชั่ง แล้วก็แน่ใจออกมา

ส่วนถ้าเป็นคนจีน คุณจะพบตราชั่งสองแขน หรือตราชั่งแขนเดี่ยว แบบในหนังจีน ลองไปร้านขายยาที่เยาวราชก็ได้ครับ คุณจะพบว่า เค้าชั่งไวมาก และแน่นอน ไวแต่ไม่มีทาง พันกรัมเป๊ะๆหรอก มันอาจจะหย่อนไปหน่อย มากไปนิด แต่ใช้ความรู้สึกอันเกิดจากความชำนาญ ทำมานมนานว่า เอาละ เท่านี้คือ น้ำหนักมันได้ ใช้ได้ละ ศิลปะจีนทุกแขนงมันเลยใช้เวลาฝึกนานมาก คนเขียนพู่กันจีนได้ต้องฝึกหลายปี คนจะเป็นวิชากังฟูต้องร่ำเรียนฝึกอย่างหนัก ก็เพราะความชำนาญเท่านั้นที่มันจะทำให้เกิดความรู้สึก ความรู้สึกที่มันมั่นใจว่า ใช่แล้วหละ เท่านี้คือใช่

วิชาดวงจีนเลยทำทุกอย่างเป็นคู่ๆให้คุณดูเสมือนว่ามันควรสมดุลย์ และมันควรเป๊ะๆ ก็มีสี่แถว สี่เสา แปดช่อง มันเป็นคู่ๆหมดเลย แต่พอมาคำนวนดวงลงไปจริงๆจะพบว่า ไม่เคยมีสักดวงที่มันจะสมมาตรกันแบบแบ่งครึ่งได้เพราะตัวหารมันคือ ห้า จากห้าธาตุ และมีธาตุแฝงอีกที่คอยทำตัวเป็นเลขคี่ซ้ำย้ำลงไปอีก ไม่ให้เกิดความเป๊ะๆได้ว่า สูตรนี้ มองดวงนี้ ต้องธาตุนี้ชัวร์

แล้วถ้าถามว่า มีตำราอะไรบ้างไหม ที่จะสอนเรื่องนี้ มีครับ ภาษาจีนชื่อตำรา ฉงทงเป่าเจี้ยน 窮通寶鑑 ส่วนภาษาไทยคือ ทั้งหมดที่เป็นสีๆ ห้าสีครบชุดของ อาจารย์ชัยเมษฏ์ เชี่ยวเวช ... ลองนึกเอานะ ตำราจีนหนึ่งเล่ม ถอดความเป็นภาษาไทยได้ถึงห้าเล่ม คือตำราต้นฉบับจีนท่านแยกหมวด ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ และแยกเป็น ดินหยาง ดินหยิน ให้ด้วย ตรงตามที่คุณอยากได้เลย พออาจารย์ชัยเมษฐ์ท่านทำ กว่าจะขยายความหมายภาษาจีนโบราณออกมาได้ มันเลยกลายเป็น ห้าเล่ม ดวงคนธาตุดิน ดวงคนธาตุทอง ดวงคนธาตุน้ำ ดวงคนธาตุไม้ ดวงคนธาตุไฟ แบ่งสีตามสีธาตุ ลองไปตามหาอ่านดูครับ เล่มนี้อาจจะช่วยตอบคำถามว่า หลักเกณฑ์มีอะไรบ้าง นั่นคือ ธาตุให้คุณในเชิงอุดมคติ เพราะตำราจะเขียนเลยว่า ถ้าหาตัวนี้ไม่ได้ เอาตัวนี้แทน ถ้าหาตัวนี้แทนไม่ได้ ใช้ตัวนี้เข้าช่วย เหมือนตำรายาเลย เพราะฉะนั้นบางตำราเลยเรียก ย่งเสิน 用神 หรือธาตุให้คุณว่าเป็น เย่าเสิน 藥神 แปลว่า ธาตุอันเป็นยาแก้

