สิทธิโชค ภาโส ดาวรุ่งจากชลบุรี เอฟซี เปิดเผยสาเหตุที่ตัดสินใจอำลา คาโงะชิมา ยูไนเต็ด สโมสรในเจลีก3 ที่เจ้าตัวค้าแข้งด้วย
เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

ดาวเตะวัย 19 ปี จารึกชื่อเป็นนักเตะไทยคนแรกในลีกอาชีพญี่ปุ่นด้วยการไปค้าแข้งกับ คาโงะชิมา ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว ทว่าเขากลับได้ลงสนามไปเพียง 5 นัด (รวม 100 นาที) มีโอกาสยิงเพียง 2 ครั้งตลอดการค้าแข้งในเจลีก 3 ก่อนจะกลับมาอยู่กับชลบุรี เอฟซี ในฤดูกาล 2018

อย่างไรก็ตาม “ย้า” ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับรายการเรื่องรอบขอบสนามทางช่องไทยรัฐ ทีวี เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมาว่า

“เขา (คาโงะชิมา ยูไนเต็ด) ไม่จริงใจกับผม คือเขาบอกจะให้เล่น แต่รายชื่อผมก็ยังไม่มี ผมมีข้อผิดพลาดตรงไหนเขาก็ไม่บอกผม ผมก็เลยคิดว่าลองดูทีมอื่นดีกว่าไหม?”

“ที่กลับมาไม่ใช่จะไม่ไปอีก ก็เหมือนถ้าผมกลับไปอีกมันเสี่ยงตรงที่ว่าจะได้เล่นหรือไม่ได้เล่น คือตอนซ้อมผมตั้งใจเต็มที่ แต่ผมกลัวเรื่องเดียวที่ว่าไปแล้วไม่ได้เล่น”

“ตอนนี้ผมคิดว่าผมก้าวขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง และจะก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ ก็อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ ถ้าปีนี้ไม่ได้ไปก็เก็บประสบการณ์กับชลบุรีไปก่อน” สิทธิโชค ทิ้งท้าย

---

Cr. ข่าว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://football-tribe.com/thailand/2018/01/13/sittichok-kagoshima-3/


https://www.youtube.com/watch?v=mc_jBhv7eY8&list=LLxHRusUVvTH2_rAe2PxZcJw&index=3
"สิทธิโชค" ไม่ปิดโอกาสกลับ เจ-ลีก | 12-01-61 | ชัดข่าวเที่ยง
Cr. คลิป ไทยรัฐทีวี 32


นานๆ จะเขียนถึงน้องรัก "ย้า คาวาอี้"  มี 2 เวอร์ชั่นให้เลือกอ่านครับ
เวอร์ชั่นนี้ ผมเขียนเมื่อคืน พอมาเจอข่าวข้างบน ผมใช้เป็นเมนแล้วกันครับ  ส่วนใครจะอ่านแนวเสริม ลองดูครับ

'ย้า-สิทธิโชค ภาโส' ซาโยนาระ 'คาโงะชิมะ' ทำทรงผม "คุณหลอกดาว" ประชด!!! พร้อมกลับญี่ปุ่นทันที ถ้ามีข้อเสนอที่ดีกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยุติความสัมพันธ์ ไม่ขยายสัญญา
หมดสัญญายืมตัว กลับบ้านทันที

นี่คือ  "ย้า-สิทธิโชค ภาโส" กับชีวิตค้าแข้งเจลีก 3 กับทีมคาโงะชิมะ เอฟซี

ซึ่งต้นสังกัดโดยประธานเฮงซัง และฝ่ายการตลาดของฉลามชล (ชลบุรี เอฟซี) ต่างยืนยันมาตลอดว่า
ยังคงให้ย้าอยู่ที่ญี่ปุ่นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป แต่เมื่อเจ้าตัวเอ่ยปาก "ไม่มีความสุข"
ที่คาโงะชิมะ เอฟซี ซึ่งเบื้องลึกของทีมเจลีก 3 ทีมนี้ คือ "ขอซื้อขาด" เพื่อเอาย้าไปปั้นเอง หรือขายต่อกับทีมอื่น
แสดงความประสงค์ขอให้ย้าอยู่ต่อไปเป็นปีที่ 2  แต่ทางย้า และฉลามชล ไม่แฮปปี้กับคาโงะชิมะ
เป็นการจากลาด้วยดี ย้า เอง ยอมรับว่า บางครั้งเสียใจที่ตัวเองไม่มีชื่อแม้แต่เป็น "ตัวสำรอง" เล่นดี เล่นไม่ดี ทางโน้น
ไม่เคยให้คอมเม้นต์กลับแต่อย่างใด ทำให้อึดอัด สั่งสมมาตลอด

แต่เฮงซัง ไม่ตกลง พร้อมเดินหน้าหาทีมใหม่ในเจลีก แต่ยังไม่สามารถตกลงกับทีมใหม่ได้ จึงให้ย้ากลับมาช่วยฉลามชล
ในซีซั่น 2018 ซึ่งมีข่าวออกมาว่า ทางทีมนอกจากได้โค้ชใหม่เป็นชาวเยอรมันแล้ว ในเรื่องค่าใช้จ่าย กำหนดให้ทีมมีค่าใช้จ่ายต่อ
เดือนไม่ให้เกิน 7 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงิน 84 ล้านบาท/ปี เมื่อดูงบทำทีม ถือว่า "ลดขนาด" ลงอย่างน่าสะพรึง ทั้งที่จบอันดับ 7 เมื่อปี 2017

การปั้นดาวรุ่งในเครือข่าย และซื้อนักเตะนอกเกรด B+ จึงเป็นหนทางอยู่รอดของฉลามชล ซึ่งสวนทางกับทีมร่วมเมืองอย่าง "พัทยา ยูไนเต็ด"
ที่ส่งทีมชุดใหญ่และชุดเยาวชนร่วมศึกไทยลีกปีนี้ พร้อมดึงโค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย มาเป็นผู้อำนวยการอะคาเดมี่ ใช้งบประมาณมากถึง 100 ล้านบาท กดได้เต็มที่ 150 ล้านบาทเลยทีเดียว หากสถานการณ์เลค 2 ไม่ดีขึ้น พร้อมอิมพอร์ตนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพทันที

ย้า-สิทธิโชค ภาโส ได้รับโอกาสลงสนามเพียง 100 นาที หรือ 5 นัดเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมแต่อย่างใด
และพร้อมพิสูจน์ตัวเองแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีม  แต่ทางคาโงะชิมะ ไม่แสดงท่าทีเหมือนที่เคยสัญญากันไว้ ทำให้เขาต้องตัดสินใจกลับเมืองไทย
แต่พร้อมที่จะไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่น หากมีทีมใหม่ที่พร้อมมอบโอกาสให้พิสูจน์ฝีเท้า ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ จึงกลับมาช่วยทีมต้นสังกัดในไทยลีกก่อน

เป็นที่น่าสังเกตว่า ลุคทรงผมใหม่ของย้า ที่ดูโตขึ้น ทางเราจึงให้ชื่อทรงผมใหม่นี้ว่า  "คุณหลอกดาว" เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจพี่ๆ ที่กำลังจะไปค้าแข้งที่เจลีก (ฮา)

"ฮันเทซก" รายงานจากสนามติณณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา