เรื่องสั้น
คน(ไม่)รักแมว
เพทาย
ผมเป็นคนไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น แมว หมา กา ไก่ นก หนู กระต่าย กระรอก ปลาตู้ ปลาอ่าง หรืออื่น ๆ ทั้งที่เป็นสัตว์เลี้ยงและไม่ใช่ แต่คนก็ยังเอามาเลี้ยง เช่น ปลาปิรันย่า หรือกิ้งก่าอีกัวน่า ไม่ใช่เพราะผมไม่รักสัตว์ แต่ผมคิดของผมว่าสัตว์ทั้งหลายนั้น มันก็รัก อิสระเสรีเหมือนเราเช่นกัน
และอีกประการหนึ่งสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่นหมาและแมว ท่านว่ามันมี อายุน้อยกว่าคน เมื่อเราเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กจนมันโตและรักมันแล้ว ต่อไปมันก็จะแก่ และเจ็บป่วย แล้วสุดท้ายก็ตาย จากไป เราก็ต้องเสียใจเศร้าโศกไปกับการป่วยเจ็บ และความตายของมันด้วย แม้จะหามาทดแทนใหม่ ไม่ช้ามันก็เป็นทำนองเดียวกันอีก ผมจึงตัดต้นเหตุด้วยการไม่เลี้ยงเสียเลย จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์
ด้วยใจจริงนั้นผมรักหมา และไม่ชอบแมว เพราะหมาแสดงออกถึงความกตัญญู รู้คุณอย่างชัดเจน แต่แมวหยิ่งไม่ง้อเจ้าของ นึกอยากจะอยู่ก็อยู่ นึกอยากจะไปก็ไป ไม่ยอมฟังคำสั่งจากผู้ใด ผมจึงแอบไปรักหมาของชาวบ้าน มีอะไรที่มันชอบก็หามาให้มันกิน จนบางตัวมันก็รักเรา
เหมือนกัน และยังได้ผูกมิตรกับเจ้าของที่เลี้ยงมันอีกด้วย เข้าทำนองที่ว่า เมื่อหมาของเธอรักเรา เธอก็จะรักเราด้วย ประมาณนั้น
แต่ผมก็หนีชะตากรรมไม่พ้น เมื่อหลายปีก่อน มีแมวด่างดำขาวมาออก ลูก ใต้กองไม้หลังบ้านผมสองตัว ตัวหนึ่งขาวตลอดตัว แต่มีดำที่ปลายหู และปลายหาง อีกตัวหนึ่ง เป็นสามสีขาวเหลืองและดำ ผมเรียกแม่มันว่าอีแหว่ง เพราะต้นคอด้านหลังขนแหว่ง ไปหย่อม หนึ่งและไม่งอกขึ้นมาแทน เรียกลูกมันว่าไอ้ขาวกับไอ้เหลือง มันพาลูกอ่อนทั้งสองตัวมาซุกซ่อน ตามซอกมุมในบ้านผม ทำสกปรก เลอะเทอะเหม็นไปหมด ไล่จากที่หนึ่งก็ไปแอบอีกที่หนึ่ง ตอนหลังผมเอาไม้กวาดฟาด ทุกครั้งที่ เจอหน้ากัน จนมันทนไม่ไหวพาลูกหนีไปอยู่ทีบ้านอื่น แล้วไม่ยอมเยี่ยมกรายมาอีกเลย ผมก็โล่งใจ ไปได้พักหนึ่ง
อยู่มาคุณป้าข้างบ้านถึงแก่กรรม แกเลี้ยงแมวไว้สองตัว สีน้ำตาลแก่ชื่อทองดำ สีขาวชื่อน้ำเงิน มันไม่มีคนเลี้ยงดูต่อจากคุณป้า จึงมาหาอาหารกินที่บ้านผม ก็จำใจต้องหาให้มันกิน เพราะทนมองตามันที่มองขอความเมตตา และเสียงร้องของมันไม่ไหว