อันที่ผมให้ความสำคัญมากกว่า ธาตุให้คุณอุดมคติคือ ธาตุให้คุณที่มีในดวงชะตา ถ้าคุณจะเลือกอาจารย์สอน หรือเลือกซินแสดูดวงให้ การเชี่ยวชาญในจุดนี้ทำให้คุณได้เปรียบ คุณจะทราบทันทีว่าฝีมือคนสอน หรือ หมอดูจีน คนนั้นเก่งหรือไม่เก่งแค่ไหน เพราะการฝึกดู ธาตุให้คุณตามดวง ที่มันอาจไม่เลิศเลอเท่า ธาตุให้คุณเชิงอุดมคติ แต่มันจับต้องได้ ใช้ได้ และเป็นของติดตัวติดดวงมาแต่เกิดนี้ ถ้าเค้าเก่งจริง เชี่ยวชาญจริง เค้าต้องบอกได้ว่า ธาตุใด ดีที่สุดในดวงนี้ ดีแล้ว ทำนายออกมาได้ว่าอะไร และผมพบว่า คนส่วนใหญ่ที่ชีวิตผิดเพี้ยน หรือเจออุปสรรคมากก็เพราะ ธาตุที่เด่นดีในดวงชะตานี้หละ เป็นตัวทำให้เกิดเรื่อง เพราะถ้าทำให้ทุกคนได้สมหวังในธาตุที่ดีของตน มันย่อมไม่มีใครดวงไม่ดี ชะตากรรมของคนก็เลยผูกไว้ว่า ธาตุให้คุณของดวงชะตา ควรก่อเรื่องราวผลข้างเคียงให้หนักๆ จนกว่าเราจะบริหารจัดการมันได้อย่างถูกต้อง เราก็จะอยู่ร่วมกับมันได้

กล่าวโดยสรุปความแตกต่างคือ ย่งเสินตามอุดมคติ คุณต้องลุ้นเอาว่าในดวงมีมั้ย ถ้าไม่มีเลยอาจจะหน้าซีดต้องไปหาสารพัดมาเสริม มาปรับ แต่ย่งเสินตามความจริงในดวง คุณแค่รู้วิธีบริหารจัดการมันให้ดี แน่นอนหละ ธาตุบารมีคุณ อาจจะไม่ใช่ ธาตุที่ทำให้คุณเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะคนละธาตุ คนละดวง ไม่ใช่ธาตุให้คุณเชิงอุดมคติที่บารมีมากล้น แต่การจัดการบริหารธาตุให้คุณที่สุดในดวงเราได้ มันทำให้คุณสามารถรับสิ่งดีที่สุดในชีวิต เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ชีวิตได้ ตรงนี้คือคุณค่า และความเบาแรงกว่าการไปแสวงคว้าเรื่องภายนอก

สุดท้าย สี่ย่งเสิน 喜用神 ที่คนชอบใช้ปนๆกันว่า ธาตุให้คุณ จริงๆแล้วมันเป็นสองหัวข้อ คือ ย่งเสิน 用神 ดังได้อธิบายมาข้างต้นแล้ว กับ 喜神 สี่เสิน ซึ่งจะได้อรรถาธิบายต่อไปว่า

喜神 สี่เสิน หรือ ฮีซิ้ง... ผมขอยืนยันว่าไม่ได้ลามก แต่มันอ่านแบบนี้จริงๆ ถ้าไม่ ฮี ก็ ฮี๊ เช่นชื่อสะพาน ซังฮี้ ก็มาจากคำๆนี้ แปลว่า มงคลคู่ หรือมงคลสมรส ฯ

ถ้าย่งเสิน หมายถึงตัวที่เราควรใช้ประโยชน์ จะได้ประโยชน์ และควรมีมัน สำคัญคือมีแล้วต้องบริหารมันให้ดีด้วย
สี่เสิน ก็หมายถึง ธาตุที่เราควรให้ความใส่ใจ ธาตุที่จะทำให้เรามีความสุขหรือสมหวัง

เพราะฉะนั้นโดยปกติ สองธาตุนี้คือ ย่งเสิน และสี่เสิน มันมักจะเป็นธาตุเดียวกัน เพราะ เมื่อมีประโยชน์ ก็ย่อมดีใจ ย่อมมีสุข เค้าเลยเรียกรวมๆว่า สี่ย่งเสิน หรือ ธาตุให้คุณ ธาตุที่ชอบ ที่ชอบ นะ

