เราพบทั้งจิตแพทย์(รพ.จุฬาฯ) และนักจิตวิทยาการปรึกษา(chula wellness center-เฉพาะนิสิตและบุคคลากรจุฬาฯ)

เราคิดว่า แพทย์ที่เรารักษาอยู่มีความสามารถในการรักษาโดยการจ่ายยา ซึ่งเป็นงานหลักของจิตแพทย์ และสามารถปรึกษาทำให้เราชัดเจนกับปัญหาและหาทางเลือกกับเราเองได้ แต่ภาระงานของหมอที่มากกว่า หมอเองก็รู้ว่าเราคุยกะพี่นักจิตด้วย เพราะหมอก็ตรวจที่ chula wellness center เหมือนกัน ในเคสเราระยะเวลาในการคุยแต่ละครั้งไม่นาน เหมือนคุยแค่ปัญหาที่กระทบจิตใจเราขณะนั้น ๆ แต่ก็แรงชัดจัดเต็มอยู่นะ

นักจิตวิทยาการปรึกษา ไม่รู้ว่าแนวเดียวกับจิตบำบัดที่ศูนย์สุขภาวะทางจิตของคณะจิตวิทยารึเปล่า แต่ก็ออกแนวคุยเรื่องที่เรามีปัญหาช่วงนั้นเหมือนกัน แต่คุยแต่ละครั้งนานกว่าประมาณชม.ครึ่งได้มั้ง ก็ค่อย ๆ คลี่ปมปัญหาออกมาดู มันเนิบช้า แต่ก็ฟินนนนนนนนน

หามาได้สองปีกว่าแล้ว ยังกินยาอยู่ พี่นักจิตจบเคสปิดบัญชีไปนานโข ขอให้เจอหมอที่ใช่นักจิตที่โดน

เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยนะเออ

เอาใจช่วย กอดที