มาแชร์ประสพการณ์การเที่ยวฝรั่งเศสแบบเช่ารถขับจากสนามบิน ใช้รถยนต์ตลอดการเดินทาง โดยไม่ใช้ระบบขนส่งอื่นๆเลย
*** เน้นเรื่องการหาที่จอดรถในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ
เนื่องจากเคยมาหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ เพราะต้องการเที่ยวฝรั่งเศส แต่ด้วยเหตุผลที่เริ่มอายุมากขึ้น ไม่อยากลากกระเป๋าเดินทางต่อรถไฟ อีกทั้ง
ได้ยินกิติศัพท์เรื่องการเจอกับแก๊งส์มิจฉาชีพตามรถไฟฟ้า (เพื่อนผมกับรุ่นน้องผมไปเที่ยวมา เจอดีทั้งคู่เลยครับบนรถไฟ)
ประกอบกับต้องการไปมองแซงมิเชลด้วย เลยตัดสินใจเช่ารถ แต่พบว่าข้อมูลการขับรถมีค่อนข้างน้อย เลยอยากแชร์เรื่องราว
การขับรถ ความยากง่ายในการใช้รถครั้งนี้ครับ
รถที่ใช้ - จองผ่าน AVIS ในราคา 378 ยูโร เป็น Peugeot 308 แต่วันรับรถจริงๆโดนกล่อมให้ซื้อประกันอีกวันละ 20 ยูโร แต่
เบ็ตเสร็จจ่ายจริงไป 484 ยูโร โดยใช้ประกันแบบ Full คือ ไม่ต้องสนใจว่าจะชนอะไร รถเป็นยังไง แต่ต้องคืนในสภาพน้ำมัน
Full tank รวมเช่ารถ 8 วัน
การรับรถ - เนื่องจากสายการบินที่ใช้ เครื่องจอดที่ CDG Terminal 2E จึงไปรับรถที่บริเวณรถเช่าของ Terminal 2ABCD
คือจุดที่อยู่ระหว่าง Terminal ทั้ง 4 อันนี้นั่นเอง รับรถเสร็จ ขับรถไปมุ่งหน้าไปยังเมือง Rouen ผมพักที่นี่ 1 คืน วันต่อมาขับรถไปมองแซงมิเชล
กลับมาพักที่เมือง Cean หลังจากนั้นมาเที่ยวที่แวร์ซาย พักอยู่แถวๆพระราชวัง แล้วมุ่งหน้าเข้าปารีส อยู่ที่ปารีสอีก 4 วัน
การนำทาง - ผมอาศัย GPS ในการนำทาง โดยผมใช้ Google map โดย Download offline map ไว้ก่อนแล้วตั้งแต่เมืองไทย
แต่โทรศัพท์ใช้ sim 12 fly ใส่ไปด้วยเพื่ออัพเดทสภาวะรถติดต่างๆ โดยต้องมีคนขับคนนึงและอีกคนอ่านแผนที่ให้ เพราะถ้าใช้คนเดียว
ตั้งค่าแล้วขับตาม น่าจะไม่ไหว เพราะถนนมีความซับซ้อนมาก ต้องมีคนที่อ่านแผนที่ได้คอยดูแผนที่แล้วคอยบอกทางด้วย จะดีกว่า
การขับรถระหว่างเมือง - จากสนามบินเมื่อต้องขับเข้าไฮเวย์จะทำความเร็วได้ค่อนข้างมาก ไฮเวย์ที่นี่มีการเก็บเงินเป็นระยะตลอดทาง
