บทที่ 1
https://ppantip.com/topic/37276761
จบลงที่
"เว้ย...! เร็วหน่อย" เจ้าปีศาจร้องในใจอย่างกระวนกระวายกระโดดไปมาอยู่ใต้เตียง เวลาของมันมีไม่มากนัก
................
“วานช่วยหาหมึก ให้หนูสักขวดได้ไหมคะ...เดี๋ยวนี้เลยนะคะ"
"ได้สิจ๊ะ แต่จะเอามาทำอะไรคะ"
"ยังบอกไม่ได้ค่ะ" เด็กหญิงทำหน้ามีลับคมคมในแบบเด็ก ๆ
"เดี๋ยวจะหามาให้ แต่ภายในครึ่งชั่วโมงยาและอาหารต้องเรียบร้อย"
"ตกลงค่ะ"
พอนางพยาบาลสาวกลับออกไปจากห้อง เจ้าปีศาจเดินหน้าบูดบึ้งออกมา หนูน้อยหัวเราะคิกคักอย่างขบขัน เธอไม่เคยเห็นใครทำหน้าตาอย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะกับปีศาจความสูงเพียงฟุตกว่าๆ แม้จะมีผิวกายดำสนิทและเรือนร่างถอดแบบมาจากปีศาจมาตรฐาน แต่ขนาดรูปร่างถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
"เธอตกลงใจแล้วใช่ไหม" รีบถามทันที จุดประกายแห่งความหวังในสายตา
"อะไรกันคะ...หนูยังไม่ได้รับปากตกลงเลย..." เด็กหญิงส่ายหน้า
"แล้วเธอให้นางพยาบาลคนนั้นเอาหมึกมาทำอะไร...คิดจะทำอะไรของเธอ" มันโดดขึ้นมาเต้นไปมาบริเวณปลายเตียงด้วยท่าทางหัวเสียขนาดหนัก ธุรกิจครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้เลย สีหน้าท่าทางซื่อ ๆ แบบเด็ก ๆ นั่น ดูจะเจ้าเล่ห์แบบไร้เดียงสาชวนให้น่าปวดหัว
"เอามาเผื่อไว้เท่านั้น...ความจริงหนูยังคิดไม่ตก ไม่ได้รับปากสักหน่อย" บอกหน้าตาเฉย "ว่าแต่ทำไมไม่ยืดเวลาออกไปให้หนูซักสี่สิบปีล่ะ หนูจะรีบตกลงเลย"
"อย่ามาค้ากำไรเกินควรให้มากนัก มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมายหนึ่งวัน ดีกว่ามีชีวิตหนึ่งปีอย่างไม่มีความหมาย เธอน่าจะรู้ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะเสียเวลาคิดเลย"
"หนูไม่ได้อยู่อย่างไม่มีความหมายนี่ อยู่ต้องคอยดูแลน้องของหนู"
"มันเป็นเพียงตุ๊กตา..." เจ้าปีศาจมองตุ๊กตาแล้วครางหงิงชวนให้สงสาร “ฉันจะฉีกมันทิ้งเสียก็ได้"
"มันเป็นน้องของหนู...ยังเป็นเพื่อนหนูด้วย ถ้าคุณทำอะไรมัน...หนูจะไม่ตกลงอะไรกับคุณทั้งนั้น"" เด็กหญิงกอดตุ๊กตาแนบแน่นหวงแหน ชนิดใครมาเห็นก็ต้องเข้าใจว่าถ้าจะมีใครมา ‘ทำอันตราย’ กับตุ๊กตา คงต้องข้ามศพเธอไปก่อน
"มันเป็นเพียงตุ๊กตา...” เจ้าปีศาจแย้ง แสยะเขี้ยวแหลม ทำท่าเหมือนจะบ้าในบัดดล แต่ในที่สุดเปลี่ยนใจเป็นส่ายหน้าแล้วนั่งลงปลายเตียงเอามือกอดเข่าอย่างจำยอม พึมพำกับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ "ตกลง ๆ ฉันจะไม่แตะต้องมัน พวกมนุษย์นี่เรื่องมากจริงๆ"
“ว่าแต่พวกปีศาจจะเอาอายุของหนูไปทำอะไรคะ” เด็กหญิงเปลี่ยนเรื่องคุยนอนพิงหมอนใบใหญ่ กอดตุ๊กตาไม่ยอมปล่อย
