(ขออภัยเพื่อนร่วมบอร์ดที่เพิ่มกระทู้มาม่ามาอีกหนึ่งกระทู้)
เมื่อวานได้มีโอกาสอ่านกระทู้เรื่องพี่สาวกับการไปเป็นพยาน แต่ไม่มีโอกาสได้ตอบ
ใจก็ว่าจะไม่ยุ่ง แต่ก็อย่างหัวกระทู้ ยังไงก็ตาม มันยังมีมิตรภาพและความหวังดีที่หลงเหลืออยู่
ทุกอย่างที่มีผล มันก็มาจากเหตุ พี่สาวผ่านโลกมาเยอะคงทราบถึงเหตุผลข้อนี้ดี
พี่สาวกับผมก็ไม่ต่างกันที่ว่า เราอยู่วงนอก เราอยากเป็นคนกลาง แต่มันก็กลางแบบเอียงๆ
สุดท้ายเอียงไปเอียงมาก็โดนลากเข้าไปอยู่ฝั่งนั้นเต็มตัว
คำพูดของพี่สาวที่ว่าเบื่อมาก กับกระทู้เรื่องเผยชื่อและเบอร์
ผมก็สงสัยว่าพี่สาวเบื่อทำไม เรื่องของตัวเองก็ไม่ใช่ แต่คนที่โดนน่ะใช่
พี่สาวอาจจะบอกว่าพี่อ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าจะรู้ว่าชื่อใคร เบอร์ใคร
หรือต่อให้ใช่ก็อาจเป็นเรื่องบังเอิญ
ชื่อ บังเอิญได้ครับ
เบอร์ ก็บังเอิญได้ครับ
ทั้งชื่อทั้งเบอร์ คนเดียวก็บังเอิญได้ครับ
แต่ทั้งชื่อทั้งเบอร์ ตรงกับคนหกเจ็ดคน มันบังเอิญได้หรือครับ
แล้วชื่อกับเบอร์ทั้งหกเจ็ดคนนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคู่กรณีที่โดยตีกินข่มขู่อยู่ทุกวัน
ใครยังเชื่อว่าบังเอิญได้อีกครับ!!
แต่พี่สาวกลับออกมาบอกว่า
"ถ้ากลัวก็เปลี่ยนเบอร์ไป"
นี่คือคำพูดของผู้อาวุโสหรือครับ
นี่คือคำพูดของพี่สาวที่น้องๆเคยเจอหน้า และเคารพให้เกียรติหรือครับ
พี่สาวโวยเรียกความเห็นใจ ถ้าหากถูกเรียกไปเป็นพยาน ก็น่าเห็นใจจริงๆครับจากเรื่องในครอบครัว
แต่พี่สาวเคยคิดสักนิดมั้ยครับ ว่าจะถูกเรียกไปเป็นพยานในคดีอะไร เรื่องอะไร
คนพูดคือน้ำมิตร เคยคิดมั้ยครับว่าน้ำมิตรจะถูกแจ้งข้อหาอะไร
แทนที่พี่สาวจะโวยเรื่องถูกเรียกไปเป็นพยาน พี่สาวถามคนใกล้ตัวดีกว่ามั้ยครับ ว่าน้ำมิตรต้องเป็นจำเลยเรื่องอะไร
พี่สาวไปเปรียบเทียบกับการเปิดหลังไมค์
ถ้าพี่สาวโดนคนเอาหลังไมค์มาเปิดเผย พี่สาวอาจจะโกรธ เสียหน้า เสียความรู้สึก แต่คนเปิดเผยก็ต้องเสียเครดิตเช่นเดียวกัน
แต่ถ้าพี่สาวโดนคนเอาชื่อจริงมาเปิดเผย กับเลขเบอร์โทรบางส่วน พี่สาวไม่ได้เสียแค่ความรู้สึก
แต่จะต้องรับรู้ได้ถึงภัยคุกคามข่มขู่
ใครจะเกลียด mr.c เกลียดได้ครับ อยากทำลายก็ทำลายได้ครับ ถ้ามีความแค้นส่วนตัวกัน
แต่ไม่ใช่พาลไปถึงคนรอบข้าง
จะทำลายคนๆเดียว ถึงขนาดเหวี่ยงแหไปทั้งกลุ่ม ใครคุยกับมันคือโง่ ใครคบกันมันคือเลว ผมว่าเกินไปหน่อย
แต่แค่นั้นยังไม่พอ ใครที่ยืนเคียงข้างมันคือศัตรูข้า ต้องทำลายล้างไปให้หมด โดยไม่เลือกวิธีที่ใช้
พี่สาวเองก็สนับสนุนให้ใช้วิธีทางกฏหมาย ผมก็ไม่ขัดข้องครับ ใครทำคุณเจ็บช้ำมากคุณก็ต้องหาที่พึ่ง
กรณีนี้ก็คือพึ่งศาล
แต่กลุ่มคนเหล่านั้น เช่น น้ำมิตร เพชรน้ำนิล คนเหล่านี้ทำผิดถึงขนาดพี่สาวก็สนับสนุนให้โดนฟ้องด้วยหรือครับ
