สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
พ่อตาผม ไม่ค่อยชอบหน้าผมเท่าไหร่
เคยโทรมาบอกแฟนผมว่า ผมดูแปลกๆ ไม่น่าคบ
...
ผมคุยกับแฟนว่า จะไปคุยกับพ่อตา
เรื่องขอแฟนแต่งงาน ถ้าพ่อตายังไม่ตกลง
เราก้จะไปเรื่อยๆ จนกว่าแกจะยอมใจอ่อน
...
วันแรกที่ไปคุย ผมพูดกับพ่อตาตรงๆว่า
อยากได้ลูกสาวแกเป็นคู่ชีวิต อยู่ดูแลกัน
พ่อตาตอบตกลง ยกลูกสาวให้โดยไม่ถามอะไรผมสักคำ
สินสอดก้ไม่เรียก งานแต่งก้ไม่ว่า
..ผมอึ้งงงง จนถึงทุกวันนี้ โชคดีที่เจอคนจริง
เคยโทรมาบอกแฟนผมว่า ผมดูแปลกๆ ไม่น่าคบ
...
ผมคุยกับแฟนว่า จะไปคุยกับพ่อตา
เรื่องขอแฟนแต่งงาน ถ้าพ่อตายังไม่ตกลง
เราก้จะไปเรื่อยๆ จนกว่าแกจะยอมใจอ่อน
...
วันแรกที่ไปคุย ผมพูดกับพ่อตาตรงๆว่า
อยากได้ลูกสาวแกเป็นคู่ชีวิต อยู่ดูแลกัน
พ่อตาตอบตกลง ยกลูกสาวให้โดยไม่ถามอะไรผมสักคำ
สินสอดก้ไม่เรียก งานแต่งก้ไม่ว่า
..ผมอึ้งงงง จนถึงทุกวันนี้ โชคดีที่เจอคนจริง
ความคิดเห็นที่ 37
เอาจริงเราแอนตี้เรื่องสินสอดเลยนะคะ เพราะเราว่ามันโบราณแล้ว ที่จะตีค่าผู้หญิงเป็นเงิน ผู้ชายเค้าก็ไม่ได้กินน้ำข้าว หรือโตได้เพราะสังเคราะห์แสงนี่คะ พ่อแม่เค้าก็เลี้ยงเสียเงินมาเหมือนกัน ยิ่งสมัยนี้ แต่งแล้วออกไปอยู่กันเองก็เยอะ ผู้หญิงเองก็มีการศึกษาหางานทำ ความเท่าเทียมมันมีมากขึ้น มันไม่ได้เหมือนสมัยโบราณแล้ว
แต่อย่างว่าสังคมไทย ไม่มีก็โดนนินทาอีก แต่มองอีกแง่ การเรียกสินสอดมันก็ทำให้เห็นความคิดอ่าน อนาคตของทั้งบ่าวสาวได้ ว่าต่อไปจะอยู่กันได้อย่างราบรื่นไหม โดยมีครอบครัวทั้งคู่เป็นตัวแปร
เช่น บางครอบครัว ฝ่ายเจ้าสาวโปรไฟล์ดีๆ พ่อแม่เรียกสินสอด แค่เป็นหน้าเป็นตา แต่งเสร็จยกคืนให้ อันนี้ ในอนาคต น่าจะไม่มีปัญหามาก หรือถ้าครอบครัวฝ่ายหญิงทบเงินกลับให้ไปตั้งตัวกัน อันนี้ทางสองฝั่งน่าจะช่วยบ่าวสาวได้ถ้ามีปัญหากันในอนาคต คือแฟร์ๆกันดี
แต่ถ้าเจ้าสาวโปรไฟรล์ธรรมดา พ่อแม่เรียกสินสอดแบบกะรวยในทีเดียว แถมพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ทำงาน หรือยิ่งฝ่ายหญิงปกติเป็นเสาหลักของบ้านมาตลอด ทางฝ่ายบ้านผู้ชายคงมีหนาว ว่าแต่งแล้วไม่จบแค่สินสอดแน่ แต่งเจ้าสาวคนเดียว แต่ต้องทำงานเลี้ยงทั้งครอบครัวผู้หญิง ทางบ้านผู้ชายเค้าก็คงคิด อันนี้เรามีคนรู้จักเจอมา ทางบ้านฝ่ายชายก็กังวัลแต่ทางเจ้าบ่าวยืนยัน สุดท้ายก็อย่างที่คิดไว้ ทางบ้านชายมีกิจการ ฝ่ายชายหาได้ ต้องให้ภรรยา แล้วให้ทางครอบครัวภรรยาที่ไม่ได้มีแค่พ่อและแม่ เราเจอกันทีไร เห็นทางครอบครัวฝ่ายชายบ่นตลอด
