ผมพิมพ์แบบไม่ได้เรียงนะครับ อาจจะสลับไปสลับมา และอาจมา edit เพิ่มข้อมูลให้อีกที

ต้องถาม จขกท ว่า พื้นที่เท่าไหร่ครับ สภาพพื้นที่เป็นอย่างไร เป็นดิน เป็นปูน เป็นหิน จอดกี่คัน เช่าจอดกี่เดือน หรือกี่ปี ถนนทางเข้าออกแถวนั้นยางมะตอย หรือปูน ใกล้บ้านคนไหม

คนรู้จักผมเคยให้เช่าจอดสิบล้อ กับรถพ่วงครับ ปัจจุบันไม่ได้ให้เช่าแล้ว
ต้องระวังปัญหาที่จะตามมานะครับ (ตาม คห. 3 กับ 4 บอกเลยครับ)

เท่าที่ผมฟังเค้าเล่ามา (ประสบการณ์ตรงเลย) คือ
- เรื่องเสียงดัง ทั้งเสียงเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสีย เสียงคนขับคุยกันเสียงดัง (เสียงขากถรุยก็มี) กรณี ท่อไอเสีย บางคันท่อดังมากกกกกก (ดังมากจริงๆ ครับ) ไม่รู้ว่าจงใจทำท่อมา หรือท่อพัง เสียงแตรลมนี่ก็ดังมากเช่นกันครับ แค่บีบสั้นๆ ทีเดียวก็ว่าแย่แล้ว วันดีคืนดี มีบีบแตรแบบเป็นจังหวะกลองด้วย
- ต้องถามว่าที่ผู้เช่าด้วยครับว่า จอดอย่างเดียวหรือเปล่า มีซ่อมบำรุง มีพักอยู่อาศัยไหม (ถ้ามีที่พักอาศัย ก็บวกค่าเช่าไปอีก)
- ถ้าพักอาศัย เค้าก็ต้องสร้างที่พัก ตอนสร้างก็สร้างไป แต่ตอนรื้อ จะเหลือซากปรักหักพัง ตอเสาปูน ถังบ่อเกรอะ (ถังเก็บอึ) รวมถึงขยะ และน้ำเสีย ให้เห็นเป็นที่ระลึก คราวนี้ จขกท จะทำอะไรต่อ ก็ต้องมาเคลียร์ซากพวกนี้ก่อน
- เทศกาลทีนึง โดยเฉพาะปีใหม่ สงกรานต์ เปิดเพลงดัง กินเหล้า ฯลฯ
- ถ้าฝนตกน้ำขัง ถ้าเป็นดิน เป็นหิน มีเละครับ รถหนักจะตกหล่มเร่งเครื่องเสียงดัง (ท่อไอเสียก็ดัง) และมีดินติดล้อทำให้ถนนสกปรก ส่วนถ้าเป็นพื้นปูน พื้นปูนก็พื้นปูนครับ พังแน่นอน ซ่อมแล้วก็พังอีก (เค้าเทปูนแบบชาวบ้านเทหนะครับ ไม่ได้เทปูนแบบถูกต้องตามขั้นตอนตามหลักวิศวกรรมฯ เพราะต้องลงทุนสูงมาก) พอเค้าจากไปแล้วก็เป็นซากพื้นปูน จขกท ถ้าจะสร้างอาคาร หรือจะทำอะไร ก็ต้องมาทุบพื้นปูนทิ้งอีก
- ถ้าเป็นถนนปูนในซอย ก็จะพังเป็นหย่อมๆ เพราะถนนไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รถหนักวิ่ง ท่อประปาที่อยู่ใต้ถนนพังมีน้ำซึมเจิ่งนอง ประปามาซ่อมทีก็ต้องเจาะพื้นถนน แล้วเทปูนกลบ รถติดเพราะต้องเบี่ยงเลน น้ำหยุดไหลชั่วคราว ถ้าหน้าฝนก็จะเจอดินติดล้อออกมาเกลื่อนถนน ซักพักก็เป็นฝุ่น
- รถวิ่งในซอยมีแผ่นดินสะเทือนครับ ระวังบ้านร้าว
- รถหนัก จะมีเวลาวิ่ง ห้ามวิ่ง (แล้วแต่พื้นที่) ดังนั้นเพื่อไม่ให้ติดเวลาห้ามวิ่ง รถบรรทุกพวกนี้จะออกจากที่จอดรถไปทำงานช่วงเช้ามืด (ตี 4 ตีห้า) ลองคิดดูสิครับ นอนๆ อยู่ เสียงท่อดัง เสียงเร่งเครื่องยนต์ และบ้านเขย่า (เพราะน้ำหนักรถที่มาก) อีกทีก็ช่วงสายๆ ไปเลย และกลับมาช่วงก่อนหกโมงเย็น หรือไม่ก็ดึกไปเลย นอกจากนี้ก็จะมีปัญหาเรื่องรถติดในซอยครับ (กรณีซอยแคบ) เวลาเจอโค้งหักเลี้ยวทีนึง โดยเฉพาะรถพ่วง (ถอยหลังยากครับ) ไปจังหวะไม่ดี รถติดยาว