อยู่มาก็มีแมวสีอื่น ๆ เข้ามาอาศัยกินอาหารด้วยหลายตัว ทั้งลายเสือลายเหลือง แต่ไม่ยอมมาซึ่งหน้า ชอบแอบมากินส่วนที่เหลือก้นจาน พอเห็นหน้าผมก็วิ่งหนีไป แต่ผมก็ให้เผื่อ เหลือไว้สำหรับพวกนี้เสมอ จากนั้นพอจะออกจากบ้านไปใส่บาตรตอนเช้า ก็จะมีแมววิ่งร้องขอ อาหารเข้ามาหาทุกวัน ไม่ทราบว่ามันได้ข่าวจากตัวไหน ว่าที่บ้านนี้มีอาหารอร่อย ทีแรกก็สีด่าง ขาวดำ ถัดมาก็เป็นสีเทา แล้วก็สามสีขาวเหลืองดำ หางกุดบ้างหางยาวบ้าง รวมเป็นหน้าบ้านสี่ห้าตัว ในบ้านหนึ่งตัวคือเจ้าทองดำ จนต้องเพิ่มอาหารกล่อง จากเดือนละถุงเดียวกิโลครึ่ง เป็นสองถุงสามกิโล แล้วไม่ ทันถึงเดือนก็หมดเสียก่อน
มีอยู่ตัวหนึ่งลายเสือหางขอด วิ่งหนีใครไม่รู้มาซุกอยู่ใต้พุ่มไม้เตี้ย ๆ ในสวน หน้าบ้าน ไม่ยอมให้เห็นตัว แม้เวลาหิวก็ไม่ออกมา ส่งแต่เสียงร้องเบา ๆ ผมก็ต้องเที่ยวค้นหา แล้วก็ เอาอาหารเม็ดให้กินตามเคย เจ้านี่ก็กินไม่ค่อยเป็น คอยจะกินแต่เศษอาหารที่มีหัวปลาก้างปลา แต่สุดท้ายทนหิวไม่ได้ก็ต้องยอมกิน หลายวันต่อมาจึงค่อย ๆ ออกจากพุ่มไม้ มาเดินป้วนเปี้ยน อยู่ในบ้าน แล้วก็ต้องคอยหลบเจ้าทองดำที่ถือว่าบ้านนี้เป็นของมัน แต่เจ้าตัวนี้ซึ่งผมเรียกมันว่า ไอ้กุด เป็นตัวผู้ พอเจ้าทองดำแฮ่ใส่ เจ้ากุดจะตั้งท่าสู้ เจ้าทองดำก็ต้องถอย สุดท้ายเจ้ากุดก็ได้ครองพื้นที่หน้าบ้าน เจ้าทองดำถอยไปอยู่หลังบ้าน
อยู่นานเข้าก็อดรักมันไม่ได้ เมื่อมันไม่สบายก็ต้องหายาให้กินหรือพาไปหาหมอเจ้าทองดำเคยไปหาหมอมาสองครั้ง หนแรกนั้นมันดูเหมือนจะเป็นโรคประสาท ตื่นกลัวโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีใครทำอะไรเลยก็วิ่ง เข้าไปมุดอยู่ตามใต้โต๊ะใต้เก้าอี้ เรียกให้ออกมากินอาหารก็ไม่ยอมมา ต้องใส่จานส่งไปให้กินใน ที่มืด ๆ นั้น หนหลังเป็นโรคคัน แทะตามเนื้อตัวจนถลอกปอกเปิกไปหมดทั่วทั้งตัว ทั้งสองคราว เสียเงินไปนับพัน ทั้ง ๆ ที่ผมถือว่าผมไม่ได้เลี้ยง มันมาอาศัยอยู่กินเพราะไม่มีทางจะไปเท่านั้น
