ดิฉันเข้ามาห้องราชดำเนิน ด้วยเหตุผลคือ อยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องยุติธรรมบนพื้นฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตย และต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านการเมือง
ดิฉันคิดว่า ถ้าหากเราไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง ก็จะไม่ส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่แน่นอนนั้นต่อสาธารณะ เพราะจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิดหรือกลายเป็นการกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จึงได้แต่อ่านละเก็บเกี่ยวเอาข้อมูลด้านการเมืองที่มีคนนำมาเสนอในห้องราชดำเนินจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นำมาประมวลโดยใช้วิจารณญาณของตัวเองเป็นที่ตั้ง เพื่อจะได้รู้ทันเหตุการณ์บ้านเมือง
จุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่ดิฉันมีต่อห้องราชดำเนินก็คือ จะช่วยเป็นฟันเฟืองเล็กๆตัวหนึ่งเพื่อนำไปรวมเป็นพลังที่แข็งแกร่ง ที่จะต่อสู้เพื่อเป้าหมายและอุดมการณ์ที่สอดคล้องไปในแนวความคิดที่คล้ายกันของดิฉัน อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องยุติธรรม ให้พวกเค้าได้รู้ว่าพวกเค้าจะไม่โดดเดี่ยวหรือต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ไปตามลำพัง
หนึ่งในเพื่อนสมาชิกที่ดิฉันชื่นชม รักในหัวจิตหัวใจที่กล้าแกร่งและยึดมั่นในอุดมการณ์เป็นอย่างยิ่งก็คือ “คุณน้ำมิตร”
คุณน้ำเป็นคนน่ารักมาก ใจคอหนักแน่น มีความเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะสูง ดิฉันเข้าบอร์ดมาก็ได้เห็นคุณน้ำแสดงความคิดเห็นด้านการเมืองอย่างคนที่มีหลักการและมีวิสัยทัศน์ มีความยุติธรรมและตรงไปตรงมา ถือว่าเป็นผู้หญิงแถวหน้าคนหนึ่ง
ดิฉันได้มีโอกาสรู้จักคุณน้ำอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก เมื่อครั้งไปร่วมชุมนุมแสดงพลังแนวร่วมอุดมการณ์ นปช. ที่โบนันซ่าเขาใหญ่ ซึ่งครั้งนั้นคุณน้ำให้เกียรติชวนมาทางหน้าบอร์ด ดิฉันรับคำทันทีด้วยความตื่นเต้นดีใจ ตื่นเต้นที่จะได้ไปชุมนุมร่วมกับเนตไอดอลของเรา ตื่นเต้นที่จะได้ไปร่วมแสดงพลัง ดีใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของแนวร่วมอุดมการณ์ คืนก่อนวันที่จะเดินทางไปแสดงพลังที่โบนันซ่าทำเอาดิฉันนอนไม่หลับเลยทีเดียว
ดิฉันไปรับคุณน้ำกับคุณแม่ที่นัดหมายกันไว้ ว่าตัวคุณน้ำยึดมั่นในอุดมการณ์สูง คุณแม่ของคุณน้ำนั้นยิ่งสุดยอดกว่า หัวจิตหัวใจไม่รู้ว่าทำด้วยอะไร แม้แดดจะร้อนแผดเผาจนตัวจะไหม้ แม้ฝนจะตกจนร่างกายสะท้านหนาวเหน็บฟ้าคะนองน่ากลัวเพียงใด คุณแม่ไม่มีบ่นมีท้อสู้ไม่มีถอย
วันนั้นที่ไปโบนันซ่า ดิฉันได้เห็นพลังคนเสื้อแดงที่ยิ่งใหญ่ คนไปร่วมชุมนุมเยอะมาก มองไกลๆ หุบเขาทั้งหุบเหมือนจะกลายเป็นทะเลสาบสีแดง ใจเต้นระทึกฮึกเหิม ไม่ว่าจะมองไปทางไหน คนเสื้อแดงก็มีแต่เสียงหัวเราะยิ้มแย้มสดใส มันเป็นการชุมนุมที่สงบแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สบายใจและปลอดภัย ทุกคนที่ไปต่างเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน เหนือสิ่งอื่นใดคือมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ของคนที่ไปร่วมชุมนุม