“เรื่องนี้ฉันไม่รู้หรอกนะ ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน”
“หนูว่าคงจะเหมือนกับการขายวิญญาณให้กับปีศาจเหมือนที่เคยอ่านในหนังสือ เลยคิดว่าพระเจ้ากับปีศาจคงถ่วงดุลพลังอำนาจกันอยู่ ไม่มีใครเก่งกว่าใครอย่างเด็ดขาด คุณว่าไหมคะ”
“หา...” เจ้าปีศาจน้อยหูผึ่ง หางเล็กๆ แกว่งไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ “เธอคิดแบบนี้ได้ไง เรื่องใหญ่โตขนาดนั้น ฉันไม่รู้หรอก”
“คุณนี่เป็นปีศาจแบบไหนกัน น่าจะรู้อะไรบ้างนะคะ เอ้า...ลองคิดดูง่ายๆ ก็ได้ ถ้าปีศาจมีอำนาจชนะเด็ดขาดป่านนี้คุณคงไม่ต้องมานั่งรอข้อตกลงหรอก ถ้าพระเจ้ามีอำนาจชนะเด็ดขาด ก็คงไม่มีความชั่วปรากฏบนโลกหรอก คำว่ายอมให้มนุษย์เป็นอิสระในการตัดสินใจเอง คงเป็นข้อตกลงสำหรับเกม”
“เธอไม่ต้องมาพูดมาก ยอมรับข้อตกลงเสียเถอะน่า เรื่องจะได้จบๆ” เจ้าปีศาจร้องอย่างหงุดหงิดกลัดกลุ้ม พอดีประตูเปิดออกนางพยาบาลเดินถือขวดน้ำหมึกตรงมา เจ้าปีศาจน้อยเห็นจวนตัวรีบเผ่นหายเข้าไปในใต้เตียงอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องสั่งราวสายฟ้า การถูกพบโดยมนุษย์ที่ไม่ใช่เป้าหมายถือว่าผิดประเพณีของโลกเบื้องล่าง
“มาแล้วคะหมึกสด ๆ ร้อน ๆ" พยาบาลสาวยิ้มพลางวางขวดหมึกลงตรงโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง ก่อนหันไปคาดคั้นคำมั่นสัญญากับหนูน้อย "อย่าลืมสัญญานะคะ อาหารกับยาต้องเรียบร้อย อ้อ วันนี้ครูพิเศษจะมาสอนวิชาประวัติศาสตร์ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ"
เจ้าปีศาจน้อยหลบอยู่ใต้เตียง แต่หางของมันโผล่พ้นออกมาอย่างไม่ทันระวัง นางพยาบาลบังเอิญเดินมาเหยียบหางปีศาจของมันอย่างไม่ตั้งใจ มีเสียงร้องแหลมสูงครั้งหนึ่ง ปีศาจน้อยโดดผลุงขึ้นหัวชนเตียงดังกึก นางพยาบาลถอยหลังด้วยความตกใจ
“เอ้ะ...เสียงอะไร หรือเป็นเสียงแมว"
เธอก้มลงมอง เจ้าปีศาจน้อยเห็นจวนตัวพลันเปลี่ยนร่างเป็นแมวดำตัวเขื่องแยกเขี้ยวด้วยความเจ็บปวด เวลากะทันหันนึกถึงสัตว์ชนิดอื่นไม่ออก นอกจากแมวตามความสงสัยของนางพยาบาล ใบหน้าของหญิงสาวดูใหญ่เต็มจอรับภาพขณะก้มลงมามอง ทำให้แมวปีศาจตกใจลืมตัวเผ่นออกมาก่อนกระโจนออกไปทางหน้าต่างชนิดไม่ต้องเสียเวลาคิด ตั้งแต่เป็นปีศาจมาไม่เคยมีหน้ามนุษย์ใหญ่ๆ มองอย่างใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน ลืมไปว่าห้องนอนอยู่ชั้นที่สาม ดังนั้นปีศาจแมวจึงลอยตะกายอากาศอย่างน่าสงสาร ก่อนร่วงลงพื้นดังตุ้บ นางพยาบาลเดินมามองหน้าต่าง เห็นแมวดำตัวหนึ่งวิ่งโซเซลับมุมตึกไป เธอทำหน้าประหลาดใจพึมพำว่า
