บทเรียนที่ได้จากชุดเยาวชนและหนทางการแก้ไขของสมยศ และ คณะ ถ้าคิดอยากอยู่อีกสมัย

บทเรียนที่ได้จากชุดเยาวชน ไม่ว่าชุดใดได้ข้อสรุปดังนี้

1. คงทำให้ติ่งสมาคมไม่มากก็น้อยเห็นตาสว่าง เห็นสัจธรรมว่า โค้ชฝรั่งไม่ใช่จะเก่งกว่าโค้ชไทยเสมอไป ในทางกลับกันโค้ชไทยก็ใช่ว่าจะเก่งกว่าโค้ชฝรั่งเสมอไปเช่นกัน ทุกชาติต่างก็มีโค้ชเก่งและไม่เก่ง ไม่ควรเหมารวม ไม่ใช่เหมือนตอนช่วงไล่ซิโก้ที่เห็นผมทองๆ จมูกโด่งๆ ตาสีฟ้า ก็หาว่าเก่งกว่าโค้ชไทยหมด

2. ควรศึกษางานถนัดของแต่ละคน และ ใช้คนให้ถูกกับงาน อย่าพยายามฝืนในงานไม่ถนัดของเขา ไม่งั้นจะพาลเสียกระบวนการพัฒนา เสียชื่อเสียงของบริษัทที่ดึงพัฒนานักเตะด้วย และเสียเวลาด้วย

3. อย่าอคติกับการเล่นวิธีใดวิธีหนึ่งจนพยายามลบมัน ไม่ยอมต่อยอด เพราะ ทุกวิธีการเล่นต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทำไมเราไม่พยายามหาวิธีอื่นมาอุดข้อเสียของระบบเดิม คือ ติ๊กต๊อก แทนที่จะยกเลิกมันทิ้งหมด แล้วเริ่มสร้างระบบนับ 0 ใหม่ในรูปไดเร็ค มันจะดีกว่าไหม ต่อยอด ลบจุดอ่อน ต่อยอด ลบจุดอ่อน ไปเรื่อยๆเดี๋ยววิธีนั้นก็สมบูรณ์แบบเอง และอาจเป็นวิธีใหม่ที่เราคิดค้นพบเป็นแบบตัวเอง เหมือนที่วอลเล่ย์บอลหญิงเอาข้อดีระบบญี่ปุ่นมาเสริมระบบจีนที่โค้ชจีนก่อนที่กลุ่มโค้ชอ๊อดมาคุมทิ้งไว้มารวมกันจนกลายเป็นระบบของเราเอง

ปล. พูดแบบนี้ใครติ่งสมาคมหลายคนก็จะหาว่าเรียก ซิโก้ กลับมาอีกละ ผมไม่ใช่หมายถึง ซิโก้ เพราะเข้าใจดีว่า ซิโก้ มันไม่สามารถพาไปได้สูงกว่านี้ แต่ควรเลือกโค้ชที่สไตล์การคุมทีมคล้าย ซิโก้ แล้วแก้จุดอ่อนที่ ซิโก้ มี เช่น

