ต้องทนรับรู้สิ่งที่สามีทำผิดไปจนวันตายเลยเหรอไง

ปกติจะเป็นคนมาหาข้อมูลในพันทิป อ่านเรื่องโน่นนี่นั้นเป็นความรู้ แต่ในวันนี้อยากมีสิ่งที่ระบาย เพราะมีความทุกข์ใจ เหมือนวนอยู่ในอ่าง
ตัวเราเองเป็นผู้หญิงอายุ 43 ปี ลูกชาย 1 คน อายุ 8 ขวบ กำลังเป็นวัยเรียนรู้และคิดได้เองแล้ว คุณสามีอายุ 50 ปี เราทั้งคู่เป็นคนหน้าตาดี การงานดี มีคนรู้จักมากมาย ย้อนกลับไปเมื่อ 17-18 ปีก่อน เราทำงานอยู่ที่เดียวกันแต่คนละแผนก ในองค์กรที่ใหญ่โตที่เดียว คบกันได้ประมาณ 3 ปี ก้อแต่งงานกัน ก้อเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป เที่ยว กิน เก็บเงิน สร้างธุรกิจส่วนตัว ใช้ชีวิตมีความสุขดี เค้าเริ่มมีหน้าที่ใหญ่โตขึ้น เราออกมาดูแลกิจการส่วนตัว ด้วยวัยที่เราจะ 35 ล่ะเลยวางแผนจะมีลูก จนเราได้ลูก นั่นแหละความทุกข์เราเริ่มเข้ามาโดยไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งตัว เรามีทะเลาะกันบ้างเรื่องการเลี้ยงลูก การเงิน และคุณพ่อคุณแม่สามีก้อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ทุกอย่างก้อผ่านไปได้ เพราะคิดว่าทุกครอบครัวก้อมีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่....ที่แปลกคือ คั้งแต่คลอดลูก มาเค้าไม่เคยยุ่งกับเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรือว่าเป็นเกย์ ความสงสัยทำให้เราจึงถาม คำตอบที่ได้คือ ยังไม่ชินอีกเหรอ อ้าวต้องชินด้วยเหรอ เราผิดปกติตรงไหน เค้าเอาแต่เล่นมือถือ และกลับดึก และเราต้องเป็นคนดูแลเลี้ยงลูก ส่งลูกเข้านอน ก่อนนอนลูกจะไม่ได้เจอเค้าเลย เจอกันตอนเช้าแค่ 20 นาทีเวลาไปส่ง ร.ร. เท่านั้น เสาร์อาทิตย์เค้าเอาแต่อยู่บนห้อง ไม่ลงมาเล่นหรือสอนการบ้านลูก เราทำงานบ้านเลี้ยงลูกไป คิดว่าคงเหนื่อยกับงาน นับว่าเรายิ่งสงสัยเค้ามากขึ้น ว่าทำไมกลับดึกทุกวัน เลี้ยงลูกค้าทุกอาทิตย์ งานศพอาทิตย์ละครั้ง จะตายกันทุกวันเลยเหรอไง ปกติเราไม่เคยไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวเค้าเลย อีกอย่างเราไม่ค่อยมีเวลาไปสืบหรอกเพราะต้องดูแลลูก จนเราได้มีโอกาสสืบ  เบื้องต้น จากไอโฟน โดยการจับ gps  เพราะเราเป็นคน set เครื่องให้เค้าเราเลยรู้ทุกอย่าง สัญญาณแรกเห็นล่ะ ว่าไม่ได้กลับดึก แต่อยู่ที่คอนโดเดียวกับเรานี่แหละ คนละชั้น เสร็จธุระเค้าแล้วก้อเดินกลับห้องไง ง่ายไหม ผู้หญิงคนนั้นเราก้อรู้จักดีเป็นคนที่ทำงานเดียวกับเค้า ลืมบอกว่าเราออกมาทำงานบริษัทแล้ว และ ผญ คนนี้ก้อรู้จักกับ ลูกเราและปู่ย่าด้วย แต่เราก้อต้องเก็บเอาไว้ก่อน อดทนไว้เพราะลูกกำลังจะสอบเข้า ป1 ให้มันผ่านไปก่อน จนวันนึงมันทนไม่ได้จริงๆ กับความเจ็บปวดที่รู้อยู่แก่ใจจนต้องบอกเค้าว่าเรารู้แล้วนะ บ้านแตกสิ เค้ายอมรับ และบอกให้เรายอมรับความจริงที่เค้าเป็น เค้ารู้ตัววว่าทำผิด แต่ขอความสุขที่เค้าอยากมีมั้งได้ไหม คือเราต้องยอมใช่ไหม ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงทำแบบนี้ เค้าบอกว่าไงรู้ไหม
เค้าบอกว่าเค้าเป็นโรคจิต ที่ไม่มีความรู้สึกกับผู้หญิงที่มีลูกแล้ว อน่างนั้นก้อได้เหรอ เรามีลูกให้เค้านะ เค้าถามว่า ไม่ถามเค้าหน่อยเหรอว่าอยากมีลูกไหม คำตอบคือไม่ได้อยากมีลูก แล้วทำไมไม่บอก แต่เค้าก้อยังดีที่บอกว่า ตอนนี้มีลูกก้อรักสุดหัวใจเหมือนกัน เวลาผ่านไปเราผีเข้าผีออกไปหลายตลบ เพราะยังวนเวียนอยู่ในอ่าง และยังค่อยระแวง เพราะเค้าเปลี่ยนมือถือ เปลี่ยนรหัส email อะไรทุกอย่าง ล็อดหน้าจอ ไม่เด้งเตือน ไม่มีสั่น มีเสียง อือ อยากทำไรก้อทำ เราพยายามจะหลุดพ้นว่าถ้าเราไม่ปล่อยวางเราจะเป็นคนที่ทุกข์เอง คิดบวก เข้าไว้ จากนั้นเค้าก้อบอกไม่มีไรแล้วกะคนนั้น เลิกกันไปแล้ว ทีนี้ลูกได้ที่เรียนและต้องตื่นเช้า เค้าบอกอยู่กับลูกไม่ได้นะ เพราะถ้าลูกตื่นเค้าจะต้องตื่นด้วยเค้าจะทำงานไม่ไหว ลูกตื่น 6 โมงนิดๆ เราตื่นตี 5 ครึ่งมาเตรียมอาหารเช้า ให้เค้า เค้าเลยให้เราอยู่กับลูกที่คอนโด 2 คน .... ใช่ เค้าทิ้งลูกกะเมียไปอยู่บ้านปู่ย่า แถวรังสิต ขึ้นโทลย์เวย์มาทำงานแป้บเดียว ทั้งๆที่คอนโดอยู่ใกล้ที่ทำงานแค่ 10-15 นาทีเอง อือ ก้อได้เรายอม จนแล้วจนรอด เราก้อรู้เค้าอีกว่าเค้าทั้งสองยังติดต่อกันอีก อือ ก้อแล้วแต่ จนผ่านไป ปีครึ่งเราเห็นว่าการเดินทางไปกลับของลูกเริ่มมีปัญหาและอันตราย เพราะบางครั้งต้องใช้มอไซส์รับจ้างบ้าง และการจราจรติดขัดเพราะทำ bts เราจึงปรึกษากับปู่ย่า เค้ามีบ้านอยู่ใกล้ๆที่ทำงานแฟนเรานี่แหละปู่ย่าช่วยรีโนเวทให้ใหม่ ได้ย้ายมาอยู่บ้านนี้ แต่เค้าก้อไม่มาอยู่ด้วยกันด้วยเหตุผลเดิม เราได้มาอยู่ปู่ ย่า ลูกและเรา เสาร์อาทิตย์ก้อกลับไปบ้านรังสิตเพื่อให้พ่อลูกเจอกัน และที่โน่นมีของครบกว่า แต่มีข้อสงสัยอยู่อย่างว่าเค้าไม่เคยกลับมาทานข้าวเย็นเลยในวันธรรมดา ซึ่งจากที่ทำงานถึงบ้านขับรถก้อ 5-10 นาที เดินทะลุจากที่ทำงานมาก้อได้ จะมาเฉพาะวันศุกร์ที่จะเตรียมตัวกลับบ้านรังสิตเท่านั้น เวลาผ่านไปเกือบปี เรานิ่ง คิดบวกเสมอมา ทำตัวให้สดใส ดูแลตัวเอง ทั้งรูปร่างและหน้าตา ไม่ปล่อยให้โทรม คิดว่าอาจจะกลับมาเหมือนเดิมได้ จนมีคนเข้ามาจีบ เราหลายคน แต่เราไม่เคยมีใจให้ใครเลย จนกระทั่ง ปลายปีที่ผ่านมาก้อมีเรื่องให้สงสัยอีกล่ะ ได้มีการพูดคุยกัน ขณะที่คุยกันมีคุณแม่เค้าฟังด้วย อยู่ๆเค้าก้อมาบอกว่าจะบอกอะไรให้ฟังนะ
