อะ...เห็นชื่อกระทู้แบบนี้ หลายคนอาจจะแอบเบ้ปากว่า ป้านี่มาอีกแระ ... จะไปรู้อะไรกับเค้านักหนา...เรื่องที่เหยียบ ๆ ปิด ๆ เม้ม ๆ กันไว้น่ะ ป้าไปรู้ ไปได้ยินอะไรมาได้ยังไง ฮึ ?
อุปมาแบบนี้ดีกว่า
ถ้าโสนน้อยเรือนงามเนี่ย ถือกำเนิดมาพร้อมเรือนงามหลังน้อยทำด้วยไม้โสน ธาราสินธุ์เองตอนถือกำเนิดก็น่าจะมีเผือกติดมือออกมาด้วย ค่าที่บังเอิญ มักจะมีใครต่อใครให้เกียรติมาเล่าอะไรต่อมิอะไรให้ฟังมากมาย
ดิฉันก็อยากจะแชร์เรื่องที่คิดว่า เล่าต่อแล้ว ถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทำให้ใครบางคนฉุกคิดอีกมุมหนึ่งขึ้นมาได้ หรือ ได้รับรู้ว่า คุณไม่ใช่คนเดียวหรอกที่ทุกข์กับเหตุการณ์ทำนองนี้ แล้วถ้าคน ๆ นั้นมีกำลังใจที่จะเดินต่อไปด้วยสุขภาพจิตที่ดีขึ้นมาแม้เพียงเล็กน้อย เท่านั้น ดิฉันก็ถือว่า ความ “ขี้เล่า” ของดิฉันมีประโยชน์บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วล่ะค่ะ
วันก่อน โทร.คุยเรื่องธุระกับเพื่อนสนิทสมัยมหาลัยคนหนึ่ง คุยเสร็จ รู้สึกว่าเสียงเพื่อนเศร้า ๆ หงอย ๆ แปลก ๆ เลยถามไปว่า
“เฮ้ย...มีไรป่าว ดูเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจ”
เท่านั้นล่ะคับ ท่านผู้ชม ทำนบความทุกข์ก็แตกท่วมท้นไหลบ่ามาทางสายโทรศัพท์
เพื่อนดิฉันคนนี้เป็นคนทำงานเก่งและสวยนะคะ
สมมติชื่อมันเอ้ยเพื่อนว่า เบียร์ก็แล้วกัน ชื่อสมมติสายเมา ๆ น่าจะถูกใจเธอ (ฮา)
เบียร์เป็นคนหน้าตาดี สวยน่ารักแบบที่คิดว่าผู้ชายไทยส่วนใหญ่จะชอบเลยล่ะค่ะ คือ แนวคาวาอี้ ผิวขาวเนียนละเอียด (ขาวรอง ๆ จากฟ่านปิงปิงมาไม่กี่เบอร์) ตาโต คุยสนุก คล่องแคล่ว แต่งตัวดี รู้จักพูดคุย รู้จักที่เที่ยว
เพื่อนปรับทุกข์มาว่า “กลุ้มใจเรื่อง ***** (ชื่อแฟน) ชั้นไม่รู้จะเอายังไงดี พูดตรง ๆ นะ ชั้นก็เหนื่อยที่จะมานั่งหา นั่งเริ่มต้นใหม่แล้วนะ ปีนี้ ชั้นก็อายุ 42 แล้ว นี่ก็อุตส่าห์ลดสเป็คลงมาตั้งเยอะ เลือกที่มันเครซี่ชั้นมาก ๆ แล้วนะ แmงก็ยังอุตส่าห์ไปเที่ยวโคโยตี้ ยังมีเงินเหลือไปกินอะไรกับสาว”
อ้าว...ถึงตอนนี้ ร้อยละเก้าสิบของสาวสตรองแห่งพันทิป อาจจะเบ้ปากแล้วอยากแนะนำว่า
“เลิกไปเล้ย จะเก็บไว้ทำไม”
เฮ้อ...
เหตุผลซื่อ ๆ ที่เพื่อนบอกคือ
1. ตัวเองอายุมากแล้ว เหนื่อยที่จะไปหา กลัวว่าหาแล้วจะเจอเหมือนเดิม และสาวสตรองอย่างเพื่อนก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า ยังไม่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียวได้ อยากได้คู่ทุกข์คู่ยากดูแลกันไปตอนแก่เฒ่า อยากได้ companionship อยากมีคนเป็นเพื่อนจูงมือดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว ทำอะไรต่อมิอะไรด้วยกันไป
ถึงตอนนี้ คนฟังก็อาจจะสงสัยอีกว่า “ตอนนี้ ยังไม่แก่เฒ่า ผู้ชายยังนอกใจ แล้วตอนแก่เฒ่าจริง ๆ มันเอ๊ยเค้า ยังจะอยู่เรอะ ?” ซึ่งนั่นก็จะนำไปสู่เหตุผลข้อต่อไปที่เพื่อนว่า
2. ข้อดี ผู้ชายก็มาก ตอนอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายเอาใจใส่ดูแลดีมาก เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ดูแลใกล้ชิด ชนิดที่ว่า จะไปบ้านผู้ชายที่ต่างจังหวัด ห้องของผู้ชายไม่มีน้ำอุ่น ผู้ชายโทร.สั่งพี่สาวเลยว่า เพื่อนดิฉันจะไป พี่สาวช่วยไปหาเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดด่วนเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวเบียร์ จะไม่มีน้ำอุ่นอาบ
3. หลงรักลูกอ้อนผู้ชาย ใครว่า ผู้ชายแพ้ทางผู้หญิงขี้อ้อน ผู้หญิงก็แพ้ทางผู้ชายขี้อ้อนจ้ะ บอกเลย
ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้คือ อดีตสามีเพื่อนคนนี้ก็ขี้อ้อนเหมือนกัน อ้อนชนิดที่ว่า ทุกเช้าจะต้องเข้ามาขอกอดแล้วบอกว่า
“กอดหน่อย กอดหน่อย ไหนบอกหน่อย รักเค้าไหม”
อดีตสามีเบียร์ เป็นบุคลากรในวงการแพทย์ เป็นดุษฎีบัณฑิต (แบบเรียนได้ปริญญา ไม่ใช่แบบกิตติมศักดิ์) เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนแพทย์ และมาจากครอบครัวที่ทั้งพ่อแม่ก็อยู่ในแวดวงเดียวกันหมด เป็นคนเก่ง ฉลาด ฐานะ และชาติตระกูลดี
เพื่อนเล่าแบบพูดจาประสาซื่อว่า “คิดว่าแต่งงานกันแล้ว ก็น่าจะมั่นใจ เชื่อใจในกันและกันได้แล้ว”
ที่ไหนได้ นอนอยู่ข้าง ๆ กัน อีกฝ่ายเขย่าทินเดอร์ แชทโดยเพื่อนผู้แสนดีของดิฉันก็ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า สามีแชทอะไรกับใครที่ไหนอยู่
ตอนเบียร์แท้งลูกนอนอยู่โรงพยาบาล คุณสามีก็อิดออดที่จะมาเฝ้า มาเยี่ยม ต้องออกแรงโทรตามให้มา (ทั้งที่อยู่ใกล้กับที่ทำงานตัวเองมาก) แล้วมาถึง ก็เอาแต่มาพิมพ์แชทตลอดเวลา
ท้ายสุด ... เพื่อนดิฉันก็ขอหย่าเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่เอาอะไรเลยสักอย่าง กระทั่ง แหวนเพชรที่แม่สามีให้ ก็คืนหมด
เบียร์เล่าว่า เลิกเลยดีกว่า เพราะคิดว่า เลิกไปตอนที่ยังสาวพอที่จะเริ่มต้นใหม่ มีคนสนใจ ดีกว่าอยู่ทนการนอกใจกันไปจนหมดสภาพ