การผ่านด่านเก็บเงิน - เมื่อขับถึงจุดเก็บเงินลักษณะคล้ายทางด่วนบ้านเรา ให้เลือกดูที่สัญลักษณ์ด้านบน ที่เห็นจะแบ่งออกเป็น 3 แบบคือสัญลักษณ์รูปตัว t เล็ก นั่นคือช่องสำหรับรถที่มีบัตร์คล้ายๆ easy pass ที่สามารถตัดเงินไปได้เลย ซึ่งเราไม่มี ก็ห้ามเข้าช่องนั้น อีก 2 แบบคือเป็นรูปบัตรเครดิต และรูปเงินสด สามารถเลือกเข้าได้เลย ถ้าเลือกเข้าช่องบัตรเครดิตร ก็จะพบกับตู้จ่ายเงินหน้าตาแบบนี้
ให้สอดบัตรเครดิตรเข้าไปในช่องดังรูปเลยครับ เครื่องจะใช้เวลาอ่านแปปเดียวก็จะคืนบัตรมา พร้อมทั้งบอกจำนวนเงินที่จ่ายไป กรณีใช้บัตรเครดิตรไทยส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ แต่ก็มีบางตู้เหมือนกันที่ไม่สามารถใช้ได้ แนะนำให้เตรียมบัตรเผื่อไปหลายๆใบ ปกติผมใช้ของ SCB master card เป็นหลัก แต่ก็มีบางตู้ที่ใช้ไม่ได้ ผมจะใช้ UOB visa อีกใบใส่ไปแทนซึ่งจะผ่านได้ทุกครั้งครับ
อีกกรณีถ้าเลือกเข้าช่องใช้เงินสด ก็จะมีพนักงานเก็บเงินและทอนเงินให้เราตามปกติเลยครับ ผมให้แบงค์ 50 Euro ทั้งๆที่จ่ายแค่ 3 Euro เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ยิ้มแย้มแจ่มใสดีครับ
ปัญหาใหญ่สุดของการเช่ารถขับนั่นคือ การหาที่จอดรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหาที่จอดในเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยว แต่ตอนที่ผมไปก็ไม่ได้หายากมากหรือไม่มีที่จอดครับ จุดแรกที่ไปคือเมืองรูออง ผมใช้วิธีคือขับรถไปถึงจุดที่ต้องการจะเที่ยว หลังจากนั่นก็มองหาที่จอดแถวนั้นเลยครับ ริมถนนส่วนใหญ่จะจอดได้ โดยจะมีสัญลักษณ์ที่พื้นเป็นบล๊อกๆสีขาว แล้วจะมีตัวอักษรเขียนไว้ข้างๆว่า PAY นั่นคือจอดได้ครับ จุดที่ห้ามจอดจะมีเส้นสีเหลืองกากบาทไว้ อีกจุดคือเป็นรูปสัญลักษณ์รถเข็น นั้นคือที่จอดสำหรับคนพิการ ก็ห้ามจอดครับ ถ้าจอดริมถนน เมื่อจอดได้แล้ว ก็ให้มองหาตู้หยอดเหรียญครับ ซึ่งจะมีอยู่ใกล้ๆที่จอดทุกแห่ง เมื่อเจอตู้ก็ให้เลือกภาษาอังกฤษก่อนครับ แล้วเลือกประเภทผู้ใช้รถ แล้วก็กรอกทะเบียนรถ แล้วให้กดจำนวนชั่วโมงที่ต้องการจอดครับ
เมื่อเลือกได้แล้วก็ใส่บัตรเครดิตรลงในช่อง เมื่อบัตรอนุมัติ เราก็จะได้บัตรคืนพร้อมกับกระดาษสีขาว เอาไว้เสียบที่หน้ารถครับ (เสียบไว้ด้านในนะครับ) ถ้าเราเผลอลืม ไม่ได้จ่ายเงินแล้วเสียบกระดาษไว้ จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยตรวจครับ หรือถ้าเรากลับมาไม่ทันตามเวลาที่เราระบุไว้ ถ้าจนท ตรวจเจอก็จะโดนปรับเช่นกันครับ ส่วนใหญ่การจอดริมถนนจะจอดได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงครับ
ถ้าบังเอิญที่จอดริมถนนไม่มี ก็สามารถใช้บริการที่จอดของเอกชนได้ครับ ให้มองหาสัญลักษณ์ P แล้วขับตามไปเลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดที่ลงไปในชั้นใต้ดิน
ราคาค่าจอด จะเพิ่มขึ้นทุกๆ 15 นาที ค่าจอดโดยมากจะแพงพอสมควร แล้วแต่สถานที่ครับ
ที่จอดรถบริเวณมองแซงมิเชล
เมื่อขับมาถึงมองแซงมิเชล ให้ขับตามป้าย parking ไปเรื่อยๆครับ จะเจอจุดจอดรถที่แบ่งออกเป็นล๊อกๆตามตัวเลข ยิ่งตัวเลขน้อย ก็จะยิ่งเดินน้อยลงครับ แต่ล๊อกแรกๆจะเป็นของผู้พักโรงแรม จำได้ว่าที่จอดสำหรับรถทั่วไปเริ่มจากล๊อกที่ 6 ครับ กดปุ่มรับบัตรก่อนทางเข้า เมื่อเข้าไปจอดเสร็จก็เดินไปขึ้นชัตเติลบัสฟรีนั่งไปลงใกล้ๆวิหารได้เลยครับ (แนะนำให้นั่งรถอย่าเดินไปนะครับ มันไกลมาก ผมเดินมาแล้ว เมื่อชัตเติลบัสมาส่ง ยังไงก็ต้องเดินต่อไปอยู่ดีครับ) เมื่อเที่ยวเสร็จแล้วก็กลับมาแถวบริเวณจอดรถ จะมีตู้จ่ายเงินอยู่ ให้เราใส่บัตรที่ได้รับมาตอนแรกเข้าไปในตู้ ตู้จะบอกจำนวนเงินที่ต้องจ่าย เราก็ใส่บัตรเครดิตรเข้าไป (ส่วนใหญ่ไม่รับเงินสดครับ) ตู้ก็จะคืนบัตรมา แล้วเราก็ไปเอารถ พอถึงทางออกก็เอาบัตรที่จ่ายเงินแล้วสอดเข้าไปที่ตู้ทางออก ไม้กันก็จะเปิดให้เราออกไปได้ครับ ระบบแบบนี้ใช้กันทุกที่ที่เป็นลานจอดแบบเสียเงินครับ
ที่จอดรถบริเวณแวร์ซายน์
สามารถขับไปจอดที่ลานด้านหน้าฝั่งซ้ายของทางเข้าพระราชวังได้เลยครับ มีที่จอดเยอะครับ ถ้ากลัวไม่มีที่พอก็ให้มาแต่เช้าครับ ที่จอดอยู่ตำแหน่ง P
ที่ผมระบุไว้เลยครับ
ที่จอดบริเวณหอไอเฟล
สามารถจอดได้ริมถนนทั้งหมด แต่ที่จอดมักจะเต็ม ตามซอยด้านข้างๆหอไอเฟล พอจะหาที่จอดได้ง่ายกว่าครับ ส่วนผมเลือกจอดที่ลานเอกชนด้านหลังเพราะเนื่องจากไม่สามารถกะเวลาเที่ยวได้เลยจอดแบบจ่ายทีหลังดีกว่าครับ ที่จอดตามที่มาร์คไว้เลยครับ
ตรงนี้มีที่จอด 2 ลานครับ เดินไปไอเฟลได้ ไม่ไกลเลยครับ
สภาพบริเวณลานจอด
ที่จอดบริเวณประตูชัย
จอดได้ริมถนนรอบที่แตกออกไปจากประตูชัยทั้งหมด และยังมีที่จอดของเอกชนอยู่รอบๆเลยครับ จอดแล้วเดินขึ้นมาแทบจะถึงประตูชัยเลยครับ
ที่จอดรถบริเวณลูฟมิวเซียม
จอดได้ตรงที่จอดของลูฟเลยครับ (Q Park) เดินขึ้นมาก็ถึงมิวเซียมเลย สะดวกมากๆ
ที่จอดรถ นอร์ทเทอร์ดาม
สามารถจอดได้ริมถนนติดแม่น้ำที่อยู่ด้านหน้าของโบสถ์ครับ ผมไปจอดมา 2 รอบก็จอดได้ทั้ง 2 วัน มีที่ว่างตลอดครับ
ที่จอดรถห้างลาฟาแยต
จอดได้ที่ห้างเลยครับ สะดวกสบาย มีที่จอดเยอะครับ เมื่อขับมาใกล้ๆจะถึงห้างจะพบสัญลักษณ์ P ทั้งสองฝั่งถนน ให้เลี้ยวเข้าไปจอดได้เลยครับ
สรุปโดยรวมคือ จุดท่องเที่ยวอื่นๆส่วนใหญ่ก็สามารถจอดได้ริมถนนทุกแห่งครับ ตามสถานที่เที่ยวสำคัญที่ผมได้ไปก็มีที่จอดได้ทุกที่ไม่มีปัญหาครับ
แต่สิ่งที่ต้องยอมรับนั่นคือ ค่าจอดรถค่อนข้างโหดพอสมควรครับ แต่ก็แลกมาซึ่งความสะดวกและหลีกเลี่ยงมิจฉาชีพตามสถานีรถไฟได้เป็นอย่างดี เท่าที่ผมไปมา 8 วันผมไม่เจอมิจฉาชีพสักคนเลย เหมาะที่จะพาผู้สูงอายุไปเที่ยว แต่คนขับต้องมีความชำนาญพอสมควรครับ
แถมท้าย การเติมน้ำมันรถ ปั้มที่นี่มีลักษณะการเติมอยู่ 3 แบบ แบบแรกคือ ใส่บัตรเครดิตรเข้าไป ใส่พิน แล้วก็เติม ซึ่งเรามักจะพบปัญหาคือบัตรเครดิตรจากของไทยจะไม่มีพิน ทำให้เราใช้บริการไม่ได้ ทำให้เราต้องใช้แบบที่ 2 คือ เดินไปที่แคชเชียร์ บอกเบอร์ตู้ที่เราจะเติม พร้อมจำนวนเงิน แล้วก็กลับมาเติมครับ ถ้าเติมแล้วเต็มถังแล้วจำนวนเงินน้อยกว่าที่จ่ายไป ก็ไปรับเงินทอนคืนที่แคชเชียร์ได้ครับ แต่ที่นี่ยังมีอีกแบบนึงซึ่งผมเพิ่งเคยเจอคือ ที่ตู้จะไม่มีจุดให้สอดบัตรใดๆเลย นั่นคือ เราสามารถยกหัวจ่ายน้ำมันแล้วเติมได้เลย พอเติมเสร็จแล้วก็ไปจ่ายที่แคชเชียร์ครับ เป็นระบบที่เชื่อใจสุดๆ แต่เค้าเขียนไว้เลยว่า ถ้าไม่ไปจ่ายจะโดนปรับ 500 ยูโร คงไม่อยากเสี่ยงใช่ไหมครับ
ปล. แนะนำห้างแห่งหนึ่งในเขต 13 ครับ เป็นห้างเดียวในทริปที่สามารถจอดรถได้ฟรี 3 ชั่วโมง มีซุปเปอร์ขนาดใหญ่ ของเยอะ มีร้านอาหารด้วยครับ แนะนำให้ไปจอดที่นี่เลยครับ ตามรูปด้านล่าง กด GPS ตามไปเลยครับ
บัตรจอดรถบางส่วนที่ได้คืนมา
หวังว่ารีวิวของผมคงพอมีประโยชน์บ้างนะครับ มีข้อสงสัยใดๆก็เขียนถามมาได้ครับ ขอบคุณครับ
แชร์ประสบการณ์ ขับรถเที่ยวมองแซงมิเชลและปารีส แบบเช่ารถขับตลอดทริป
*** เน้นเรื่องการหาที่จอดรถในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ
เนื่องจากเคยมาหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ เพราะต้องการเที่ยวฝรั่งเศส แต่ด้วยเหตุผลที่เริ่มอายุมากขึ้น ไม่อยากลากกระเป๋าเดินทางต่อรถไฟ อีกทั้ง
ได้ยินกิติศัพท์เรื่องการเจอกับแก๊งส์มิจฉาชีพตามรถไฟฟ้า (เพื่อนผมกับรุ่นน้องผมไปเที่ยวมา เจอดีทั้งคู่เลยครับบนรถไฟ)
ประกอบกับต้องการไปมองแซงมิเชลด้วย เลยตัดสินใจเช่ารถ แต่พบว่าข้อมูลการขับรถมีค่อนข้างน้อย เลยอยากแชร์เรื่องราว
การขับรถ ความยากง่ายในการใช้รถครั้งนี้ครับ
รถที่ใช้ - จองผ่าน AVIS ในราคา 378 ยูโร เป็น Peugeot 308 แต่วันรับรถจริงๆโดนกล่อมให้ซื้อประกันอีกวันละ 20 ยูโร แต่
เบ็ตเสร็จจ่ายจริงไป 484 ยูโร โดยใช้ประกันแบบ Full คือ ไม่ต้องสนใจว่าจะชนอะไร รถเป็นยังไง แต่ต้องคืนในสภาพน้ำมัน
Full tank รวมเช่ารถ 8 วัน
การรับรถ - เนื่องจากสายการบินที่ใช้ เครื่องจอดที่ CDG Terminal 2E จึงไปรับรถที่บริเวณรถเช่าของ Terminal 2ABCD
คือจุดที่อยู่ระหว่าง Terminal ทั้ง 4 อันนี้นั่นเอง รับรถเสร็จ ขับรถไปมุ่งหน้าไปยังเมือง Rouen ผมพักที่นี่ 1 คืน วันต่อมาขับรถไปมองแซงมิเชล
กลับมาพักที่เมือง Cean หลังจากนั้นมาเที่ยวที่แวร์ซาย พักอยู่แถวๆพระราชวัง แล้วมุ่งหน้าเข้าปารีส อยู่ที่ปารีสอีก 4 วัน
การนำทาง - ผมอาศัย GPS ในการนำทาง โดยผมใช้ Google map โดย Download offline map ไว้ก่อนแล้วตั้งแต่เมืองไทย
แต่โทรศัพท์ใช้ sim 12 fly ใส่ไปด้วยเพื่ออัพเดทสภาวะรถติดต่างๆ โดยต้องมีคนขับคนนึงและอีกคนอ่านแผนที่ให้ เพราะถ้าใช้คนเดียว
ตั้งค่าแล้วขับตาม น่าจะไม่ไหว เพราะถนนมีความซับซ้อนมาก ต้องมีคนที่อ่านแผนที่ได้คอยดูแผนที่แล้วคอยบอกทางด้วย จะดีกว่า
การขับรถระหว่างเมือง - จากสนามบินเมื่อต้องขับเข้าไฮเวย์จะทำความเร็วได้ค่อนข้างมาก ไฮเวย์ที่นี่มีการเก็บเงินเป็นระยะตลอดทาง