แต่ที่ผมยกตัวอย่างไปตอนต้นแล้วว่า ธาตุให้คุณของหลายคนมันก็ก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายให้ดวงชะตาได้ ไม่ใช่ว่ามีประโยชน์ต่อดวงแล้วจะทำให้มีความสุข ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นธาตุไม้จำนวนมาก มีความแข็งแรง หนึ่งในธาตุให้คุณนอกจาก ไฟ ก็คือ ธาตุทอง อันนี้เล่าแบบคร่าวๆนะ ถ้าจะเอาละเอียดต้องมาแบ่งยินหยางกันอีก มันจะยาวไป

ทีนี้ไม้ เมื่อเจอธาตุให้คุณ ณ บริบทที่มันต้องเป็น ธาตุทอง มันใช่ว่าไม้นี้จะชอบนะ ถ้าพูดเป็นภาษาคนก็เช่น ดวงชะตานี้ใฝ่ใจเรียนรู้แต่ไม่อยากไปเมืองนอก เรากลับบอกเค้าว่า เมื่อธาตุทองให้คุณ ทองคือกฎหมาย การต่างประเทศ การเงิน งั้นคุณควรจะไปเรียนกฎหมายที่ต่างประเทศนะ อะไรสมมติแบบนี้นะ มันก็สร้างความเจริญก้าวหน้าได้จริง แต่ระหว่างเรียนมันก็ขาดความสุขไปเรื่อยๆ ต้องลำบากยากเย็นมาก เพราะพาดวงชะตาไปสู่ธาตุข่ม คล้ายๆเดินฝ่าป่าหนามไปหาผลเบอรรี่ กว่ามันจะได้ผลอันแสนหวาน แผลมันก็ต้องมีบ้างหละ

ทีนี้ สี่เสิน หรือ ธาตุให้สุข นี้มันควรเป็นธาตุอะไร มันก็จะไม่ใช่ธาตุทอง ไม่ใช่อันเดียวกับย่งเสินละทีนี้ มันจะกลายเป็นธาตุไม้ หรือไฟแทนแล้วแต่บริบทดวงชะตาว่า มีธาตุใด แต่ขออธิบายยกเอา ธาตุน้ำมาเล่าให้ฟังคือว่า

เมื่อไม้ต้องผจญกับทอง คุณมีสองทางเลือก ธาตุให้สุข สี่เสิน ของตัวเอง คือ เลือกเอาไฟ มาเผาทองนี้ให้แผ่วลง กับ เลือกเอาน้ำมาชักจูงทองนี้ให้คล้อยตามไม้ เพราะ ไฟข่มทอง ทองข่มไม้(ดิถีสมมติของคุณตอนนี้) แต่ทองเกื้อหนุนน้ำ น้ำเกื้อหนุนไม้

ก็ต้องมาดูบริบทชีวิตครับ ถ้าในดวงมีทั้งไฟทั้งน้ำนะ ดูสิว่า ตอนนี้เป็นวัยทำงาน คุณเป็นประธาน คุณสามารถใช้ไฟเผาทอง ให้เกิดประโยชน์ได้สบาย เช่น ทำธุรกิจค้าขายกับคนต่างชาติโดยการไปค้าขายผ่านรถไฟ หรือเดินทางลงใต้ หรือขายความรู้มากกว่าเน้นขายแค่สินค้า พวกนี้เป็นการใช้ไฟไปข่มทอง (ไฟคือความรู้ คือความมีระดับ ทองคือการต่างประเทศ ยกตัวอย่างง่ายๆ)

แต่ถ้าตอนนี้คุณเป็นวัยเรียน หรือเป็นลูกจ้าง การต่างประเทศนี้ทำหน้าที่เป็นวิชาที่คุณต้องเรียนมัน ก็ไม่อาจใช้ไฟไปเผาทองได้นะ ขืนเผามันมากจากทองดีๆ คุณจะได้ทองชนิดตามใจฉันแทน เหมือนสมัยนี้ที่เอะอะ เรียนตามใจผู้เรียน ตามใจชอบ ผลสุดท้ายก็มีความรู้แต่อันที่ชอบ ความรู้หรือวิชาที่ไม่ชอบแทบไม่รู้อะไรเลย การเรียนรู้ที่ถูกมันควรอดทน มานะ ไม่ว่าจะชอบไม่ชอบ เพราะผลสุดท้ายทุกๆความรู้มันจะบูรณาการเกื้อกูลกันได้

