สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์เกือบโดนล้วงกระเป๋า ที่ต่างประเทศค่ะ
เราไปกับเพื่อนสองคน เป็นเวลาประมาณเลิกงานแล้ว คนก็เลยเยอะนิดหนึ่ง ระหว่างที่เรากำลังจะขึ้นบัสกลับที่พัก
พอบัสมา เราก็กำลังจะขึ้นบัส ประตูกลาง เป็นบันไดประมาณ 4 ขั้นค่ะ
เราก็เดินตามหลังผู้ชายคนหนึ่ง รู้สึกว่าเขาเดินขึ้นบันไดช้ามาก เหมือนขาเขาจะไม่ค่อยดี
ทีนี้เราก็รู้สึกว่ามีคนมาจับกระเป๋าสะพายข้างหลัง แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นเพื่อน ที่เดินตามกันมา
พอเลยช่วงบันไดมาแล้ว เราก็รีบจับเสาเพื่อเกาะ แล้วหันไปหาเพื่อน ปรากฏว่าคนที่เดินตามหลังมาไม่ใช่เพื่อน เพื่อนหายค่ะ
จนตอนนี้เราก็ยังไม่เอะใจอะไร ยังคงโ*ง่อยู่ค่ะ
จนเพื่อนขึ้นมา เพื่อนบอกว่า แกเมื่อกี้เห็นคนจับกระเป๋าแก เลยรีบเอากระเป๋ามาดู ปรากฏว่าซิปเปิดไปครึ่งหนึ่ง
เลยรีบเช็คว่ากระเป๋าเงินยังอยู่หรือป่าว ก็ยังอยู่ ด้วยความโชคดี วันนี้เราไม่ได้พกกระเป๋าตังใบใหญ่
ทั้งเนื้อทั้งตัว เรามีเงินประมาณ 20บาท กับบัตรบัส
จนเพื่อนมาเล่าว่า เนี่ย พอเพื่อนกำลังจะก้าวขึ้นบันไดรถบัสตามเรามา ผู้ชายคนนั้นก็เบียดแทรกขึ้นมาเลย
แล้วจังหวะที่เราหันเพื่อไปหาเพื่อน ผู้ชายคนนั้นก็รีบปล่อยกระเป๋าของเรา แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ทำเหมือนว่ากำลังคุยโทรศัพท์
ทีนี้เราก็เห้ย เอะใจว่า ผู้ชายข้างหน้าเราที่ทำเป็นเดินช้าๆนี่เขาเป็นพวกเดียวกันหรือป่าว
ก็เลยรอดูว่า เนี่ย สองคนเนี้ย เขาจะลงจากรถพร้อมกันหรือป่าว
ปรากฏว่าพอจอดป้ายหน้า สองคนนี้ก็รีบเดินลงพร้อมกัน ไม่มีทาทีว่าขาไม่ดี เหมือนตอนขึ้นเลยค่ะ
ในตอนแรกเหมือนจะแยกกันไปคนละทาง สุดท้ายพอรถออก เขาก็เดินย้อนกลับ เดินไปด้วยกัน
คือปกติเราก็จะเป็นคนระวังตัวอยู่เหมือนกันค่ะ ปกติเราจะใส่กระเป๋าตังไว้กับเสื้อโค้ท
แต่บังเอิญว่าวันนี้ เอาแค่กระเป๋าตังใส่เหรียญ มีเงินอยู่นิดเดียวกับบัตรบัส เลยทำให้ไม่ค่อยได้ระวังตัว บวกกับ คิดว่าเพื่อนเป็นคนเดินตามหลัง
เลยไม่ได้ระแวงอะไรค่ะ
ปกติถ้าเราขึ้นบัสคนเดียว เราจะจับตรงซิปกระเป๋าไว้ตลอด
ก็ถือว่าวันนี้ยังโชคดี ที่ไม่ได้ระวังตัว แต่ยังไม่มีของหายอะไรค่ะ
