Faces Places (JR, Agnès Varda, 2017)
By Form Corleone
"สารคดีถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างวัยได้น่ารักและซาบซึ้งใจ" ภาพยนตร์สารคดีของคนทำงานศิลปะและสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ ‘อานเญส วาร์ดา กับ เจอาร์’ คนหนึ่งอายุเข้าใกล้เลขเก้า สวนอีกคนอายุหลักเลขสามต้นๆ ทั้งสองออกเดินทางไปตามชนบททั่วประเทศฝรั่งเศส พร้อมทั้งสร้างสรรค์งานศิลปะโดยใช้รูปถ่ายจากคนธรรมดาทั่วไปที่พบเจอ ขยายภาพเหล่านั้นแล้วติดรูปไว้ตามผนังบ้าน ตามกำแพง สถานที่รกร้าง สิ่งก่อสร้าง สถานที่ต่างๆที่เป็นการบ่งบอกถึงความสัมพันธ์และความสำคัญของคนตัวเล็กๆในชุมชนเหล่านั้น ภาพพอร์ตเทรตใบหน้าของผู้คนมีเรื่องราวมากมายซ่อนตัวอยู่ ตัวสารคดีถ่ายทอดออกมาได้เพลิดเพลิน+ลื่นไหลได้ตลอดการเดินทาง 'Faces Places' จึงเป็นสารคดีที่บอกเล่า+บันทึกเรื่องราวของคนตัวเล็กๆ คนชนบท ที่ไม่ใช่คนสำคัญอะไรใหญ่โตระดับประเทศ แต่พวกเขาเหล่านั้นสำคัญต่อชุมชนเล็กๆที่อาศัยอยู่ และน้อยคนที่จะได้สัมผัสหรือรู้จักบุคคลเหล่านี้ เราจึงได้รับธรรมชาติความเป็นชนบทของประเทศฝรั่งเศสและผู้คนตัวเล็กๆ
นอกจากนั้น ใบหน้าผู้คนต่างๆที่ 'วาร์ดา และ เจอาร์' ได้เข้าไปพูดคุยยังชวนให้เรามองเห็นมุมมองต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คน ที่มีวัฒนธรรมเรียบง่ายในชีวิตชนบท แวดล้อมไปด้วยความทรงจำ พร้อมทั้งงานศิลปะที่ถูกติดไว้ตามผนังต่างๆ ยังดูสวยงาม+มีมิติในความหมายที่ซาบซึ้งหลังจากได้ทำความรู้จักใบหน้าของคนเหล่านั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากผู้คนธรรมดา เดินดินทั่วๆไป จึงกลายมาเป็นคนที่สำคัญและดูใหญ่โตตามขนาดของภาพไปในทันที ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าหรือภาพบางภาพอาจเป็นบุคคลที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่มีความสำคัญต่อชีวิตของคุณยายอานเญส วาร์ดา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความทรงจำต่อคนที่สำคัญไม่เคยลืมเลือนหายไปไหน ภาพที่ถูกติดลงบนผนังจึงเปรียบเสมือนการหวนคืนความทรงจำครั้งอดีตของคนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ความคลาสสิคของภาพยนตร์ในช่วงท้ายเรื่องยังสะท้อนชีวิตของคนทำงาน ช่วงเวลาที่สองคนนี้ได้เดินทางไปพบบุคคลท่านสุดท้ายในเรื่องคือช่วงเวลาปิดฉากเรื่องราวที่แสนงดงาม ทั้งหมดจึงทำให้เราชอบหลายสิ่งที่ตัวสารคดีนำเสนอออกมา
ความสัมพันธ์ระหว่างคนแก่กับคนหนุ่ม น่าจะส่งมอบกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจได้ไม่น้อย ตลอดเวลาของความสัมพันธ์ผ่านการเดินทางทั้งสองคนดูเหมือนเป็นคู่กัดกัน แต่ในสถานการณ์หนึ่งทั้งสองกลับเติมเต็มหัวใจให้กันและกัน พร้อมเป็นกำลังใจต่อกันในการก้าวผ่านเรื่องราวในอดีต+เรียนรู้เรื่องราวปัจจุบัน จากสายตาของผู้คนที่เปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจได้ละมุนไลไม เราจึงมองเห็นความสัมพันธ์ที่น่ารักของคนสองคน