เค้านะเป็นคนเจ้าชู้มาก ก่อนที่จะแต่งงานกับเรา เค้าก้อคบซ้อน 10 กว่าคน รวมทั้งเราด้วย .... อืมช่างเถอะ แบะหลังจากแต่งงาน เค้าก้อไม่เคยมีใคร แต่หลังจากมีลูกแล้ว เค้าอยาก ... แต่เค้าบอกไม่ได้มีความรู้สึกกับเรา ซึ่งตอนนั้นหลังคลอดเราไม่อ้วน ดูแลตัวเองอย่างดี เค้ารู้ว่าเรายังสวย หุ่นดี แต่เค้าไม่รู้สึกกับคนที่มีลูกแล้ว ทำไงล่ะ เค้าเลยไปซื้อกิน ซื้อครั้งแรกมันทำได้นี่ นั้นครั้งต่อไปมันก้อมีมาเรื่อยๆอันนี้เราพอรับได้ แต่... เค้าบอกต่อ ว่าแม้แต่คนที่ทำงานเค้าก้อมีด้วยไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีหลายๆคนในเวลาเดียวกัน เราไม่ต้องไปรู้หรอกว่าเค้าจะมีเมียคนที่ 1 คนที่สอง ไม่ค้อวไปนับเพราะมันไม่จบ ทำไมๆถึงทำแบบนี้ แล้วพวกนั้นเค้าไม่รู้หรือไงว่าคุณน่ะมีครอบครัวแล้ว เค้าบอกเค้าไม่สน เค้าไม่รู้ คนที่ฝ่ายเดียวกันก้อมี ซึ่งเรารู้จักเพื่อนฝ่ายเค้าหมด และเราก้อเป็นคนที่ทำงานเค้ารู้จักเยอะด้วย แลังคนพวกนั้นเค้ายอมกันด้วยเหรอ ดูซีรี่ย์กันมากไปไหม ทำไมถึงมั่วกันอย่างนี้ ทำไปเพื่ออะไร เค้าบอกว่า บางทีเค้าเครียดงาน แบะมีความต้องการแบะต้องการปลดปล่อยให้เค้าทำไง คุยงานด้วย นอนด่วยกันด้วยอย่างนี้ก้อได้เหรอ คุณไม่นึกถึงลูก ถึงเมียที่นอนที่บ้านเหรออย่างไง ความสุขของคุณอยู่ที่ไหน เค้าบอก เค้าก้อมีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวนี้และ หมดจากคนนี้ก้อเปลี่ยนไปคนนั้น เค้าบอกไม่ต้องห่วงว่าเค้าจะยกย่อง พาออกหน้าออกหน้าหรอกนะ เค้าไม่พามาเป็นแม่คนที่สองหรอก อีกอย่างเค้าขอแค่ 5 วันเป็นเวลาของเค้า 2 วันเป็นเวลาของครอบครัว และนี่คงเป็นเหตุผลหลักที่วันธรรมดาไม่กลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านเพราะต้องการมีความเป็นส่วนตัวไปหาความสุขส่วนตัว ให้เราทำตัวให้มีความสุข ค่าใช้จ่ายของลูกเรื่องเรียน เค้าก้อออกให้หมด แล้วเราก้อต้องยอมรับและต้องปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้เหรอ แล้วถามว่าเมื่อไรจะได้กลับมาอยู่ด่วยกันหรือมีวิธีไหนที่จะมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง เค้าบอกเค้าก้อไม่รู้หรอก