ก่อนเริ่มเรื่องนะครับ
หลังจากเพื่อนๆอ่านจบ ก็จะรู้ว่า ระหว่าง Grab/Uber/Taxi ผมจะเลือกนั่งอะไรในครั้งต่อไป จะยังนั่งแท๊กซี่อยู่อีกไหม
มาเริ่มกันเลย!
เริ่มจากที่ผมและเพื่อนๆวานแผนไปเที่ยวเหนือช่วงปีใหม่กัน และก็จองที่พัก,เช่ารถ และจองตั๋วเครื่องบินได้เรียบร้อย โดยจะเดินทางกันในวันที่ 1 มค 2018
เพราะก่อนหน้านั้นเต็มทุกหย่อมหญ้า
เช้าวันที่ 1 ผมก็ขนสัมภาระลงมาจากคอนโด แล้วให้รปภ.เรียกรถแท๊กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิให้ (ว่าจะเรียกแกร๊บ แต่แพงเหลือเกิน เลยเปลี่ยนใจใช้บริการแท๊กซี่ก็ได้)
ก็ได้รถแท๊กซี่เก่าๆมาคันนึง (ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนั้นรีบครับ คันไหนก็ได้ไม่เลือกมาก)
ด้วยที่ว่าสัมภาระค่อนข้างจะเยอะ เพราะวานแผนไปเที่ยวถึง 7 วัน แล้วตั้งใจว่าจะโหลดลงใต้เครื่องบางส่วนและถือขึ้นเครื่องเองบางส่วน
ก็เลยมีกระเป๋าใบเล็กใบน้อยบ้าง หนึ่งในนั้นคือกระเป๋าใส่รองเท้าวิ่งครับ
เรื่องก็เริ่มเมื่อถึงสนามบิน เพื่อนๆผมก็ช่วยขนของลง ผมก็มั่วแต่จ่ายค่าแท๊กซี่และตรวจดูว่ามีของตกหล่นที่เบาะคนนั่งหรือไม่
พอ check in กระเป๋าเรียบร้อย ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่า กระเป๋าลองเท้าวิ่งหายไป... ชิบละ กะว่าจะไปวิ่งในป่าซะหน่อย แผนพังหมด...
ผมจึงเริ่มหาทางตามของที่หาย
1. โดยเริ่มจากหาทะเบียนรถครับ ผมโทรกลับไปที่คอนโด เพื่อให้พนักงานช่วยหาทะเบียนรถแท๊กซี่คันนั้นให้ โชคดีที่กล้องวงจรปิดจับภาพทะเบียนรถเอาไว้ได้ จึงได้ทะเบียนของแท๊กซี่คันนั้นมาครับ
2. โทรเข้าไปสอบถามที่ จส.100 ได้ให้คำแนะนำว่า โทรสอบถามข้อมูลรถแท๊กซี่ได้ที่กรมขนส่งทางบก 1584
3. โทรเข้าไปสอบถามที่กรมขนส่งฯ 1584 แจ้งว่าลืมของไว้บนรถแท๊กซี่ ทะเบียน ทว260x เค้าก็เช็คฐานข้อมูลให้ และก็ได้ชื่อของสหกรณ์แท๊กซี่และเบอร์โทรติดต่อมา 02-613-8479
4. โทรเข้าไปที่สหกรณ์แท๊กซี่แห่งหนึ่ง ไม่มีคนรับสาย รอจนสายหลุด โทรไปอีก 2 รอบ ไม่มีคนรับอยู่ดี เค้าเปลี่ยนเบอร์แล้วหรือเปล่าฟระ
ก็เลยเอาชื่อสหกรณ์แท๊กซี่แห่งนั้นไปค้นหาในกูเกิ้ล เจออีกเบอร์ในเว็บของสมุดหน้าเหลือง 02-216-7628
5. โทรเข้าไปอีกเบอร์ที่ได้จากกูเกิ้ล รอ 2-3 ตู๊ด ก็มีเสียงผู้หญิงคนนึงรับสายว่า "ฮัลโหล"
ช่างเหมือนเสียงสวรรค์จากฟ้า ผมก็รีบพูดไปทันทีว่า ผมลืมของบนแท๊กซี่ครับ จะของเบอร์คนขั... ผู้หญิงคนนั้นพูดแทรกเข้ามาทันที
ผญ.ที่ปลายสาย: อะไรนะ
ผม: ผมลืมของบนแท๊กซี่ครับ จะขอเบอ..
