วันนี้ได้เห็นคลิปตำรวจจราจรจับรถผิดกฎหมายในเพจนิวเคลียร์ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเองเคยเจอ ย้อนไปประมาณช่วงต้นเดือน ได้ไปส่งน้าสาวเพื่อไปกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยท่าน้ำท่าเตียน หลังจากที่น้าสาวลงจากรถ ขับรถออกไปได้ประมาณสิบเมตรมีมอเตอร์ไซค์ตำรวจจราจรขับปาดหน้าทำสัญญาณมือให้รถผมหยุด แว๊บแรกที่ผมคิด ผมหยุดรถในบริเวณป้ายห้ามหยุดหรอ? หรือผมหยุดรถในตำแหน่งเลนสอง(เลนในมีรถจอดอยู่) พอลดกระจกลง ตำรวจถามผมว่า "ขับประจำหรือขับชั่วคราว" ผมฟังและงงในคำถามมาก ขับรถยนต์มีแบบขับประจำหรือชั่วคราวด้วยหรือวะ? ไม่รู้จะเลือกตอบอะไร ก็เลยตอบไปแบบไม่ตรงคำถามว่า "ผมมาส่งน้าสาวครับ" ตำรวจขอดูใบขับขี่ ผมยื่นให้ ตำรวจบอกผมว่า "โทรเรียกเขามาซิ" ผมก็อ้าว ทำไมต้องโทรเรียกด้วยฟร่ะ ยังงงๆอยู่ ผมก็บอกไปว่า "น้าผมอยู่ในร้าน..(ชื่อร้าน) ถ้าอยากจะเจอน้าผมก็เข้าไปดูสิครับ" ตำรวจยังไม่ยอมคืนใบขับขี่ให้กับผม ตอนนั้นผมก็ยังงงกับเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นฟร่ะกรูและน้าทำผิดอะไรฟร่ะ และแล้วก็มีเสียงดังตะโกนมาจากกลุ่มผู้ชายฝั่งตรงข้ามด้านวัดโพธิ์ ตะโกนบอกตำรวจคนนี้ว่า "คันโน้น" พร้อมกับชี้นิ้วไปที่รถยนต์คันข้างหน้า กลุ่มผู้ชายกลุ่มนั้นแต่งกายเป็นคนขับแท็กซี่ ตอนนั้นผมจึงค่อยพอคาดเดาเหตุการณ์ได้ละว่า ตำรวจคิดว่าผมขับรถรับจ้างผิดกฎหมาย คุยกับตำรวจได้สักพัก ผมยังยืนว่าผมมาส่งน้าสาว ถ้าอยากจะเจอน้าผมก็เข้าไปหาน้าที่ร้านเอง ผมไม่หนีไปไหน อีกอย่างใบขับขี่ผมตำรวจก็ยังยึดไว้อยู่ สุดท้ายตำรวจยอมคืนใบขับขี่ให้ผม และขับมอเตอร์ไซค์ไปยังรถยนต์คันที่กลุ่มคนขับแท็กซี่ตะโกนและชี้บอกตำรวจ
เล่าประสบการณ์ถูกตำรวจสน.พระราชวังเรียกเพราะคิดว่าเป็นรถรับจ้างผิดกฎหมาย