คงอาจจะไม่ต้องทำงานแล้วมั้งจะกลับมา หลังจากที่คุยกันอีก 2 วันทั้งครอบครัวต้องไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ใจเราต้องทุกข์แต่หน้าเราต้องยิ้มมันเป็นอย่างนี้ทุกทริปที่ต้องมีเรื่องก่อนไปเที่ยว หลังจากกลับจากเที่ยวหลังปีใหม่นี้. เรายังคิดว่าสิ่งที่เค้าบอกต้องไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดแต่ๆมันแค่เป็นการประชด หรือบอกให้เพื่อไม่ต้องมาสงสัยหรือมาตามอีกเพราะตั้งแต่อยู่ด่วยกันมาเค้าค่อยข้างรู้จักบาปบุญคุณโทษ รู้จักเวรกรรม เค้าเกลียดการเล่นชู้ และคิดว่าคนที่เราจับได้แค่คนเดียว เราหาเรื่องจริงๆ เราติด gps คราวนี้ทั้งตำแหน่งและเสียงเลย ทุกอย่างเป็นอย่างที่เค้าบอกจริงๆและเรายอมแพ้แล้ว มันเป็นจริงอย่างที่คุณบอกจริงๆ ที่นั่งประจำรถเบนซ์เค้า ตำแหน่งของเรามีผู้หญิงมากหน้าหลายตามานั่งนับไม่ถ้วน ความรู้สึกบอกไมีถูก รู้สึกขยาดแขยงยังไงไม่รู้ แล้วเอาตัวสกปรกมากอดลูกด้วย เค้าว่าเราไม่ใช่เป็นเมียเค้าแล้ว และมันก้อเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เราเป็นแค่แม่ของลูกเท่านั้น เค้าบอกไม่ได้รักเราแล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกอื่นคืออยากให้เรามีความสุข ไม่อยากให้มีความทุกข์ ตั้งหน้าเลี้ยงลูกไป  รู้ไหมเรารู้สึกเจ็บมาก นั่งทำงานไม่ได้ อยากไปไหนก้อได้ แต่เราต้องมาดูแลลูกอยู่ ถามว่าทำไมเราไม่ออกมา เรายังไม่พร้อม ทั้งกำลังทรัพย์ กำลังกาย มันหมดแรง เคยคุยเรื่องพวกนี้แล้วเค้าไม่ให้ตามที่ขอ และหาว้าเราอยากได้เงินเหรอไง และอีกอย่างลูกจะไปลำบากด้วย เราทั้งเจ็บปวดใจมากด้วยที่ว่าเรายังรักเค้ามาก ทั้งๆ เค้าเป็นคนอย่างนี้ เรารู้ว่าเราควรทำอย่างไหนแต่มันไม่สามารถสั่งใจให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดนี้ได้ เคยคิดว่าถ้าเรามีรักใหม่คงจะทำให้เลิกรักเค้าได้ และไปมีชีวิตใหม่ แต่คนดีๆ ไม่มีเหลือแล้ว เรามีลูกมีภาระ  พ่อแท้ๆเค้ายังทำแบบนี้เลย แล้วคนอื่นจะเป็นอย่างไง คนที่เราไว้ใจมากที่สุดยังเป็นอย่างนี้ คงต้องใช้เวลา และหาทางออกที่ดีกับลูกเป็นหลัก ความอดทนใช่ไหม ตอนนี้เราแยกมาอยู่บ้านปู่กะ ย่าเป็นหลักก่อนยังคงต้องมีการเจอกันแบะพูดคุยเรื่องลูกอีกนาน แต่สิ่งที่เราเป็นอยู่จะทำอย่างไง ใจเราอ่อนแอเหลือเกิน  อยากจะเข้มแข็งและเด็ดขาด