แต่เจ้ากุดเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน มันก็ไม่สบายกินอาหารเม็ดแล้วก็ขยอกออกมา มีอาการ หายใจติดขัดและไอ ผมสังเกตอาการมันอยู่สองวัน เห็นน้ำลายยืดก็ทนไม่ได้ ต้องไปหาหมอเล่าอาการให้ฟัง เขาก็ให้ยาน้ำมากินสองขวด เริ่มกรอกครั้งแรกในเย็นนั้นเอง แต่ช้าไปเสียแล้ว รุ่งเช้าก็เห็นมันนอนคว่ำตัวแข็ง ขาหน้าของมันเหยียดออก มีอาการเหมือนจะ คืบคลานหนีไปให้พ้นจากความตาย ผมจึงต้องพบกับความรู้สึกที่ผมไม่อยากพบเข้าจนได้ ผมเสียใจที่ผมรักมันน้อยไป ไม่ได้อุ้มมันไปหาหมอเสียแต่แรก เหมือนเจ้าทองดำ มันจึงไม่รอด แม้ว่าผมจะรู้เท่าทัน ความทุกข์อันเกิดจากการพลัดพราก เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม ผมก็อดเสียใจไม่ได้
หลังจากเจ้ากุดตายไปได้ไม่นาน เจ้าน้ำเงินก็เข้ามายึดครองหน้าบ้านแทน แต่คราว นี้เจ้าทองดำไม่ยอม ทั้งๆที่เป็นพี่น้องคลานตามกันออกมา ผมต้องคอยห้ามการทะเลาะวิวาทอยู่เสมอ และพยายามให้กินอาหารพร้อม ๆ กัน และกินใกล้ ๆ กัน จนค่อยชินเข้า หรืออาจเป็นเพราะมันมีสายเลือดเดียวกันก็ได้ มันจึงค่อยเข้าใกล้กันได้มากขึ้นทุกที ถ้ามันสุมหัวกินอาหารจานเดียวกันได้ ผมก็จะยินดีมากทีเดียว
อยู่มาวันหนึ่งเจ้าสองตัวนี้กินอาหารยังไม่ทันอิ่ม ก็พากันถอยออกจากจาน ผมมองหาสาเหตุก็พบว่ามีแมวอีกตัวหนึ่ง ตัวโตกว่าเจ้าสองพี่น้องนั้น มีหางยาวสีดำที่ปลาย ตัวผอมกระหร่องและเปื้อนมอมแมม จนมองแทบไม่รู้ว่าเดิมเคยเป็นสีขาว มันเดินโซเซเข้ามาเหมือนไม่มีเรี่ยวแรง โดยไม่ได้สนใจเจ้าบ้าน มันก้มลงกินอาหารที่เหลืออยู่เล็กน้อยในจานอย่างหิวโหย แล้วก็กินน้ำจากขันเล็กที่วางอยู่ข้าง ๆ และส่งสายตา จากดวงตาที่ฝ้ามัว มองตรงมายังผมซึ่งกำลังจ้องดูมันอยู่เงียบ ๆ
ผมเพิ่งนึกออกว่า มันคือเจ้าขาวลูกของอีแหว่งที่หายไปนานแล้วนั่นเอง แม่กับพี่น้องของมันคงจะตายไปหมดแล้ว บ้านที่มันไปอาศัยอยู่ร่วมสิบปี คงจะเปลี่ยนเจ้าของและเขาคงจะทอดทิ้งมันแล้ว หน้าตาเนื้อตัวจึงมอมแมมดูไม่ได้ขนาดนี้ ผมหยิบอาหารในกล่องใส่ลงไปในจาน ซึ่งมันยังคงหมอบคอยอยู่ และบอกมันเบา ๆ ว่ากินเถอะลูก กินให้อิ่ม
จากนั้นความทุกข์ก็เริ่มเข้ามาเกาะกุมจิตใจของผม อีกครั้งหนึ่ง เจ้าขาวซึ่งหมดที่พึ่งแล้ว ได้หวนกลับมา หลังจากที่ไปอยู่บ้านอื่นเสียนานหนักหนา เดี๋ยวนี้มันจะมีอายุสักเท่าไร ถ้าเทียบกับอายุของคน มันคงจะกลับมาให้ผมดูแลรักษา และฝากฝังร่างกายอันเสื่อมโทรมของมันไว้กับผม อีกรายหนึ่งเป็นแน่แท้
แต่น่าแปลกที่มันยังจำบ้านเกิดของมันได้ และรู้ได้อย่างไรว่าผมยังคิดถึงมัน รวมทั้งอีแหว่งแม่มัน และเจ้าเหลืองพี่น้องของมัน อยู่จนถึงบัดนี้.
