ดิฉันมีญาติซึ่งเป็นหนี้บัตรเครดิตของห้างสีเขียว ได้ประนีประนอมยอมความกันแล้ว แต่เมือส่งมาได้ 12 เดือน ก็ขาดส่ง
เนื่องจากส่งไม่ไหวและมีหนี้สินตัวอื่นๆ ที่ต้องส่งอีก ทำให้ขาดสภาพคล่องเป็นอย่างมาก
ญาติคนนี้มีที่ดิน ที่สมุทรปราการ โดยมีชื่อร่วมอยู่ในโฉนด ที่ดินทั้งหมด 9ไร่กว่าๆ ยังไม่ได้ทำการแบ่ง
(มีชื่อร่วมในโฉนดหลายคนค่ะ เป็นญาติกันหมด)
โดยก่อนหน้าจะมีการยึดโฉนด มี จนท. เป็นผู้หญิง ซึ่งแจ้งว่าเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจากห้างสีเขียว
ได้ยื่นขอยึดทรัพย์กับกรมบังคับคดี หนี้ที่ต้องจ่าย ประมาณ 97,000 บาท ให้จ่ายปิดในงวดเดียว มิฉะนั้นจะทำการยึดที่ดิน
ทางญาติดิฉันขอเจรจา ปิดหนี้ ขอส่วนลดบ้างการจะปิดในงวดเดียวเป็นไปได้ยากคงจะต้องกู้ยืมเงินคนอื่นมาปิด เพราะตนไม่มีเงินที่จะมาชำระได้ทั้งหมด
ขอให้ ทาง จนท. ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจ เจรจาทางเจ้าหนี้ขอส่วนลดให้หน่อย ทาง จนท. ยืนยันว่าไม่ได้ เพราะได้ยึดโฉนดไว้แล้ว
ยังไงก็ต้องชำระยอดนี้ และแจ้งด้วยว่า ราคาประเมินที่ดินทั้งแปลง 9 ไร่กว่าๆ ราคาประเมินที่ 17 ล้านบาท
(ถึงตรงนี้เค้าก็คุยกันนานเลยค่ะเพื่อขอลดหนี้ให้ได้ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ เพราะเวลายึดหากโฉนดเป็นชื่อร่วมต้องยึดขายทอดตลาดทั้งแปลง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีชื่อในโฉนดร่วมอยู่ด้วยได้รับความเสียหาย)
ญาติดิฉัน จึงขอรายละเอียดเลขที่คดีเพื่อที่จะเช็คกับกรมบังคับคดี
แล้วญาติดิฉันได้โทร. ไปติดต่อที่กรมบังคับคดีสมุทรปราการ ตามเบอร์โทร.ที่หาได้จาก อินเตอร์เน็ต
(ติดต่อยากค่ะ โทร.ไปสายไม่ค่อยว่างเลย พอว่างก็ไม่มีคนรับ โทร.ทุกเบอร์ที่ให้มาทางอินเตอร์เน็ต)
เมื่อเช็คแล้วปรากฎว่า ยังไม่มีการยึดค่ะ ญาติดิฉันนึกเอ๊ะใจ โดนหลอกหรือเปล่า
เมื่อวางสายจาก กรมฯ ทาง จนท. (คนเดิม) โทร.มาแจ้งว่า ทางกรมบังคับคดีไม่อนุมัติเรื่องการยึดที่ดินให้
เนื่องจากยอดหนี้ 97,000 บาท แต่ราคาประเมิน 17 ล้าน ซึงสูงกว่ายอดหนี้มาก ไม่สามารถอนุมัติได้
ทางญาติดิฉัน ก็ต่อรองขอลดยอดหนี้ลง ยังไงก็ปิดอยู่แล้วเพราะไม่อยากมีปัญหาภายหลัง
เสียงของ จนท. ก็ฟังอ่อนลงกว่าทีแรก บอกว่าจะคุยกับห้างสีเขียวให้ แล้วจะติดต่อกลับเรื่องขอส่วนลดเพื่อปิดบัญชี