เกือบโดนล้วงกระเป๋า ขณะขึ้นบัส ที่ต่างประเทศ
เราไปกับเพื่อนสองคน เป็นเวลาประมาณเลิกงานแล้ว คนก็เลยเยอะนิดหนึ่ง ระหว่างที่เรากำลังจะขึ้นบัสกลับที่พัก
พอบัสมา เราก็กำลังจะขึ้นบัส ประตูกลาง เป็นบันไดประมาณ 4 ขั้นค่ะ
เราก็เดินตามหลังผู้ชายคนหนึ่ง รู้สึกว่าเขาเดินขึ้นบันไดช้ามาก เหมือนขาเขาจะไม่ค่อยดี
ทีนี้เราก็รู้สึกว่ามีคนมาจับกระเป๋าสะพายข้างหลัง แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นเพื่อน ที่เดินตามกันมา
พอเลยช่วงบันไดมาแล้ว เราก็รีบจับเสาเพื่อเกาะ แล้วหันไปหาเพื่อน ปรากฏว่าคนที่เดินตามหลังมาไม่ใช่เพื่อน เพื่อนหายค่ะ
จนตอนนี้เราก็ยังไม่เอะใจอะไร ยังคงโ*ง่อยู่ค่ะ
จนเพื่อนขึ้นมา เพื่อนบอกว่า แกเมื่อกี้เห็นคนจับกระเป๋าแก เลยรีบเอากระเป๋ามาดู ปรากฏว่าซิปเปิดไปครึ่งหนึ่ง
เลยรีบเช็คว่ากระเป๋าเงินยังอยู่หรือป่าว ก็ยังอยู่ ด้วยความโชคดี วันนี้เราไม่ได้พกกระเป๋าตังใบใหญ่
ทั้งเนื้อทั้งตัว เรามีเงินประมาณ 20บาท กับบัตรบัส
จนเพื่อนมาเล่าว่า เนี่ย พอเพื่อนกำลังจะก้าวขึ้นบันไดรถบัสตามเรามา ผู้ชายคนนั้นก็เบียดแทรกขึ้นมาเลย
แล้วจังหวะที่เราหันเพื่อไปหาเพื่อน ผู้ชายคนนั้นก็รีบปล่อยกระเป๋าของเรา แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ทำเหมือนว่ากำลังคุยโทรศัพท์
ทีนี้เราก็เห้ย เอะใจว่า ผู้ชายข้างหน้าเราที่ทำเป็นเดินช้าๆนี่เขาเป็นพวกเดียวกันหรือป่าว
ก็เลยรอดูว่า เนี่ย สองคนเนี้ย เขาจะลงจากรถพร้อมกันหรือป่าว
ปรากฏว่าพอจอดป้ายหน้า สองคนนี้ก็รีบเดินลงพร้อมกัน ไม่มีทาทีว่าขาไม่ดี เหมือนตอนขึ้นเลยค่ะ
ในตอนแรกเหมือนจะแยกกันไปคนละทาง สุดท้ายพอรถออก เขาก็เดินย้อนกลับ เดินไปด้วยกัน
คือปกติเราก็จะเป็นคนระวังตัวอยู่เหมือนกันค่ะ ปกติเราจะใส่กระเป๋าตังไว้กับเสื้อโค้ท
แต่บังเอิญว่าวันนี้ เอาแค่กระเป๋าตังใส่เหรียญ มีเงินอยู่นิดเดียวกับบัตรบัส เลยทำให้ไม่ค่อยได้ระวังตัว บวกกับ คิดว่าเพื่อนเป็นคนเดินตามหลัง
เลยไม่ได้ระแวงอะไรค่ะ
ปกติถ้าเราขึ้นบัสคนเดียว เราจะจับตรงซิปกระเป๋าไว้ตลอด
ก็ถือว่าวันนี้ยังโชคดี ที่ไม่ได้ระวังตัว แต่ยังไม่มีของหายอะไรค่ะ