Work and Holiday Australia

สวัสดีค่ะ ก่อนหน้านี้เคยแชร์เรื่อง Time Line ของ WAH แต่วันนี้วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวที่ละเอียดมากขึ้น สำหรับคนที่อยากจะไป Work and Holiday นะคะ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของใคร หลายๆคน และเพื่อให้เตรียมตัวก่อนวันกดโควต้าจริงด้วยค่ะ เพราะมันมีหลายอย่างที่ต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ  

           ตอนนั้น  อยากไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ อยากเปลี่ยนงานไปทำอะไรใหม่ๆ  เราเริ่มรู้จักโครงการ Work and Holiday Australia & New zealand มาสักพักละ แต่ช่วงนั้นเรายังไม่พร้อมในหลายๆเรื่อง เพราะเพิ่งเปลี่ยนงาน ซื้อบ้าน และทำอะไรหลายๆอย่างมากมาย แต่เมื่อจังหวะชีวิตมาถึง เราก็ทำตัวให้พร้อมกับโอกาส และใคว่คว้าให้ได้

### จุดเริ่มต้น 2016  =》 ตอนนั้นเราทำงานหลายด้าน ทั้งสอนพิเศษ ทำงานประจำ รับงานพิเศษฟรีแลนซ์บ้าง บลาๆๆ แล้วก็คิดว่า เออพอทำอะไรหลายๆอย่างมันก็สนุกดีนะ อยากลองไปใช้ชีวิตต่างประเทศดูบ้าง เผื่อว่าจะได้สกิลภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น อยากไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็เลยเริ่มหาข้อมูลจริงจังอีกครั้ง ว่าต้องทำยังไง ให้ได้บ้าง

1. อายุไม่เกิน 30 หรือ ณ เวลาขอวีซ่า อายุไม่เกิน 31 บริบูรณ์ => ตอนนั้นอายุ 27 ถือว่ามีเวลาอีกสองสามปี
2. จบการศึกษาระดับปริญญาตรี => จบมาหลายปีละ
3. มีผลสอบ IELTS ขั้นต่ำ 4.5 => เคยสอบเมื่อสามปีก่อนได้ 5.5 ให้สอบอีกที ยังไงก็น่าจะสอบผ่านน่าา
4. มีเงินในบัญชีขั้นต่ำ 5,000 AUD หรือประมาณ 140,000 บาท => อันนี้ยังไม่มี ทำยังไงดีหว่า
5. กดโควต้า Work and Holiday ได้  => อันนี้ยากที่สุดในบรรดา 5 ข้อ เห็นว่าแต่ละปี ของออสเตรเลียเต็มไวมาก ของนิวซีแลนด์ แค่10 นาทีก็เต็ม แต่รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองงงง
=>>> ตั้งแต่ข้อ 1-4 ต้องมีพร้อมแล้วก่อนที่จะกดโควต้า่ในช่วงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมของทุกปี ถ้ามีไม่ครบ ถือว่าขาดคุณสมบัติ
   ** Visa นี้ เป็นวีซ่า 1 ปี ข้อกำหนดของมันคือ สามารถทำงานกับนายจ้างได้ 6เดือนแล้วก็ต้องเปลี่ยนนายจ้าง ไม่สนว่าจะทำกี่เจ้า จะไม่ทำงานก็ได้ แต่ครบหกเดือนก็ต้องเปลี่ยนที่ทำงาน **
=> ข้อดีคือ เป็นวีซ่าที่ค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถลงเรียนได้ไม่เกิน 14สัปดาห์(ถ้าอยากเรียน) แล้วก็สามารถเข้าออกประเทศได้ Multiple สามารถท่องเที่ยวได้ไม่จำกัดอยากไปเที่ยวนอกออสก็ได้ จะทำงานอย่างเดียว ไม่เที่ยว ไม่เรียนก็ได้ แล้วแต่  
=> ข้อเสีย  การหางานจะยากตรงที่ว่า เราต้องเปลี่ยนงานทุกๆ 6 เดือน ดังนั้น นายจ้างที่จะจ้างเราจึงไม่อยากได้เท่าไหร่เนื่องจากทำงานแปบเดียวก็ออกละ เสียภาษีTax ตั้งแต่ดอลลแรก 15% ตามกฎหมาย และเครมคืนภาษีไม่ได้ (แต่ก่อนได้ เี๋ยวนี้เปลี่ยนกฎแล้ว)เราสามารถหางานได้แค่ประเภทงาน Part-Time/Casual/Contract 3-6 Month แต่นั่น ก็แล้วแต่สกิลและความสามารถของแต่ละคน และจังหวะของชีวิต ว่าจะได้งานแบบไหน บางคนก็ไปทำงานออฟฟิต ใช้ทักษะเฉพาะตัวพวก IT Engineer เป็นต้น

    เมื่อพิจารณาดูจากข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงข้อดีข้อเสียแล้ว มันก็น่าเสี่ยงดู ทีนี้มีอันไหนที่เราต้องเตรียมตัวถ้าเราจะไปที่นู่นบ้าง แล้วต้องถ้ายังไม่พร้อม ทำไงให้พร้อมล่ะ?