"บ้านนี้ไม่เคยมีแมวนี่นา"
ดูเหมือนว่าธุรกิจครั้งแรกของปีศาจฝึกหัดตัวน้อยจะไม่ราบรื่นอย่างควรจะเป็นไปเสียแล้ว ธุรกิจกับหนูน้อยซึ่งดูแรก ๆ ท่าทางจะง่ายดายต่อการชักชวนหลอกล่อ กลายเป็นเรื่องยากเย็นเข็ญใจไปเสียแล้ว แถมมาเจ็บตัวฟรีในร่างแมวอีกต่างหาก แต่ไม่มีวันเสียล่ะว่าจะยอมแพ้ ปีศาจที่ดีจะต้องพยายามให้ถึงที่สุด อย่างน้อยปีศาจก็อายไม่เป็น หรือหน้าไม่อาย งานชิ้นแรกจะมาล่มสลายไม่ได้ แต่คงต้องกลับไปตั้งหลักก่อนเพราะการตกลงมาจากที่สูงในร่างแมวนับว่าหนักหนาสาหัสพอสมควร และอยู่ในแสงสว่างนานเกินไปจนพลังมืดเริ่มเสื่อมถอย พอก่อนสำหรับวันนี้
วันต่อมา หนูน้อยใช้ไม้เท้าพยุงตัวมายังห้องข้างๆ ภายในห้องเต็มไปด้วยกรอบผ้าใบบนขาตั้งสำหรับวาดภาพ กลิ่นสีลอยอยู่ในอากาศเจือจาง เธอมานั่งตั้งแต่ตอนสายจนกระทั่งเที่ยง ใช้เวลาหมดไปกับการระบายสีลงบนผ้าใบ ธรรมชาติชดเชยให้ความพิการของร่างกายอันน่าเศร้า ด้วยสมองแสนชาญฉลาดและฝีมือการเขียนภาพอันยอดเยี่ยมเกินวัย
ควันดำพวยพุ่งจากพื้นด้านหลัง เจ้าปีศาจตัวน้อยถือวิสาสะปรากฏตัวขึ้นบนพื้นด้วยความสูงฟุตกว่าเช่นเดิม มันเอียงคอมองอย่างสงสัย
"เธอเขียนอะไรน่ะ"
"เขียนรูปคุณน่ะสิ” หนูน้อยตอบโดยไม่หันมามอง มือยังลากพู่กันไปมาอย่างชำนาญเกินอายุ เธอจำเสียงของปีศาจน้อยได้ และไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เจ้าปีศาจทำหน้าประหลาดใจ กระโดดขึ้นมาเกาะพนักเก้าอี้ ชะโงกข้ามไหล่หนูน้อยมองอย่างสนใจ
"ก็ภาพคุณไงล่ะ น่ารักดีนะคะ"
เจ้าปีศาจแทบพลัดหล่นลงจากพนักเก้าอี้ เมื่อมองเห็นภาพในกรอบผืนผ้าใบและพลังอำนาจของคำว่า ‘น่ารัก’ ภาพของมันแขนขาสั้นผิดลักษณะของปีศาจซึ่งควรจะผอมสูงน่ากลัวน่าเกรงขาม แต่ภาพนี้กลับแขนขาสั้นตุ้ยนุ้ยยิ้มเต็มหน้าเหมือนตุ๊กตาย่อส่วนชวนให้น่ารักมากกว่าจะน่ากลัว
"เธอเขียนดูถูกฉัน" มันร้องเสียงสั่นด้วยความโกรธ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะผิดกฏสากลของจักรวาลปีศาจ
"ใครบอกล่ะคะ หนูอุตส่าห์วาดด้วยความตั้งใจภาพถึงออกมาอ้วนท้วนน่ารักอย่างนี้"
"ปีศาจน่ารักไม่ได้ อย่าพูดคำว่าน่ารัก" มันครางเหมือนใจจะขาด
"ใครบอกคุณล่ะคะ" ถามด้วยประโยคเดิมเหมือนจะกวนประสาท “ทำไมปีศาจจะน่ารักไม่ได้”
"เบื้องล่างบอกเอาไว้ ท่านสอนว่าปีศาจต้องน่าเกลียดน่ากลัว ดุร้าย ฉ้อฉลกลโกง เลวร้ายสารพัดรูปแบบ"
" นั่นมันคำสอนผิด ๆ หนูว่าปีศาจไม่เห็นต้องน่ากลัวเสมอไป น่ารักก็มี แต่ช่างเถอะ… พวกปีศาจจะมารู้อะไรเกี่ยวกับศิลปะ "