เมื่อระยะเวลาผ่านไป ประมาณ 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 17 มค. 61 ก็มีโทร. จาก ป้าซึ่งเป็นหนึ่งในชื่อร่วมเจ้าของโฉนด ซึ่งป้ามีบ้านและร้านขายของเล็ก ๆ และบ่อปลา อยู่ที่นั่นด้วย
โทร. มาบอกญาติดิฉันว่า มี ผู้ชายมา 3 คนถือหมายศาลมาด้วย บอกว่าจะมายึดที่ดิน เพราะญาติดิฉันเป็นหนี้อยู่และขาดการส่งมานาน
ป้าตกใจ เพราะป้าได้ทำกินอยู่บนที่ดินนี้ด้วย ป้าก็ถามว่าต้องทำยังไงต้องใช้หนี้เท่าไร
หนึ่งใน ผู้ชาย3 คนก็ ตอบมาว่าต้องจ่ายหนี้ 97,000 บาท ให้หมด จึงจะถอนอายัดได้
และได้ขอคุยโทรศัพท์กับญาติดิฉันด้วยว่าต้องจ่ายภายในวันนี้เท่านั้น
ซึ่งทางญาติดิฉันก็บอกว่าถ้าวันนี้คงหาให้ไม่ทันก็เป็นภายในเดือนนี้ได้ไหม
และให้ทาง จนท.ปิดหมายไว้ให้เดี๋ยวเลิกงานแล้วจะไปติดต่อเอง
แต่ทาง จนท.ไม่ปิดหมายไว้แจ้งว่าไม่มีเครื่องถ่ายเอกสารแถวนี้ หมายนำมาฉบับจริงฉบับเดียวปิดหมายไว้ให้ไม่ได้
เมื่อวางสายญาติดิฉันก็โทร.ติดต่อไปที่กรมบังคับคดีอีก ถามเรื่องการยึดที่ ทางกรมฯ ก็แจ้งกลับมาว่า
หมายเลขคดี ที่แจ้งมานี้ยังไม่มีคำสั่งยึด
พอวันที่ 18 มค.61 ตอนเช้า ก็มีผู้ชายมาที่บ้านป้าอีกมาปิดหมายไว้ให้ ญาติดิฉันก็เข้าไปเอาหมายและไปติดต่อที่กรมบังคับคดีสมุทรปราการ
เมื่อไปถึงญาติดิฉันบอกว่า ทาง จนท.กรมฯ หาเอกสารอยู่นานเลยค่ะ
จนกระทั่งไปเจอเอกสารที่พึ่งยึด ลงวันที่วันนี้ 18 มค.61 โดยราคาประเมินอยู่ที่ 6 ล้านกว่าบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาประเมินที่แท้จริง
(เพราะญาติดิฉันไปขอราคาประเมินที่กรมที่ดินมาแล้ว รวมทั้ง 9ไร่กว่า ราคา 17 ล้านบาท)
จึงถาม จนท.ซึ่งเป็นนิติกรของที่กรมฯ ว่าเมื่อวานนี้ยังไม่ได้ยึด ทำไมแจ้งกับป้าว่ายึดแล้ว
และทำไม ยึดก่อนมีหมายได้อย่างไร และราคาประเมินทำไมจึงต่ำมากขนาดนี้
ทางจนท.ซึ่งเป็นนิติกรของที่กรมฯ บอกว่าสามารถยึดก่อนได้แล้วค่อยมีหมายตามไป
และที่ดินเป็นบ่อปลาทำให้ราคาประเมินตก
พิมพ์มายาวเหยียดเลย ดิฉันมีเรื่องสงสัยอยากถามว่า
1.ราคาประเมินที่กรมบังคับคดีซึ่งต่ำกว่า ราคาประเมินของกรมที่ดิน ประชาชนธรรมดาสามารถไปยื่นคำร้องได้ไหมคะ แล้วยื่นอย่างไร ยื่นได้ที่ไหน
หากไม่มีทนาย (เพราะตอนนี้คงไม่มีเงินจ้างทนายค่ะ)