การผ่านด่านเก็บเงิน - เมื่อขับถึงจุดเก็บเงินลักษณะคล้ายทางด่วนบ้านเรา ให้เลือกดูที่สัญลักษณ์ด้านบน ที่เห็นจะแบ่งออกเป็น 3 แบบคือสัญลักษณ์รูปตัว t เล็ก นั่นคือช่องสำหรับรถที่มีบัตร์คล้ายๆ easy pass ที่สามารถตัดเงินไปได้เลย ซึ่งเราไม่มี ก็ห้ามเข้าช่องนั้น อีก 2 แบบคือเป็นรูปบัตรเครดิต และรูปเงินสด สามารถเลือกเข้าได้เลย ถ้าเลือกเข้าช่องบัตรเครดิตร ก็จะพบกับตู้จ่ายเงินหน้าตาแบบนี้
ให้สอดบัตรเครดิตรเข้าไปในช่องดังรูปเลยครับ เครื่องจะใช้เวลาอ่านแปปเดียวก็จะคืนบัตรมา พร้อมทั้งบอกจำนวนเงินที่จ่ายไป กรณีใช้บัตรเครดิตรไทยส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ แต่ก็มีบางตู้เหมือนกันที่ไม่สามารถใช้ได้ แนะนำให้เตรียมบัตรเผื่อไปหลายๆใบ ปกติผมใช้ของ SCB master card เป็นหลัก แต่ก็มีบางตู้ที่ใช้ไม่ได้ ผมจะใช้ UOB visa อีกใบใส่ไปแทนซึ่งจะผ่านได้ทุกครั้งครับ
อีกกรณีถ้าเลือกเข้าช่องใช้เงินสด ก็จะมีพนักงานเก็บเงินและทอนเงินให้เราตามปกติเลยครับ ผมให้แบงค์ 50 Euro ทั้งๆที่จ่ายแค่ 3 Euro เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ยิ้มแย้มแจ่มใสดีครับ
ปัญหาใหญ่สุดของการเช่ารถขับนั่นคือ การหาที่จอดรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหาที่จอดในเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยว แต่ตอนที่ผมไปก็ไม่ได้หายากมากหรือไม่มีที่จอดครับ จุดแรกที่ไปคือเมืองรูออง ผมใช้วิธีคือขับรถไปถึงจุดที่ต้องการจะเที่ยว หลังจากนั่นก็มองหาที่จอดแถวนั้นเลยครับ ริมถนนส่วนใหญ่จะจอดได้ โดยจะมีสัญลักษณ์ที่พื้นเป็นบล๊อกๆสีขาว แล้วจะมีตัวอักษรเขียนไว้ข้างๆว่า PAY นั่นคือจอดได้ครับ จุดที่ห้ามจอดจะมีเส้นสีเหลืองกากบาทไว้ อีกจุดคือเป็นรูปสัญลักษณ์รถเข็น นั้นคือที่จอดสำหรับคนพิการ ก็ห้ามจอดครับ ถ้าจอดริมถนน เมื่อจอดได้แล้ว ก็ให้มองหาตู้หยอดเหรียญครับ ซึ่งจะมีอยู่ใกล้ๆที่จอดทุกแห่ง เมื่อเจอตู้ก็ให้เลือกภาษาอังกฤษก่อนครับ แล้วเลือกประเภทผู้ใช้รถ แล้วก็กรอกทะเบียนรถ แล้วให้กดจำนวนชั่วโมงที่ต้องการจอดครับ
เมื่อเลือกได้แล้วก็ใส่บัตรเครดิตรลงในช่อง เมื่อบัตรอนุมัติ เราก็จะได้บัตรคืนพร้อมกับกระดาษสีขาว เอาไว้เสียบที่หน้ารถครับ (เสียบไว้ด้านในนะครับ) ถ้าเราเผลอลืม ไม่ได้จ่ายเงินแล้วเสียบกระดาษไว้ จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยตรวจครับ หรือถ้าเรากลับมาไม่ทันตามเวลาที่เราระบุไว้ ถ้าจนท ตรวจเจอก็จะโดนปรับเช่นกันครับ ส่วนใหญ่การจอดริมถนนจะจอดได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงครับ
ถ้าบังเอิญที่จอดริมถนนไม่มี ก็สามารถใช้บริการที่จอดของเอกชนได้ครับ ให้มองหาสัญลักษณ์ P แล้วขับตามไปเลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดที่ลงไปในชั้นใต้ดิน
ราคาค่าจอด จะเพิ่มขึ้นทุกๆ 15 นาที ค่าจอดโดยมากจะแพงพอสมควร แล้วแต่สถานที่ครับ
ที่จอดรถบริเวณมองแซงมิเชล
เมื่อขับมาถึงมองแซงมิเชล ให้ขับตามป้าย parking ไปเรื่อยๆครับ จะเจอจุดจอดรถที่แบ่งออกเป็นล๊อกๆตามตัวเลข ยิ่งตัวเลขน้อย ก็จะยิ่งเดินน้อยลงครับ แต่ล๊อกแรกๆจะเป็นของผู้พักโรงแรม จำได้ว่าที่จอดสำหรับรถทั่วไปเริ่มจากล๊อกที่ 6 ครับ กดปุ่มรับบัตรก่อนทางเข้า เมื่อเข้าไปจอดเสร็จก็เดินไปขึ้นชัตเติลบัสฟรีนั่งไปลงใกล้ๆวิหารได้เลยครับ (แนะนำให้นั่งรถอย่าเดินไปนะครับ มันไกลมาก ผมเดินมาแล้ว เมื่อชัตเติลบัสมาส่ง ยังไงก็ต้องเดินต่อไปอยู่ดีครับ) เมื่อเที่ยวเสร็จแล้วก็กลับมาแถวบริเวณจอดรถ จะมีตู้จ่ายเงินอยู่ ให้เราใส่บัตรที่ได้รับมาตอนแรกเข้าไปในตู้ ตู้จะบอกจำนวนเงินที่ต้องจ่าย เราก็ใส่บัตรเครดิตรเข้าไป (ส่วนใหญ่ไม่รับเงินสดครับ) ตู้ก็จะคืนบัตรมา แล้วเราก็ไปเอารถ พอถึงทางออกก็เอาบัตรที่จ่ายเงินแล้วสอดเข้าไปที่ตู้ทางออก ไม้กันก็จะเปิดให้เราออกไปได้ครับ ระบบแบบนี้ใช้กันทุกที่ที่เป็นลานจอดแบบเสียเงินครับ
ที่จอดรถบริเวณแวร์ซายน์
สามารถขับไปจอดที่ลานด้านหน้าฝั่งซ้ายของทางเข้าพระราชวังได้เลยครับ มีที่จอดเยอะครับ ถ้ากลัวไม่มีที่พอก็ให้มาแต่เช้าครับ ที่จอดอยู่ตำแหน่ง P
ที่ผมระบุไว้เลยครับ
ที่จอดบริเวณหอไอเฟล
สามารถจอดได้ริมถนนทั้งหมด แต่ที่จอดมักจะเต็ม ตามซอยด้านข้างๆหอไอเฟล พอจะหาที่จอดได้ง่ายกว่าครับ ส่วนผมเลือกจอดที่ลานเอกชนด้านหลังเพราะเนื่องจากไม่สามารถกะเวลาเที่ยวได้เลยจอดแบบจ่ายทีหลังดีกว่าครับ ที่จอดตามที่มาร์คไว้เลยครับ
ตรงนี้มีที่จอด 2 ลานครับ เดินไปไอเฟลได้ ไม่ไกลเลยครับ
สภาพบริเวณลานจอด
ที่จอดบริเวณประตูชัย