เราเพียงแค่ระบายและถามความคิดเห็นหรือมีทางออกที่เราพยายามหาอยู่ รู้ว่าเราต้องตั้งหลักให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน แบะที่สำคัญคือจิตใจต้องเข้มแข็งอย่างมาก เคยฟังเคยดูซีรี่ย์เรื่องพวกนี้มาก้อมากก้อรู้สึกแค่สงสารและเห็นใจ แต่พอมาเจอกับตัวเอง รู้เลยมันทุกข์ใจเหลือเกินกับการกระทำของคนที่เราเรารัก ยิ่งทุกวันนี้มีสื่อออน์ไลน์ โซเชียลที่มันก้าวหน้าไปมาก ทำให้คนหลงระเริงไปกับเรื่องพวกนี้ หาความสุขชั่วครั้งชั่วคราว บนความทุกข์ของคนในครอบครัว ไม่มีการผูกมัด สับเปลี่ยนกันไปโดยไม่นึกถึงบาปบุญคุณโทษ ถามทีทำเพื่อแค่นั้นจริงๆหรือชีวิตของคนในยุคนี้
พิมพ์มาค่อนข้างเยอะมาก ถ้าใครอ่านจบก้อขอบคุณมากๆ พิมพ์ไปทั้งน้ำตา ขอบคุณนะค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 147
ตอบในฐานะคนที่โตมาในบ้านที่แม่ดึงดัน ใจอ่อน ไม่ยอมตัดขาดพ่อที่มีชู้ พ่อเรากลับมาบ้านราว85-90% รวมๆแล่วใช้ชีวืตเหมือนสามีคุณ แม่บอกไม่รักพ่อแล้ว อยู่เพื่อลูก แต่เราไม่เห็นเลยว่าแม่ทำเพื่อลูกตรงไหน ที่เราเห็นคือผู้หญิงที่ปล่อยคนรักที่นอกใจไปไม่ได้ แม่เราสุขภาพจิตแย่ เรารับรู้เรื่องพวกนี้แต่เด็ก ซึ่งแม่พยายามปิด พยายามโกหก แต่เด็กยังไงก็รับรู้ มันเซ้นส์ได้อยู่แล้วเวลาที่ผู้ใหญ่มีความลับ มีความขุ่นเคือง ประชดกัน
เรากับพี่น้องโตมาแบบเด็กมีปัญหา เกลียดพ่อ เพราะรู้สึกว่าพ่อทำร้ายความรู้สึกแม่ ขณะเดียวกันก็รักแม่ได้ยากเพราะแม่ก็เจ้าอารมณ์ขึ้นเรือยๆ แม้จะไม่ได้มาโทษมาพาลลูกตรงๆอย่างในละครว่าเพราะแกแหละพ่อถึงทิ้งไป แต่ในความเป็นจริงคือ แม่สะสมอารมณ์แค้น โกรธ เสียใจ ผิดหวัง จากสามี มาทำปึงปังในบ้าน โกรธง่าย สติหลุดง่าย ทุกคนรุ้ว่าเพราะแม่มีปัญหากับพ่อ พอบอกแม่ให้ใจเย็น แม่ก็ตวาดใส่ว่าไม่ได้เป็นอะไร

อยู่ยังงี้มาเกือบสามสิบปีแล้ว ก็คือเท่าอายุเรา
ผลลัพธ์ของครอบครัวบิดเบี้ยงที่ภรรยาพยายามดึงดันทั้งที่มันหมดสิ้นไปนานแล้ว คือ เรากับพี่น้องไม่เชื่อในสถาบันครอบครัว เพราะไม่มีครอบครัวที่ดี / ไม่สนิทพ่อ และก็ไม่สามารถสนิทใจกับแม่ได้ / อายญาติพี่น้องเพื่อนบ้านเวลาที่เสียงทะเลาะหรือเสียงร้องไห้ดังออกไปกลางดึก / ไม่อยากกลับบ้าน

ผู้หญิงที่ไม่หย่ากับสามีที่นอกใจและบอกว่าทำเพื่อลูก เราไม่เห็นทำเพื่อลูกจริงๆสักคน สุดท้ายก็แค่อ้างกับตัวเองเท่านั้นเพราะไม่อยากปล่อยผู้ชายไป แต่เอาลูกมาอ้าง แม่เราก็บอกว่าทำเพื่อลูกทั้งที่แม่ก็ไม่ใช่คนไร้การศึกษา มีการ มีงานทำ ถึงจะหย่าขาดไป พ่อก็คงส่งเสียลูกๆอยู่ดีด้วยซ้ำ แต่แม่ก็ไม่หย่า บอกว่า ทนอยู่เพราะลูกยังต้องเรียน พอเราเรียนจบก็บอกว่า เรียนจบแล้วนะ หย่าขาดกับพ่อไปเถอะ แม่ก็หาข้ออ้างอื่นๆอีก เช่น ไปซื้อรถมาแล้วให้พ่อผ่อน ก็บอกว่ายังไปจากกันไม่ได้เพรสะพ่อผ่อนรถ ผ่อนบ้าน นั่นนี่ให้อยู่ สุดท้ายก็เลยรู้ว่า เงินมันไม่เกี่ยวแต่แรก แต่แม่หาเหตุผลให้ตัวเองได้พัวพันกับพ่อต่อไปเรื่อยๆ นั่นแหละ ทำมาอ้างลูก

