9 ปีก่อน Blockchain แรก ถือกำเนิดมาในโลก พร้อมกับ ชื่อ Bitcoin สกุลเหรียญ Cryptocurrency แรกของโลก
วันนี้ หลายคนยังสับสน กับ Bitcoin ว่ามันคืออะไร มันมีประโยชน์อะไร มันไร้สาระ มันคือฟองสบู่ มันคือแชร์ลูกโซ่ หรือ มันคือของจริง
ณ วันนี้ คงยังสรุปไม่ได้ชัดเจนว่า มัน เป็นยังไงกันแน่
หลายคน เมื่อไม่แน่ใจ เลยเลือกที่ จะไม่สนใจมัน (แอบติดรำคาญที่คนพูดถึงมันกวนใจบ่อยๆ)
หลายคน แม้จะไม่ค่อยแน่ใจ แต่ เห็นมันทวีค่า ขึ้นมาจาก เกือบไร้ค่า แต่มูลค่าเพิ่มมา เป็นพันล้านเท่า ใน 9 ปี เลยมองว่ามัน คือ อภิมหา Hoax การลวงโลกครั้งใหญ่ ของโลก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อโลก ถ้าเกิดพังขึ้นมา พวกนี้ ก็มักจะออกมาโจมตี มันค่อนข้างเยอะ
หลายคนเชื่อว่า มันแค่การเห่อของใหม่เก็งกำไร เหมือน ทิวลิป และจตุคาม
หลายคน เชื่อว่ามันอาจจะมีพื้นฐานดี แต่ รู้แค่ว่ามัน ถูกนำไปใช้กับธุรกิจด้านมืด ก็โจมตีมันด้านนั้น
หลายคนเชื่อว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอันนี้ยืนยันได้ว่ามันไม่ใช่ เรื่องของแชร์ลูกโซ่ ถ้าแชร์ลูกโซ่ต้องเป็นการ ระดมสมาชิก หาคนมาเสริมฐาน แล้วเอาเงินของสมาชิกข้างล่างมาจ่ายข้างบน ตามลำดับ ขาดตอนเมื่อไรก็คือ ล้ม อันนี้คือแชร์ลูกโซ่ แต่ต้องระวังพวกหลอกลวง ไปชวนให้เอาเงินมาลงทุน และแบ่งผลตอบแทนให้ อันนั้น อาจจะเป็นได้ ทั้งการหลอกลวง และ แชร์ลูกโซ่ ถ้ามีการ แจ้งให้หาคนมาต่อท้ายเพิ่มและ แบ่งผลตอบแทนให้ตามจำนวนคน
แต่ ยังมีบางคน ที่คิดว่า มันอาจจะดีจริง มีประโยชน์จริง อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในด้านบวก กับโลกนี้ ในด้านเทคโนยี่ และ เศรษฐศาตร์ พวกนี้ ก็เข้ามาศึกษา และติดตามกัน บ้าง ทั้งอย่างผิวเผิน และ จริงจัง
---------------------------------------------------
จากราคา bitcoin รวมทั้งเหรียญ Crypto หลายๆตัวที่ออกมา และมีราคาสูงขึ้นไปในรอบปีนี้ 5 เท่า 10 เท่า 20 เท่า และ แม้กระทั่งกว่า 100 เท่า
แน่นอน ราคามันวิ่งไปขนาดนั้นได้ ต้องเกิดจาการที่มีคน เข้าไปไล่ซื้อเก็งกำไร ราคา กัน
หลายคนอาจจะ เก็งกำไร โดยไม่ดูอะไรเลย
แต่หลายคน ก็ศึกษา มันอย่างดี เลือกตัวที่ดี ทำกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ
คนที่ไม่ได้เข้ามาศึกษาเลย อาจจะนึกไม่ออก ว่าธุรกิจอะไรที่มีนระดมทุนไปแล้ว ทำกำไร และทำให้ราคา เหรียญขึ้นไป ได้ หลายสิบหลายร้อยเท่า ในเวลาไม่ถึงปี จะมีเหรอ
แต่ในโลกเทคโนโลยี่ ที่มันโตเร็วอย่างนี้ มันมีเพชรจริงๆที่ เกิดขึ้น และทำได้ ตัวอย่างมีให้เห็นมาเรื่อยๆ อย่างเช่น Omise ที่มูลค่าเหรียญเพิ่มขึ้นกว่าร้อยเท่า จาก ธุรกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