ที่เปิดใจยอมรับกันและกันผ่านสถานที่ต่างๆที่ทั้งสองเคยใช้ชีวิตและทำงานในสถานที่นั้น แน่นอนว่า บางสถานที่อาจจะไม่ถูกระบุให้เป็นหมู่บ้าน แต่สารคดีกลับทำให้เรามองเห็นว่าสถานที่เหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากหมู่บ้านดีๆนี้เอง เพราะมันคือสังคมหนึ่งที่มีมนุษย์อาศัยอยู่และร่วมกันและสร้างความทรงจำด้วยกัน ข้อความต่อสถานที่ต่างๆจึงมีความหมาย ส่งมอบแง่มุมที่น่าสนใจโดยที่หนังไม่ต้องพยายามสื่อสารเพียงแค่ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปตามสถานการณ์
ท้ายสุด 'Faces Place' ทำให้เราซึ่งเกิดไม่ทันในยุคเฟรนช์นิวเวฟ สนใจและอยากตามเก็บผลงานในยุคนั้นเลย แต่ถ้าใครเป็นแฟนคลับเฟรนช์นิวเวฟอยู่แล้ว งานนี้น่าจะให้ความรู้สึกคิดถึง+เซอร์ไพรส์ แน่นอน! อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่หนังพาเราไปพบเจอเรื่องราวต่างๆ เป็นช่วงเวลาที่สบายๆ สนุกสนาน อมยิ้ม และซาบซึ้ง พร้อมด้วยงานศิลปะที่สวยงาม ด้วยเวลาที่ไม่นานจนเกินไปจึงทำให้เราไม่รู้สึกได้รับข้อมูลมากจนล้น ทั้งหมดอยู่ในความพอดี งานอาร์ตแต่ละชิ้นมีความหลากหลาย พร้อมด้วยดนตรีประกอบเปิดคลอเบาๆตลอดเรื่อง ทำให้เรารับชมภาพยนตร์ได้ไม่เบื่อเลย เป็นสารคดีที่งดงามที่สุดเรื่องหนึ่งเลยครับ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ขอบคุณ Documentary Club ที่เอาภาพยนตร์ดีๆเข้ามาฉายให้ได้รับชมเสมอครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Faces Places (JR, Agnès Varda, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"สารคดีถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างวัยได้น่ารักและซาบซึ้งใจ" ภาพยนตร์สารคดีของคนทำงานศิลปะและสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ ‘อานเญส วาร์ดา กับ เจอาร์’ คนหนึ่งอายุเข้าใกล้เลขเก้า สวนอีกคนอายุหลักเลขสามต้นๆ ทั้งสองออกเดินทางไปตามชนบททั่วประเทศฝรั่งเศส พร้อมทั้งสร้างสรรค์งานศิลปะโดยใช้รูปถ่ายจากคนธรรมดาทั่วไปที่พบเจอ ขยายภาพเหล่านั้นแล้วติดรูปไว้ตามผนังบ้าน ตามกำแพง สถานที่รกร้าง สิ่งก่อสร้าง สถานที่ต่างๆที่เป็นการบ่งบอกถึงความสัมพันธ์และความสำคัญของคนตัวเล็กๆในชุมชนเหล่านั้น ภาพพอร์ตเทรตใบหน้าของผู้คนมีเรื่องราวมากมายซ่อนตัวอยู่ ตัวสารคดีถ่ายทอดออกมาได้เพลิดเพลิน+ลื่นไหลได้ตลอดการเดินทาง 'Faces Places' จึงเป็นสารคดีที่บอกเล่า+บันทึกเรื่องราวของคนตัวเล็กๆ คนชนบท ที่ไม่ใช่คนสำคัญอะไรใหญ่โตระดับประเทศ แต่พวกเขาเหล่านั้นสำคัญต่อชุมชนเล็กๆที่อาศัยอยู่ และน้อยคนที่จะได้สัมผัสหรือรู้จักบุคคลเหล่านี้ เราจึงได้รับธรรมชาติความเป็นชนบทของประเทศฝรั่งเศสและผู้คนตัวเล็กๆ