ถ้ารักลูกมากสุดจริง จขกท. ควรเข้มแข็งเพื่อลูก งานการมี พ่อเขาก็ดูรักลูก รวมถึงปู่ย่าด้วย ก็ควรก้าวออกมาจากตำแหน่งภรรยา แล้วให้ผู้ชายทำหน้าที่ "พ่อ" อย่างเดียวพอ นี่คือเพื่อลูกจริงๆ ไม่ใช่ทนอยู่ ให้ลูกต้องมารับรู้พลังงานแย่ๆในบ้านแล้วบอกว่าทนเพื่อลูก

พ่อแม่ไม่รักกัน หย่ากันไม่เป็นปัญหาของเด็กหรอก
ปัญหาคือต้องมาอยู่ร่วมและทนเห็นคนสองคนที่ไม่รักกันแล้วแต่ทำเป็นเฟคว่ายังเป็นครอบครัวมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 73
เราผ่านจุดนี้มาแล้ว ให้มองอย่างนี้นนะคะ คนที่เค้าควรรัก (เช่นลูก)  เค้ายังไม่รัก ไม่แสดงออกถึงความเป็นห่วง ความเอาใจใส่ ไม่ทำหน้าที่พ่อ มีแต่ความต้องการทางเพศ ทำผิดศีลธรรมเพื่อความพอใจของตนเอง แบบนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่าเค้าไม่สามารถให้คุณค่ากับใครได้มากกว่าตัวของเค้าเอง ก้าวออกมาเถอะค่ะ พอเวลาผ่านไป คุณจะรู้เอง ว่าเราสามารถมีความสุขได้มากกว่า อยู่ตรงจุดเดิม ที่ไม่มีอะไรดีขึ้น การตัดสินใจมันดูน่ากลัว และมีผลสองด้านเสมอ บางคนอาจมองว่าทำไมไม่ทนเพื่อลูก สงสารลูก คำเหล่านี้เราเจอมาหมดแล้ว แต่เราก็ต้องยอมรับ เพื่อแลกกับความสุข สบายใจ ไม่ต้องทุกข์ใจให้ลูกเห็น คนทุกคนมีค่าคู่ควรกับความรักที่ดี และซื่อสัตย์นะคะ อย่ามองตัวเองด้อยค่าค่ะ สู้ๆ เราออกมาจากจุดนั้นได้แล้ว มีความสุขมากจริงๆ ได้เป็นตัวเองอีกครั้ง เนื่องด้วยหน้าที่พ่อกับแม่ มันหนีกันไม่พ้น ถ้าเค้าต้องการจะทำหน้าที่พ่อ เราใจกว้างเสมอ แต่จะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เราไม่สามารถรู้สึกแบบนั้นได้อีกแล้ว สู้ๆค่ะ ขอให้เข้มแข็งที่จะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีๆให้กับชีวิตตัวเองนะคะ  อย่ากลัวว่าคนอื่นจะมองว่าน่าสงสาร เราตอบกลับเสมอว่า เราไม่ได้น่าสงสาร คนที่น่าสงสารคือคนที่ทำผิดแล้วยังไม่หักห้ามใจ ไม่ยอมรับรู้ถึงความผิดที่ทำ วันนึงเค้าต้องรับผลในสิ่งนั้นที่เค้าทำ ความสุขของเค้า ปลายทางอาจจะทุกทรมานมากกว่าจุดที่เราเคยเป็นก็ได้ค่ะ ใครจะไปรู้เนอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่