จริงๆ คำว่า แบล็กลิสต์ เป็นคำที่เข้าใจผิดพูดกันไปเองครับ  
ทั้งทางบริษัทเครดิตบูโรกับแบงค์ชาติก็พยายามรณรงค์สร้างความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้องอยู่

เครดิตบูโรไม่มี แบล็กลิสต์ และไม่มีหน้าที่จัดทำ แบล็กลิสต์ ใดๆ  แต่มีหน้าที่บันทึกรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง  ตามที่สถาบันการเงินส่งมา
ในรายงานเครดิตบูโร  จะรายงานสินเชื่อและบัตรเครดิตแต่ละรายการของคุณในแต่ละเดือน  มียอดสินเชื่อคงค้างเท่าไหร่  สถานะการชำระเงินเป็นอย่างไร  ถ้าชำระล่าช้า  ในเดือนนั้นก็จะแสดงสถานะว่าชำระล่าช้า  ซึ่งก็จะมีรายละเอียดรหัสสถานะด้วย  เช่น ชำระล่าช้ามากกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน  หรือชำระล่าช้ามากกว่า 60 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน  เป็นต้น

ดังนั้น  ต่อให้ชำระล่าช้าแค่เดือนเดียว  ในเดือนนั้นๆ ก็จะขึ้นรายการว่าชำระล่าช้าครับ
ถ้าเดือนอื่นๆ ชำระปกติ  ก็ขึ้นสถานะปกติ  มีรายการของเดือนที่ชำระล่าช้าโชว์ประวัติด่างพร้อยว่าชำระล่าช้า  คาอยู่ในรายการบูโรไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะครบ 3 ปี  เพราะประวัติจะบันทึกไว้แค่ 3 ปีล่าสุดย้อนหลัง

กรณีของคุณเจ้าของกระทู้  (จากความเห็นที่ 2-1) ถ้าไปขอดูรายการในเครดิตบูโรน่าจะขึ้นแบบนี้  

เดือนที่ 1 (ไม่ได้จ่าย)   :   ชำระล่าช้าเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน
เดือนที่ 2 (จ่ายของเดือนที่ 1)   :   ชำระล่าช้าเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน
เดือนที่ 3 (จ่ายของเดือนที่ 2)   :   ชำระล่าช้าเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน
เดือนที่ 4 จ่ายของเดือนที่ 3   :  

หรือทุกเดือนอาจจะขึ้นว่า "ไม่ค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน" ก็ได้  ถ้าเป็นแบบนั้นก็โชคดีไปครับ
ขึ้นกับแนวทางของแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นๆ ว่าจะรายงานเครดิตบูโรด้วยรหัสอย่างไร  
อย่าไปยึดติดที่ตัวเลขจำนวนวันที่ครับ  มันเป็นแค่คำอธิบายรหัส code เฉยๆ  แต่ความหมายของมันคือ
ไม่ค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน = จ่ายเงินปกติ  หรือล่าช้านิดหน่อยแบบว่าลืม เลยกำหนดมาไม่กี่วัน
ชำระล่าช้าเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน = ชำระล่าช้ามา 1 งวด แต่ยังไม่เลยขนาดทบไปงวดที่สอง
ชำระล่าช้ามากกว่า 60 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน = เลยมา 2 งวดแล้ว


สรุปง่ายๆ คือ  เครดิตบูโรของแต่ละคน  ก็จะรายงานประวัติสินเชื่อและการชำระเงินของแต่ละคนไปตามจริง
มีสินเชื่ออะไรอยู่บ้าง  สินเชื่อแต่ละอันประวัติการชำระเงินในแต่ละเดือน  แต่ละงวดเป็นอย่างไร  ปกติหรือล่าช้า  หรืออยู่ระหว่างพักชำระหนี้  หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้  หรืออื่นๆ

ไม่มีการเขียนไว้ว่า  คนนี้แบล็กลิสต์  คนนี้ไม่แบล็กลิสต์   ไม่มีกำหนดว่าต้องค้างชำระกี่เดือนถึงจะแบล็กลิสต์
คือถ้างวดไหนจ่ายของงวดนั้นๆ ช้า  ก็บันทึกไว้ว่างวดนั้นชำระล่าช้า  จบ  ถ้างวดต่อไปไม่ช้าก็ลงว่าปกติ


ซึ่งการพิจารณาจะให้หรือไม่ให้สินเชื่อใหม่นั้น  อยู่ที่การพิจารณาของธนาคารหรือสถาบันการเงินครับ
ธนาคารก็เอาข้อมูลเครดิตบูโรไปดู  จะให้หรือไม่ให้ก็อยู่ที่ธนาคาร  เครดิตบูโรไม่มีสิทธิ์และไม่มีเขียนว่าคนนี้แบล็กลิสต์ห้ามให้สินเชื่อนะ
หลักเกณฑ์ของแต่ละธนาคารก็แตกต่างกันไปตามนโยบายแต่ละช่วงอีก  เช่น  หากสมัครบัตรเครดิตไป  บางธนาคาร ถ้ามีประวัติชำระล่าช้าแม้แต่ครั้งเดียวในช่วง 12 เดือนล่าสุด ก็ปัดตกเลย  บางธนาคารอาจจะถือว่าไม่เป็นไรถ้าล่าช้าไม่เกิน 1 ครั้ง  และครั้งนั้นไม่เกิน 30 วัน  เพราะถือว่าคนเราอาจจะลืมหรือเผลอเรอกันได้  แล้วธนาคารก็ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบอีก  เช่น รายได้ปัจจุบันที่อาจเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว  ถึงจะเคยชำระล่าช้าหลายครั้ง  แต่ตอนนี้ศักยภาพในการชำระหนี้เปลี่ยนไป  ก็อาจสามารถให้สินเชื่อได้ก็ได้



ตัวอย่างของรายงานเครดิตบูโรครับ  สามารถขอดูของตัวเองตามช่องทางต่างๆ ได้
จะเห็นว่ามันก็หน้าตาคล้ายๆ กับ Statement และ  ก็แค่รายงานไปว่าแต่ละงวดชำระเงินอย่างไร  ยอดคงเหลือเท่าไร