เจ้าปีศาจน้อยจ้องมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ เด็กตัวแค่นี้ทำไมพูดจาชาญฉลาดเกินวัยเหลือเกิน เริ่มไม่แน่ใจว่าธุรกิจครั้งแรกจะราบลื่นประสบผลสำเร็จ
"เอาล่ะ... ยังไงก็ช่าง ฉันขอสั่งให้เธอลบภาพอุบาทว์นี่ออกเสีย"
"เสียใจค่ะ ต่อให้เป็นปีศาจก็ไม่มีอำนาจมาบังคับจิตใจคนเราเอาดื้อ ๆ อย่างนี้ มันผิดกติกาสากลไม่ใช่หรือคะ"
“เธอรู้เรื่องกฏกติกาบ้าบอมาจากไหนกัน”
“อย่าลืมสิคะว่า หนูก็เรียนหนังสือ อ่านได้คิดเองได้ ทุกวันนี้หนูเองก็เริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเอง อาจจะเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดาษจักรวาล กำลังเล่นโดยความมืดและแสงสว่างที่อยู่คนละข้าง แต่ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะ จักรวาลก็ต้องถูกทำลายในที่สุด”
เด็กหญิงพูดไประบายสีไป ปีศาจน้อยยกมือกุมหัวโดดไปมาอย่างกลัดกลุ้ม พอดีมีเสียงเคาะประตูเบา ๆ นางพยาบาลคนเก่าเจ้าประจำโผล่เข้ามาตรงประตู บอกว่า
"อาหารเที่ยงและยาพร้อมแล้วค่ะ"
เจ้าปีศาจเปลี่ยนร่างเป็นแมวดำทันทีตามความเคยชิน และเผ่นออกทางหน้าตาตามความเคยชินเช่นกัน กว่าจะรู้ตัวและคิดได้ว่านี่มันชั้นสาม ร่างของมันก็ลอยลงไปกระแทกพื้นด้านล่างเสียงดังฟังชัด ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม จบลงด้วยการตกลงมาทางหน้าต่างในร่างแมว ไม่รู้ว่าเคย ‘ทำบุญ’ อะไรไว้ ถึงมารับชะตากรรมน่าสงสาร
นางพยาบาลขมวดคิ้วอย่างสงสัย พลางนึกในใจว่า ...แมวตัวเดิมอีกแล้ว ทำไมเห็นหน้าเราต้องเผ่นหนีออกทางหน้าต่างทุกที หน้าตาเราก็สวยน่ารัก แต่ทำไมแม้แต่แมวยังกระโดดหนีแบบลืมเป็นลืมตาย ขณะพยุงเด็กหญิงกลับห้อง นางพยาบาลหันมามองภาพปีศาจน่ารักอย่าง ‘ชื่นชม’
ข้างล่างเจ้าแมวดำเดินขาเขยกไปมาขณะนางพยาบาลมองภาพของมันอย่าง ‘ชื่นชม’ มันรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องแทบอาเจียนออกมา แข้งขาอ่อนไปหมด การถูกมองอย่าง ‘น่ารักในระยะประชิด’ เป็นข้อต้องห้ามอย่างหนึ่งของพวกปีศาจ ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง จะต้องไม่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น เพราะมีผลต่อพลังอำนาจของ เป็นปีศาจต้องน่ากลัวไม่ใช่น่ารักน่าชื่นชม
สายตาของแมวปีศาจพร่าเลือน แทบเป็นลมล้มพับทั้งเจ็บทั้งเสียพลัง ก่อนจะกัดฟันสลายร่างกลายเป็นควันดำลอยจางหายไปในอากาศอย่างอกสั่นขวัญแขวน เป็นอีกวันสำหรับความพยายามสานต่อธุรกิจอันไม่มีทีท่าว่าจะคืบหน้าเลยสักนิด แต่ความพยายามจะต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะบรรลุผลสำเร็จ ปีศาจจะต้องไม่ยอมแพ้
.
.