ตอนนั้น ถ้าจะไปเริ่มกับใครก็คงยากแล้ว
จากหมอ ก็มาเป็นแฟนคนปัจจุบัน โพรไฟล์ต่ำกว่าเบียร์ (ถ้าจะเอาเรื่องการหาเงินเป็นตัวตั้งนะคะ) ก็ดั๊นมาเจออะไรคล้าย ๆ กัน แต่พ่อหนุ่มคนนี้อาจจะดีกว่าหน่อย ตรงที่ไปเที่ยวโคโยตี้ หลีสาว เปย์กาแฟอย่างเดียว (น่าจะ)ยังไม่มีอะไรเลยเถิดไปไหนต่อไหนอย่างพ่อหมอ เพื่อนอิชั้นก็ถือว่ายังจะพอทนอกไหม้ไส้ขมไปได้บ้าง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทนถึงเมื่อไร)
ดิฉันก็เลยอดมีคำถามตัวโตในหัวไม่ได้ว่า “ทำไมผู้ชายที่น่ารัก ดูแลเอาใจใส่ดี(เหลือเกิน) ขี้อ้อน เห็นเราเป็นที่หนึ่งในโลกของเค้า ถึงนอกใจได้ (หน้าตาเฉย) ก็ตอนเช้ายังเพิ่งอ้อนอยู่เล้ยยยยยยยย”
อีกกรณีหนึ่ง เป็นเคสที่ดิฉันเคยเล่าไว้ในกระทู้เก่าก่อนนู้นนะคะ พี่ผู้ชายไปต่างประเทศ และคงจะซัมธิงกับคุณเลขาฯมือที่สาม พี่ผู้หญิงระแคะระคายและเริ่มมีปากเสียงกัน
พี่ผู้ชาย (ผู้เคยแสนดี รักเทิดทูนพี่ผู้หญิงมาก ถึงขนาดเวลาเขียนหนังสือชิ้นสำคัญในชีวิตตัวเอง ยังอุตส่าห์แทรกคำสรรเสริญชื่นชมขอบคุณพี่ผู้หญิง ภรรยาอันเป็นที่รัก ผู้แสนประเสริฐอยู่เคียงข้างกันเสมอมา) บอกพี่ผู้หญิงว่า “ทะเลาะกันบ่อย เดี๋ยวจดหย่าแก้เคล็ดดีกว่า แล้วค่อยมาจดกันใหม่” หลังจากจดหย่ากันตอนเช้า ตอนบ่าย พี่ผู้ชายจดใหม่กับคุณมือที่สามเลยค่ะ
ผ่านไปหลายสิบปี อดีตภรรยาหลวง ยังไม่ฟื้นจากความเจ็บช้ำ พึมพำเล่าให้รุ่นน้องที่รู้เรื่องครั้งกระโน้นฟังว่า “เค้าหลอกพี่ไปหย่า พี่ผิดอะไร”
เล่าเรื่องการทรยศ หักหลัง ของคู่รัก (ที่ทำได้แบบหวาน ๆ) และเมื่อรู้แล้ว คุณ (ผู้ถูกทรยศ) จะมีชีวิตต่อไปอย่างไร ?
อุปมาแบบนี้ดีกว่า
ถ้าโสนน้อยเรือนงามเนี่ย ถือกำเนิดมาพร้อมเรือนงามหลังน้อยทำด้วยไม้โสน ธาราสินธุ์เองตอนถือกำเนิดก็น่าจะมีเผือกติดมือออกมาด้วย ค่าที่บังเอิญ มักจะมีใครต่อใครให้เกียรติมาเล่าอะไรต่อมิอะไรให้ฟังมากมาย
ดิฉันก็อยากจะแชร์เรื่องที่คิดว่า เล่าต่อแล้ว ถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทำให้ใครบางคนฉุกคิดอีกมุมหนึ่งขึ้นมาได้ หรือ ได้รับรู้ว่า คุณไม่ใช่คนเดียวหรอกที่ทุกข์กับเหตุการณ์ทำนองนี้ แล้วถ้าคน ๆ นั้นมีกำลังใจที่จะเดินต่อไปด้วยสุขภาพจิตที่ดีขึ้นมาแม้เพียงเล็กน้อย เท่านั้น ดิฉันก็ถือว่า ความ “ขี้เล่า” ของดิฉันมีประโยชน์บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วล่ะค่ะ
วันก่อน โทร.คุยเรื่องธุระกับเพื่อนสนิทสมัยมหาลัยคนหนึ่ง คุยเสร็จ รู้สึกว่าเสียงเพื่อนเศร้า ๆ หงอย ๆ แปลก ๆ เลยถามไปว่า