2.ในตอนแรก ที่ จนท. ผู้หญิง ซึ่งเป็นตัวแทนของห้างที่เขียว บอกว่าเรื่องไม่ได้รับการอนุมัติจากกรมบังคับคดี เพราะมูลหนี้น้อยกว่าราคาประเมินมาก เป็นเรื่องจริงไหมคะ แล้วทำไมจู่ๆ เรื่องถึงได้รับการอนุมัติมาจากกรมบังคับคดีได้อย่างไร
3.เรื่องยึดก่อนแล้วหมายค่อยตามมา แบบนี้ได้เหรอคะ ขนาดจะจับผู้ต้องหายังต้องขอหมายก่อนจึงจับได้ (คิดเอาเอง) แล้วนี่ทำไมยึดก่อนค่อยมีหมายได้คะ
4.ตอนนี้ป้าก็เลยอยากแบ่งที่ค่ะ เพราะเห็นในหมายบังคับคดีบอกว่าห้ามจำหน่าย จ่าย โอน คือป้ากลัวว่าที่ดินของตนจะถูกขายทอดตลาด ตอนนี้จะแบ่งได้ไหม
*** เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ
ทางญาติดิฉันได้ขอกู้เงินเพื่อชำระหนี้แล้วค่ะ แต่ที่สงสัย คือ เจ้าหนี้ซึ่งเป็นเอกชน กับหน่วยงานของรัฐ (กรมบังคับคดี)
ตามที่ถามไปข้อ 1-3 ประชาชนตาดำ ๆ อย่างเราสามารถยื่นคำร้องอย่างไรได้ไหมคะ หรือต้องปล่อยผ่านให้ไป
แค่อยากทราบว่า เราพอใช้สิทธิ์อะไรได้บ้างไหม ซึ่งแน่นอนต้องชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ก่อน ค่ะ
อยากทราบเพื่อเป็นความรู้ค่ะ
รบกวนผู้ที่มีความรู้ช่วยตอบให้ด้วยนะคะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
กรมบังคับดคี ประเมินราคาที่ยึดทรัพย์ต่ำกว่าราคาประเมิน สามารถทำอย่างไรได้บ้างคะ
เนื่องจากส่งไม่ไหวและมีหนี้สินตัวอื่นๆ ที่ต้องส่งอีก ทำให้ขาดสภาพคล่องเป็นอย่างมาก
ญาติคนนี้มีที่ดิน ที่สมุทรปราการ โดยมีชื่อร่วมอยู่ในโฉนด ที่ดินทั้งหมด 9ไร่กว่าๆ ยังไม่ได้ทำการแบ่ง
(มีชื่อร่วมในโฉนดหลายคนค่ะ เป็นญาติกันหมด)
โดยก่อนหน้าจะมีการยึดโฉนด มี จนท. เป็นผู้หญิง ซึ่งแจ้งว่าเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจากห้างสีเขียว
ได้ยื่นขอยึดทรัพย์กับกรมบังคับคดี หนี้ที่ต้องจ่าย ประมาณ 97,000 บาท ให้จ่ายปิดในงวดเดียว มิฉะนั้นจะทำการยึดที่ดิน
ทางญาติดิฉันขอเจรจา ปิดหนี้ ขอส่วนลดบ้างการจะปิดในงวดเดียวเป็นไปได้ยากคงจะต้องกู้ยืมเงินคนอื่นมาปิด เพราะตนไม่มีเงินที่จะมาชำระได้ทั้งหมด
ขอให้ ทาง จนท. ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจ เจรจาทางเจ้าหนี้ขอส่วนลดให้หน่อย ทาง จนท. ยืนยันว่าไม่ได้ เพราะได้ยึดโฉนดไว้แล้ว
ยังไงก็ต้องชำระยอดนี้ และแจ้งด้วยว่า ราคาประเมินที่ดินทั้งแปลง 9 ไร่กว่าๆ ราคาประเมินที่ 17 ล้านบาท