หนูน้อย......กับปีศาจ 2
https://ppantip.com/topic/37276761
จบลงที่
"เว้ย...! เร็วหน่อย" เจ้าปีศาจร้องในใจอย่างกระวนกระวายกระโดดไปมาอยู่ใต้เตียง เวลาของมันมีไม่มากนัก
................
“วานช่วยหาหมึก ให้หนูสักขวดได้ไหมคะ...เดี๋ยวนี้เลยนะคะ"
"ได้สิจ๊ะ แต่จะเอามาทำอะไรคะ"
"ยังบอกไม่ได้ค่ะ" เด็กหญิงทำหน้ามีลับคมคมในแบบเด็ก ๆ
"เดี๋ยวจะหามาให้ แต่ภายในครึ่งชั่วโมงยาและอาหารต้องเรียบร้อย"
"ตกลงค่ะ"
พอนางพยาบาลสาวกลับออกไปจากห้อง เจ้าปีศาจเดินหน้าบูดบึ้งออกมา หนูน้อยหัวเราะคิกคักอย่างขบขัน เธอไม่เคยเห็นใครทำหน้าตาอย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะกับปีศาจความสูงเพียงฟุตกว่าๆ แม้จะมีผิวกายดำสนิทและเรือนร่างถอดแบบมาจากปีศาจมาตรฐาน แต่ขนาดรูปร่างถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
"เธอตกลงใจแล้วใช่ไหม" รีบถามทันที จุดประกายแห่งความหวังในสายตา
"อะไรกันคะ...หนูยังไม่ได้รับปากตกลงเลย..." เด็กหญิงส่ายหน้า
"แล้วเธอให้นางพยาบาลคนนั้นเอาหมึกมาทำอะไร...คิดจะทำอะไรของเธอ" มันโดดขึ้นมาเต้นไปมาบริเวณปลายเตียงด้วยท่าทางหัวเสียขนาดหนัก ธุรกิจครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้เลย สีหน้าท่าทางซื่อ ๆ แบบเด็ก ๆ นั่น ดูจะเจ้าเล่ห์แบบไร้เดียงสาชวนให้น่าปวดหัว
"เอามาเผื่อไว้เท่านั้น...ความจริงหนูยังคิดไม่ตก ไม่ได้รับปากสักหน่อย" บอกหน้าตาเฉย "ว่าแต่ทำไมไม่ยืดเวลาออกไปให้หนูซักสี่สิบปีล่ะ หนูจะรีบตกลงเลย"
"อย่ามาค้ากำไรเกินควรให้มากนัก มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมายหนึ่งวัน ดีกว่ามีชีวิตหนึ่งปีอย่างไม่มีความหมาย เธอน่าจะรู้ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะเสียเวลาคิดเลย"
"หนูไม่ได้อยู่อย่างไม่มีความหมายนี่ อยู่ต้องคอยดูแลน้องของหนู"
"มันเป็นเพียงตุ๊กตา..." เจ้าปีศาจมองตุ๊กตาแล้วครางหงิงชวนให้สงสาร “ฉันจะฉีกมันทิ้งเสียก็ได้"
"มันเป็นน้องของหนู...ยังเป็นเพื่อนหนูด้วย ถ้าคุณทำอะไรมัน...หนูจะไม่ตกลงอะไรกับคุณทั้งนั้น"" เด็กหญิงกอดตุ๊กตาแนบแน่นหวงแหน ชนิดใครมาเห็นก็ต้องเข้าใจว่าถ้าจะมีใครมา ‘ทำอันตราย’ กับตุ๊กตา คงต้องข้ามศพเธอไปก่อน
"มันเป็นเพียงตุ๊กตา...” เจ้าปีศาจแย้ง แสยะเขี้ยวแหลม ทำท่าเหมือนจะบ้าในบัดดล แต่ในที่สุดเปลี่ยนใจเป็นส่ายหน้าแล้วนั่งลงปลายเตียงเอามือกอดเข่าอย่างจำยอม พึมพำกับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ "ตกลง ๆ ฉันจะไม่แตะต้องมัน พวกมนุษย์นี่เรื่องมากจริงๆ"
