มาเริ่มเล่ากันใหม่ที่นี่เลยนะคะ เพราะในกระทู้ที่แล้วนั้น……ลงไม่ได้อย่างใจเพราะสัญญาณเน็ทที่มูร์มันสค์ ไม่ค่อยเสถียร  และเหนื่อยด้วย ออกไปตะลอนๆทั้งวัน……

เพิ่งกลับมาถึงบ้านค่ะ คุณแจ๊คกี้ไปรับถึงประตูรถไฟเลยเชียว……

มาเล่าเริ่มตั้งแต่ออกจากบ้านเลยนะคะ

ล่าแสงเหนือ………คือความจำเป็นในชีวิต !!!
(ตอนหนึ่งอันเป็นปฐมบท ฉบับเตรียมเยื้องย่าง………)

จริงค่ะ……นั่นคือประโยคเด็ดที่ดิฉันได้ประกาศไปกับคุณแจ๊คกี้เมื่อสี่เดือนที่แล้ว นับว่าเป็นการตัดสินใจที่อุกอาจและแน่วแน่มาก…แบบว่า ไม่รู้ละ……จะว่ายังไงก็ช่างแต่ตรูจะไปซะอย่าง
ผลคือ……เขามองอย่างขำๆ ถามอะไรมาสองสามอย่าง แล้วก็จัดการจอบตั๋วเครื่องบินให้เลยเพราะเกรงว่าเนิ่นนานไปราคาจะแพงขึ้น
คือว่า……ตอนนั้นเขาคงยังเบลอๆอยู่มังคะ?
แต่ต่อมาเขาก็ใจชื้นขึ้น เพราะดิฉันได้ชวนหลานสาว อาจารย์เก๋ที่บินไปจากเมืองไทยไปจอยด้วย
อย่างน้อยก็มีเพื่อนไปไหนมาไหน ทั้งๆที่ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย เมืองที่เป็นเป้าหมายที่จะไป คือ Murmansk ที่อยู่ทางเหนือของรัสเซีย ใกล้ๆกับฟินแลนด์ เรียกว่าร่วมหลังคาเดียวกันก็ไม่ผิดนัก

ทีนี้พอทุกอย่างที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้น อันดับแรกเลย คือ หาโรงแรม ดิฉันได้เลือกแล้วเลือกอีก เพราะอยากได้ใกล้ๆในตัวเมือง ไปไหนมาไหนหาของกินสะดวก ราคาไม่แพง เป็นกันเองแบบครอบครัว ไม่ติดหรู
เลยได้ตามที่ชอบ คือ โรงแรม Glarus จาก Booking.com
ที่ต้องการความเป็นกันเอง เพราะดิฉันอยู่ยาวนานถึงแปดวัน สำหรับการเที่ยวเมืองเล็กๆนี้
เพราะมันเป็นสไตล์การท่องโลกของดิฉัน ที่ไม่ชอบการเป็นชะโงกทัวร์  และมีเป้าหมายในวัตถุประสงค์เยี่ยมเยือนอื่นด้วย นั่นคือ การศึกษาหาความรู้ในอดีตของเมืองที่เป็นเส้นทางสำคัญของการ convoy ทางเรือเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทหารรัสเซียต้องปกป้องพื้นที่นี่กันอย่างสุดใจขาดดิ้น เพราะการที่เรือส่งสัมภาระ เวชภัณฑ์ และ ยุทธปัจจัย จาก ฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ามาในเส้นทางนี้ เพื่อให้รัสเซียมีกำลังได้ต่อสู้กับเยอรมันที่ได้ทำการรุกรานมาตั้งแต่ปี 1941
Murmansk ในปัจจุบัน คือหนึ่งใน The Hero City ของรัสเซีย

ส่วนแสงเหนือและอื่นๆคือองค์ประกอบที่ถือว่าเป็นกำไรชีวิต