###########
คน(ไม่)รักแมว ๒๑ ม.ค.๖๑
คน(ไม่)รักแมว
เพทาย
ผมเป็นคนไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น แมว หมา กา ไก่ นก หนู กระต่าย กระรอก ปลาตู้ ปลาอ่าง หรืออื่น ๆ ทั้งที่เป็นสัตว์เลี้ยงและไม่ใช่ แต่คนก็ยังเอามาเลี้ยง เช่น ปลาปิรันย่า หรือกิ้งก่าอีกัวน่า ไม่ใช่เพราะผมไม่รักสัตว์ แต่ผมคิดของผมว่าสัตว์ทั้งหลายนั้น มันก็รัก อิสระเสรีเหมือนเราเช่นกัน
และอีกประการหนึ่งสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่นหมาและแมว ท่านว่ามันมี อายุน้อยกว่าคน เมื่อเราเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กจนมันโตและรักมันแล้ว ต่อไปมันก็จะแก่ และเจ็บป่วย แล้วสุดท้ายก็ตาย จากไป เราก็ต้องเสียใจเศร้าโศกไปกับการป่วยเจ็บ และความตายของมันด้วย แม้จะหามาทดแทนใหม่ ไม่ช้ามันก็เป็นทำนองเดียวกันอีก ผมจึงตัดต้นเหตุด้วยการไม่เลี้ยงเสียเลย จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์
ด้วยใจจริงนั้นผมรักหมา และไม่ชอบแมว เพราะหมาแสดงออกถึงความกตัญญู รู้คุณอย่างชัดเจน แต่แมวหยิ่งไม่ง้อเจ้าของ นึกอยากจะอยู่ก็อยู่ นึกอยากจะไปก็ไป ไม่ยอมฟังคำสั่งจากผู้ใด ผมจึงแอบไปรักหมาของชาวบ้าน มีอะไรที่มันชอบก็หามาให้มันกิน จนบางตัวมันก็รักเรา
เหมือนกัน และยังได้ผูกมิตรกับเจ้าของที่เลี้ยงมันอีกด้วย เข้าทำนองที่ว่า เมื่อหมาของเธอรักเรา เธอก็จะรักเราด้วย ประมาณนั้น
แต่ผมก็หนีชะตากรรมไม่พ้น เมื่อหลายปีก่อน มีแมวด่างดำขาวมาออก ลูก ใต้กองไม้หลังบ้านผมสองตัว ตัวหนึ่งขาวตลอดตัว แต่มีดำที่ปลายหู และปลายหาง อีกตัวหนึ่ง เป็นสามสีขาวเหลืองและดำ ผมเรียกแม่มันว่าอีแหว่ง เพราะต้นคอด้านหลังขนแหว่ง ไปหย่อม หนึ่งและไม่งอกขึ้นมาแทน เรียกลูกมันว่าไอ้ขาวกับไอ้เหลือง มันพาลูกอ่อนทั้งสองตัวมาซุกซ่อน ตามซอกมุมในบ้านผม ทำสกปรก เลอะเทอะเหม็นไปหมด ไล่จากที่หนึ่งก็ไปแอบอีกที่หนึ่ง ตอนหลังผมเอาไม้กวาดฟาด ทุกครั้งที่ เจอหน้ากัน จนมันทนไม่ไหวพาลูกหนีไปอยู่ทีบ้านอื่น แล้วไม่ยอมเยี่ยมกรายมาอีกเลย ผมก็โล่งใจ ไปได้พักหนึ่ง
อยู่มาคุณป้าข้างบ้านถึงแก่กรรม แกเลี้ยงแมวไว้สองตัว สีน้ำตาลแก่ชื่อทองดำ สีขาวชื่อน้ำเงิน มันไม่มีคนเลี้ยงดูต่อจากคุณป้า จึงมาหาอาหารกินที่บ้านผม ก็จำใจต้องหาให้มันกิน เพราะทนมองตามันที่มองขอความเมตตา และเสียงร้องของมันไม่ไหว