- ไม่มีกลางรับ ก็เอา ธนบูรณ์ ฐิติพันธ์ ชัปปุยส์ สารัช และใครหลายคนที่ไม่กล่าวถึงมายืนสิครับ มันจะยากอะไร ก็แก้ได้แล้ว
- ไม่มีประการหลังตัวกลาง ตอนนี้ ก็มี พรรษา มานูเอล ทอม แล้วไง แล้วก็มองหาประการตัวกลางสูงที่ฟอร์มดี มาสำรองเพิ่ม ก็แก้ได้แล้ว
- เกมส์รับหลวม ก็หาสตาฟโค้ชที่เคี่ยวเกมส์รับมาช่วยเหลือ ขอคำปรึกษาจาก ราเยวัช ก็ได้ หรือจะใช้ โซรัน ก็ยังได้นะ โซรัน รุกไม่ได้เรื่อง แต่รับยังดี และหน้าที่ถนัดแกด้วย
- เกมส์รุกถ่ายบอลเยอะ ขึ้นเกมส์ช้า ตอนนี้ก็ถึงมาพูดให้นำระบบอื่นมาแก้ไขไง ไม่ต้องติ๊กต๊อกเต็มร้อย แต่เวลาสวนกลับก็ให้กลางสวิสบอล ครองบอล แล้วสบโอกาสหลังเหม่อนั่นละโยนให้โฉบไปทำแบบไดเร็ค นึกภาพไม่ออก นึกถึงการคุมของ ชูเฮ ช่วงท้ายปีการแข่งขัน ไม่ได้ตะบี้ตะบันไดเร็ค แต่เป็นบอลหลากหลาย สั้นบ้าง ยาวบ้าง (ว่าแต่ถ้าจ้าง ชูเฮ มาเป็นสต๊าฟละโป๊ะเชะเลยเรื่องนี้)

4. แฟนบอลทุกฝ่ายก็เข้าใจมากขึ้นว่า นักเตะไทยส่วนใหญ่ยังไม่ใช่มืออาชีพเต็มร้อย ดูได้จากเวลาแข่งบอลสโมสรวิ่งเป็นม้า ลงแล้วคึกเหมือนเสพกัญชาก่อนลงสนาม แต่ทีมชาติเดินเล่น ได้บอลแล้วไม่อยากทำเกมส์ กลัวทำเสียแล้วโดนด่าก็ม้วนแล้วแปะคืนหลัง พอเสียแล้วก็ไม่วิ่งช่วยกันแย่ง ช่วยกันรุมเพื่อเอาบอลกลับมา เพราะ นักเตะพวกนี้มันยังไม่ได้ผ่านอคาเดมี่มาเต็มร้อย แม้จะเต็มกว่ารุ่นของเจ แต่สมัยชุดนี้ยังเด็ก โค้ชอคาเดมี่ส่วนใหญ่เป็นครูพละ หลายคนมาจากบอลโรงเรียน พอมาเจอระบบฝรั่งที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์แก้ไขปัญหาเอง ก็เจ๋งกะบ๊งทันที คนมันไม่เคยฝึกมาแบบนี้ อยู่ๆ มาหักดิบให้ทำแบบนั้น แบบนี้ให้ได้ ใครมันจะไปทำได้ เป็นเรายังต้องอาศัยเวลาปรับตัวเลย บางคนไม่อยากปรับตัวก็ถอนจากงานนั้นก็มี นักเตะไทยยังมองเรื่องเงินในกระเป๋าเป็นเรื่องใหญ่ กำลังแรงขาแปรผันตามเงินที่ได้ ลองทีมชาติได้เยอะกว่าสโมสรสมัยดรีมทีม ขี้ครานก็วิ่งลืมตายเหมือนกัน

5. อคาเดมี่สโมสรควรต้องหันมาใส่ในเบสิคเสียที เอาให้แน่นเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยดีกว่าเดิมแบบลูกส่งมา ก็ส่งต่อได้ทันที ไม่ต้องจับ เรื่องระบบเกมส์ต้องเล่นได้หลายรูปแบบ มันจะได้ลดระยะเวลาการเตรียมตัว และสามารถปรับเปลี่ยนการเล่นไปมาระหว่างเกมส์ได้ มันถึงได้ประตูจากทีมที่เหนือกว่า