หรือ Binance ที่ออกเหรียญ bnb มาระดมทุนสร้าง กระดานเทรดยุคใหม่ ที่ให้เทรดด้วยเหรียญของตัวเองได้ ที่ผงาดมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ในวงการเทรด Crypto วันนี้ด้วย มูลค่าการซื้อขายประมา 6 พันล้าน$ ต่อวัน รับเฉพาะค่าคอมมิชชั่นตกวันล่ะ 10 ล้านเหรียญ หรือ 320 ล้านบาท ไม่รวมค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆอีกมหาศาลทำให้ราคาเหรียญวิ่งไปหลายสิบเท่าตัวจาก ราคา จอง ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
เห็นมั้ยอะไรที่มองผิวเผินว่าเป็นไปไม่ได้ ในวงการนี้
ถ้าเราเข้ามาศึกษาดีๆ จะรู้ว่า มันเป็นไปได้
คนลงทุนใน Crypto บางคนลงทุนด้วยความโลภ ไม่ได้ ใช้ความคิดอะไร แต่ ผมเชื่อว่าคนที่ลงทุนกันระดับ ล้าน ร้อยล้าน พันล้าน เค้าต้องคิดกันบ้าง
ขนาดผมลงทุนสนุกๆ แค่ไม่มาก ผมยังคิดเลย
------------------------------------------
ลองมาดูตัวอย่าง ธุรกิจขายฝันตัวใหม่ที่ ระดมทุน ICO เสร็จไปแล้ว กำลังจะเข้าตลาดเปิดซื้อขายกัน ในไม่อีกวันข้างหน้า
Singularity.net
https://singularitynet.io/
ยุคก่อน คนเราทำงานกันด้วย สมองของเรา ในการคิด คำนวน บันทึกข้อมูลต่างๆ หลายองค์กรใช้คนทำงานกันมานาน
ไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการทำงาน บันทึก จดจำ และคำนวนข้อมูล ทำให้การทำงานต่างๆง่าย แม่นยำ รวดเร็ว และประหยัดมากขึ้น
แต่ คอมพิวเตอร์ก็ยังต้องใช้คนไปคอยควบคุมสั่งการ ป้อนข้อมูลต่างๆ ตลอดมา
ดังนั้น พัฒนาการต่อมาที่ เกิดขึ้น คือ AI (Artificial Intelligence) หรือชื่อภาษาไทยคือ ปัญญาประดิษฐ์
AI มันก็คือ คอมพิวเตอร์ แต่ต่างกับ คอมพิวเตอร์ทั่วไป ตรงที่มันคิดเป็น เหมือนคน หลายคนเลยเรียกมันเป็น Humanoid หรือ มนุษย์เทียม หรือแอบนึกภาพมันเป็นหุ่นยนต์
หลายคนคงเห็น AI แบบง่ายๆที่เรียกกันว่า Bot ตามเว็บต่างๆ เช่น Bot ตลกๆ ที่ตอบโต้กับเราในเน็ตได้เหมือนคนโดยเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เราคุยด้วยไว้ แล้วประเมินกลับมาตอบโต้ กับเรา นั่นคือ หลักการพื้นฐานของ AI อันนึง
หรือ ที่ใช้ กันตาม Application และการสั่งงาน ต่างๆ เช่นการตั้งค่าสั่งการซื้อขายหุ้น ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่เราไม่ต้องคอยมานั่งเฝ้า นั่งคิดแล้ว สั่ง แต่ให้ คอมพิวเตอร์ ทำงาน แทนได้เลย เช่นถ้า ราคาหุ้นลงมาถึงจุดนั้น มีจำนวนซื้อขายมากขนาดนั้น ให้สั่งการขายหรือ ซื้อแทนเราได้เลย ที่เรียกกันว่า Bot Trade อันนั้นเป็น พื้นฐานของ AI เช่นกัน
หลักการของ AI คือ มันจะถูกโปรแกรมโดยคน ให้มันจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ในฐานข้อมูลของมัน แล้วนำมาประเมินวิเคราะห์ ปรับปรุง สถานะการณ์ นั้นๆ ก่อนสั่งการดำเนินการ แทนคนได้ เลย และเนื่องจากขีดความสามารถในการ จัดเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ มัน เยอะ และ ไวกว่าสมองคนมาก ดังนั้น ประสิทธิภาพ ในการ คิดคำนวน จึง เหนือกว่า การใช้คนทำมากมาย