อยู่มาก็มีแมวสีอื่น ๆ เข้ามาอาศัยกินอาหารด้วยหลายตัว ทั้งลายเสือลายเหลือง แต่ไม่ยอมมาซึ่งหน้า ชอบแอบมากินส่วนที่เหลือก้นจาน พอเห็นหน้าผมก็วิ่งหนีไป แต่ผมก็ให้เผื่อ เหลือไว้สำหรับพวกนี้เสมอ จากนั้นพอจะออกจากบ้านไปใส่บาตรตอนเช้า ก็จะมีแมววิ่งร้องขอ อาหารเข้ามาหาทุกวัน ไม่ทราบว่ามันได้ข่าวจากตัวไหน ว่าที่บ้านนี้มีอาหารอร่อย ทีแรกก็สีด่าง ขาวดำ ถัดมาก็เป็นสีเทา แล้วก็สามสีขาวเหลืองดำ หางกุดบ้างหางยาวบ้าง รวมเป็นหน้าบ้านสี่ห้าตัว ในบ้านหนึ่งตัวคือเจ้าทองดำ จนต้องเพิ่มอาหารกล่อง จากเดือนละถุงเดียวกิโลครึ่ง เป็นสองถุงสามกิโล แล้วไม่ ทันถึงเดือนก็หมดเสียก่อน
มีอยู่ตัวหนึ่งลายเสือหางขอด วิ่งหนีใครไม่รู้มาซุกอยู่ใต้พุ่มไม้เตี้ย ๆ ในสวน หน้าบ้าน ไม่ยอมให้เห็นตัว แม้เวลาหิวก็ไม่ออกมา ส่งแต่เสียงร้องเบา ๆ ผมก็ต้องเที่ยวค้นหา แล้วก็ เอาอาหารเม็ดให้กินตามเคย เจ้านี่ก็กินไม่ค่อยเป็น คอยจะกินแต่เศษอาหารที่มีหัวปลาก้างปลา แต่สุดท้ายทนหิวไม่ได้ก็ต้องยอมกิน หลายวันต่อมาจึงค่อย ๆ ออกจากพุ่มไม้ มาเดินป้วนเปี้ยน อยู่ในบ้าน แล้วก็ต้องคอยหลบเจ้าทองดำที่ถือว่าบ้านนี้เป็นของมัน แต่เจ้าตัวนี้ซึ่งผมเรียกมันว่า ไอ้กุด เป็นตัวผู้ พอเจ้าทองดำแฮ่ใส่ เจ้ากุดจะตั้งท่าสู้ เจ้าทองดำก็ต้องถอย สุดท้ายเจ้ากุดก็ได้ครองพื้นที่หน้าบ้าน เจ้าทองดำถอยไปอยู่หลังบ้าน
อยู่นานเข้าก็อดรักมันไม่ได้ เมื่อมันไม่สบายก็ต้องหายาให้กินหรือพาไปหาหมอเจ้าทองดำเคยไปหาหมอมาสองครั้ง หนแรกนั้นมันดูเหมือนจะเป็นโรคประสาท ตื่นกลัวโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีใครทำอะไรเลยก็วิ่ง เข้าไปมุดอยู่ตามใต้โต๊ะใต้เก้าอี้ เรียกให้ออกมากินอาหารก็ไม่ยอมมา ต้องใส่จานส่งไปให้กินใน ที่มืด ๆ นั้น หนหลังเป็นโรคคัน แทะตามเนื้อตัวจนถลอกปอกเปิกไปหมดทั่วทั้งตัว ทั้งสองคราว เสียเงินไปนับพัน ทั้ง ๆ ที่ผมถือว่าผมไม่ได้เลี้ยง มันมาอาศัยอยู่กินเพราะไม่มีทางจะไปเท่านั้น