ผญ.ที่ปลายสาย: วันนี้วันหยุด ไว้โทรมาใหม่
ผม: หืมม แล้วที่นั้นใช่สหกรณ์หรือเปล่าครับ
ผญ.ที่ปลายสาย: ใช่! แต่วันนี้วันปีใหม่!! ค่อยโทรมาวันที่ 3 (พูดด้วยน้ำเสียงกระแทกๆ)
ผม: ครับ อ้าว แล้วไม่มีพ... ตู๊ด..ตู๊ด..ตู๊ด..ๆๆ (พยายามจะขอร้องให้ช่วย แต่ก็โดนวางสายใส่หู)
จากเสียงสวรรค์ กลายเป็นเสียงนรกในทันที
ผมก็เริ่มทำใจละ แม้มไม่ได้คืนแน่ๆ
ความหวังสุดท้าย โทรเข้าไปที่ จส.100 อีกที แล้วฝากทะเบียนรถให้เค้าช่วยติดตามให้
หลังจากนี้ ผมก็พยายามลืมๆ และก็ไปเที่ยวให้สนุกดีกว่า เดี๋ยวมันจะหมดสนุกเปล่า
(เหตุการณ์ความพยายามครั้งสุดท้าย จะเป็นตอนที่กลับมาจากเที่ยวแล้วนะครับ เดี๋ยวจะเล่าต่อในคคห.)
เล่าประสบการณ์ ลืมของบนแท๊กซี่ วันปีใหม่! (ผมจะตามของคืนได้มั๊ย มาอ่านกันครับ !_!)
หลังจากเพื่อนๆอ่านจบ ก็จะรู้ว่า ระหว่าง Grab/Uber/Taxi ผมจะเลือกนั่งอะไรในครั้งต่อไป จะยังนั่งแท๊กซี่อยู่อีกไหม
มาเริ่มกันเลย!
เริ่มจากที่ผมและเพื่อนๆวานแผนไปเที่ยวเหนือช่วงปีใหม่กัน และก็จองที่พัก,เช่ารถ และจองตั๋วเครื่องบินได้เรียบร้อย โดยจะเดินทางกันในวันที่ 1 มค 2018
เพราะก่อนหน้านั้นเต็มทุกหย่อมหญ้า
เช้าวันที่ 1 ผมก็ขนสัมภาระลงมาจากคอนโด แล้วให้รปภ.เรียกรถแท๊กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิให้ (ว่าจะเรียกแกร๊บ แต่แพงเหลือเกิน เลยเปลี่ยนใจใช้บริการแท๊กซี่ก็ได้)
ก็ได้รถแท๊กซี่เก่าๆมาคันนึง (ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนั้นรีบครับ คันไหนก็ได้ไม่เลือกมาก)
ด้วยที่ว่าสัมภาระค่อนข้างจะเยอะ เพราะวานแผนไปเที่ยวถึง 7 วัน แล้วตั้งใจว่าจะโหลดลงใต้เครื่องบางส่วนและถือขึ้นเครื่องเองบางส่วน
ก็เลยมีกระเป๋าใบเล็กใบน้อยบ้าง หนึ่งในนั้นคือกระเป๋าใส่รองเท้าวิ่งครับ
เรื่องก็เริ่มเมื่อถึงสนามบิน เพื่อนๆผมก็ช่วยขนของลง ผมก็มั่วแต่จ่ายค่าแท๊กซี่และตรวจดูว่ามีของตกหล่นที่เบาะคนนั่งหรือไม่
พอ check in กระเป๋าเรียบร้อย ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่า กระเป๋าลองเท้าวิ่งหายไป... ชิบละ กะว่าจะไปวิ่งในป่าซะหน่อย แผนพังหมด...