“ว่าแต่พวกปีศาจจะเอาอายุของหนูไปทำอะไรคะ” เด็กหญิงเปลี่ยนเรื่องคุยนอนพิงหมอนใบใหญ่ กอดตุ๊กตาไม่ยอมปล่อย
“เรื่องนี้ฉันไม่รู้หรอกนะ ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน”
“หนูว่าคงจะเหมือนกับการขายวิญญาณให้กับปีศาจเหมือนที่เคยอ่านในหนังสือ เลยคิดว่าพระเจ้ากับปีศาจคงถ่วงดุลพลังอำนาจกันอยู่ ไม่มีใครเก่งกว่าใครอย่างเด็ดขาด คุณว่าไหมคะ”
“หา...” เจ้าปีศาจน้อยหูผึ่ง หางเล็กๆ แกว่งไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ “เธอคิดแบบนี้ได้ไง เรื่องใหญ่โตขนาดนั้น ฉันไม่รู้หรอก”
“คุณนี่เป็นปีศาจแบบไหนกัน น่าจะรู้อะไรบ้างนะคะ เอ้า...ลองคิดดูง่ายๆ ก็ได้ ถ้าปีศาจมีอำนาจชนะเด็ดขาดป่านนี้คุณคงไม่ต้องมานั่งรอข้อตกลงหรอก ถ้าพระเจ้ามีอำนาจชนะเด็ดขาด ก็คงไม่มีความชั่วปรากฏบนโลกหรอก คำว่ายอมให้มนุษย์เป็นอิสระในการตัดสินใจเอง คงเป็นข้อตกลงสำหรับเกม”
“เธอไม่ต้องมาพูดมาก ยอมรับข้อตกลงเสียเถอะน่า เรื่องจะได้จบๆ” เจ้าปีศาจร้องอย่างหงุดหงิดกลัดกลุ้ม พอดีประตูเปิดออกนางพยาบาลเดินถือขวดน้ำหมึกตรงมา เจ้าปีศาจน้อยเห็นจวนตัวรีบเผ่นหายเข้าไปในใต้เตียงอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องสั่งราวสายฟ้า การถูกพบโดยมนุษย์ที่ไม่ใช่เป้าหมายถือว่าผิดประเพณีของโลกเบื้องล่าง
“มาแล้วคะหมึกสด ๆ ร้อน ๆ" พยาบาลสาวยิ้มพลางวางขวดหมึกลงตรงโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง ก่อนหันไปคาดคั้นคำมั่นสัญญากับหนูน้อย "อย่าลืมสัญญานะคะ อาหารกับยาต้องเรียบร้อย อ้อ วันนี้ครูพิเศษจะมาสอนวิชาประวัติศาสตร์ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ"
เจ้าปีศาจน้อยหลบอยู่ใต้เตียง แต่หางของมันโผล่พ้นออกมาอย่างไม่ทันระวัง นางพยาบาลบังเอิญเดินมาเหยียบหางปีศาจของมันอย่างไม่ตั้งใจ มีเสียงร้องแหลมสูงครั้งหนึ่ง ปีศาจน้อยโดดผลุงขึ้นหัวชนเตียงดังกึก นางพยาบาลถอยหลังด้วยความตกใจ
“เอ้ะ...เสียงอะไร หรือเป็นเสียงแมว"
เธอก้มลงมอง เจ้าปีศาจน้อยเห็นจวนตัวพลันเปลี่ยนร่างเป็นแมวดำตัวเขื่องแยกเขี้ยวด้วยความเจ็บปวด เวลากะทันหันนึกถึงสัตว์ชนิดอื่นไม่ออก นอกจากแมวตามความสงสัยของนางพยาบาล ใบหน้าของหญิงสาวดูใหญ่เต็มจอรับภาพขณะก้มลงมามอง ทำให้แมวปีศาจตกใจลืมตัวเผ่นออกมาก่อนกระโจนออกไปทางหน้าต่างชนิดไม่ต้องเสียเวลาคิด ตั้งแต่เป็นปีศาจมาไม่เคยมีหน้ามนุษย์ใหญ่ๆ มองอย่างใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน ลืมไปว่าห้องนอนอยู่ชั้นที่สาม ดังนั้นปีศาจแมวจึงลอยตะกายอากาศอย่างน่าสงสาร ก่อนร่วงลงพื้นดังตุ้บ นางพยาบาลเดินมามองหน้าต่าง เห็นแมวดำตัวหนึ่งวิ่งโซเซลับมุมตึกไป เธอทำหน้าประหลาดใจพึมพำว่า