ข้อมูลต่างๆที่ AI รับเข้าไปแต่ล่ะครั้ง จะถูกจัดเก็บไว้เป็น ฐานข้อมูลเพื่อใช้คิด คำนวน และ ปรับปรุงในการสั่งการใหม่ๆ ครั้งต่อไปตลอดเวลา
หลายคนคิดว่า บางเรื่องที่มันคล้ายศาสตร์ และ ศิลป เฉพาะ นั้น คนน่าจะทำได้ดีกว่า AI แต่หลายอย่าง พิสูจน์แล้ว แม้แต่การเล่นหมากรุก ที่ว่าต้องใช้ ตรรกะในการคิดหลายๆอย่าง แรกๆ AI ยังไม่พัฒนา แช็มป์หลอกชนะ AI ได้ สบายๆ แต่ ทุกวันนี้ มันเก็บข้อมูลเพิ่มคิดเพิ่มประเมินทุกอย่างแล้ว ในวันนี้แช้มป์โลก ก็ยังแพ้ AI ราบคาบ
ในด้านการใช้งาน ทั่วไป สมมุติ ถ้าเรามี AI ดีๆ มาช่วยในการแก้ปัญหาจารจร กทม. AI จะเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้หมด ว่า ช่วงไหนของวัน เดือนปี มีรถบนถนนแค่ไหน มีอัตราเพิ่มเท่าไร พฤติกรรมคนใช้รถ เป็นอย่างไร เศรษฐกิจรวมขณะนั้นเป็นอย่างไร จะมีรถออกมาใหม่ แค่ไหน ช่วงนั้นๆมีงานอะไรจัดที่ไหน จะก่อให้เกิดปัญหารถติดแค่ไหน คนเดินทาง ออกจากจังหวัดไปเท่าไร มีงานรับปริญญาที่ไหน หรือ ป่าว ข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ถ้าถูกป้อนเข้าไป AI สามารถรวบรวมนำมาคิด แทนคนได้ อย่างรวดเร็ว และจัดการแก้ไขให้ได้ อย่างดีกว่า
องค์กรธุรกิจต่างๆ ทุกอย่างก็เช่นกัน ถ้าต้องการ การประเมิน การคิดข้อมูลการตัดสินใจ ต่างๆ ถ้า ใช้ AI ที่พัฒนาดีๆ ย่อมสะดวก รวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทุกวันนี้ เชื่อว่า พวก Serch Engine ดังๆอย่าง google หรือ ยักษ์ใหญ่ Social อย่าง FB ก็ใช้ AI ช่วยในการทำงานคิดแทนคนแน่นอน ไม่งั้นฐานข้อมูลมหาศาล ขนาดนั้นคนทำไม่ได้ไวชนาดนั้นแน่นอน
เอาล่ะ เรา รู้กันแล้วว่า AI เจ๋ง ดี แต่ว่า ข้อเสียของมันก็คือ มันยังแพง องค์กร ที่จะซื้อ และ AI ดีๆ มาใช้ต้องลงทุนมหาศาล
และ AI แต่ละตัว แต่ละเครื่อง มันรับข้อมูลแยกกัน อยู่ ดังนั้นฐานข้อมูลที่จะนำมาคิดวิเคราะห์และสั่งการ ย่อมมีขีดจำกัด การเกิดปัญหา และต้องการแก้ไขก็ยาก อีกทั้งค่าใช้จ่ายก็สูง
ดังนั้นถ้าเกิดเรา เชื่อม AI จำนวนมากๆๆ เข้าด้วยกัน เป็น Network แล้ว เปิดบริการให้คนมาใช้ Network AI นี้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ข้อด้อยต่างๆ จะเริ่มหายไป AI Network จะช่วยกันคิดประเมินการทำงาน และมีฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของกันและกันได้ ดี ปัญหาของอีกที่ จะถูกนำไปใช้แก้ปัญหาของอีกที่ ได้ ตลอดเวลา และแน่นอน องค์กร ที่งบน้อย ก็สามารถเข้ามาร่วมใช้ประโยชน์จาก Network นี้ได้ เป็นการลดต้นทุน
โดยสิ่งที่ Sigularity.net จะทำคือ จัดการ เชื่อมข้อมูลจาก AI พันธมิตรทั้งหลาย เข้ารวมกัน แล้วจัดเก็บข้อมูล เข้า Blockchain ให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล AI ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อมีไอเดียเจ๋งๆ ทุนยังน้อยก็ต้องเปิดระดมทุน ICO หรือ ขาย เหรียญ ขาย Token ให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรเข้ามาซื้อกัน
โดยก็ต้องเปิดตัวทีมงาน และ ที่ปรึกษา ซึ่งวงการ Crypto ให้เครดิต ตรงนี้ค่อนข้างมากคนมีเครดิตดี มีชื่อเสียง มีผลงานดี ย่อมได้รับการตอบรับมากกว่า พวก Noname มือใหม่
อันนี้คือทีมพัฒนาหรือ ทีมสร้าง (DEV) ของSingularity มี 10 PhD. เข้าร่วมงาน ไม่ธรรมดาเลย แต่ ที่แปลกว่าคนอื่นก็คือ แอบมี Humanoid สาว Sophia AI ราคาแพง เป็นหนึ่งในทีมงาน DEV นี้ด้วย
สำหรับ Sophia นี่ เห็นเพื่อนๆที่อยู่ในเมกา บอกว่า เริ่มเห็นเธอ โปรโมท ออกทีวีในเมกาแล้ว เท่ห์มั้ยล่ะเนี่ย
Sophia จะทำงาน กับ ทีม Dev ของ Singularity ในการจัดการ Network นี้ (แน่นอนหวังกันว่า ด้วยศักยภาพ ของ AI นางนี้ She น่าจะมีความอัจฉิริยะในการจัดการ ปัญหาได้ดี และว่องไว)
ทีม Singularity ระดมทุน ICO ครั้งนี้ ด้วยการออก Token ขายในราคา 0.1 $ ขายเหรียญออกมา 500 ล้านเหรียญ หักส่วนลด Bonus ให้นักลงทุนรายใหญ่ไปแล้ว เท่ากับระดมทุนไปได้ 36 ล้าน US หรือ ประมาณ 1 พันล้านบาทไทย ถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเที่ยบกับ การระดมทุน ICO ในโปรเจคใหญ่ๆอื่นๆ
อันนี้เป็นตัวอย่างพันธมิตร และลูกค้าที่เตรียมเข้าใช้ งาน Singularity.net
ปล.ยกตัวอย่างเคสนี้มาให้ดูกันว่า พวก ICO เค้าทำงาน หรือ ขายฝันกันอย่างไร
ชี้ให้เห็นไม่ได้ ชี้ชวนให้จอง ICO ตัวนี้ เพราะว่า มันเปิด จอง Crowdsale ในวันที่ 24 ธค. และ จองเต็มภายใน 24 วินาที ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีให้จองอีกแล้ว
หลายคน คาดการณ์ กันว่า การระดมไม่มาก กันเหรียญไว้ จำนวนมากในทีม และศักยภาพ ในการโตขึ้น ของวงการ AI ในอนาคต น่าจะทำให้ Project นี้ไปได้สวย ราคา เข้าตลาด น่าจะไม่ต่ำกว่า 5X ของราคา ICO
ส่วนใหญ่คาดกันว่า มันควรจะ อยู่แถว 10-20X ถึงจะเหมาะสม
หรือแม้แต่จะไปเป็น 100X อย่าง เหรียญ Icon (ICX) ที่เพิ่งเปิดตัวสำเร็จอย่างสวยงามก่อนหน้า นี้ หรือ OmiseGo (OMG) ที่คนไทยรู้จักกันดี และ ฟันไป 100X เช่นกัน
มันจะเจ๋งจริง หรือ แค่ขายฝัน อีกไม่กี่วัน เข้าตลาดก็คงจะได้ทราบกัน เบื้องต้น
แต่ว่า ถ้าเจ๋งจริง ต้องดูตอน โครงการมันดำเนินการไปแล้วจริงๆ
วันก่อนหลังจากมีการตอบรับการจองอย่างดีเยี่ยม มีข่าวว่า ถ้าเปิดตัว มา ทาง DEV มีแผนจะสร้าง blockchain ของตัวเองกัน ฟังพวกในวงการ Crypto หลายคนมองไปถึงว่า จะถือรอมัน 100X
แต่ส่วนตัวผมเอง ฟังดูมันหรูดีนะ แต่มันซับซ้อน เกินสมองน้อยๆ ของผมจะเข้าใจได้
ดังนั้น ถ้ามันขึ้นไปซัก 10X จากราคาจอง นี่ขออนุญาติ ขายออกมา ถอย SLC 43 AMG ให้รางวัลตัวเอง แทนล่ะกัน
คำเตือน
การลงทุนใน Crypto มีความเสี่ยงถึงเสี่ยงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คนเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรลงทุน
ปรึกษาภรรยา หรือ สามีก่อนลงทุนทุกครั้ง กันบ้านแตก