คุณน้ำกับคุณแม่ นั่งฟังการปราศรัยอย่างทรหดอดทนไม่มีบ่นเหนื่อยบ่นร้อนซักนิดเดียว ส่วนดิฉัน ด้วยบุคลิกที่หลุกหลิกและไม่ชอบอยู่นิ่ง ก็แอบหลบไปเที่ยวถ่ายรูปกดชัตเตอร์ซะจนรูปจะเต็มเมมโมรี่กล้อง ตอนกลางคืนมีการร่วมร้องเพลงของเหล่าแกนนำและเหล่าดารานักแสดงที่เป็นแนวร่วมอุดมการณ์ มีวีดีโอคอลจากคุณทักษิณอดีตนายกฯมาร่วมปราศรัยและร่วมร้องเพลง (ทำเอาวงแตกเพราะแกร้องเพลงไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ฮามาก น่าเอาไปเล่นตลกมากกว่า อิอิ)
คนอื่นเค้าลุกขึ้นเต้นออกกำลังกายเรียกเหงื่อดับความหนาวเย็นช่วงตอนดึกๆ นู๋นิดด้วยบุคลิกที่ซุกซนเป็นเด็กกว่านู๋น้ำ ก็ลุกขึ้นเต้นไปกับเค้าด้วย ขนาดคุณแม่ยังนั่งโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลง แต่นู๋น้ำกลับนั่งนิ่งเยือกเย็นเป็นรูปปั้น (แบบนี้น่าไปบวชเป็นแม่ชีเนอะ คริคริ)
นอกเรื่องนิดหนึ่งนะคะ คำว่า “นู๋นิด” “นู๋น้ำ” เป็นคำที่คุณปู่เรียกพวกเราที่เป็นหลานสาวจนเรียกกันติดปากค่ะ ไม่ใช่พวกเราเนมกันขึ้นมาเองนะคะ
วันนั้นพวกเรากลับกรุงเทพฯเอาตอนตีสามกว่าๆ ที่รีบกลับออกมาก่อนคนอื่น เพราะเราคาดการณ์ไว้แล้วว่า ถ้ากลับออกมาตอนงานเลิก กว่าจะฝ่าคลื่นมนุษย์สีแดงออกมาได้ คงเป็นช่วงเย็นของอีกวันแน่ๆ
มันเป็นการไปร่วมชุมนุมกับเพื่อนสมาชิกในห้องราชดำเนินเป็นครั้งแรกของดิฉัน ทีมีแต่ความประทับใจ ในขณะเดียวกัน ดิฉันก็ได้รู้ว่ามิตรภาพระหว่างเรากำลังก่อตัวขึ้นด้วยความงดงาม และจริงใจ
น้ำมิตร
เพชรน้ำนิล
ปล. คุณน้ำฝากเรียนเพื่อนสมาชิกว่า วันนี้เธอติดงานอาจจะไม่ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้นะคะ
+ + + นู๋นิด กะ นู๋น้ำ ตอนที่ 1 + + +
ดิฉันคิดว่า ถ้าหากเราไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง ก็จะไม่ส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่แน่นอนนั้นต่อสาธารณะ เพราะจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิดหรือกลายเป็นการกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จึงได้แต่อ่านละเก็บเกี่ยวเอาข้อมูลด้านการเมืองที่มีคนนำมาเสนอในห้องราชดำเนินจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นำมาประมวลโดยใช้วิจารณญาณของตัวเองเป็นที่ตั้ง เพื่อจะได้รู้ทันเหตุการณ์บ้านเมือง
จุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่ดิฉันมีต่อห้องราชดำเนินก็คือ จะช่วยเป็นฟันเฟืองเล็กๆตัวหนึ่งเพื่อนำไปรวมเป็นพลังที่แข็งแกร่ง ที่จะต่อสู้เพื่อเป้าหมายและอุดมการณ์ที่สอดคล้องไปในแนวความคิดที่คล้ายกันของดิฉัน อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องยุติธรรม ให้พวกเค้าได้รู้ว่าพวกเค้าจะไม่โดดเดี่ยวหรือต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ไปตามลำพัง
คุณน้ำเป็นคนน่ารักมาก ใจคอหนักแน่น มีความเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะสูง ดิฉันเข้าบอร์ดมาก็ได้เห็นคุณน้ำแสดงความคิดเห็นด้านการเมืองอย่างคนที่มีหลักการและมีวิสัยทัศน์ มีความยุติธรรมและตรงไปตรงมา ถือว่าเป็นผู้หญิงแถวหน้าคนหนึ่ง
