วันนี้ ตรวจผู้ป่วยหญิงอายุ30ปี มาด้วยมีอาการปวดศีรษะข้างเดียว เป็นๆหายๆ เป็นมากขึ้นมา 3 วัน ช่วงหลังๆ เครียดเรื่องทางบ้าน ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ
หมอจิ๋ว : คิดว่าใน ช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงในบ้านบ้างไหมครับ
ผู้ปวย : ก็เครียดเรื่องทางบ้านนิดหน่อยค่ะ
หมอจิ๋ว : เรื่องไหน ที่ทำให้เรารู้สึกเครียดมากที่สุดเลยครับ
ผู้ป่วย ; เรื่อง........ขี้แมว ค่ะ
หมอจิ๋ว : เกิดอะไรขึ้นครับ เกี่ยวไรกับขี้แมวครับ
ผู้ปวย : พอดี แม่สามีเลี้ยงแมวแล้ว แกชอบเอากะบะมาวางไว้แถวประตูบ้าน ส่วนด้านหน้าบ้านเป็นร้านขายของ เราค้าขายเลยต้องเดินผ่านประตูทุกวัน พอได้กลิ่นขี้แมว หมอรู้ไหมมันเหม็นยิ่งกว่าขี้คน หรือขี้หมาอีก ให้หนูไปเก็บขี้คนยังยอมเลย แต่กับขี้แมวนี่ กลิ่นติดจมูก ปวดหัวไม่หายเลย
หมอจิ๋ว : แล้ว เคยบอกให้แม่สามีรู้รึเปล่าล่ะ
ผู้ปวย : บอกไม่ได้ หนูเป็นคนนอก ขนาดแฟนหนูเขายังไม่กล้าบอกเลย แม่เขาเลี้ยงลูกเหมือนเด็ก5ขวบ ทั้งที่ตอนนี้อายุ50แล้ว
หมอจิ๋ว : ยังต้องป้อนนม แล้ว ต้องอุ้มอีกเหรอครับ
ผู้ป่วย : 555 ไม่ขนาดนั้น แต่ เคยบอกแฟนหนูๆเขาก็บอกให้ทนๆไป เพราะแม่รักสัตว์มาก มีทั้งหมาและแมว เคยมีที่หมากัดกับแมว แกเลยให้หมาไปอยู่ในกรง ส่วนแมวให้อยู่หลังบ้าน
หมอจิ่ว : แสดงว่าแม่เป็นคนรักสัตว์ นะครับ
ผู้ปวย : ใช่ ขนาดหมาแก ยังสร้างหนำให้อยู่เลย มีหลังคา ขนาด 4*4 เมตรได้
หมอจิ๋ว : อืม ใหญ่กว่าห้องนอนผมอีก (คราวนี้ คุยได้แล้วว่า ห้องนอนตรูเล็กกว่ากรงหมาอีก)
ผู้ป่วย : แล้วหนูยังชอบถูกแม่สามีว่าอีก ว่ากินเหลือ ก็หนูกินเผ็ดหนิ แต่รสชาติที่แม่สามีทำ หนูกินไม่ค่อยได้ แม่ก็ด่าบอกว่า ไม่รู้จักคุณค่าของข้าว ไม่สงสารชาวนา สามีก็เข้าข้างแม่ ทั้งที่หนูบอกแล้วว่ากินไมไหวแล้ว
หมอจิ๋ว : แล้วทำไมไม่ให้แมว หมากินล่ะครับ จะได้แบ่งให้มันอ้วนบ้าง
ผู้ปว่ย : หมามันก็เรื่องมาก เวลาคลุกข้าวให้ ถ้าคลุกไม่ละเอียด มันก็ไม่กิน แมวก็เหมือนกัน ถ้าอาหารคนมันไม่กิน มันจะกินแต่อาหารแมวเท่านั้น
หมอจิ๋ว : อืม ฟังดูแล้ว เหมือนกับว่าที่เราปวดหัวไม่หาย เพราะเครียดเรื่องพวกนี้ แต่ก็ระบายออกไม่ได้ พูดให้แม่สามีฟังก็ไม่ได้
ผู้ป่วย : ใช่