== Bitcoin >> โลกมันหมุนไว >>AI มันเข้ามาทำงานแทนคนแล้ว >> มาดูเค้าทำเงินด้วยการการขายฝัน ==
วันนี้ หลายคนยังสับสน กับ Bitcoin ว่ามันคืออะไร มันมีประโยชน์อะไร มันไร้สาระ มันคือฟองสบู่ มันคือแชร์ลูกโซ่ หรือ มันคือของจริง
ณ วันนี้ คงยังสรุปไม่ได้ชัดเจนว่า มัน เป็นยังไงกันแน่
หลายคน เมื่อไม่แน่ใจ เลยเลือกที่ จะไม่สนใจมัน (แอบติดรำคาญที่คนพูดถึงมันกวนใจบ่อยๆ)
หลายคน แม้จะไม่ค่อยแน่ใจ แต่ เห็นมันทวีค่า ขึ้นมาจาก เกือบไร้ค่า แต่มูลค่าเพิ่มมา เป็นพันล้านเท่า ใน 9 ปี เลยมองว่ามัน คือ อภิมหา Hoax การลวงโลกครั้งใหญ่ ของโลก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อโลก ถ้าเกิดพังขึ้นมา พวกนี้ ก็มักจะออกมาโจมตี มันค่อนข้างเยอะ
หลายคนเชื่อว่า มันแค่การเห่อของใหม่เก็งกำไร เหมือน ทิวลิป และจตุคาม
หลายคน เชื่อว่ามันอาจจะมีพื้นฐานดี แต่ รู้แค่ว่ามัน ถูกนำไปใช้กับธุรกิจด้านมืด ก็โจมตีมันด้านนั้น
หลายคนเชื่อว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอันนี้ยืนยันได้ว่ามันไม่ใช่ เรื่องของแชร์ลูกโซ่ ถ้าแชร์ลูกโซ่ต้องเป็นการ ระดมสมาชิก หาคนมาเสริมฐาน แล้วเอาเงินของสมาชิกข้างล่างมาจ่ายข้างบน ตามลำดับ ขาดตอนเมื่อไรก็คือ ล้ม อันนี้คือแชร์ลูกโซ่ แต่ต้องระวังพวกหลอกลวง ไปชวนให้เอาเงินมาลงทุน และแบ่งผลตอบแทนให้ อันนั้น อาจจะเป็นได้ ทั้งการหลอกลวง และ แชร์ลูกโซ่ ถ้ามีการ แจ้งให้หาคนมาต่อท้ายเพิ่มและ แบ่งผลตอบแทนให้ตามจำนวนคน
แต่ ยังมีบางคน ที่คิดว่า มันอาจจะดีจริง มีประโยชน์จริง อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในด้านบวก กับโลกนี้ ในด้านเทคโนยี่ และ เศรษฐศาตร์ พวกนี้ ก็เข้ามาศึกษา และติดตามกัน บ้าง ทั้งอย่างผิวเผิน และ จริงจัง
---------------------------------------------------
จากราคา bitcoin รวมทั้งเหรียญ Crypto หลายๆตัวที่ออกมา และมีราคาสูงขึ้นไปในรอบปีนี้ 5 เท่า 10 เท่า 20 เท่า และ แม้กระทั่งกว่า 100 เท่า
แน่นอน ราคามันวิ่งไปขนาดนั้นได้ ต้องเกิดจาการที่มีคน เข้าไปไล่ซื้อเก็งกำไร ราคา กัน
หลายคนอาจจะ เก็งกำไร โดยไม่ดูอะไรเลย
แต่หลายคน ก็ศึกษา มันอย่างดี เลือกตัวที่ดี ทำกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ
คนที่ไม่ได้เข้ามาศึกษาเลย อาจจะนึกไม่ออก ว่าธุรกิจอะไรที่มีนระดมทุนไปแล้ว ทำกำไร และทำให้ราคา เหรียญขึ้นไป ได้ หลายสิบหลายร้อยเท่า ในเวลาไม่ถึงปี จะมีเหรอ
แต่ในโลกเทคโนโลยี่ ที่มันโตเร็วอย่างนี้ มันมีเพชรจริงๆที่ เกิดขึ้น และทำได้ ตัวอย่างมีให้เห็นมาเรื่อยๆ อย่างเช่น Omise ที่มูลค่าเหรียญเพิ่มขึ้นกว่าร้อยเท่า จาก ธุรกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