เมื่อเค้าสาดโคลนกัน เราเผลอเข้ามา ต่อให้เข้ามาห้าม ยังไงก็ต้องเลอะโคลน
คนอื่นเลอะโคลน พี่สาวสนับสนุน แต่พอพี่สาวเลอะโคลนบ้าง ทำไมรีบออกอาการล่ะครับ
พี่สาวพูดเอง คนเหล่านี้คือน้องๆหลานๆ พี่เคยคุย เคยเฮฮา กินข้าวกัน เที่ยวด้วยกัน
มันมาถึงวันนี้ได้ยังไง
พี่เป็นผู้ใหญ่ ควรมีหน้าที่ไกล่เกลี่ย ต่อให้ไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็ไม่ต้องถึงกับสุมฟืนเข้าไปอีก
ผมเห็นแล้วรับไม่ได้ ที่เห็นคนกันเองมาห้ำหั่นกันแบบนี้
ผมเบื่อครับ เบื่อมากๆ เบื่อจนเอียน
ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนหนึ่งที่โดนหมายหัวเอาไว้ จำต้องอยู่ต่อ
ผมคงไปล่ะครับ ไม่ได้เป็นเสื้อแดงเสื้อดำอะไรกับเค้าแล้ว
แต่ไปไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะคิดว่าหนี เลยต้องอยู่คลุกโคลนต่อไป
ชีวิตข้างนอกบอร์ดผมก็มีความสุขดีมากๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกที่จะเป็นจะตายในบอร์ดนี่
เค้าว่างกันมากนักรึไง
แต่การที่มาอยู่ห่างๆอย่างไม่สนสีเสื้อ ก็ได้เห็นอะไรที่รู้สึกว่า เราคิดถูกจริงๆ
เห็นเลอคูที่พยายามไกล่เกลี่ย ในแบบของเค้า
เห็นเกียนที่พยายามไกล่เกลี่ย ในแบบของเกียน
เห็นปี๊บ (ชบาเหลือง) ที่ด่าทั้งสองฝั่งว่าชื่อเสียงใหญ่โตมากนักรึไง เอะอะเอะอะก็ฟ้องเพราะเสียชื่อ
แต่กลับเห็นคนที่กระเหี้ยนกระหือรือ อยากฟ้อง อยากมีเรื่อง อยากเอากันให้ตาย พาลยกกลุ่ม
คือคนกันเองที่เคยกินเคยเที่ยวเคยกอดคอกันมาทั้งนั้น
เคยคิดมุมนี้มั้ยครับพี่
***** จากใจที่มิตรภาพยังเหลือเยอะ กับพี่สาวเหลือน้อย *****
เมื่อวานได้มีโอกาสอ่านกระทู้เรื่องพี่สาวกับการไปเป็นพยาน แต่ไม่มีโอกาสได้ตอบ
ใจก็ว่าจะไม่ยุ่ง แต่ก็อย่างหัวกระทู้ ยังไงก็ตาม มันยังมีมิตรภาพและความหวังดีที่หลงเหลืออยู่
ทุกอย่างที่มีผล มันก็มาจากเหตุ พี่สาวผ่านโลกมาเยอะคงทราบถึงเหตุผลข้อนี้ดี
พี่สาวกับผมก็ไม่ต่างกันที่ว่า เราอยู่วงนอก เราอยากเป็นคนกลาง แต่มันก็กลางแบบเอียงๆ
สุดท้ายเอียงไปเอียงมาก็โดนลากเข้าไปอยู่ฝั่งนั้นเต็มตัว
คำพูดของพี่สาวที่ว่าเบื่อมาก กับกระทู้เรื่องเผยชื่อและเบอร์
ผมก็สงสัยว่าพี่สาวเบื่อทำไม เรื่องของตัวเองก็ไม่ใช่ แต่คนที่โดนน่ะใช่
พี่สาวอาจจะบอกว่าพี่อ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าจะรู้ว่าชื่อใคร เบอร์ใคร
หรือต่อให้ใช่ก็อาจเป็นเรื่องบังเอิญ
ชื่อ บังเอิญได้ครับ
เบอร์ ก็บังเอิญได้ครับ
ทั้งชื่อทั้งเบอร์ คนเดียวก็บังเอิญได้ครับ
แต่ทั้งชื่อทั้งเบอร์ ตรงกับคนหกเจ็ดคน มันบังเอิญได้หรือครับ
แล้วชื่อกับเบอร์ทั้งหกเจ็ดคนนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคู่กรณีที่โดยตีกินข่มขู่อยู่ทุกวัน
ใครยังเชื่อว่าบังเอิญได้อีกครับ!!
