สวัสดีครัชชช!!! หลังจากห่างหายไปนาน มารอบนี้กะจะให้เข้ากับบรรยากาศหนาวๆ โดยการมารีวิวสถานที่เหมาะแก่การไปถ่ายรูปในหน้าหนาว
นั่นคือ กิ่วแม่ปาน บนอุทยานแหน่งชาติดอยอินทนน์ จ.เชียงใหม่ เป็นคนเชียงใหม่แต่เพิ่งเคยไปครับ ก็อยากจะรีวิวเก็บไว้ดูว่าครั้งหนึ่งเคยไปมาแล้ว
จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เชื่อว่าสายดอยต้องรู้จัก เป็นจุดที่มีคนมาเที่ยวเยอะมากจุดหนึ่งของดอยอินทนนท์ อยู่ กม.42 ก่อนถึงยอดสูงสุดดอยอินทนนท์  เส้นทางเดินกิ่วแม่ปาน ระยะทาง 3 กิโลเมตร ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางคอยดูแลทุกกลุ่ม และต้องทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และป้ายเตือนต่างๆ

          กิ่วแม่ปานจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในช่วงหน้าหนาวแต่ละปีต้องติดตามว่าเริ่มเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันไหน รอบแรกให้เข้าชม เริ่ม 6.00 น. โดยเสียค่านำทางต่อกรุ๊ป ๆ ละ 200 บาทให้กับคนนำทาง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและให้คนในพื้นที่มีรายได้เพิ่ม แต่หนึ่งกรุ๊ปจะต้องไม่เกิน 10 คน เราไปกับเพื่อนสองคนตอนนั้นไปถึงจุดที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าไป ขนาดไปถึงก่อนเวลาเปิดเข้า ยังมีคนเยอะ รถต้องจอดจากลานไปไปอีกเกือบหนึ่งกิโล
    จากรูปเป็นถนนด้านหน้าลานที่นักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูประหว่างรอเจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าในส่วนของกิ่วแม่ปาน ได้ฟิลมากๆ ทั้งความหนาว ประกอบกับลมโชยมาตลอด ตอนที่ไปน่าจะประมาณ 4-6 องศา

          หลังจากติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ไกด์ได้นำไปตามเส้นทางที่ไปจุดชมวิวของกิ่วแม่ปาน ระหว่างเดินไป จะมีต้นไม้เล็กไม้ใหญ่ จากภาพจะมีแสงแดดรำไร เพราะเป็นช่วงเช้ามืด

          หลังจากเดินไปสักพัก เริ่มเหนื่อย เพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ระยะทาง 3 กิโลเมตร ตั้งแต่จุดแรก จนถึงเดินวนกลับมาจุดเดิม เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะการเดินไปกิ่วแม่ปานจะเป็นระยะทางที่เดินวนคล้ายๆวงกลม เดินไปสัก 1.5 กิโลเมตร ชักเหนื่อยแฮ่ะ เมื่อไหร่จะถึง ทางทั้งชัน ทั้งอากาศหนาว ประกอบกับ ยังไม่ได้ทานข้าวเช้า ฮ่าๆ  พอเดินมาเกือบถึงจะชมวิว จะเจอลานโล่งๆ มีทุ่งหญ้าอยู่เต็ม และเห็นหมอก โฮ้โห สวยมาก คุ้มกับกับเดินมาเหนื่อยๆ

          ทีนี้เริ่มมีแรงเดินแล่ะ เพราะเริ่มอยากถ่ายรูปที่จุดชมวิว หลังจุดที่มองเห็นทุ่งหญ้า เดินมาอีกนิดก็จะถึงจุดชมวิวที่เป็นจุดถ่ายรูปมหาชน แต่ตอนที่ถึงคนก็เยอะพอสมควร พอมาถึงจุดชมวิวละหายเหนื่อยเลย สวยมาก เหมือนเราลอยอยู่บนท้องฟ้า ด้านล่างเป็นเมฆหมอก  แต่กว่าจะได้ถ่ายจุดชมวิว ก็ต้องรอคิวถ่ายรูป ถ้าอยากถ่ายจุดหลักๆ หลังจากถึงคิวเรา ก็จัดซิครัชชช เพราะคนรอเยอะ เลยจัดกับเพื่อนสลับกัน คนละแชะ สองแชะ

         เมื่อถ่ายรูปเสร็จ ไกด์นำทางเดินไปตามเส้นทางต่อไป เพื่อไปชมต้นกุหลาบพันปี ตอนเริ่มเดิน แสงแดดเริ่มจ้าขึ้น แต่อากาศยังเย็นอยู่

         ช่วงที่เดินจะมีวิวทิวทัศน์สวยๆ ให้ถ่ายรูปเล่น ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อ สองคนเพื่อนก็ถ่ายรูปต่อซิครับ

          เรากับเพื่อนก็เดินตามทางไปเรื่อย โดยทีมีเพื่อนร่วมทางกรุ๊ปอื่นเดินไปด้วยกัน เจอจุดไหนสวยก็ถ่ายรูปไปเรื่อย บอกเลยว่า เดินชิลไป ดูวิวไป มันฟินอยู่นะ

         เดินมาเรื่อยๆตามเส้นทาง ก็จะมาถึงจุดถ่ายรูปอีกจุด  จุดนี้จะมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุคู่พระบารมี รัชกาลที่ 9 และพระราชินี อยู่ไกลๆ จุดนี้นักท่องเที่ยวก็นิยมมาถ่ายรุปกัน ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่สวย

         ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ทีนี้ถึงเวลาเดินกลับ ทางเดินก็เป็นเนินบ้าง ชันบ้าง เรากับเพื่อนเดินไปถ่ายรูปไป ดมยาไป เพราะเริ่มหิวข้าว แต่ดีที่ติดน้ำดื่มไปด้วย ทางมากับทางระหว่างทางสวยไม่แพ้กันเลย

         เดินมาถึงจุดสุดท้าย ที่มีป้ายบอก .”เริ่มต้นที่จิตสำนึก” นั่นอาจหมายถึงเค้าเตือนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ พร้อมกับจิตสำนึกที่ดี ไม่ทำลายธรรมชาติ เช่น ทิ้งขยะข้างทาง ทำลายของในป่า

          พอมาถึงจุดสุดท้าย หมดแรงดิ ฮ่าๆ ก็เลยนั่งพักก่อน เดินลงไปจุดเดิมที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อนร่วมเดินทางคนอื่นก็น่าจะหมดแรงไปตามๆกัน

          หลังจากเดินมาถึงจุดเดิม ได้ขอบคุณไกด์ที่นำทาง เพราเค้าดูแลดีมาก ทั้งอธิบายจุดต่างๆระหว่างเดินทาง ระยะทาง 3 กิโลเมตร ใช้เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมง ถือว่าคุ้มค่ามากกับการเดินทาง ทั้งได้สัมผัสอากาศเย็นๆ ได้มิตรภาพระหว่างเดินทาง ถือว่าหาไม่ได้อีกแล้ว

ปล.รู้งี้มาตั้งนานแล้ว เป็นคนเชียงใหม่แท้ๆ เพิ่งมาฟินตอนคนอื่นเค้าไปกันหมดแล้วฮ่าๆ