หรือ Binance ที่ออกเหรียญ bnb มาระดมทุนสร้าง กระดานเทรดยุคใหม่ ที่ให้เทรดด้วยเหรียญของตัวเองได้ ที่ผงาดมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ในวงการเทรด Crypto วันนี้ด้วย มูลค่าการซื้อขายประมา 6 พันล้าน$ ต่อวัน รับเฉพาะค่าคอมมิชชั่นตกวันล่ะ 10 ล้านเหรียญ หรือ 320 ล้านบาท ไม่รวมค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆอีกมหาศาลทำให้ราคาเหรียญวิ่งไปหลายสิบเท่าตัวจาก ราคา จอง ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
เห็นมั้ยอะไรที่มองผิวเผินว่าเป็นไปไม่ได้ ในวงการนี้
ถ้าเราเข้ามาศึกษาดีๆ จะรู้ว่า มันเป็นไปได้
คนลงทุนใน Crypto บางคนลงทุนด้วยความโลภ ไม่ได้ ใช้ความคิดอะไร แต่ ผมเชื่อว่าคนที่ลงทุนกันระดับ ล้าน ร้อยล้าน พันล้าน เค้าต้องคิดกันบ้าง
ขนาดผมลงทุนสนุกๆ แค่ไม่มาก ผมยังคิดเลย
------------------------------------------
ลองมาดูตัวอย่าง ธุรกิจขายฝันตัวใหม่ที่ ระดมทุน ICO เสร็จไปแล้ว กำลังจะเข้าตลาดเปิดซื้อขายกัน ในไม่อีกวันข้างหน้า
Singularity.net
https://singularitynet.io/
ยุคก่อน คนเราทำงานกันด้วย สมองของเรา ในการคิด คำนวน บันทึกข้อมูลต่างๆ หลายองค์กรใช้คนทำงานกันมานาน
ไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการทำงาน บันทึก จดจำ และคำนวนข้อมูล ทำให้การทำงานต่างๆง่าย แม่นยำ รวดเร็ว และประหยัดมากขึ้น
แต่ คอมพิวเตอร์ก็ยังต้องใช้คนไปคอยควบคุมสั่งการ ป้อนข้อมูลต่างๆ ตลอดมา
ดังนั้น พัฒนาการต่อมาที่ เกิดขึ้น คือ AI (Artificial Intelligence) หรือชื่อภาษาไทยคือ ปัญญาประดิษฐ์
AI มันก็คือ คอมพิวเตอร์ แต่ต่างกับ คอมพิวเตอร์ทั่วไป ตรงที่มันคิดเป็น เหมือนคน หลายคนเลยเรียกมันเป็น Humanoid หรือ มนุษย์เทียม หรือแอบนึกภาพมันเป็นหุ่นยนต์
หลายคนคงเห็น AI แบบง่ายๆที่เรียกกันว่า Bot ตามเว็บต่างๆ เช่น Bot ตลกๆ ที่ตอบโต้กับเราในเน็ตได้เหมือนคนโดยเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เราคุยด้วยไว้ แล้วประเมินกลับมาตอบโต้ กับเรา นั่นคือ หลักการพื้นฐานของ AI อันนึง
หรือ ที่ใช้ กันตาม Application และการสั่งงาน ต่างๆ เช่นการตั้งค่าสั่งการซื้อขายหุ้น ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่เราไม่ต้องคอยมานั่งเฝ้า นั่งคิดแล้ว สั่ง แต่ให้ คอมพิวเตอร์ ทำงาน แทนได้เลย เช่นถ้า ราคาหุ้นลงมาถึงจุดนั้น มีจำนวนซื้อขายมากขนาดนั้น ให้สั่งการขายหรือ ซื้อแทนเราได้เลย ที่เรียกกันว่า Bot Trade อันนั้นเป็น พื้นฐานของ AI เช่นกัน
หลักการของ AI คือ มันจะถูกโปรแกรมโดยคน ให้มันจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ในฐานข้อมูลของมัน แล้วนำมาประเมินวิเคราะห์ ปรับปรุง สถานะการณ์ นั้นๆ ก่อนสั่งการดำเนินการ แทนคนได้ เลย และเนื่องจากขีดความสามารถในการ จัดเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ มัน เยอะ และ ไวกว่าสมองคนมาก ดังนั้น ประสิทธิภาพ ในการ คิดคำนวน จึง เหนือกว่า การใช้คนทำมากมาย
