ผมดูรายการที่เกี่ยวกับพวกกฎแห่งกรรมทั้งหลาย เช่น ในศาสนาพุทธ การบวชพระแล้วไปซื้อหญิงขายบริการ หรือการบวชพระแล้วดื่มเหล้า เห็นบอกว่าพออยู่ในเพศบรรพชิตแล้วทำบาปจะตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด ผมเลยสงสัยถ้าเราทำ

บางคนอาจจะตายไปแล้วไปสู่สุคติโลกสวรรค์เป็นเทวดาหรือพรหม บางคนอาจทำบาปมากและลงนรก และสำหรับพระอริยะเมื่อท่านเข้าสู่อรหัตตะผลแล้ว เข้าสู่พระ นิพพานแล้ว บางดวงวิญญาณอาจจะเป็นโอปาติกะเป็นเปรต เป็นอสุรกาย

คืออุทิศบาปให้คนที่เราเกลียด

มันต่างกันตรงไหน

”เรามาเกิดกันได้อย่างไรและเราจะไปไหนต่อ“ พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าถ้าเราอยากรู้ว่าภพชาติที่เราผ่านมานี้มีมากเท่าใด  ให้เอาน้ำตาที่เราหลั่งในแต่ละภพแต่ละชาติมารวมกันแล้ว มันจะมีมากยิ

ผมกลัวว่าบาปจากการไม่ปฏิบัติตาอหน้าที่ก็อาจส่งผล แล้วก็ตรงเงินภาษีของประชาชนด้วย ปล.ชอบคุณครับ

มีข้อแนะนำสำหรับคนที่เคยทำบาป เคยทำผิดศีล ในอดีตไหมครับ อยากเริ่มต้นไม่ โดยไม่ทำผิดอย่างครั้งก่อนอีก อยากกลับตัวเป็นคนใหม่ ความดีที่เราตั้งใจทำ จะช่วยให้บาปบางเบาลงได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

ไม่ว่า จะเป็นคนบาป มาก่อน แต่ว่า ก่อนจะทำบุญ ก็คงสำนึกในบาป ถึงหยุดบาป มาทำบุญ ดังนั้น คนที่เข้าวัดมา คงจะมาทำบุญ ไม่มีใครที่ไหน จะเข้าวัดเพื่อ ทำบาป ดังนั้น มาวัด ใครทำบุญ พระภิกษุสงฆ์ ก็คงพูดถึง

ถ้าถึงเวลาโลกแตกดับแล้ว.. เคยได้ยินมาว่าก็จะกำเนิดโลกใหม่อีก ก็จะมีคนเกิดมาทำบุญ-ทำบาปอีกไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด ให้ทุกข์ในบาปกรรมอีก ผมว่าน่าจะให้ดับสูญไปดีกว่า ไม่มีบาป-บุญ มีแต่ความว่างเปล่า โลกแตกดับแ

ถ้าตามหลักพุทธศาสนา คนไหนทำบาปมากที่สุด ถ้าเป็นเรื่องเดียวกัน เข้าใจว่าคนที่ลงมือกระทำน่าจะบาปที่สุด แต่ถ้าเป็นคนละระดับกันล่ะ คนไหนทำบาปที่สุด ยกตัวอย่างเช่น A คิดสาปแช่งให้คนที่เกลียดตายอย่างทรมาน