นอกจากนั้น ใบหน้าผู้คนต่างๆที่ 'วาร์ดา และ เจอาร์' ได้เข้าไปพูดคุยยังชวนให้เรามองเห็นมุมมองต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คน ที่มีวัฒนธรรมเรียบง่ายในชีวิตชนบท แวดล้อมไปด้วยความทรงจำ พร้อมทั้งงานศิลปะที่ถูกติดไว้ตามผนังต่างๆ ยังดูสวยงาม+มีมิติในความหมายที่ซาบซึ้งหลังจากได้ทำความรู้จักใบหน้าของคนเหล่านั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากผู้คนธรรมดา เดินดินทั่วๆไป จึงกลายมาเป็นคนที่สำคัญและดูใหญ่โตตามขนาดของภาพไปในทันที ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าหรือภาพบางภาพอาจเป็นบุคคลที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่มีความสำคัญต่อชีวิตของคุณยายอานเญส วาร์ดา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความทรงจำต่อคนที่สำคัญไม่เคยลืมเลือนหายไปไหน ภาพที่ถูกติดลงบนผนังจึงเปรียบเสมือนการหวนคืนความทรงจำครั้งอดีตของคนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ความคลาสสิคของภาพยนตร์ในช่วงท้ายเรื่องยังสะท้อนชีวิตของคนทำงาน ช่วงเวลาที่สองคนนี้ได้เดินทางไปพบบุคคลท่านสุดท้ายในเรื่องคือช่วงเวลาปิดฉากเรื่องราวที่แสนงดงาม ทั้งหมดจึงทำให้เราชอบหลายสิ่งที่ตัวสารคดีนำเสนอออกมา
ความสัมพันธ์ระหว่างคนแก่กับคนหนุ่ม น่าจะส่งมอบกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจได้ไม่น้อย ตลอดเวลาของความสัมพันธ์ผ่านการเดินทางทั้งสองคนดูเหมือนเป็นคู่กัดกัน แต่ในสถานการณ์หนึ่งทั้งสองกลับเติมเต็มหัวใจให้กันและกัน พร้อมเป็นกำลังใจต่อกันในการก้าวผ่านเรื่องราวในอดีต+เรียนรู้เรื่องราวปัจจุบัน จากสายตาของผู้คนที่เปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจได้ละมุนไลไม เราจึงมองเห็นความสัมพันธ์ที่น่ารักของคนสองคน ที่เปิดใจยอมรับกันและกันผ่านสถานที่ต่างๆที่ทั้งสองเคยใช้ชีวิตและทำงานในสถานที่นั้น แน่นอนว่า บางสถานที่อาจจะไม่ถูกระบุให้เป็นหมู่บ้าน แต่สารคดีกลับทำให้เรามองเห็นว่าสถานที่เหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากหมู่บ้านดีๆนี้เอง เพราะมันคือสังคมหนึ่งที่มีมนุษย์อาศัยอยู่และร่วมกันและสร้างความทรงจำด้วยกัน ข้อความต่อสถานที่ต่างๆจึงมีความหมาย ส่งมอบแง่มุมที่น่าสนใจโดยที่หนังไม่ต้องพยายามสื่อสารเพียงแค่ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปตามสถานการณ์
ท้ายสุด 'Faces Place' ทำให้เราซึ่งเกิดไม่ทันในยุคเฟรนช์นิวเวฟ สนใจและอยากตามเก็บผลงานในยุคนั้นเลย แต่ถ้าใครเป็นแฟนคลับเฟรนช์นิวเวฟอยู่แล้ว งานนี้น่าจะให้ความรู้สึกคิดถึง+เซอร์ไพรส์ แน่นอน! อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่หนังพาเราไปพบเจอเรื่องราวต่างๆ เป็นช่วงเวลาที่สบายๆ สนุกสนาน อมยิ้ม และซาบซึ้ง พร้อมด้วยงานศิลปะที่สวยงาม ด้วยเวลาที่ไม่นานจนเกินไปจึงทำให้เราไม่รู้สึกได้รับข้อมูลมากจนล้น ทั้งหมดอยู่ในความพอดี งานอาร์ตแต่ละชิ้นมีความหลากหลาย พร้อมด้วยดนตรีประกอบเปิดคลอเบาๆตลอดเรื่อง ทำให้เรารับชมภาพยนตร์ได้ไม่เบื่อเลย เป็นสารคดีที่งดงามที่สุดเรื่องหนึ่งเลยครับ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ขอบคุณ Documentary Club ที่เอาภาพยนตร์ดีๆเข้ามาฉายให้ได้รับชมเสมอครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/