ข้อมูลต่างๆที่ AI รับเข้าไปแต่ล่ะครั้ง จะถูกจัดเก็บไว้เป็น ฐานข้อมูลเพื่อใช้คิด คำนวน และ ปรับปรุงในการสั่งการใหม่ๆ ครั้งต่อไปตลอดเวลา
หลายคนคิดว่า บางเรื่องที่มันคล้ายศาสตร์ และ ศิลป เฉพาะ นั้น คนน่าจะทำได้ดีกว่า AI แต่หลายอย่าง พิสูจน์แล้ว แม้แต่การเล่นหมากรุก ที่ว่าต้องใช้ ตรรกะในการคิดหลายๆอย่าง แรกๆ AI ยังไม่พัฒนา แช็มป์หลอกชนะ AI ได้ สบายๆ แต่ ทุกวันนี้ มันเก็บข้อมูลเพิ่มคิดเพิ่มประเมินทุกอย่างแล้ว ในวันนี้แช้มป์โลก ก็ยังแพ้ AI ราบคาบ
ในด้านการใช้งาน ทั่วไป สมมุติ ถ้าเรามี AI ดีๆ มาช่วยในการแก้ปัญหาจารจร กทม. AI จะเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้หมด ว่า ช่วงไหนของวัน เดือนปี มีรถบนถนนแค่ไหน มีอัตราเพิ่มเท่าไร พฤติกรรมคนใช้รถ เป็นอย่างไร เศรษฐกิจรวมขณะนั้นเป็นอย่างไร จะมีรถออกมาใหม่ แค่ไหน ช่วงนั้นๆมีงานอะไรจัดที่ไหน จะก่อให้เกิดปัญหารถติดแค่ไหน คนเดินทาง ออกจากจังหวัดไปเท่าไร มีงานรับปริญญาที่ไหน หรือ ป่าว ข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ถ้าถูกป้อนเข้าไป AI สามารถรวบรวมนำมาคิด แทนคนได้ อย่างรวดเร็ว และจัดการแก้ไขให้ได้ อย่างดีกว่า
องค์กรธุรกิจต่างๆ ทุกอย่างก็เช่นกัน ถ้าต้องการ การประเมิน การคิดข้อมูลการตัดสินใจ ต่างๆ ถ้า ใช้ AI ที่พัฒนาดีๆ ย่อมสะดวก รวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทุกวันนี้ เชื่อว่า พวก Serch Engine ดังๆอย่าง google หรือ ยักษ์ใหญ่ Social อย่าง FB ก็ใช้ AI ช่วยในการทำงานคิดแทนคนแน่นอน ไม่งั้นฐานข้อมูลมหาศาล ขนาดนั้นคนทำไม่ได้ไวชนาดนั้นแน่นอน
เอาล่ะ เรา รู้กันแล้วว่า AI เจ๋ง ดี แต่ว่า ข้อเสียของมันก็คือ มันยังแพง องค์กร ที่จะซื้อ และ AI ดีๆ มาใช้ต้องลงทุนมหาศาล
และ AI แต่ละตัว แต่ละเครื่อง มันรับข้อมูลแยกกัน อยู่ ดังนั้นฐานข้อมูลที่จะนำมาคิดวิเคราะห์และสั่งการ ย่อมมีขีดจำกัด การเกิดปัญหา และต้องการแก้ไขก็ยาก อีกทั้งค่าใช้จ่ายก็สูง
ดังนั้นถ้าเกิดเรา เชื่อม AI จำนวนมากๆๆ เข้าด้วยกัน เป็น Network แล้ว เปิดบริการให้คนมาใช้ Network AI นี้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ข้อด้อยต่างๆ จะเริ่มหายไป AI Network จะช่วยกันคิดประเมินการทำงาน และมีฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของกันและกันได้ ดี ปัญหาของอีกที่ จะถูกนำไปใช้แก้ปัญหาของอีกที่ ได้ ตลอดเวลา และแน่นอน องค์กร ที่งบน้อย ก็สามารถเข้ามาร่วมใช้ประโยชน์จาก Network นี้ได้ เป็นการลดต้นทุน
โดยสิ่งที่ Sigularity.net จะทำคือ จัดการ เชื่อมข้อมูลจาก AI พันธมิตรทั้งหลาย เข้ารวมกัน แล้วจัดเก็บข้อมูล เข้า Blockchain ให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล AI ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อมีไอเดียเจ๋งๆ ทุนยังน้อยก็ต้องเปิดระดมทุน ICO หรือ ขาย เหรียญ ขาย Token ให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรเข้ามาซื้อกัน
