สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน เราพึ่งกลับมาจากเที่ยวเหนือค่ะ ไปกันสองคนกับสามีค่ะ วันนี้เลยจะมารีวิวให้ได้ชมกัน อาจจะมีข้อมูลไม่ต่างจากรีวิวอื่นๆที่ผ่านมา แต่ก็หวังว่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับบางคนได้บ้างนะคะ
จุดประสงค์หลักที่เราจะไปเที่ยวเหนือในครั้งนี้คือ อยากไปดอยอ่างขาง อยากไปดูดอกซากุระและดอกนางพญาเสือโคร่งค่ะ ก็มานั่งคิดว่าเราจะเดินทางกันยังงัยดี จะนั่งเครื่องบินไปแล้วไปเช่ารถขับ หรือจะขับรถไปเองดี ก็มานั่งคิดคำนวณถึงปัจจัยหลายอย่างแล้วก็สรุปมาเป็นข้อดีข้อเสียดังนี้
นั่งเครื่องบินไปแล้วเช่ารถขับ
ข้อดี
1. ประหยัดเวลา สะดวกสบาย
2. ไม่เหนื่อยกับการขับรถไกลๆ
ข้อเสีย
1. เราจะได้เที่ยวแค่เชียงใหม่หรืออย่างมากก็แค่อีกสัก 1 จังหวัดใกล้ๆกัน
2. รถที่เช่าไม่รู้สภาพรถดีแค่ไหน แล้วสามีอาจจะไม่ชินกับรถมากนัก ขึ้นเขาอาจจะอันตราย
3. ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าขับรถไปเอง
ขับรถไปเอง
ข้อดี
1. ได้แวะเที่ยวหลายจังหวัด อยากแวะไหนก็แวะได้
2. ขนของได้ตามสะดวก จะเอาไปเยอะแค่ไหนก็ได้
3. รถเราเองขับถนัดมือกว่า
4. ค่าใช้จ่ายอาจจะพอๆกับนั่งเครื่องแล้วเช่ารถ หรืออาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ
5. ได้ชมวิว 2 ข้างทาง ตลอดการเดินทางของเรา
ข้อเสีย
1. ใช้เวลาเดินทางเยอะ
2. เหนื่อยกับการเดินทาง เสียเวลามากกว่านั่งเครื่อง
หลังจากแยกแยะข้อดีข้อเสียเรียบร้อย เราก็สรุปได้ว่าขับรถไปเองดีกว่า เรามีเวลาเที่ยวพอสมควรไม่ได้รีบร้อนอะไร ได้เที่ยวหลายๆจังหวัดด้วยมันก็สนุกดี อีกอย่างไปกับรถตัวเองมันก็สะดวกและอุ่นใจกว่า
สรุปการเดินทางได้แล้วคราวนี้ก็มาเลือกวันไปสิค่ะ ก็อยากดูซากุระเนอะ ก็เลยก่ะว่าจะรอดูวี่แววของพี่เสือและน้องซากุระว่าจะบานเมื่อไร แล้วค่อยขับรถไปช่วงเวลานั้นเลย ที่พักในเมืองก็น่าจะมีให้เราอยู่บ้าง ส่วนบนดอยก็กางเต้นท์เอาแล้วกัน ... แต่พอคิดไปคิดมาดูจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ เคยไปนอนเต้นท์มาทีนึงที่แก่งกระจานนอนไม่ค่อยหลับ ก็เลยกลัวว่าสามีจะนอนไม่พอแล้วตอนขับรถจะง่วงเอาได้ ก็เลยหาข้อมูลแล้วดูความน่าจะเป็นของพี่เสือและช่วงที่เราว่างพอจะไปได้ แล้วจองที่พักบนดอยล่วงหน้าเลยดีกว่า เราเลยกำหนดวันเดินทางเป็นวันที่ 7 - 13 มกราคม 2561 จากนั้นก็เริ่มจัดโปรแกรม เนื่องจากสามีไม่เคยขับรถไกลๆ ขับไกลสุดก็แค่ภูทับเบิก เราก็เลยคิดว่าจะพักค้างคืนเป็นระยะๆ ให้สามีขับรถไม่เกิน 500 กม.ต่อวัน แล้วก็จะได้แวะเที่ยวไปเรื่อยๆอย่างที่ตั้งใจไว้ กว่าจะจัดโปรแกรมเสร็จก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หลายรอบ เพราะมีที่ที่อยากไปเยอะ แต่ชีวิตต้องเลือกค่ะ 5555 เราจึงจัดโปรแกรมมาได้ตามนี้ค่ะ
วันแรก - ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน กาดนั่งยอง คล้องย่าม นอนตัวเมืองตาก
วันที่ 2 - เขื่อนภูมิพล วัดพระธาตุลำปางหลวง โครงการหลวงดอยอินทนนท์ นอนบนดอยอินทนนท์
วันที่ 3 - กิ่วแม่ปาน จุดสูงสุดแดนสยาม พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ขุนวาง วัดอุโมงค์ นอนตัวเมืองเชียงใหม่
วันที่ 4 - สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ไร่ชา 2000 นอนบนดอยอ่างขาง
วันที่ 5 - ไร่สตอเบอรี่บ้านนอแล สวนส้มธนาธรท่าตอน ดอยแม่สลอง ไร่ชา101 ไร่ชาฉุยฟง นอนตัวเมืองเชียงราย
วันที่ 6 - ศาลารอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 วัดศรีโคมคำพะเยา อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง กว๊านพะเยา นอนสุโขทัย
วันที่ 7 - อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร แล้วก็กลับบ้าน
จัดโปรแกรมเสร็จ ก็มาหาที่พักต่อ เราสองคนกับสามีเป็นพวกเน้นกินเที่ยว ที่พักเอาแค่พออยู่ได้พอ เราจึงพยายามหาที่พักหลักร้อยเข้าไว้ อิอิ ส่วนที่พักบนดอยก็หาประมาณพันต้นๆ พูดมาซะเยอะเลย มาดูวันไปจริงกันเลยดีกว่าว่าจะทำได้ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้หรือเปล่า 5555
วันอาทิตย์ที่ 7/01/61 วันแรกของทริปเรา เราออกจากบ้านประมาณ 6 โมงเช้า ขับรถไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวก็ถึงนครสวรรค์ ที่แรกตามโปรแกรมก็คือ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม
เรามาถึงที่นี่ประมาณ 10 โมง อากาศกำลังดีค่ะ ลมพัดมาเย็นสบาย ศาลเจ้านี้อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดตรงนี้เป็นต้นแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ เป็นการไหลมาบรรจบกันของแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ถ้ามองดีๆจะเห็นเป็นแม่น้ำสองสีค่ะ
ชมวิวแม่น้ำกันไปแล้ว ก็ไปไหว้เจ้ากันเลยดีกว่า ขึ้นไปถึงก็ได้ธูปมากำใหญ่มาก เราก็ไหว้ไปตามจุด ปักธูปตามกระถางไปเรื่อย จนธูปเหลือ 9 ดอก เริ่มงงล่ะทีนี้ว่าจะไปปักที่ไหนต่อ ก็เลยไปถามอาซิ้มที่ดูแลศาลเจ้า อาซิ้มแกก็อารมณ์ดีนะ แกบอกเราว่า "เก่งนะเนี้ยไหว้ยังงัยให้เหลือ 9 ดอก คนอื่นเค้าเหลือกัน 11 ดอกนะ" แล้วแกก็อมยิ้มพร้อมตีก้นเราเบาๆนึงที แล้วก็ให้เราเอาธูปไปปักที่กระถางด้านนอก ^^
ไหว้เจ้าเสร็จแล้วก็ไปกันต่อที่บึงบอระเพ็ด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าเท่าไหร่ ขับแป๊บเดียวก็ถึง เราแวะถ่ายรูปกันข้างหน้าทางเข้า ไม่มีคนเลยดีจังไม่มีใครแย่งถ่ายรูป อิอิ
จากนั้นเราก็ขับเข้าไปข้างใน ไปที่อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด แต่ตอนนี้ท้องเริ่มร้องต้องหาอะไรกินซะแล้ว ตรงข้ามกับอาคารก็จะเป็นบึงบอระเพ็ดตรงนี้มีร้านอาหารเรียงรายเต็มไปหมด เราเห็นร้านนึงติดป้ายว่า "ได้รับรางวัลชนะเลิศ ส้มตำไหลบัว" เราก็เลยเลือกกินร้านนี้ และแน่นอนเราก็ต้องสั่งส้มตำไหลบัวมาลองสัดหน่อย กินแล้วก็อร่อยดีค่ะ แปลกๆ แล้วก็สั่งปลาเผามาอีกอย่าง นั่งกินไปชมบึงไปฟินดีค่ะ ลมก็แร๊งแรงเหมือนนั่งอยู่ริมทะเลเลย
อิ่มแล้วก็ได้เวลาดูปลากันแล้ว ค่าเข้าถูกมาก แต่จำไม่ได้แน่ชัดว่า 30 หรือ 40 บาท ข้างในก็สะอาดดีมีปลาให้ดูพอสมควร มีอุโมงค์ปลาด้วย ก็ถือว่าสมราคาเลยล่ะ เหตุผลที่เรามาที่นี้ ก็เพราะสามีชอบปลาเสือตอแล้วก็เคยเลี้ยงอยู่พักนึง เห็นเค้าว่าที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดปลาเสือตอ สามีก็เลยอยากมา แต่พอเข้ามาก็เจอปลาเสือตออยู่ไม่กี่ตัวเอง 55555