#ผลสอบ IELTS ขั้นต่ำ 4.5 => ทบทวนภาษาอังกฤษสำหรับสอบไอเอล หาซื้อแบบฝึกหัดของ cambridge  เราทำเล่ม 8-11 ย้อนหลัง สามารถหาซื้อได้ที่ใต้ตึกศูนย์หนังสือจุฬา เพราะถูก ประหยัดดี จากนั้นก็สมัครสอบ IELTS เราเลือกสอบกับ IDP เพราะก่อนหน้านี้สอบแต่ British Coucil ราคาไม่ต่างกัน ค่าสอบ 6,7000 โหดสาดดดด
   ปล. เรารีบสมัครสอบตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภา แต่สอบต้นๆเมษา เพราะว่าเวลาเราสมัครสอบใกล้ๆ เวลาสอบ Speaking จะได้คิวช้า แต่ถ้าสมัครสอบก่อน จะได้คิวแรกๆ จะได้ไม่เสียเวลา อันนี้แล้วแต่คนนะ แล้วก็ระวังเรื่องผลสอบไอเอลด้วย เพราะกว่าผลจะออกใช้เวลา 15 วันทำการ ถ้าเกิดสอบไม่ผ่านขั้นต่ำ 4.5 จะได้มีเวลาสมัครสอบใหม่ก่อนกดโควต้า => ผลไอเอล overall ได้ 6 จร้า

# มีเงินในบัญชีขั้นต่ำ 5,000 AUD หรือประมาณ 140,000 บาท => อันนี้ยังมีไม่ถึง เราเลยวางแผนหางานทำเพิ่ม แล้วก็เก็บโบนัสไว้สำหรับงานนี้ ใช้จ่ายให้น้อยที่จุด เพื่อที่ว่าถ้าขอวีซ่าเราก็จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการอธิบายที่มาของการเงิน เพราะเราสปอนเซอร์ตัวเอง แล้วก็ต้องแพลนหาเงินสำรองค่าบ้านไว้ด้วย จะได้ไม่เป็นภาระใคร

# กดโควต้า Work and Holiday ได้  => อันนี้ของยาก เราจึงต้องสะสมแต้มบุญ จากที่ไม่ค่อยได้ทำบุญเท่าไหร่ เราใส่บาตรทุกเช้าเลย 555 แล้วพอใกล้ๆก็ไปไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสไตล์ หาหมอดู แต่อันนี้เฟลสุด เพราะที่ไหนๆก็บอกว่าจะกดโควต้าไม่ได้ แงๆๆๆๆๆ แต่หาได้แคร์ไม่ สู้โว้ยยยย

### กดโควต้า 2 June 2017  วันชี้ชะตา=》วันนั้นเราก็ลากิจ แต่จริงๆไปอยู่แถวร้านคอม เราหาร้านที่เน็ตเร็วที่สุดประมาณเกือบพันเมคได้ กะว่ากดได้แน่ๆจร้า ถ้ากดไม่ได้จะร้องไห้คาร้านคอมฯไปเลย วันนั้นเอาพระไปด้วย 555 เล่นของ  พอถึงเวลาดีตอน 9.00 น. อาการไม่ดีก็เริ่มเกิดขึ้น เน็ตเริ่มล่ม เครื่องตัวเองก็เข้าหน้าเวปไม่ได้เลย ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็แล้ว ในกรุ๊ปไลน์ WAH ก็เริ่มรายงานว่ากดได้ถึงที่เท่าไหร่กันแล้ว ไม่นะ! ใกล้จะครบ 500 คนแล้วว เราเดินวุ่นวายไปทั้งร้าน จะร้องไห้ละ และอยู่ๆ นางฟ้าในกรุ๊ปไลน์ก็มีคนๆนึง แจ้งว่าหน้าจอเค้าสามารถช่วยกดได้อีกคนนึง โอ้ยยย เค้าจะกดให้เราไหมนะ เราเลยรีบแอดไลน์แล้วส่งข้อมูลไป แล้วก็กดได้จริงๆ ได้คนที่ 435 โอ้ยยยย กริ๊ดดด ดีใจยิ่งกว่าสอบเข้ามหาลัยได้อีกตรู!!!

### 11 June 2017 รายงานตัวเพื่อขอหนังสือรับรองจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน ก่อนหน้านั้นก็ตื่นเต้นเตรียมเอกสารเยอะไปหมด หลักๆเราก็จะหาข้อมูลและติดตามเพจ Thaiwah ในเฟสบุค เพื่อจะได้ไม่ตกข่าวสาร พอถึงวันยื่น คนเยอะมากขนาดไปเช้าละนะ พอยื่นเสร็จก็รอดูผลในระบบว่าคุณสมบัติทุกอย่างผ่านไหม รอสักสองอาทิตย์ ผ่านจร้าไม่มีปัญหาาา

       พอทุกอย่างเป็นไปตามที่เราต้องการแล้ว ทีนี้งานยาก งานช้างที่สุดงานหนึ่งที่จะชี้เป็นชี้ตายอีกอย่างหนึ่งก็คือ การขอวีซ่า เพราะถึงแม้ว่าเราจะสามารถกดโควต้าได้แล้ว แต่หลายๆคนพอยื่นวีซ่าไม่ผ่านก็มี อันนี้ต้องใช้สกิลในการหาข้อมูล และเรียบเรียงข้อมูลเป็นอย่างมาก ซึ่งจะกล่าวแบบละเอียดขึ้น ในกระทู้ต่อไป

      สิ่งที่สำคัญที่สุดในการหาข้อมูล คือ Google เสิร์ช ให้ได้มากที่สุด ข้อมูลในนี้เยอะมาก รวมถึงสอบถามกับทางพี่เกมส์ ในเพจ Thaiwah ก็ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่