โดยก็ต้องเปิดตัวทีมงาน และ ที่ปรึกษา ซึ่งวงการ Crypto ให้เครดิต ตรงนี้ค่อนข้างมากคนมีเครดิตดี มีชื่อเสียง มีผลงานดี ย่อมได้รับการตอบรับมากกว่า พวก Noname มือใหม่
อันนี้คือทีมพัฒนาหรือ ทีมสร้าง (DEV) ของSingularity มี 10 PhD. เข้าร่วมงาน ไม่ธรรมดาเลย แต่ ที่แปลกว่าคนอื่นก็คือ แอบมี Humanoid สาว Sophia AI ราคาแพง เป็นหนึ่งในทีมงาน DEV นี้ด้วย
สำหรับ Sophia นี่ เห็นเพื่อนๆที่อยู่ในเมกา บอกว่า เริ่มเห็นเธอ โปรโมท ออกทีวีในเมกาแล้ว เท่ห์มั้ยล่ะเนี่ย
Sophia จะทำงาน กับ ทีม Dev ของ Singularity ในการจัดการ Network นี้ (แน่นอนหวังกันว่า ด้วยศักยภาพ ของ AI นางนี้ She น่าจะมีความอัจฉิริยะในการจัดการ ปัญหาได้ดี และว่องไว)
ทีม Singularity ระดมทุน ICO ครั้งนี้ ด้วยการออก Token ขายในราคา 0.1 $ ขายเหรียญออกมา 500 ล้านเหรียญ หักส่วนลด Bonus ให้นักลงทุนรายใหญ่ไปแล้ว เท่ากับระดมทุนไปได้ 36 ล้าน US หรือ ประมาณ 1 พันล้านบาทไทย ถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเที่ยบกับ การระดมทุน ICO ในโปรเจคใหญ่ๆอื่นๆ
อันนี้เป็นตัวอย่างพันธมิตร และลูกค้าที่เตรียมเข้าใช้ งาน Singularity.net
ปล.ยกตัวอย่างเคสนี้มาให้ดูกันว่า พวก ICO เค้าทำงาน หรือ ขายฝันกันอย่างไร
ชี้ให้เห็นไม่ได้ ชี้ชวนให้จอง ICO ตัวนี้ เพราะว่า มันเปิด จอง Crowdsale ในวันที่ 24 ธค. และ จองเต็มภายใน 24 วินาที ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีให้จองอีกแล้ว
หลายคน คาดการณ์ กันว่า การระดมไม่มาก กันเหรียญไว้ จำนวนมากในทีม และศักยภาพ ในการโตขึ้น ของวงการ AI ในอนาคต น่าจะทำให้ Project นี้ไปได้สวย ราคา เข้าตลาด น่าจะไม่ต่ำกว่า 5X ของราคา ICO
ส่วนใหญ่คาดกันว่า มันควรจะ อยู่แถว 10-20X ถึงจะเหมาะสม
หรือแม้แต่จะไปเป็น 100X อย่าง เหรียญ Icon (ICX) ที่เพิ่งเปิดตัวสำเร็จอย่างสวยงามก่อนหน้า นี้ หรือ OmiseGo (OMG) ที่คนไทยรู้จักกันดี และ ฟันไป 100X เช่นกัน
มันจะเจ๋งจริง หรือ แค่ขายฝัน อีกไม่กี่วัน เข้าตลาดก็คงจะได้ทราบกัน เบื้องต้น
แต่ว่า ถ้าเจ๋งจริง ต้องดูตอน โครงการมันดำเนินการไปแล้วจริงๆ
วันก่อนหลังจากมีการตอบรับการจองอย่างดีเยี่ยม มีข่าวว่า ถ้าเปิดตัว มา ทาง DEV มีแผนจะสร้าง blockchain ของตัวเองกัน ฟังพวกในวงการ Crypto หลายคนมองไปถึงว่า จะถือรอมัน 100X
แต่ส่วนตัวผมเอง ฟังดูมันหรูดีนะ แต่มันซับซ้อน เกินสมองน้อยๆ ของผมจะเข้าใจได้
ดังนั้น ถ้ามันขึ้นไปซัก 10X จากราคาจอง นี่ขออนุญาติ ขายออกมา ถอย SLC 43 AMG ให้รางวัลตัวเอง แทนล่ะกัน
คำเตือน
การลงทุนใน Crypto มีความเสี่ยงถึงเสี่ยงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คนเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรลงทุน
ปรึกษาภรรยา หรือ สามีก่อนลงทุนทุกครั้ง กันบ้านแตก