แต่พี่สาวกลับออกมาบอกว่า "ถ้ากลัวก็เปลี่ยนเบอร์ไป"
นี่คือคำพูดของผู้อาวุโสหรือครับ
นี่คือคำพูดของพี่สาวที่น้องๆเคยเจอหน้า และเคารพให้เกียรติหรือครับ
พี่สาวโวยเรียกความเห็นใจ ถ้าหากถูกเรียกไปเป็นพยาน ก็น่าเห็นใจจริงๆครับจากเรื่องในครอบครัว
แต่พี่สาวเคยคิดสักนิดมั้ยครับ ว่าจะถูกเรียกไปเป็นพยานในคดีอะไร เรื่องอะไร
คนพูดคือน้ำมิตร เคยคิดมั้ยครับว่าน้ำมิตรจะถูกแจ้งข้อหาอะไร
แทนที่พี่สาวจะโวยเรื่องถูกเรียกไปเป็นพยาน พี่สาวถามคนใกล้ตัวดีกว่ามั้ยครับ ว่าน้ำมิตรต้องเป็นจำเลยเรื่องอะไร
พี่สาวไปเปรียบเทียบกับการเปิดหลังไมค์
ถ้าพี่สาวโดนคนเอาหลังไมค์มาเปิดเผย พี่สาวอาจจะโกรธ เสียหน้า เสียความรู้สึก แต่คนเปิดเผยก็ต้องเสียเครดิตเช่นเดียวกัน
แต่ถ้าพี่สาวโดนคนเอาชื่อจริงมาเปิดเผย กับเลขเบอร์โทรบางส่วน พี่สาวไม่ได้เสียแค่ความรู้สึก
แต่จะต้องรับรู้ได้ถึงภัยคุกคามข่มขู่
ใครจะเกลียด mr.c เกลียดได้ครับ อยากทำลายก็ทำลายได้ครับ ถ้ามีความแค้นส่วนตัวกัน
แต่ไม่ใช่พาลไปถึงคนรอบข้าง
จะทำลายคนๆเดียว ถึงขนาดเหวี่ยงแหไปทั้งกลุ่ม ใครคุยกับมันคือโง่ ใครคบกันมันคือเลว ผมว่าเกินไปหน่อย
แต่แค่นั้นยังไม่พอ ใครที่ยืนเคียงข้างมันคือศัตรูข้า ต้องทำลายล้างไปให้หมด โดยไม่เลือกวิธีที่ใช้
พี่สาวเองก็สนับสนุนให้ใช้วิธีทางกฏหมาย ผมก็ไม่ขัดข้องครับ ใครทำคุณเจ็บช้ำมากคุณก็ต้องหาที่พึ่ง
กรณีนี้ก็คือพึ่งศาล
แต่กลุ่มคนเหล่านั้น เช่น น้ำมิตร เพชรน้ำนิล คนเหล่านี้ทำผิดถึงขนาดพี่สาวก็สนับสนุนให้โดนฟ้องด้วยหรือครับ
เมื่อเค้าสาดโคลนกัน เราเผลอเข้ามา ต่อให้เข้ามาห้าม ยังไงก็ต้องเลอะโคลน
คนอื่นเลอะโคลน พี่สาวสนับสนุน แต่พอพี่สาวเลอะโคลนบ้าง ทำไมรีบออกอาการล่ะครับ
พี่สาวพูดเอง คนเหล่านี้คือน้องๆหลานๆ พี่เคยคุย เคยเฮฮา กินข้าวกัน เที่ยวด้วยกัน
มันมาถึงวันนี้ได้ยังไง
พี่เป็นผู้ใหญ่ ควรมีหน้าที่ไกล่เกลี่ย ต่อให้ไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็ไม่ต้องถึงกับสุมฟืนเข้าไปอีก
ผมเห็นแล้วรับไม่ได้ ที่เห็นคนกันเองมาห้ำหั่นกันแบบนี้
ผมเบื่อครับ เบื่อมากๆ เบื่อจนเอียน
ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนหนึ่งที่โดนหมายหัวเอาไว้ จำต้องอยู่ต่อ
ผมคงไปล่ะครับ ไม่ได้เป็นเสื้อแดงเสื้อดำอะไรกับเค้าแล้ว
แต่ไปไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะคิดว่าหนี เลยต้องอยู่คลุกโคลนต่อไป
ชีวิตข้างนอกบอร์ดผมก็มีความสุขดีมากๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกที่จะเป็นจะตายในบอร์ดนี่
เค้าว่างกันมากนักรึไง
แต่การที่มาอยู่ห่างๆอย่างไม่สนสีเสื้อ ก็ได้เห็นอะไรที่รู้สึกว่า เราคิดถูกจริงๆ
เห็นเลอคูที่พยายามไกล่เกลี่ย ในแบบของเค้า
เห็นเกียนที่พยายามไกล่เกลี่ย ในแบบของเกียน
เห็นปี๊บ (ชบาเหลือง) ที่ด่าทั้งสองฝั่งว่าชื่อเสียงใหญ่โตมากนักรึไง เอะอะเอะอะก็ฟ้องเพราะเสียชื่อ
แต่กลับเห็นคนที่กระเหี้ยนกระหือรือ อยากฟ้อง อยากมีเรื่อง อยากเอากันให้ตาย พาลยกกลุ่ม
คือคนกันเองที่เคยกินเคยเที่ยวเคยกอดคอกันมาทั้งนั้น
เคยคิดมุมนี้มั้ยครับพี่