(ถึงตรงนี้เค้าก็คุยกันนานเลยค่ะเพื่อขอลดหนี้ให้ได้ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ เพราะเวลายึดหากโฉนดเป็นชื่อร่วมต้องยึดขายทอดตลาดทั้งแปลง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีชื่อในโฉนดร่วมอยู่ด้วยได้รับความเสียหาย)
ญาติดิฉัน จึงขอรายละเอียดเลขที่คดีเพื่อที่จะเช็คกับกรมบังคับคดี
แล้วญาติดิฉันได้โทร. ไปติดต่อที่กรมบังคับคดีสมุทรปราการ ตามเบอร์โทร.ที่หาได้จาก อินเตอร์เน็ต
(ติดต่อยากค่ะ โทร.ไปสายไม่ค่อยว่างเลย พอว่างก็ไม่มีคนรับ โทร.ทุกเบอร์ที่ให้มาทางอินเตอร์เน็ต)
เมื่อเช็คแล้วปรากฎว่า ยังไม่มีการยึดค่ะ ญาติดิฉันนึกเอ๊ะใจ โดนหลอกหรือเปล่า
เมื่อวางสายจาก กรมฯ ทาง จนท. (คนเดิม) โทร.มาแจ้งว่า ทางกรมบังคับคดีไม่อนุมัติเรื่องการยึดที่ดินให้
เนื่องจากยอดหนี้ 97,000 บาท แต่ราคาประเมิน 17 ล้าน ซึงสูงกว่ายอดหนี้มาก ไม่สามารถอนุมัติได้
ทางญาติดิฉัน ก็ต่อรองขอลดยอดหนี้ลง ยังไงก็ปิดอยู่แล้วเพราะไม่อยากมีปัญหาภายหลัง
เสียงของ จนท. ก็ฟังอ่อนลงกว่าทีแรก บอกว่าจะคุยกับห้างสีเขียวให้ แล้วจะติดต่อกลับเรื่องขอส่วนลดเพื่อปิดบัญชี
เมื่อระยะเวลาผ่านไป ประมาณ 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 17 มค. 61 ก็มีโทร. จาก ป้าซึ่งเป็นหนึ่งในชื่อร่วมเจ้าของโฉนด ซึ่งป้ามีบ้านและร้านขายของเล็ก ๆ และบ่อปลา อยู่ที่นั่นด้วย
โทร. มาบอกญาติดิฉันว่า มี ผู้ชายมา 3 คนถือหมายศาลมาด้วย บอกว่าจะมายึดที่ดิน เพราะญาติดิฉันเป็นหนี้อยู่และขาดการส่งมานาน
ป้าตกใจ เพราะป้าได้ทำกินอยู่บนที่ดินนี้ด้วย ป้าก็ถามว่าต้องทำยังไงต้องใช้หนี้เท่าไร
หนึ่งใน ผู้ชาย3 คนก็ ตอบมาว่าต้องจ่ายหนี้ 97,000 บาท ให้หมด จึงจะถอนอายัดได้
และได้ขอคุยโทรศัพท์กับญาติดิฉันด้วยว่าต้องจ่ายภายในวันนี้เท่านั้น
ซึ่งทางญาติดิฉันก็บอกว่าถ้าวันนี้คงหาให้ไม่ทันก็เป็นภายในเดือนนี้ได้ไหม
และให้ทาง จนท.ปิดหมายไว้ให้เดี๋ยวเลิกงานแล้วจะไปติดต่อเอง
แต่ทาง จนท.ไม่ปิดหมายไว้แจ้งว่าไม่มีเครื่องถ่ายเอกสารแถวนี้ หมายนำมาฉบับจริงฉบับเดียวปิดหมายไว้ให้ไม่ได้
เมื่อวางสายญาติดิฉันก็โทร.ติดต่อไปที่กรมบังคับคดีอีก ถามเรื่องการยึดที่ ทางกรมฯ ก็แจ้งกลับมาว่า
หมายเลขคดี ที่แจ้งมานี้ยังไม่มีคำสั่งยึด