หมอจิ๋ว : แบบนี้ รอให้แมวตาย ก่อน เดี๋ยวก็หายเองเนอะ (ถ้าแม่สามีไม่หาแมวมาเลี้ยงเพิ่มนะ)
ผู้ป่วย : มันไม่ยอมตายน่ะสิ นี่มันอยู่บ้านนี้มาเกือบ20ปี แล้ว
หมอจิ๋ว : แต่ อายุขัยหมาแมว มันไม่เกิน 20ปี นะแสดงว่ามันอีกไม่นานแล้ว
ผู้ปวย : ก็แม่เลี้ยงมันดีจะตาย ประคบประหงมยิ่งกว่าลูกอีก ส่วนแม่แกเองก็ดูแล้สุขภาพ วันๆกินแต่ข้าวไรซ์เบอรี่ กับผัก ปลา ออกกำลังกายวันละ30นาที ตอนนี้แก80แล้ว คนข้างบ้านบอกว่าแกน่าจะไม่นาน แต่หนูเถียงเลยว่า แกคงอยู่เป็น100ปี
หมอจิ๋ว : งั้น ถ้าเป็นผมนะ หายาดม อัดเข้าไปสองรูจมูกเลย หรือวิควาเปอร์รัพทาจมูกไว้เลย เวลาเดินผ่านประตู
ผู้ป่วย : เคยทำแล้ว แต่ ทานานๆ แล้วแสบจมูก
หมอจิ๋ว : งั้น อมขิงสด หรือ ทาน้ำมันงาสิ จะได้หอมๆ
ผู้ปวย : อึ้ย
หมอจิ๋ว : แล้วไม่หาทางให้แมวมันออกไปจากบ้านเหรอ เช่นเวลาเปิดประตูบ้าน ไม่แง้มให้มันออกไปเหรอ (กลับมาล็อคประตูเลย)
ผู้ปวย : พอแม่สามีกลับมาไม่เจอเดี๋ยวก็โวยอีก แถมเวลาเปิดประตูให้มันออก มันเดินเวียนอยู่แค่หน้าบ้าน มันไม่ไปไหน
หมอจิ๋ว : งั้น คงต้องรอให้แมวมันตายก่อน ถึงจะหายเนอะ
ผู้ปวย : ค่ะ
สรุป แก้ปัญหาให้คนไข้มิได้ ใครมีไอเดียดีๆ เสนอมามั่งสิ
เรื่องขี้แมว
หมอจิ๋ว : คิดว่าใน ช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงในบ้านบ้างไหมครับ
ผู้ปวย : ก็เครียดเรื่องทางบ้านนิดหน่อยค่ะ
หมอจิ๋ว : เรื่องไหน ที่ทำให้เรารู้สึกเครียดมากที่สุดเลยครับ
ผู้ป่วย ; เรื่อง........ขี้แมว ค่ะ
หมอจิ๋ว : เกิดอะไรขึ้นครับ เกี่ยวไรกับขี้แมวครับ
ผู้ปวย : พอดี แม่สามีเลี้ยงแมวแล้ว แกชอบเอากะบะมาวางไว้แถวประตูบ้าน ส่วนด้านหน้าบ้านเป็นร้านขายของ เราค้าขายเลยต้องเดินผ่านประตูทุกวัน พอได้กลิ่นขี้แมว หมอรู้ไหมมันเหม็นยิ่งกว่าขี้คน หรือขี้หมาอีก ให้หนูไปเก็บขี้คนยังยอมเลย แต่กับขี้แมวนี่ กลิ่นติดจมูก ปวดหัวไม่หายเลย
หมอจิ๋ว : แล้ว เคยบอกให้แม่สามีรู้รึเปล่าล่ะ
ผู้ปวย : บอกไม่ได้ หนูเป็นคนนอก ขนาดแฟนหนูเขายังไม่กล้าบอกเลย แม่เขาเลี้ยงลูกเหมือนเด็ก5ขวบ ทั้งที่ตอนนี้อายุ50แล้ว
หมอจิ๋ว : ยังต้องป้อนนม แล้ว ต้องอุ้มอีกเหรอครับ