"บ้านนี้ไม่เคยมีแมวนี่นา"
ดูเหมือนว่าธุรกิจครั้งแรกของปีศาจฝึกหัดตัวน้อยจะไม่ราบรื่นอย่างควรจะเป็นไปเสียแล้ว ธุรกิจกับหนูน้อยซึ่งดูแรก ๆ ท่าทางจะง่ายดายต่อการชักชวนหลอกล่อ กลายเป็นเรื่องยากเย็นเข็ญใจไปเสียแล้ว แถมมาเจ็บตัวฟรีในร่างแมวอีกต่างหาก แต่ไม่มีวันเสียล่ะว่าจะยอมแพ้ ปีศาจที่ดีจะต้องพยายามให้ถึงที่สุด อย่างน้อยปีศาจก็อายไม่เป็น หรือหน้าไม่อาย งานชิ้นแรกจะมาล่มสลายไม่ได้ แต่คงต้องกลับไปตั้งหลักก่อนเพราะการตกลงมาจากที่สูงในร่างแมวนับว่าหนักหนาสาหัสพอสมควร และอยู่ในแสงสว่างนานเกินไปจนพลังมืดเริ่มเสื่อมถอย พอก่อนสำหรับวันนี้
วันต่อมา หนูน้อยใช้ไม้เท้าพยุงตัวมายังห้องข้างๆ ภายในห้องเต็มไปด้วยกรอบผ้าใบบนขาตั้งสำหรับวาดภาพ กลิ่นสีลอยอยู่ในอากาศเจือจาง เธอมานั่งตั้งแต่ตอนสายจนกระทั่งเที่ยง ใช้เวลาหมดไปกับการระบายสีลงบนผ้าใบ ธรรมชาติชดเชยให้ความพิการของร่างกายอันน่าเศร้า ด้วยสมองแสนชาญฉลาดและฝีมือการเขียนภาพอันยอดเยี่ยมเกินวัย
ควันดำพวยพุ่งจากพื้นด้านหลัง เจ้าปีศาจตัวน้อยถือวิสาสะปรากฏตัวขึ้นบนพื้นด้วยความสูงฟุตกว่าเช่นเดิม มันเอียงคอมองอย่างสงสัย
"เธอเขียนอะไรน่ะ"
"เขียนรูปคุณน่ะสิ” หนูน้อยตอบโดยไม่หันมามอง มือยังลากพู่กันไปมาอย่างชำนาญเกินอายุ เธอจำเสียงของปีศาจน้อยได้ และไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เจ้าปีศาจทำหน้าประหลาดใจ กระโดดขึ้นมาเกาะพนักเก้าอี้ ชะโงกข้ามไหล่หนูน้อยมองอย่างสนใจ
"ก็ภาพคุณไงล่ะ น่ารักดีนะคะ"
เจ้าปีศาจแทบพลัดหล่นลงจากพนักเก้าอี้ เมื่อมองเห็นภาพในกรอบผืนผ้าใบและพลังอำนาจของคำว่า ‘น่ารัก’ ภาพของมันแขนขาสั้นผิดลักษณะของปีศาจซึ่งควรจะผอมสูงน่ากลัวน่าเกรงขาม แต่ภาพนี้กลับแขนขาสั้นตุ้ยนุ้ยยิ้มเต็มหน้าเหมือนตุ๊กตาย่อส่วนชวนให้น่ารักมากกว่าจะน่ากลัว
"เธอเขียนดูถูกฉัน" มันร้องเสียงสั่นด้วยความโกรธ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะผิดกฏสากลของจักรวาลปีศาจ
"ใครบอกล่ะคะ หนูอุตส่าห์วาดด้วยความตั้งใจภาพถึงออกมาอ้วนท้วนน่ารักอย่างนี้"
"ปีศาจน่ารักไม่ได้ อย่าพูดคำว่าน่ารัก" มันครางเหมือนใจจะขาด
"ใครบอกคุณล่ะคะ" ถามด้วยประโยคเดิมเหมือนจะกวนประสาท “ทำไมปีศาจจะน่ารักไม่ได้”
"เบื้องล่างบอกเอาไว้ ท่านสอนว่าปีศาจต้องน่าเกลียดน่ากลัว ดุร้าย ฉ้อฉลกลโกง เลวร้ายสารพัดรูปแบบ"
" นั่นมันคำสอนผิด ๆ หนูว่าปีศาจไม่เห็นต้องน่ากลัวเสมอไป น่ารักก็มี แต่ช่างเถอะ… พวกปีศาจจะมารู้อะไรเกี่ยวกับศิลปะ "