6. คนเรียนเก่งหลายคนพอเวลาสอนคนอื่นกลับสอนไม่ได้ สอนไม่รู้เรื่อง เช่น แกรี่ เนวิลล์ ตอนเป็นคอมเมนเตเตอร์สุดยอด อธิบายและแนะนำแทคติกเป็นฉากๆ แต่พอมาคุมทีมเองที่ บาเลนเซีย กลับเหลวไม่เป็นท่า โค้ชเฮงก็เช่นกัน ทฤษฎีแน่นขนาดไหน ไม่มีใครปฏิเสธ แต่โค้ชเฮงมีจุดบอดคือการเลือกบุคคล ทำไมเลือกโค้ชแต่ละคนมันถึงเหลวเป๋วแบบนี้ ถ้าไปทำเป็น HR บริษัทนี้คงโดนไล่ออกนานแล้ว ผมว่าขยับโค้ชเฮงไปเป็นที่ปรึกษาจะดีกว่า แล้วจ้างประธานเทคนิค เหมือนตอนจ้างราเยวัช กำหนดคุณสมบัติไปเลย เคยเป็นประธานเทคนิคที่นั้นที่นี้มากี่ปี มีผลงานปั้นทีมอะไรก็บอกมา มันจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แล้วถอยโค้ชเฮงไปทำงานที่ถนัด เพราะ ท่านเก่งแต่ทฤษฎี

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นโยบายของฝ่ายบังยีคราวหน้าต้องมาแบบนี้แน่

1. เอสซีจี เมืองทอง หนึ่งในพันธมิตรบังยี ส่งออกนักเตะไปเล่นต่างประเทศ มันทำให้ภาพลักษณ์ของคณะบังยีดีขึ้นมาก
2. ในทางกลับกัน บุรีรัมย์ เชียงราย ยู ผ่านทางพัธมิตรสิงฆ์ แบ็คของสมาคมชุดนี้ ไม่มีนโยบายแบบนี้ แถมหลายครั้งเรียกนักเตะกลับเพื่อผลประโยชน์ของสโมสรเอง มันทำให้สโมสรอื่นเริ่มมองหน้ากันไม่ติด ดูเหมือนได้รับอภิสิทธิ
3. บังคับทำไลเซ่นอย่าคิดว่าหลายสโมสรจะชอบ โดยเฉพาะประธานสโมสรที่มาจากสายการเมือง มันทำให้เขายุ่งยาก ต้องเสียเงินเสียทองเพิ่มขึ้นในการทำไลเซ่น พวกนี้คิดนะครับ
4. การตัดสินคดีของไทยลีก 3 และ ไทยลีก 4 ที่แสดงออกถึงมีนอกมีใน ช่วยทีมที่เป็นแบ็คอย่างชัดเจน การส่งทีมสำรองที่ไม่สำรองจริง มันสร้างความขุ่นเคืองให้พวกทีมระดับล่างไม่น้อย เมื่อรวมกับการทำคลับไลเซ่นทีมระดับล่าง ที่ทีมพวกนี้ส่วนใหญ่สายป่านไม่ยาว ไม่มีโอกาสปรับตัวเลย เพราะพ้น T5 ปั๊บ ก็ทีมอาชีพปุ๊บเลย
5. การแบ่งระดับลีกภูมิภาคเป็น ไทยลีก 3 และ ไทยลีก 4 มันทำให้เสียแม่เหล็กดึงดูดทีมเก่งๆ เจอทีมตัวเอง พวกประธานสโมสรไม่ปลื้มหรอก และมันต้องเสียงบประมาณ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นใน ไทยลีก 3 ซึ่งหลายทีมไม่ต้องการบอกเลย แข่งเจอทีมไกลกว่าภูมิภาคตัวเองมากขึ้น เดินทางไกลขึ้น
6. ผลงานที่เป็นรูปธรรมไม่ใช่การบริหาร เช่น แชมป์ที่โน่นที่นี้ สมาคมชุดนี้ยังไม่มี หรือมีแต่มาแบบกระท่อนกระแท่นสู้ปลายบังยีไม่ได้จนโดนก่นด่า พวกประธานสโมสรมันก็ต้องดูทิศทางลมเหมือนคราวที่แล้วละ ว่าเลือกทางไหนแฟนบอลตัวเองจะปลื้ม
7. นโยบายที่ชนกับ กกท. หลายครั้ง กกท. ไม่ปลื้มแน่นอน หาทางล็อบบี้เสียงคราวหน้าแน่