“เฮ้ย...มีไรป่าว ดูเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจ”
เท่านั้นล่ะคับ ท่านผู้ชม ทำนบความทุกข์ก็แตกท่วมท้นไหลบ่ามาทางสายโทรศัพท์
เพื่อนดิฉันคนนี้เป็นคนทำงานเก่งและสวยนะคะ
สมมติชื่อมันเอ้ยเพื่อนว่า เบียร์ก็แล้วกัน ชื่อสมมติสายเมา ๆ น่าจะถูกใจเธอ (ฮา)
เบียร์เป็นคนหน้าตาดี สวยน่ารักแบบที่คิดว่าผู้ชายไทยส่วนใหญ่จะชอบเลยล่ะค่ะ คือ แนวคาวาอี้ ผิวขาวเนียนละเอียด (ขาวรอง ๆ จากฟ่านปิงปิงมาไม่กี่เบอร์) ตาโต คุยสนุก คล่องแคล่ว แต่งตัวดี รู้จักพูดคุย รู้จักที่เที่ยว
เพื่อนปรับทุกข์มาว่า “กลุ้มใจเรื่อง ***** (ชื่อแฟน) ชั้นไม่รู้จะเอายังไงดี พูดตรง ๆ นะ ชั้นก็เหนื่อยที่จะมานั่งหา นั่งเริ่มต้นใหม่แล้วนะ ปีนี้ ชั้นก็อายุ 42 แล้ว นี่ก็อุตส่าห์ลดสเป็คลงมาตั้งเยอะ เลือกที่มันเครซี่ชั้นมาก ๆ แล้วนะ แmงก็ยังอุตส่าห์ไปเที่ยวโคโยตี้ ยังมีเงินเหลือไปกินอะไรกับสาว”
อ้าว...ถึงตอนนี้ ร้อยละเก้าสิบของสาวสตรองแห่งพันทิป อาจจะเบ้ปากแล้วอยากแนะนำว่า
“เลิกไปเล้ย จะเก็บไว้ทำไม”
เฮ้อ...
เหตุผลซื่อ ๆ ที่เพื่อนบอกคือ
1. ตัวเองอายุมากแล้ว เหนื่อยที่จะไปหา กลัวว่าหาแล้วจะเจอเหมือนเดิม และสาวสตรองอย่างเพื่อนก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า ยังไม่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียวได้ อยากได้คู่ทุกข์คู่ยากดูแลกันไปตอนแก่เฒ่า อยากได้ companionship อยากมีคนเป็นเพื่อนจูงมือดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว ทำอะไรต่อมิอะไรด้วยกันไป
ถึงตอนนี้ คนฟังก็อาจจะสงสัยอีกว่า “ตอนนี้ ยังไม่แก่เฒ่า ผู้ชายยังนอกใจ แล้วตอนแก่เฒ่าจริง ๆ มันเอ๊ยเค้า ยังจะอยู่เรอะ ?” ซึ่งนั่นก็จะนำไปสู่เหตุผลข้อต่อไปที่เพื่อนว่า
2. ข้อดี ผู้ชายก็มาก ตอนอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายเอาใจใส่ดูแลดีมาก เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ดูแลใกล้ชิด ชนิดที่ว่า จะไปบ้านผู้ชายที่ต่างจังหวัด ห้องของผู้ชายไม่มีน้ำอุ่น ผู้ชายโทร.สั่งพี่สาวเลยว่า เพื่อนดิฉันจะไป พี่สาวช่วยไปหาเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดด่วนเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวเบียร์ จะไม่มีน้ำอุ่นอาบ
3. หลงรักลูกอ้อนผู้ชาย ใครว่า ผู้ชายแพ้ทางผู้หญิงขี้อ้อน ผู้หญิงก็แพ้ทางผู้ชายขี้อ้อนจ้ะ บอกเลย
ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้คือ อดีตสามีเพื่อนคนนี้ก็ขี้อ้อนเหมือนกัน อ้อนชนิดที่ว่า ทุกเช้าจะต้องเข้ามาขอกอดแล้วบอกว่า
“กอดหน่อย กอดหน่อย ไหนบอกหน่อย รักเค้าไหม”