[CR] แอ่วเหนือ Day 1 นครสวรรค์ ตาก
จุดประสงค์หลักที่เราจะไปเที่ยวเหนือในครั้งนี้คือ อยากไปดอยอ่างขาง อยากไปดูดอกซากุระและดอกนางพญาเสือโคร่งค่ะ ก็มานั่งคิดว่าเราจะเดินทางกันยังงัยดี จะนั่งเครื่องบินไปแล้วไปเช่ารถขับ หรือจะขับรถไปเองดี ก็มานั่งคิดคำนวณถึงปัจจัยหลายอย่างแล้วก็สรุปมาเป็นข้อดีข้อเสียดังนี้
นั่งเครื่องบินไปแล้วเช่ารถขับ
ข้อดี
1. ประหยัดเวลา สะดวกสบาย
2. ไม่เหนื่อยกับการขับรถไกลๆ
ข้อเสีย
1. เราจะได้เที่ยวแค่เชียงใหม่หรืออย่างมากก็แค่อีกสัก 1 จังหวัดใกล้ๆกัน
2. รถที่เช่าไม่รู้สภาพรถดีแค่ไหน แล้วสามีอาจจะไม่ชินกับรถมากนัก ขึ้นเขาอาจจะอันตราย
3. ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าขับรถไปเอง
ขับรถไปเอง
ข้อดี
1. ได้แวะเที่ยวหลายจังหวัด อยากแวะไหนก็แวะได้
2. ขนของได้ตามสะดวก จะเอาไปเยอะแค่ไหนก็ได้
3. รถเราเองขับถนัดมือกว่า
4. ค่าใช้จ่ายอาจจะพอๆกับนั่งเครื่องแล้วเช่ารถ หรืออาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ
5. ได้ชมวิว 2 ข้างทาง ตลอดการเดินทางของเรา
ข้อเสีย
1. ใช้เวลาเดินทางเยอะ
2. เหนื่อยกับการเดินทาง เสียเวลามากกว่านั่งเครื่อง
หลังจากแยกแยะข้อดีข้อเสียเรียบร้อย เราก็สรุปได้ว่าขับรถไปเองดีกว่า เรามีเวลาเที่ยวพอสมควรไม่ได้รีบร้อนอะไร ได้เที่ยวหลายๆจังหวัดด้วยมันก็สนุกดี อีกอย่างไปกับรถตัวเองมันก็สะดวกและอุ่นใจกว่า
สรุปการเดินทางได้แล้วคราวนี้ก็มาเลือกวันไปสิค่ะ ก็อยากดูซากุระเนอะ ก็เลยก่ะว่าจะรอดูวี่แววของพี่เสือและน้องซากุระว่าจะบานเมื่อไร แล้วค่อยขับรถไปช่วงเวลานั้นเลย ที่พักในเมืองก็น่าจะมีให้เราอยู่บ้าง ส่วนบนดอยก็กางเต้นท์เอาแล้วกัน ... แต่พอคิดไปคิดมาดูจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ เคยไปนอนเต้นท์มาทีนึงที่แก่งกระจานนอนไม่ค่อยหลับ ก็เลยกลัวว่าสามีจะนอนไม่พอแล้วตอนขับรถจะง่วงเอาได้ ก็เลยหาข้อมูลแล้วดูความน่าจะเป็นของพี่เสือและช่วงที่เราว่างพอจะไปได้ แล้วจองที่พักบนดอยล่วงหน้าเลยดีกว่า เราเลยกำหนดวันเดินทางเป็นวันที่ 7 - 13 มกราคม 2561 จากนั้นก็เริ่มจัดโปรแกรม เนื่องจากสามีไม่เคยขับรถไกลๆ ขับไกลสุดก็แค่ภูทับเบิก เราก็เลยคิดว่าจะพักค้างคืนเป็นระยะๆ ให้สามีขับรถไม่เกิน 500 กม.ต่อวัน แล้วก็จะได้แวะเที่ยวไปเรื่อยๆอย่างที่ตั้งใจไว้ กว่าจะจัดโปรแกรมเสร็จก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่หลายรอบ เพราะมีที่ที่อยากไปเยอะ แต่ชีวิตต้องเลือกค่ะ 5555 เราจึงจัดโปรแกรมมาได้ตามนี้ค่ะ
วันแรก - ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน กาดนั่งยอง คล้องย่าม นอนตัวเมืองตาก
วันที่ 2 - เขื่อนภูมิพล วัดพระธาตุลำปางหลวง โครงการหลวงดอยอินทนนท์ นอนบนดอยอินทนนท์
วันที่ 3 - กิ่วแม่ปาน จุดสูงสุดแดนสยาม พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ขุนวาง วัดอุโมงค์ นอนตัวเมืองเชียงใหม่
วันที่ 4 - สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ไร่ชา 2000 นอนบนดอยอ่างขาง
