เครียดกับปัญหาเรื่องหนี้ครอบครัว ไม่จบสิ้น ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี

ผมอายุ 28 ย่าง 29 ครับ ปัจจบันทำงานไอที อยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เงินเดือน 25k+ มีงานเสริมสอนพิเศษบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้สอนเท่าไหร่แล้ว เหลือสอนเพียง 1-2 งาน มีเงินเก็บ 1 แสนกว่าบาทติดตัว มีปัญหาหลายเรื่องให้ปวดหัวมากครับ จะขอเล่าอย่างสั้นที่สุดนะครับ

เรื่องงาน เราทำงานมาได้เกือบจะ 4 ปีแล้ว ปัจจุบันถูกนายจ้างบีบให้ลาออกจากงาน เพราะต้องการลดจำนวนพนักงานลง ประหยัดงบบริษัท เราโดนบีบมา 1 ปีกว่าแล้ว ระหว่างนั้นก็หางานไปด้วย แต่ก็ยังไม่ได้สักที่ทั้งราชการและเอกชน ทั้งที่เราเองก็เรียกเงินเดือนเท่าๆที่ปัจจุบัน บางทีลดราคาเงินเดือนลงไป 2,000-3,000 บาท ก็ยังไม่มีที่ไหนสู้จ้างเราให้ทำงานสักที่ รู้สึกเครียดมากๆครับ วิธีการบีบให้ลาออกคือ โอนงานที่เราเคยทำเป็นประจำทั้งหมดไปให้คนเก่าคนแก่ในทีมทำแทนเกือบจะหมด วันๆเรานั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ทำอะไรเลย มานั่งเล่นคอมแล้วกลับ บางทีถามปรึกษาเรื่องงานกับคนในทีม ก็พูดไม่ค่อยจะดีใส่เรา ทำขึ้นเสียงใส่ ตะคอกใส่ จนบางทีทำงานเราแทบไม่อยากจะคุยด้วย ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แก้ไม่ได้ก็ไม่ทำ จนมาถึงตอนนี้รู้สึกว่าจะถึงขีดจำกัดที่เราจะทนได้แล้ว เพราะเราได้รับผลกระทบและชีวิตเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง เช่น ผมร่วงมากขึ้น บนศีรษะเริ่มล้านมากแล้ว เราชอบมีความคิดอะไรที่ผิดแปลกไปจากความเป็นจริง เวลาคุยกับคนในครอบครัวในบางครั้งก็ชอบเอาชนะ ขึ้นเสียง ด่ากัน บางทีก็ร้องไห้คนเดียวบ่อยมากในช่วงที่กลับจากงานและวันหยุด เป็นต้น เลยที่คิดที่จะลาออกหลังได้โบนัสเดือนมีนา แล้วไปหางานใหม่เอาข้างหน้า ก่อนที่เราจะแย่ไปกว่านี้

แต่สุดท้ายก็มีปัญหาใหม่เข้ามาให้คิดอีกเรื่องก็คือ ปัญหาหนี้สินครอบครัว เรื่องมันเริ่มมาจากพ่อเราเดิมทำงานธุรกิจส่วนตัว แล้วอยู่ๆมาเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีลูกค้า ก็เอาแต่นอนอยู่บ้านเฝ้าลูกค้ามาติดต่อ ไม่หางานใหม่ แม่จะด่าว่าอย่างไรก็ไม่ทำงาน จนแม่ต้องทำงานคนเดียวและก่อหนี้สินมากมายมหาศาล โดยที่คนในครอบครัวก็ไม่ได้รับรู้ว่า แม่เป็นหนี้หลายแสนแล้ว จนมาถึงตอนเราเข้ามหาวิทยาลัย พ่อแม่ทะเลาะกัน พ่อจึงต้องออกมาทำงานเมื่อปี 2551 มาจนถึงปัจจุบัน แต่เดิมว่างงานมาตั้งแต่ปี 2539 ไม่ได้ทำงานมาประมาณ 12 ปี ทีนี้ปัญหาใหญ่คือแม่เป็นหนี้ แต่เอาหนี้ไปทำอะไรแล้วมักจะไม่ค่อยบอก หลักๆส่วนตัวที่รู้มาคือ เอามาจุนเจือครอบครัวส่วนนึง และไปผ่อนรถช่วยลูกติดผัวเก่า สองส่วนใหญ่ๆ จนเราเรียนจบเราก็ถามแม่ตรงๆว่าหนี้เท่าไหร่ แม่ก็ไม่บอกเราตามตรงว่ายอดแท้จริงเท่าไหร่ บอกแต่เพียงครึ่งนึงเพียง 4 แสน ซึ่งก็นับว่าเยอะมากสำหรับครอบครัวจนๆครอบครัวหนึ่ง ซึ่งพ่อแม่เรามาอยู่ด้วยกันก็ไม่ได้มีการวางแผนครอบครัวอะไรมาเลย พ่อก็มาจากครอบครัวแตกแยกปู่ย่าเลิกกัน แม่ก็เลิกกับสามีเก่ามา มีเงินติดตัวตอนรวมกันตอนแรกไม่ถึงพันที่มาอยู่ด้วยกัน แต่เราเองก็คงต้องยอมรับชะตากรรมตัวเองว่าคงต้องใช้หนี้ช่วยแม่ โดยมีน้องสาวช่วยกันสองคน ตอนแรกเรียนจบมายอมรับว่าเจ้าหนี้ทวงแม่ด่าแม่มาก เราได้รับความกดดันให้หางานทำไวๆ ทะเลาะกับแม่ทุกวันร้องไห้ทุกวันเลย จนเราก็เริ่มมีอาการประสาทอ่อนๆตั้งแต่ตอนนั้น จนผ่านมาปีกว่าๆ ก็ได้งานทำที่แรก ทำได้ปีนึงก็ลาออก มาทำที่ปัจจุบันได้ 3-4 ปี น้องสาวก็เพิ่งเรียนไม่นาน ทำงานมาได้ 10 เดือนก็ลาออก เพราะรับไม่ได้กับระบบงานเอาเปรียบคน ตอนนี้น้องว่างงานมาได้ 3 เดือนแล้ว