ตรงนี้ ก็ต้องใช้น้ำ เป็นสี่เสิน เป็นธาตุให้สุข คือทำการเรียนให้เป็นเรื่องมีความสุข เช่น เขียนเป็นกลอน วาดเป็นภาพ แต่งเป็นทำนอง เป็นเพลงให้จำเนื้อหาได้ง่าย (น้ำคือสุนทรียะ คือดนตรี ทองคือภาษาต่างประเทศ)

ทุกคนชอบบอกว่า ดวงจีน ปรัชญาจีน เป็นศิลปะชั้นลึก และชั้นสูง แต่น้อยคนที่จะมาอธิบายขยายความให้ฟังว่า ที่ว่าลึก ลึกแค่ไหน ที่ว่าสูง สูงระดับใด วันนี้ผมยกเอาของง่ายๆ เป็นเบื้องต้นในดวงจีนคือ ย่งเสิน用神 กับ สี่เสิน喜神 หรือ ธาตุให้คุณ กับ ธาตุให้เขา.... ใช่ที่ไหนเล่า ธาตุให้สุข เอามาขยายความพอสังเขปให้ฟัง แล้วก็ไม่ต้องไปตกใจว่า ทำไมที่เรียนๆมา ที่สอนๆกันมา ไม่เห็นมีใครอธิบายอะไรแบบที่ผมพูด ผมก็ขอตอบว่า ถ้ามีผมคงพิมพ์สั้นๆว่า ไปอ่านจากหนังสือเล่มนี้.. จอ บอ จบ ไม่ต้องมาเล่าอะไรยาวขนาดนี้หรอกครับ ที่เล่าก็เพื่อหวังจะเป็นแนวทางเป็นประโยชน์แก่คุณ และคนอื่นๆด้วย ต้องขอบพระคุณที่ตั้งคำถามนี้ เพราะถ้าไม่มีใครถามอะไร ผมก็นึกไม่ออกนะว่าจะพูดอะไรดี

ขอบอกข่าวร้ายนิดๆว่า ดวงจีนไม่ได้มีแค่สองตัวนี้นะ ในส่วนเสิน หรือธาตุที่ให้.... นี้ มีอีกร่วม 6-8 ตัว แต่ถ้านับรวมทั้งหมดแบบชั้นอยากได้ครบๆนี่นะ มีภาษิตจีนบอกไว้ว่า 八字神煞多如牛毛  อันว่าสรรพธาตุให้คุณ ให้สารพัดของวิชา โป๊ยหยี่สี่เถียว หรือ ดวงจีน นี้ มีมากมายเหลือคณานับดุจเส้นขนของวัว ... เส้น ขน ของ วัว .. คิดว่ามีกี่เส้น

เอ๊าก็ถ้ามันง่ายๆ ตื้นๆ มีไม่เยอะ คนก็เป็นซินแส เป็นหมอดูจีนกันได้หมดแล้วสิ ... รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อย แต่อยากได้ของที่อยู่สูง ..
มันเป็นธรรมชาติของ ของสูง นะ ที่มันสมควรต้อง ยาก ตามกฎธรรมชาติ เพราะถ้ามันง่าย ใครๆก็เข้าใจได้ มันจะกลายเป็นของตลาดๆทันที

สรุปคือ อ่านภาษาจีนได้ อ่าน ฉงทงเป่าเจี้ยน แต่ถ้าอ่านไม่ออก ฉบับแปลไทยหนึ่งเดียวในสยามประเทศตอนนี้คือ ตำราอาจารย์ชัยเมษฏ์ เชี่ยวเวช คุณจะเห็นหน้าปกเค้าวงเล็บ ชื่อตำรา ฉงทงเป่าเจี้ยน ตัวเล็กๆนี้เอาไว้ แล้วจะพอลูบๆคลำๆทางเจอว่า มีองค์ประกอบในการพิจารณาอะไรบ้าง

ขอบพระคุณและสวัสดีครับ