แต่เจ้ากุดเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน มันก็ไม่สบายกินอาหารเม็ดแล้วก็ขยอกออกมา มีอาการ หายใจติดขัดและไอ ผมสังเกตอาการมันอยู่สองวัน เห็นน้ำลายยืดก็ทนไม่ได้ ต้องไปหาหมอเล่าอาการให้ฟัง เขาก็ให้ยาน้ำมากินสองขวด เริ่มกรอกครั้งแรกในเย็นนั้นเอง แต่ช้าไปเสียแล้ว รุ่งเช้าก็เห็นมันนอนคว่ำตัวแข็ง ขาหน้าของมันเหยียดออก มีอาการเหมือนจะ คืบคลานหนีไปให้พ้นจากความตาย ผมจึงต้องพบกับความรู้สึกที่ผมไม่อยากพบเข้าจนได้ ผมเสียใจที่ผมรักมันน้อยไป ไม่ได้อุ้มมันไปหาหมอเสียแต่แรก เหมือนเจ้าทองดำ มันจึงไม่รอด แม้ว่าผมจะรู้เท่าทัน ความทุกข์อันเกิดจากการพลัดพราก เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม ผมก็อดเสียใจไม่ได้
หลังจากเจ้ากุดตายไปได้ไม่นาน เจ้าน้ำเงินก็เข้ามายึดครองหน้าบ้านแทน แต่คราว นี้เจ้าทองดำไม่ยอม ทั้งๆที่เป็นพี่น้องคลานตามกันออกมา ผมต้องคอยห้ามการทะเลาะวิวาทอยู่เสมอ และพยายามให้กินอาหารพร้อม ๆ กัน และกินใกล้ ๆ กัน จนค่อยชินเข้า หรืออาจเป็นเพราะมันมีสายเลือดเดียวกันก็ได้ มันจึงค่อยเข้าใกล้กันได้มากขึ้นทุกที ถ้ามันสุมหัวกินอาหารจานเดียวกันได้ ผมก็จะยินดีมากทีเดียว
อยู่มาวันหนึ่งเจ้าสองตัวนี้กินอาหารยังไม่ทันอิ่ม ก็พากันถอยออกจากจาน ผมมองหาสาเหตุก็พบว่ามีแมวอีกตัวหนึ่ง ตัวโตกว่าเจ้าสองพี่น้องนั้น มีหางยาวสีดำที่ปลาย ตัวผอมกระหร่องและเปื้อนมอมแมม จนมองแทบไม่รู้ว่าเดิมเคยเป็นสีขาว มันเดินโซเซเข้ามาเหมือนไม่มีเรี่ยวแรง โดยไม่ได้สนใจเจ้าบ้าน มันก้มลงกินอาหารที่เหลืออยู่เล็กน้อยในจานอย่างหิวโหย แล้วก็กินน้ำจากขันเล็กที่วางอยู่ข้าง ๆ และส่งสายตา จากดวงตาที่ฝ้ามัว มองตรงมายังผมซึ่งกำลังจ้องดูมันอยู่เงียบ ๆ
ผมเพิ่งนึกออกว่า มันคือเจ้าขาวลูกของอีแหว่งที่หายไปนานแล้วนั่นเอง แม่กับพี่น้องของมันคงจะตายไปหมดแล้ว บ้านที่มันไปอาศัยอยู่ร่วมสิบปี คงจะเปลี่ยนเจ้าของและเขาคงจะทอดทิ้งมันแล้ว หน้าตาเนื้อตัวจึงมอมแมมดูไม่ได้ขนาดนี้ ผมหยิบอาหารในกล่องใส่ลงไปในจาน ซึ่งมันยังคงหมอบคอยอยู่ และบอกมันเบา ๆ ว่ากินเถอะลูก กินให้อิ่ม
จากนั้นความทุกข์ก็เริ่มเข้ามาเกาะกุมจิตใจของผม อีกครั้งหนึ่ง เจ้าขาวซึ่งหมดที่พึ่งแล้ว ได้หวนกลับมา หลังจากที่ไปอยู่บ้านอื่นเสียนานหนักหนา เดี๋ยวนี้มันจะมีอายุสักเท่าไร ถ้าเทียบกับอายุของคน มันคงจะกลับมาให้ผมดูแลรักษา และฝากฝังร่างกายอันเสื่อมโทรมของมันไว้กับผม อีกรายหนึ่งเป็นแน่แท้
แต่น่าแปลกที่มันยังจำบ้านเกิดของมันได้ และรู้ได้อย่างไรว่าผมยังคิดถึงมัน รวมทั้งอีแหว่งแม่มัน และเจ้าเหลืองพี่น้องของมัน อยู่จนถึงบัดนี้.
###########