ผมคิดว่า เลือกตั้งครั้งต่อไป พวกบังยี โชว์สโลแกนนี้แน่ " ส่งออกนักเตะสู่ลีกดีกว่า ปรับไทยลีก 3 ไทยลีก 4 ให้เป็นลีกภูมิภาคตามเดิม"

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แล้วสมยศจะแก้เกมส์อย่างไร เพื่อที่จะได้อยู่ต่อในครั้งหน้า ท่านต้องแก้ตามนี้ ไม่งั้นรอดยาก

1. เปลี่ยนสัญญากับเอ็คโคโน่ ยกเลิกการคุมทีมชาติทุกชุด ให้เขาไปทำงานที่ศูนย์ฝึกตามถนัด ถ้าเขาไม่ยอมก็ยกเลิกไปจ้างเจ้าอื่นที่ทำสัญญานี้ได้
2. ระหว่างรอเอ็คโคโน่ ผลิตนักเตะในศูนย์ ช่วงนี้ใช้โค้ชไทยไปก่อน เขาจะไม่เอาทางเอ็คโคโน่ก็ชั่งเขา แม้ติดต้นสังกัดอยู่ก็ต้องเชิญ แต่ตั้งโต๊ะแถลงแจ้งให้ทราบว่า ชุดนี้เป็นสิทธิขาดของโค้ชคนนี้ สมาคมไม่ได้ควบคุมการเล่นชุดนี้ เพราะ นักเตะช่วงรอยต่อรอเอ็คโคโน่ แกชินกับการสอนแบบไทย ก็ต้องทำตามเขาไป ดีกว่าหักดิบทุกวันนี้ ให้มันมีผลงานเป็นรูปธรรม แชมป์โน่น แชมป์นี้ แบบเหนือๆ มาก่อน
3. ให้เอ็คโคโน่ลงไปร่วมกับสโมสรที่ไม่มีโค้ชอคาเดมี่เพื่อสร้างเด็กในงานถนัดเขา, ออกแบบมาตรฐานและควบคุมมาตรฐานอคาเดมี่
4. จ้างประธานเทคนิคคนใหม่ที่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน แล้วถอยโค้ชเฮงไปเป็นที่ปรึกษา
5. อย่าพยายามชนกับ กกท. ช่วงนี้มากนัก ต้นทุนของสมยศในกีฬายังไม่สูงพอที่ข่ม กกท. ได้ อะไรที่เขาต้องการอย่าเพิ่งฝืน
6. ดูแล ไทยลีก 3 และ ไทยลีก 4 ฐานเสียงตัดสินคะแนนให้ดี เริ่มแรกเลยกำหนดทีมสำรองของที 1 ที่ลงมาเล่นเป็นทีม U-23 ซะ เป็นนักเตะจากทีมชุดใหญ่ไม่เกิน 3 คน 1 ใน 3 คนเป็นต่างชาติได้ไม่เกิน 1 คนที่ไม่ได้แข่งชุดใหญ่ในสัปดาห์นั้น จะได้เคลียร์เรื่องบาดหมางทีมสำรองไม่สำรองจริงไปเปราะหนึ่ง, เพิ่มเงินช่วยเหลือออกค่าเดินทางใน ไทยลีก 4, ปรับไทยลีก 4 ให้เป็นกึ่งอาชีพ ไม่บังคับทำไลเซ่น แต่ใครทำจะมีเงินตอบแทน และเลื่อนชั้นไปแข่งระดับสูงขึ้นได้ครับ
7. ชุด AFF ตอนนี้จัดชุดผสมไปก่อน อย่าเพิ่งริเอาชุด U-23 มาให้เติมเชื้อไฟ
8. อย่าเชื่อฟังเนวินมากไป ไอ่ฉายา อยู่แก๊งไหน หัวหน้าตายหมด ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะครับ ควรหาทีมปรึกษาที่ชำนาญฟุตบอล อาจขอมาจากฟีฟ่าก็ได้ หรือหามาเองจะดีกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่