พอวันที่ 18 มค.61 ตอนเช้า ก็มีผู้ชายมาที่บ้านป้าอีกมาปิดหมายไว้ให้ ญาติดิฉันก็เข้าไปเอาหมายและไปติดต่อที่กรมบังคับคดีสมุทรปราการ
เมื่อไปถึงญาติดิฉันบอกว่า ทาง จนท.กรมฯ หาเอกสารอยู่นานเลยค่ะ
จนกระทั่งไปเจอเอกสารที่พึ่งยึด ลงวันที่วันนี้ 18 มค.61 โดยราคาประเมินอยู่ที่ 6 ล้านกว่าบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาประเมินที่แท้จริง
(เพราะญาติดิฉันไปขอราคาประเมินที่กรมที่ดินมาแล้ว รวมทั้ง 9ไร่กว่า ราคา 17 ล้านบาท)
จึงถาม จนท.ซึ่งเป็นนิติกรของที่กรมฯ ว่าเมื่อวานนี้ยังไม่ได้ยึด ทำไมแจ้งกับป้าว่ายึดแล้ว
และทำไม ยึดก่อนมีหมายได้อย่างไร และราคาประเมินทำไมจึงต่ำมากขนาดนี้
ทางจนท.ซึ่งเป็นนิติกรของที่กรมฯ บอกว่าสามารถยึดก่อนได้แล้วค่อยมีหมายตามไป
และที่ดินเป็นบ่อปลาทำให้ราคาประเมินตก
พิมพ์มายาวเหยียดเลย ดิฉันมีเรื่องสงสัยอยากถามว่า
1.ราคาประเมินที่กรมบังคับคดีซึ่งต่ำกว่า ราคาประเมินของกรมที่ดิน ประชาชนธรรมดาสามารถไปยื่นคำร้องได้ไหมคะ แล้วยื่นอย่างไร ยื่นได้ที่ไหน
หากไม่มีทนาย (เพราะตอนนี้คงไม่มีเงินจ้างทนายค่ะ)
2.ในตอนแรก ที่ จนท. ผู้หญิง ซึ่งเป็นตัวแทนของห้างที่เขียว บอกว่าเรื่องไม่ได้รับการอนุมัติจากกรมบังคับคดี เพราะมูลหนี้น้อยกว่าราคาประเมินมาก เป็นเรื่องจริงไหมคะ แล้วทำไมจู่ๆ เรื่องถึงได้รับการอนุมัติมาจากกรมบังคับคดีได้อย่างไร
3.เรื่องยึดก่อนแล้วหมายค่อยตามมา แบบนี้ได้เหรอคะ ขนาดจะจับผู้ต้องหายังต้องขอหมายก่อนจึงจับได้ (คิดเอาเอง) แล้วนี่ทำไมยึดก่อนค่อยมีหมายได้คะ
4.ตอนนี้ป้าก็เลยอยากแบ่งที่ค่ะ เพราะเห็นในหมายบังคับคดีบอกว่าห้ามจำหน่าย จ่าย โอน คือป้ากลัวว่าที่ดินของตนจะถูกขายทอดตลาด ตอนนี้จะแบ่งได้ไหม
*** เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ
ทางญาติดิฉันได้ขอกู้เงินเพื่อชำระหนี้แล้วค่ะ แต่ที่สงสัย คือ เจ้าหนี้ซึ่งเป็นเอกชน กับหน่วยงานของรัฐ (กรมบังคับคดี)
ตามที่ถามไปข้อ 1-3 ประชาชนตาดำ ๆ อย่างเราสามารถยื่นคำร้องอย่างไรได้ไหมคะ หรือต้องปล่อยผ่านให้ไป
แค่อยากทราบว่า เราพอใช้สิทธิ์อะไรได้บ้างไหม ซึ่งแน่นอนต้องชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ก่อน ค่ะ
อยากทราบเพื่อเป็นความรู้ค่ะ
รบกวนผู้ที่มีความรู้ช่วยตอบให้ด้วยนะคะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