จอดได้ริมถนนรอบที่แตกออกไปจากประตูชัยทั้งหมด และยังมีที่จอดของเอกชนอยู่รอบๆเลยครับ จอดแล้วเดินขึ้นมาแทบจะถึงประตูชัยเลยครับ
ที่จอดรถบริเวณลูฟมิวเซียม
จอดได้ตรงที่จอดของลูฟเลยครับ (Q Park) เดินขึ้นมาก็ถึงมิวเซียมเลย สะดวกมากๆ
ที่จอดรถ นอร์ทเทอร์ดาม
สามารถจอดได้ริมถนนติดแม่น้ำที่อยู่ด้านหน้าของโบสถ์ครับ ผมไปจอดมา 2 รอบก็จอดได้ทั้ง 2 วัน มีที่ว่างตลอดครับ
ที่จอดรถห้างลาฟาแยต
จอดได้ที่ห้างเลยครับ สะดวกสบาย มีที่จอดเยอะครับ เมื่อขับมาใกล้ๆจะถึงห้างจะพบสัญลักษณ์ P ทั้งสองฝั่งถนน ให้เลี้ยวเข้าไปจอดได้เลยครับ
สรุปโดยรวมคือ จุดท่องเที่ยวอื่นๆส่วนใหญ่ก็สามารถจอดได้ริมถนนทุกแห่งครับ ตามสถานที่เที่ยวสำคัญที่ผมได้ไปก็มีที่จอดได้ทุกที่ไม่มีปัญหาครับ
แต่สิ่งที่ต้องยอมรับนั่นคือ ค่าจอดรถค่อนข้างโหดพอสมควรครับ แต่ก็แลกมาซึ่งความสะดวกและหลีกเลี่ยงมิจฉาชีพตามสถานีรถไฟได้เป็นอย่างดี เท่าที่ผมไปมา 8 วันผมไม่เจอมิจฉาชีพสักคนเลย เหมาะที่จะพาผู้สูงอายุไปเที่ยว แต่คนขับต้องมีความชำนาญพอสมควรครับ
แถมท้าย การเติมน้ำมันรถ ปั้มที่นี่มีลักษณะการเติมอยู่ 3 แบบ แบบแรกคือ ใส่บัตรเครดิตรเข้าไป ใส่พิน แล้วก็เติม ซึ่งเรามักจะพบปัญหาคือบัตรเครดิตรจากของไทยจะไม่มีพิน ทำให้เราใช้บริการไม่ได้ ทำให้เราต้องใช้แบบที่ 2 คือ เดินไปที่แคชเชียร์ บอกเบอร์ตู้ที่เราจะเติม พร้อมจำนวนเงิน แล้วก็กลับมาเติมครับ ถ้าเติมแล้วเต็มถังแล้วจำนวนเงินน้อยกว่าที่จ่ายไป ก็ไปรับเงินทอนคืนที่แคชเชียร์ได้ครับ แต่ที่นี่ยังมีอีกแบบนึงซึ่งผมเพิ่งเคยเจอคือ ที่ตู้จะไม่มีจุดให้สอดบัตรใดๆเลย นั่นคือ เราสามารถยกหัวจ่ายน้ำมันแล้วเติมได้เลย พอเติมเสร็จแล้วก็ไปจ่ายที่แคชเชียร์ครับ เป็นระบบที่เชื่อใจสุดๆ แต่เค้าเขียนไว้เลยว่า ถ้าไม่ไปจ่ายจะโดนปรับ 500 ยูโร คงไม่อยากเสี่ยงใช่ไหมครับ
ปล. แนะนำห้างแห่งหนึ่งในเขต 13 ครับ เป็นห้างเดียวในทริปที่สามารถจอดรถได้ฟรี 3 ชั่วโมง มีซุปเปอร์ขนาดใหญ่ ของเยอะ มีร้านอาหารด้วยครับ แนะนำให้ไปจอดที่นี่เลยครับ ตามรูปด้านล่าง กด GPS ตามไปเลยครับ
บัตรจอดรถบางส่วนที่ได้คืนมา
หวังว่ารีวิวของผมคงพอมีประโยชน์บ้างนะครับ มีข้อสงสัยใดๆก็เขียนถามมาได้ครับ ขอบคุณครับ