หรือฝ่ายเจ้าบ่าวมีแต่งกแบบสุดๆในทุกทาง อันนี้ฝ่ายบ้านผู้หญิงคงคิดหนัก ยิ่งถ้าฝ่ายหญิงแฟร์ๆ นี่ คิดเลยว่า ลูกสาวเราจะลำบากไหม ไปอยู่กับเค้า ผู้ชายแบบนี้ งกกับเห็นแก่ตัว มันก็แค่เส้นกั้นบางๆ
ถ้าเจ้าบ่าวไม่มี แต่พยายาม อันนี้ก็คิดได้ว่าเค้าเป็นคนหนักเอาเบาสู้นะ เป็นเราคงให้ลูกช่วยเค้าเก็บตังค์ด้วยกัน แต่งงานก็ยกให้เป็นสินขวัญทั้งคู่ อะไรยังงี้
แต่อย่างว่าสังคมไทย ไม่มีก็โดนนินทาอีก แต่มองอีกแง่ การเรียกสินสอดมันก็ทำให้เห็นความคิดอ่าน อนาคตของทั้งบ่าวสาวได้ ว่าต่อไปจะอยู่กันได้อย่างราบรื่นไหม โดยมีครอบครัวทั้งคู่เป็นตัวแปร
เช่น บางครอบครัว ฝ่ายเจ้าสาวโปรไฟล์ดีๆ พ่อแม่เรียกสินสอด แค่เป็นหน้าเป็นตา แต่งเสร็จยกคืนให้ อันนี้ ในอนาคต น่าจะไม่มีปัญหามาก หรือถ้าครอบครัวฝ่ายหญิงทบเงินกลับให้ไปตั้งตัวกัน อันนี้ทางสองฝั่งน่าจะช่วยบ่าวสาวได้ถ้ามีปัญหากันในอนาคต คือแฟร์ๆกันดี
แต่ถ้าเจ้าสาวโปรไฟรล์ธรรมดา พ่อแม่เรียกสินสอดแบบกะรวยในทีเดียว แถมพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ทำงาน หรือยิ่งฝ่ายหญิงปกติเป็นเสาหลักของบ้านมาตลอด ทางฝ่ายบ้านผู้ชายคงมีหนาว ว่าแต่งแล้วไม่จบแค่สินสอดแน่ แต่งเจ้าสาวคนเดียว แต่ต้องทำงานเลี้ยงทั้งครอบครัวผู้หญิง ทางบ้านผู้ชายเค้าก็คงคิด อันนี้เรามีคนรู้จักเจอมา ทางบ้านฝ่ายชายก็กังวัลแต่ทางเจ้าบ่าวยืนยัน สุดท้ายก็อย่างที่คิดไว้ ทางบ้านชายมีกิจการ ฝ่ายชายหาได้ ต้องให้ภรรยา แล้วให้ทางครอบครัวภรรยาที่ไม่ได้มีแค่พ่อและแม่ เราเจอกันทีไร เห็นทางครอบครัวฝ่ายชายบ่นตลอด
หรือฝ่ายเจ้าบ่าวมีแต่งกแบบสุดๆในทุกทาง อันนี้ฝ่ายบ้านผู้หญิงคงคิดหนัก ยิ่งถ้าฝ่ายหญิงแฟร์ๆ นี่ คิดเลยว่า ลูกสาวเราจะลำบากไหม ไปอยู่กับเค้า ผู้ชายแบบนี้ งกกับเห็นแก่ตัว มันก็แค่เส้นกั้นบางๆ
ถ้าเจ้าบ่าวไม่มี แต่พยายาม อันนี้ก็คิดได้ว่าเค้าเป็นคนหนักเอาเบาสู้นะ เป็นเราคงให้ลูกช่วยเค้าเก็บตังค์ด้วยกัน แต่งงานก็ยกให้เป็นสินขวัญทั้งคู่ อะไรยังงี้
แสดงความคิดเห็น
อยากส่งสารถึงคุณแม่ทุกๆท่าน ..เรื่องสินสอด