ดิฉันได้มีโอกาสรู้จักคุณน้ำอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก เมื่อครั้งไปร่วมชุมนุมแสดงพลังแนวร่วมอุดมการณ์ นปช. ที่โบนันซ่าเขาใหญ่ ซึ่งครั้งนั้นคุณน้ำให้เกียรติชวนมาทางหน้าบอร์ด ดิฉันรับคำทันทีด้วยความตื่นเต้นดีใจ ตื่นเต้นที่จะได้ไปชุมนุมร่วมกับเนตไอดอลของเรา ตื่นเต้นที่จะได้ไปร่วมแสดงพลัง ดีใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของแนวร่วมอุดมการณ์ คืนก่อนวันที่จะเดินทางไปแสดงพลังที่โบนันซ่าทำเอาดิฉันนอนไม่หลับเลยทีเดียว
ดิฉันไปรับคุณน้ำกับคุณแม่ที่นัดหมายกันไว้ ว่าตัวคุณน้ำยึดมั่นในอุดมการณ์สูง คุณแม่ของคุณน้ำนั้นยิ่งสุดยอดกว่า หัวจิตหัวใจไม่รู้ว่าทำด้วยอะไร แม้แดดจะร้อนแผดเผาจนตัวจะไหม้ แม้ฝนจะตกจนร่างกายสะท้านหนาวเหน็บฟ้าคะนองน่ากลัวเพียงใด คุณแม่ไม่มีบ่นมีท้อสู้ไม่มีถอย
วันนั้นที่ไปโบนันซ่า ดิฉันได้เห็นพลังคนเสื้อแดงที่ยิ่งใหญ่ คนไปร่วมชุมนุมเยอะมาก มองไกลๆ หุบเขาทั้งหุบเหมือนจะกลายเป็นทะเลสาบสีแดง ใจเต้นระทึกฮึกเหิม ไม่ว่าจะมองไปทางไหน คนเสื้อแดงก็มีแต่เสียงหัวเราะยิ้มแย้มสดใส มันเป็นการชุมนุมที่สงบแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สบายใจและปลอดภัย ทุกคนที่ไปต่างเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน เหนือสิ่งอื่นใดคือมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ของคนที่ไปร่วมชุมนุม
คุณน้ำกับคุณแม่ นั่งฟังการปราศรัยอย่างทรหดอดทนไม่มีบ่นเหนื่อยบ่นร้อนซักนิดเดียว ส่วนดิฉัน ด้วยบุคลิกที่หลุกหลิกและไม่ชอบอยู่นิ่ง ก็แอบหลบไปเที่ยวถ่ายรูปกดชัตเตอร์ซะจนรูปจะเต็มเมมโมรี่กล้อง ตอนกลางคืนมีการร่วมร้องเพลงของเหล่าแกนนำและเหล่าดารานักแสดงที่เป็นแนวร่วมอุดมการณ์ มีวีดีโอคอลจากคุณทักษิณอดีตนายกฯมาร่วมปราศรัยและร่วมร้องเพลง (ทำเอาวงแตกเพราะแกร้องเพลงไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ฮามาก น่าเอาไปเล่นตลกมากกว่า อิอิ)
คนอื่นเค้าลุกขึ้นเต้นออกกำลังกายเรียกเหงื่อดับความหนาวเย็นช่วงตอนดึกๆ นู๋นิดด้วยบุคลิกที่ซุกซนเป็นเด็กกว่านู๋น้ำ ก็ลุกขึ้นเต้นไปกับเค้าด้วย ขนาดคุณแม่ยังนั่งโยกตัวไปมาตามจังหวะเพลง แต่นู๋น้ำกลับนั่งนิ่งเยือกเย็นเป็นรูปปั้น (แบบนี้น่าไปบวชเป็นแม่ชีเนอะ คริคริ)
นอกเรื่องนิดหนึ่งนะคะ คำว่า “นู๋นิด” “นู๋น้ำ” เป็นคำที่คุณปู่เรียกพวกเราที่เป็นหลานสาวจนเรียกกันติดปากค่ะ ไม่ใช่พวกเราเนมกันขึ้นมาเองนะคะ
วันนั้นพวกเรากลับกรุงเทพฯเอาตอนตีสามกว่าๆ ที่รีบกลับออกมาก่อนคนอื่น เพราะเราคาดการณ์ไว้แล้วว่า ถ้ากลับออกมาตอนงานเลิก กว่าจะฝ่าคลื่นมนุษย์สีแดงออกมาได้ คงเป็นช่วงเย็นของอีกวันแน่ๆ
มันเป็นการไปร่วมชุมนุมกับเพื่อนสมาชิกในห้องราชดำเนินเป็นครั้งแรกของดิฉัน ทีมีแต่ความประทับใจ ในขณะเดียวกัน ดิฉันก็ได้รู้ว่ามิตรภาพระหว่างเรากำลังก่อตัวขึ้นด้วยความงดงาม และจริงใจ
ปล. คุณน้ำฝากเรียนเพื่อนสมาชิกว่า วันนี้เธอติดงานอาจจะไม่ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้นะคะ