ผมจึงเริ่มหาทางตามของที่หาย
1. โดยเริ่มจากหาทะเบียนรถครับ ผมโทรกลับไปที่คอนโด เพื่อให้พนักงานช่วยหาทะเบียนรถแท๊กซี่คันนั้นให้ โชคดีที่กล้องวงจรปิดจับภาพทะเบียนรถเอาไว้ได้ จึงได้ทะเบียนของแท๊กซี่คันนั้นมาครับ
2. โทรเข้าไปสอบถามที่ จส.100 ได้ให้คำแนะนำว่า โทรสอบถามข้อมูลรถแท๊กซี่ได้ที่กรมขนส่งทางบก 1584
3. โทรเข้าไปสอบถามที่กรมขนส่งฯ 1584 แจ้งว่าลืมของไว้บนรถแท๊กซี่ ทะเบียน ทว260x เค้าก็เช็คฐานข้อมูลให้ และก็ได้ชื่อของสหกรณ์แท๊กซี่และเบอร์โทรติดต่อมา 02-613-8479
4. โทรเข้าไปที่สหกรณ์แท๊กซี่แห่งหนึ่ง ไม่มีคนรับสาย รอจนสายหลุด โทรไปอีก 2 รอบ ไม่มีคนรับอยู่ดี เค้าเปลี่ยนเบอร์แล้วหรือเปล่าฟระ
ก็เลยเอาชื่อสหกรณ์แท๊กซี่แห่งนั้นไปค้นหาในกูเกิ้ล เจออีกเบอร์ในเว็บของสมุดหน้าเหลือง 02-216-7628
5. โทรเข้าไปอีกเบอร์ที่ได้จากกูเกิ้ล รอ 2-3 ตู๊ด ก็มีเสียงผู้หญิงคนนึงรับสายว่า "ฮัลโหล"
ช่างเหมือนเสียงสวรรค์จากฟ้า ผมก็รีบพูดไปทันทีว่า ผมลืมของบนแท๊กซี่ครับ จะของเบอร์คนขั... ผู้หญิงคนนั้นพูดแทรกเข้ามาทันที
ผญ.ที่ปลายสาย: อะไรนะ
ผม: ผมลืมของบนแท๊กซี่ครับ จะขอเบอ..
ผญ.ที่ปลายสาย: วันนี้วันหยุด ไว้โทรมาใหม่
ผม: หืมม แล้วที่นั้นใช่สหกรณ์หรือเปล่าครับ
ผญ.ที่ปลายสาย: ใช่! แต่วันนี้วันปีใหม่!! ค่อยโทรมาวันที่ 3 (พูดด้วยน้ำเสียงกระแทกๆ)
ผม: ครับ อ้าว แล้วไม่มีพ... ตู๊ด..ตู๊ด..ตู๊ด..ๆๆ (พยายามจะขอร้องให้ช่วย แต่ก็โดนวางสายใส่หู)
จากเสียงสวรรค์ กลายเป็นเสียงนรกในทันที
ผมก็เริ่มทำใจละ แม้มไม่ได้คืนแน่ๆ
ความหวังสุดท้าย โทรเข้าไปที่ จส.100 อีกที แล้วฝากทะเบียนรถให้เค้าช่วยติดตามให้
หลังจากนี้ ผมก็พยายามลืมๆ และก็ไปเที่ยวให้สนุกดีกว่า เดี๋ยวมันจะหมดสนุกเปล่า
(เหตุการณ์ความพยายามครั้งสุดท้าย จะเป็นตอนที่กลับมาจากเที่ยวแล้วนะครับ เดี๋ยวจะเล่าต่อในคคห.)