เจ้าปีศาจน้อยจ้องมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ เด็กตัวแค่นี้ทำไมพูดจาชาญฉลาดเกินวัยเหลือเกิน เริ่มไม่แน่ใจว่าธุรกิจครั้งแรกจะราบลื่นประสบผลสำเร็จ
"เอาล่ะ... ยังไงก็ช่าง ฉันขอสั่งให้เธอลบภาพอุบาทว์นี่ออกเสีย"
"เสียใจค่ะ ต่อให้เป็นปีศาจก็ไม่มีอำนาจมาบังคับจิตใจคนเราเอาดื้อ ๆ อย่างนี้ มันผิดกติกาสากลไม่ใช่หรือคะ"
“เธอรู้เรื่องกฏกติกาบ้าบอมาจากไหนกัน”
“อย่าลืมสิคะว่า หนูก็เรียนหนังสือ อ่านได้คิดเองได้ ทุกวันนี้หนูเองก็เริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเอง อาจจะเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดาษจักรวาล กำลังเล่นโดยความมืดและแสงสว่างที่อยู่คนละข้าง แต่ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะ จักรวาลก็ต้องถูกทำลายในที่สุด”
เด็กหญิงพูดไประบายสีไป ปีศาจน้อยยกมือกุมหัวโดดไปมาอย่างกลัดกลุ้ม พอดีมีเสียงเคาะประตูเบา ๆ นางพยาบาลคนเก่าเจ้าประจำโผล่เข้ามาตรงประตู บอกว่า
"อาหารเที่ยงและยาพร้อมแล้วค่ะ"
เจ้าปีศาจเปลี่ยนร่างเป็นแมวดำทันทีตามความเคยชิน และเผ่นออกทางหน้าตาตามความเคยชินเช่นกัน กว่าจะรู้ตัวและคิดได้ว่านี่มันชั้นสาม ร่างของมันก็ลอยลงไปกระแทกพื้นด้านล่างเสียงดังฟังชัด ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม จบลงด้วยการตกลงมาทางหน้าต่างในร่างแมว ไม่รู้ว่าเคย ‘ทำบุญ’ อะไรไว้ ถึงมารับชะตากรรมน่าสงสาร
นางพยาบาลขมวดคิ้วอย่างสงสัย พลางนึกในใจว่า ...แมวตัวเดิมอีกแล้ว ทำไมเห็นหน้าเราต้องเผ่นหนีออกทางหน้าต่างทุกที หน้าตาเราก็สวยน่ารัก แต่ทำไมแม้แต่แมวยังกระโดดหนีแบบลืมเป็นลืมตาย ขณะพยุงเด็กหญิงกลับห้อง นางพยาบาลหันมามองภาพปีศาจน่ารักอย่าง ‘ชื่นชม’
ข้างล่างเจ้าแมวดำเดินขาเขยกไปมาขณะนางพยาบาลมองภาพของมันอย่าง ‘ชื่นชม’ มันรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องแทบอาเจียนออกมา แข้งขาอ่อนไปหมด การถูกมองอย่าง ‘น่ารักในระยะประชิด’ เป็นข้อต้องห้ามอย่างหนึ่งของพวกปีศาจ ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง จะต้องไม่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น เพราะมีผลต่อพลังอำนาจของ เป็นปีศาจต้องน่ากลัวไม่ใช่น่ารักน่าชื่นชม
สายตาของแมวปีศาจพร่าเลือน แทบเป็นลมล้มพับทั้งเจ็บทั้งเสียพลัง ก่อนจะกัดฟันสลายร่างกลายเป็นควันดำลอยจางหายไปในอากาศอย่างอกสั่นขวัญแขวน เป็นอีกวันสำหรับความพยายามสานต่อธุรกิจอันไม่มีทีท่าว่าจะคืบหน้าเลยสักนิด แต่ความพยายามจะต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะบรรลุผลสำเร็จ ปีศาจจะต้องไม่ยอมแพ้
.
.