ผู้ป่วย : 555 ไม่ขนาดนั้น แต่ เคยบอกแฟนหนูๆเขาก็บอกให้ทนๆไป เพราะแม่รักสัตว์มาก มีทั้งหมาและแมว เคยมีที่หมากัดกับแมว แกเลยให้หมาไปอยู่ในกรง ส่วนแมวให้อยู่หลังบ้าน
หมอจิ่ว : แสดงว่าแม่เป็นคนรักสัตว์ นะครับ
ผู้ปวย : ใช่ ขนาดหมาแก ยังสร้างหนำให้อยู่เลย มีหลังคา ขนาด 4*4 เมตรได้
หมอจิ๋ว : อืม ใหญ่กว่าห้องนอนผมอีก (คราวนี้ คุยได้แล้วว่า ห้องนอนตรูเล็กกว่ากรงหมาอีก)
ผู้ป่วย : แล้วหนูยังชอบถูกแม่สามีว่าอีก ว่ากินเหลือ ก็หนูกินเผ็ดหนิ แต่รสชาติที่แม่สามีทำ หนูกินไม่ค่อยได้ แม่ก็ด่าบอกว่า ไม่รู้จักคุณค่าของข้าว ไม่สงสารชาวนา สามีก็เข้าข้างแม่ ทั้งที่หนูบอกแล้วว่ากินไมไหวแล้ว
หมอจิ๋ว : แล้วทำไมไม่ให้แมว หมากินล่ะครับ จะได้แบ่งให้มันอ้วนบ้าง
ผู้ปว่ย : หมามันก็เรื่องมาก เวลาคลุกข้าวให้ ถ้าคลุกไม่ละเอียด มันก็ไม่กิน แมวก็เหมือนกัน ถ้าอาหารคนมันไม่กิน มันจะกินแต่อาหารแมวเท่านั้น
หมอจิ๋ว : อืม ฟังดูแล้ว เหมือนกับว่าที่เราปวดหัวไม่หาย เพราะเครียดเรื่องพวกนี้ แต่ก็ระบายออกไม่ได้ พูดให้แม่สามีฟังก็ไม่ได้
ผู้ป่วย : ใช่
หมอจิ๋ว : แบบนี้ รอให้แมวตาย ก่อน เดี๋ยวก็หายเองเนอะ (ถ้าแม่สามีไม่หาแมวมาเลี้ยงเพิ่มนะ)
ผู้ป่วย : มันไม่ยอมตายน่ะสิ นี่มันอยู่บ้านนี้มาเกือบ20ปี แล้ว
หมอจิ๋ว : แต่ อายุขัยหมาแมว มันไม่เกิน 20ปี นะแสดงว่ามันอีกไม่นานแล้ว
ผู้ปวย : ก็แม่เลี้ยงมันดีจะตาย ประคบประหงมยิ่งกว่าลูกอีก ส่วนแม่แกเองก็ดูแล้สุขภาพ วันๆกินแต่ข้าวไรซ์เบอรี่ กับผัก ปลา ออกกำลังกายวันละ30นาที ตอนนี้แก80แล้ว คนข้างบ้านบอกว่าแกน่าจะไม่นาน แต่หนูเถียงเลยว่า แกคงอยู่เป็น100ปี
หมอจิ๋ว : งั้น ถ้าเป็นผมนะ หายาดม อัดเข้าไปสองรูจมูกเลย หรือวิควาเปอร์รัพทาจมูกไว้เลย เวลาเดินผ่านประตู
ผู้ป่วย : เคยทำแล้ว แต่ ทานานๆ แล้วแสบจมูก
หมอจิ๋ว : งั้น อมขิงสด หรือ ทาน้ำมันงาสิ จะได้หอมๆ
ผู้ปวย : อึ้ย
หมอจิ๋ว : แล้วไม่หาทางให้แมวมันออกไปจากบ้านเหรอ เช่นเวลาเปิดประตูบ้าน ไม่แง้มให้มันออกไปเหรอ (กลับมาล็อคประตูเลย)
ผู้ปวย : พอแม่สามีกลับมาไม่เจอเดี๋ยวก็โวยอีก แถมเวลาเปิดประตูให้มันออก มันเดินเวียนอยู่แค่หน้าบ้าน มันไม่ไปไหน
หมอจิ๋ว : งั้น คงต้องรอให้แมวมันตายก่อน ถึงจะหายเนอะ
ผู้ปวย : ค่ะ
สรุป แก้ปัญหาให้คนไข้มิได้ ใครมีไอเดียดีๆ เสนอมามั่งสิ