แต่พอมาเมื่อวาน แม่เครียดมากจากการถูกทวงหนี้จากเจ้าหนี้หลายๆที่ จนเมื่อวานแม่คิดจะฆ่าตัวตาย เพื่อเอาสวัสดิการเงินฉาปนกิจศพมาปลดหนี้ให้ครอบครัว แต่ก็ถูกขวางโดนเจ้านายเก่า โดยเจ้านายเก่าด่าแรงๆว่าทำอะไรสิ้นคิด หนีปัญหา แล้วไล่กลับบ้าน จนกลับมาบ้านมาทะเลาะกับน้องสาว หงุดหงิดใส่น้อง จนสุดท้ายก็มาคุยกันทั้งพ่อแม่ น้องและเรา กว่าเราจะอ้าปากแม่ให้พูดได้ว่ามีปัญหาอะไร ทำไมไม่พูด อยู่นานหลายชั่วโมงมาก เพราะถ้าพูดแล้วเรากับน้องสาวจะเครียด เดือนร้อน สุดท้ายแม่ยอมพูดออกมาว่า แม่มีหนี้รวมทั้งสิ้นเกือบ 8 แสน เจ้าหนี้ที่เคยจบหนี้ไปแล้ว เค้าก็ไปขอกู้เงินเพิ่มใหม่อีกครั้งแทบทุกคน โดยที่ไม่ปรึกษาใครเลย เพราะกลัวที่บ้านรู้ว่าเอาเงินบางส่วนไปช่วยลูกติดสามีเก่า แล้วพ่อเราเค้าก็พูดออกมาว่า "gru ไม่เคยเป็นหนี้ใคร gru ไม่ได้ก่อมันขึ้นมา ต่อให้ gru ตายกรุก็ไม่ใช้เด็ดขาด พวกเมิงเป็นลูกก็รับกรรมไปก็แล้วกัน" คือหลังจากได้ยินคำนั้นเรายอมรับว่า เราโคตรหมดความนับถือพ่อเลยจริงๆ ว่าตัวเองมีส่วนทำให้หนี้มันเกิดขึ้นมาโดยตรงแท้ ยังปัดความรับผิดชอบอีก ทำไมพ่อเป็นคนแบบนี้

พอตื่นเช้ามาวันนี้ยอมรับว่าปวดหัวมากครับ เมื่อคืนกว่าจะนอนหลับได้ก็เกือบตีสองครึ่ง คิดอยู่ตลอดว่าจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดี งานที่ทำก็ถูกบีบให้ลาออกอยู่ วางแผนว่าจะลาออกเร็วนี้ๆ ควรจะตัดสินใจอย่างไรดี จะลาออกหรือว่าจะอยู่ทนหาเงินใช้หนี้ต่อไป ให้มันบ้ากันไปเลย หรือควรลาออกมาหารับงานอื่นที่เป็นรับจ๊อบสอนพิเศษทำไปก่อน รองานประจำใหม่ดี คือเก็บมาคิดมาพิจารณาดูแล้วว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ สภาพจิตใจแย่มาก ตื่นเช้ามาไม่อยากมาทำงานเลย แล้วนอนไม่ค่อยหลับ ไม่สบายบ่อยมาก แล้วคือไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนพ่อแม่ให้กลับมาจิตใจปกติเหมือนเดิมอย่างไร ทางแม่พอฟังเราบ้างนะ แต่พ่อเราไม่ว่าใครจะว่าจะเตือนอย่างไรเค้าจะไม่ฟังใครเลยนอกจากตัวเค้าทุกครั้ง แบบต้องพังไปต่อหน้าต่อตาถึงจะเชื่อ ประมาณนั้น อยากได้คำปรึกษามากๆครับ ถ้าได้คุยกับจิตแพทย์หรือเพื่อนๆที่ยอมรับฟังปัญหาของเราบ้างก็ดีเหมือนกันครับ ตอนนี้ผมเหนื่อยมากเหลือเกิน

ปล.หลักๆคือแม่คิดจะฆ่าตัวตายหลายรอบแล้วล่ะครับ 3 รอบได้แล้วมั้ง เราหนักใจตรงนี้ ว่าจะพาไปหาจิตแพทย์ ก็ไม่ยอมไป เราควรทำอย่างไรดี หรือจะปล่อยให้เค้าตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตของเค้าเองดีครับ เหมือนจะห้ามไม่ได้ เพราะทุกครั้งไม่เพื่อนก็เจ้านายเก่าช่วยไว้ตลอด
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ไม่แนะำให้นำเงินที่เก้บไว้หนึ่งแสนบาทไปโปะหนี้แม่

คุณจำเป็นต้องมีเงินเก็บฉึกเฉินนี้ และไม่บอกแม่หรือใครๆเลยค่ะ
เงินหนึ่งแสนไมีพอโปะหนี้ และอย่าทำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่