วันที่ 5 - ไร่สตอเบอรี่บ้านนอแล สวนส้มธนาธรท่าตอน ดอยแม่สลอง ไร่ชา101 ไร่ชาฉุยฟง นอนตัวเมืองเชียงราย
วันที่ 6 - ศาลารอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 วัดศรีโคมคำพะเยา อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง กว๊านพะเยา นอนสุโขทัย
วันที่ 7 - อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร แล้วก็กลับบ้าน
จัดโปรแกรมเสร็จ ก็มาหาที่พักต่อ เราสองคนกับสามีเป็นพวกเน้นกินเที่ยว ที่พักเอาแค่พออยู่ได้พอ เราจึงพยายามหาที่พักหลักร้อยเข้าไว้ อิอิ ส่วนที่พักบนดอยก็หาประมาณพันต้นๆ พูดมาซะเยอะเลย มาดูวันไปจริงกันเลยดีกว่าว่าจะทำได้ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้หรือเปล่า 5555
วันอาทิตย์ที่ 7/01/61 วันแรกของทริปเรา เราออกจากบ้านประมาณ 6 โมงเช้า ขับรถไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวก็ถึงนครสวรรค์ ที่แรกตามโปรแกรมก็คือ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม
เรามาถึงที่นี่ประมาณ 10 โมง อากาศกำลังดีค่ะ ลมพัดมาเย็นสบาย ศาลเจ้านี้อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดตรงนี้เป็นต้นแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ เป็นการไหลมาบรรจบกันของแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ถ้ามองดีๆจะเห็นเป็นแม่น้ำสองสีค่ะ
ชมวิวแม่น้ำกันไปแล้ว ก็ไปไหว้เจ้ากันเลยดีกว่า ขึ้นไปถึงก็ได้ธูปมากำใหญ่มาก เราก็ไหว้ไปตามจุด ปักธูปตามกระถางไปเรื่อย จนธูปเหลือ 9 ดอก เริ่มงงล่ะทีนี้ว่าจะไปปักที่ไหนต่อ ก็เลยไปถามอาซิ้มที่ดูแลศาลเจ้า อาซิ้มแกก็อารมณ์ดีนะ แกบอกเราว่า "เก่งนะเนี้ยไหว้ยังงัยให้เหลือ 9 ดอก คนอื่นเค้าเหลือกัน 11 ดอกนะ" แล้วแกก็อมยิ้มพร้อมตีก้นเราเบาๆนึงที แล้วก็ให้เราเอาธูปไปปักที่กระถางด้านนอก ^^
ไหว้เจ้าเสร็จแล้วก็ไปกันต่อที่บึงบอระเพ็ด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าเท่าไหร่ ขับแป๊บเดียวก็ถึง เราแวะถ่ายรูปกันข้างหน้าทางเข้า ไม่มีคนเลยดีจังไม่มีใครแย่งถ่ายรูป อิอิ
จากนั้นเราก็ขับเข้าไปข้างใน ไปที่อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด แต่ตอนนี้ท้องเริ่มร้องต้องหาอะไรกินซะแล้ว ตรงข้ามกับอาคารก็จะเป็นบึงบอระเพ็ดตรงนี้มีร้านอาหารเรียงรายเต็มไปหมด เราเห็นร้านนึงติดป้ายว่า "ได้รับรางวัลชนะเลิศ ส้มตำไหลบัว" เราก็เลยเลือกกินร้านนี้ และแน่นอนเราก็ต้องสั่งส้มตำไหลบัวมาลองสัดหน่อย กินแล้วก็อร่อยดีค่ะ แปลกๆ แล้วก็สั่งปลาเผามาอีกอย่าง นั่งกินไปชมบึงไปฟินดีค่ะ ลมก็แร๊งแรงเหมือนนั่งอยู่ริมทะเลเลย
อิ่มแล้วก็ได้เวลาดูปลากันแล้ว ค่าเข้าถูกมาก แต่จำไม่ได้แน่ชัดว่า 30 หรือ 40 บาท ข้างในก็สะอาดดีมีปลาให้ดูพอสมควร มีอุโมงค์ปลาด้วย ก็ถือว่าสมราคาเลยล่ะ เหตุผลที่เรามาที่นี้ ก็เพราะสามีชอบปลาเสือตอแล้วก็เคยเลี้ยงอยู่พักนึง เห็นเค้าว่าที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดปลาเสือตอ สามีก็เลยอยากมา แต่พอเข้ามาก็เจอปลาเสือตออยู่ไม่กี่ตัวเอง 55555