อดีตสามีเบียร์ เป็นบุคลากรในวงการแพทย์ เป็นดุษฎีบัณฑิต (แบบเรียนได้ปริญญา ไม่ใช่แบบกิตติมศักดิ์) เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนแพทย์ และมาจากครอบครัวที่ทั้งพ่อแม่ก็อยู่ในแวดวงเดียวกันหมด เป็นคนเก่ง ฉลาด ฐานะ และชาติตระกูลดี
เพื่อนเล่าแบบพูดจาประสาซื่อว่า “คิดว่าแต่งงานกันแล้ว ก็น่าจะมั่นใจ เชื่อใจในกันและกันได้แล้ว”
ที่ไหนได้ นอนอยู่ข้าง ๆ กัน อีกฝ่ายเขย่าทินเดอร์ แชทโดยเพื่อนผู้แสนดีของดิฉันก็ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า สามีแชทอะไรกับใครที่ไหนอยู่
ตอนเบียร์แท้งลูกนอนอยู่โรงพยาบาล คุณสามีก็อิดออดที่จะมาเฝ้า มาเยี่ยม ต้องออกแรงโทรตามให้มา (ทั้งที่อยู่ใกล้กับที่ทำงานตัวเองมาก) แล้วมาถึง ก็เอาแต่มาพิมพ์แชทตลอดเวลา
ท้ายสุด ... เพื่อนดิฉันก็ขอหย่าเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่เอาอะไรเลยสักอย่าง กระทั่ง แหวนเพชรที่แม่สามีให้ ก็คืนหมด
เบียร์เล่าว่า เลิกเลยดีกว่า เพราะคิดว่า เลิกไปตอนที่ยังสาวพอที่จะเริ่มต้นใหม่ มีคนสนใจ ดีกว่าอยู่ทนการนอกใจกันไปจนหมดสภาพ
ตอนนั้น ถ้าจะไปเริ่มกับใครก็คงยากแล้ว
จากหมอ ก็มาเป็นแฟนคนปัจจุบัน โพรไฟล์ต่ำกว่าเบียร์ (ถ้าจะเอาเรื่องการหาเงินเป็นตัวตั้งนะคะ) ก็ดั๊นมาเจออะไรคล้าย ๆ กัน แต่พ่อหนุ่มคนนี้อาจจะดีกว่าหน่อย ตรงที่ไปเที่ยวโคโยตี้ หลีสาว เปย์กาแฟอย่างเดียว (น่าจะ)ยังไม่มีอะไรเลยเถิดไปไหนต่อไหนอย่างพ่อหมอ เพื่อนอิชั้นก็ถือว่ายังจะพอทนอกไหม้ไส้ขมไปได้บ้าง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทนถึงเมื่อไร)
ดิฉันก็เลยอดมีคำถามตัวโตในหัวไม่ได้ว่า “ทำไมผู้ชายที่น่ารัก ดูแลเอาใจใส่ดี(เหลือเกิน) ขี้อ้อน เห็นเราเป็นที่หนึ่งในโลกของเค้า ถึงนอกใจได้ (หน้าตาเฉย) ก็ตอนเช้ายังเพิ่งอ้อนอยู่เล้ยยยยยยยย”
อีกกรณีหนึ่ง เป็นเคสที่ดิฉันเคยเล่าไว้ในกระทู้เก่าก่อนนู้นนะคะ พี่ผู้ชายไปต่างประเทศ และคงจะซัมธิงกับคุณเลขาฯมือที่สาม พี่ผู้หญิงระแคะระคายและเริ่มมีปากเสียงกัน
พี่ผู้ชาย (ผู้เคยแสนดี รักเทิดทูนพี่ผู้หญิงมาก ถึงขนาดเวลาเขียนหนังสือชิ้นสำคัญในชีวิตตัวเอง ยังอุตส่าห์แทรกคำสรรเสริญชื่นชมขอบคุณพี่ผู้หญิง ภรรยาอันเป็นที่รัก ผู้แสนประเสริฐอยู่เคียงข้างกันเสมอมา) บอกพี่ผู้หญิงว่า “ทะเลาะกันบ่อย เดี๋ยวจดหย่าแก้เคล็ดดีกว่า แล้วค่อยมาจดกันใหม่” หลังจากจดหย่ากันตอนเช้า ตอนบ่าย พี่ผู้ชายจดใหม่กับคุณมือที่สามเลยค่ะ
ผ่านไปหลายสิบปี อดีตภรรยาหลวง ยังไม่ฟื้นจากความเจ็บช้ำ พึมพำเล่าให้รุ่นน้องที่รู้เรื่องครั้งกระโน้นฟังว่า “เค้าหลอกพี่ไปหย่า พี่ผิดอะไร”