(ชาวบ้านแถวนั้นมีด่าในใจ และตั้งคำถามว่าใครเป็นเจ้าของที่ดิน)

แต่ถ้าอยู่ห่างไกลจากชุมชน ห่างไกลจากบ้านคน ก็มองๆ ข้ามไปก็ได้ครับ เพราะไม่ได้รบกวนใคร

ถ้าทำที่เช่า ให้เช่าจอดรถ 4 ล้อปัญหาน้อยที่สุดครับ (แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา ต้องเจอปัญหาบ่อยๆ แล้วจะควบคุมปัญหาได้) เพราะผู้เช่าจอดรถเสร็จแล้วก็ไป แต่ค่าเช่าอาจจะไม่สูงมากนัก
(พวกเช่าอาคาร เช่าที่ดิน ได้ราคามากกว่า แต่ปวดหัวกว่า ยกเว้นโชคดีเจอผู้เช่าดี บางทีก็ต้องวัดดวงกันไป)

การทำสัญญาเช่า
เลือกไปเลยครับว่าจะเหมาทั้งแปลง หรือ คิดเป็นจำนวนคัน (คิดเป็นจำนวนคันมันจะหยุมหยิม เสียเวลาผู้ให้เช่าครับ ต้องมาคอยตรวจสอบบ่อยๆ ว่ามีรถจอดกี่คันกันแน่)
สัญญา ควรทำระยะเวลาเช่าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น 6 เดือน หรือ 1 ปี (ถ้ามากกว่านี้ เวลามีปัญหา ต้องรอให้หมดสัญญาอย่างเดียว)
ควรเขียนระบุไปเลยว่า ให้เช่าที่จอดรถเท่านั้น ห้ามจอดเกินกี่คัน ห้ามพักอาศัย ห้ามซ่อมบำรุง ห้ามเร่งเครื่องเสียงดัง ห้ามกินเหล้า ห้ามนำสิ่งกฏหมายเข้ามา ฯลฯ (แล้วแต่จะใส่เลยครับว่าจะห้ามอะไรบ้าง ไม่ต้องไปเกรงใจ ไม่งั้นเวลามีปัญหาผู้ให้เช่าจะทำอะไรเค้าไม่ได้)
ระบุไปด้วยว่า ค่าเช่าจ่ายทุกวันไหน จ่ายช้ามีค่าปรับเท่าไหร่ จ่ายช้าเกินกี่วันจะถือว่าผิดสัญญา จ่ายด้วยวิธีไหน (เช่น จ่ายเงินสดเท่านั้น หรือโอนไปบัญชีไหน) ผู้เช่าต้องเป็นฝ่ายนำเงินมาให้ผู้เช่า ภาษีใครจ่าย เช่น ภาษีบำรุงท้องที่ (ภาษีที่ดิน) ภาษีโรงเรือน ฯลฯ
ไฟฟ้า ประปา ใครเป็นคนขอ ใครเป็นคนจ่าย (ขอเองดีกว่าครับ ถ้ามีปัญหา จขกท ก็ตัดน้ำตัดไฟ ได้ง่ายหน่อย เพราะเป็นชื่อเราเอง)

การจ่ายค่าเช่ามี 2 แบบ คือ
- จ่ายก่อนค่อยเข้ามาจอด (กรณีนี้เบี๊ยวไม่ได้) << ที่จอดรถแถวบ้านผมเก็บเงินวิธีนี้
- จ่ายสิ้นเดือน (กรณีนี้ต้องมีเงินประกันล่วงหน้า ไม่งั้นอาจโดนเบี้ยว ตอนเค้าจากไปที่ดินคงเป็นหลุมเป็นบ่อหละครับ ไหนจะซากสิ่งก่อสร้างบางอย่าง ก็ต้องมาซ่อมบำรุงอีก) << มักใช้กับเช่าที่ดิน กับ เช่าอาคาร