สิ่งละอันพันละน้อยใน *เดือนประดับดาว* ที่จะลาจอคืนนี้ ก็แค่คน(ที่คิดว่า)เหงาสีเทาๆ ที่อยากขอให้ใคร(สักคน)เข้าใจ

เดือนประดับดาวจะลาจอคืนนี้แล้วค่ะ ละครที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกหลากหลายอารมณ์มากๆ ทั้งสุข เศร้า เหงา อึดอัด หน่วงๆ และอยากตะโกนอะไรบางอย่างกับตัวละครในเรื่อง ๕๕๕๕ ใช่แล้วค่ะ ละครทำให้เราอินมาก นอกเหนือจากภาพ เพลง หลายสิ่งอย่างที่ชื่นชมไปแล้ว เราก็พบว่า ฉากเล็กฉากน้อย ฉากใหญ่ทั้งหลายนั้นล้วนแฝงความหมาย ยิ่งถ้าเราหาความหมายนั้นพบ เรายิ่งสนุกมากขึ้นกว่าเดิม


จริงๆ มันก็ไม่มีอะไรมาก เราแค่อยากรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ของละครเรื่องนี้เป็นความประทับใจเอาไว้ ทั้งเรื่องเล็กเรื่องน้อย เรื่องอะไรก็ได้เก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงละครที่กำลังจะจากลาไป มีเรื่องอะไรบ้างที่เราอยากพูดถึง...


- จริงๆ แล้วเรื่องนี้โดนัทไม่ได้ตั้งใจจะกำกับเอง แต่ติดต่อเพื่อนพี่น้าอาผู้ใหญ่ต่างๆ ไม่มีใครว่างเลย โดนัทเลยต้องกำกับเอง

- ครั้งแรกที่โดนัททำภาพออกมา มันมีความเป็นหนังมาก คืออินดี้สีตุ่นๆ ๕๕๕ แต่ทางช่องก็เกรงว่าจะอินดี้ไป ๕๕๕

- เรื่องเดือนประดับดาวได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง ต่างภาษารัก ของ จันทร์ ศรีจรูญ แอนเดอร์สัน ซึ่งนิยายจริงๆ ไม่เหมือนเลย เหมือนแค่ชื่อและเหตุการณ์บางอย่างนิดหน่อยเท่านั้น คือถ้าทำตามนิยายจริง มันจะดาร์กมาก ๕๕ (แต่เราก็ชอบนะ)

- คุณรัดเกล้าบอกกับโดนัทตั้งแต่เล่นละครสุดแค้นแสนรักด้วยกันแล้วว่า ถ้าโดนัททำละครจะเล่นด้วย ซึ่งโดนัทแฮปปี้มาก เพราะทุกครั้งที่คุณรัดเกล้าเข้าฉาก ทุกอย่างจะเรียบร้อย ราบรื่น

- ฉากจูบข้ามปีของวรัชช์กับโฮปถ่ายทำอาทิตย์แรกที่เปิดกล้อง ว้าว

- ฉากป้าหลาน เฮียมะกับนุกนิกถ่ายก่อนให้จบไปเลยทีเดียว พี่เหมี่ยวเป็นคนแรกๆที่เข้าฉากกับบอมบ์ และไม่บ่นบอมบ์เลย ๕๕ พี่เหมี่ยวน่ารักมากค่ะ(หลังจากนั้น เวลาพี่เหมี่ยวไปเป็นพิธีกรรายการบันเทิงแล้วมีข่าวบอมบ์ พี่เหมี่ยวจะชมเสมอว่าน่ารัก เล่นดีขึ้นแล้ว)

- คุณโบ ซึ่งเป็นผู้จัดร่วมกับโดนัทและเป็นทีมเขียนบทด้วย ถึงกับร้องไห้เมื่อรู้ว่าบอมบ์เล่น แต่พอได้เจอบอมบ์มาเวิร์คช็อปวันแรกก็เปลี่ยนความคิดและภูมิใจในตัวบอมบ์มาก

- โดนัทบอกว่า ไม่ต้องการให้มีแฝดคนนึงผมหยิก คนนึงผมตรง ๕๕๕ เราจะสังเกตว่าถึงแม้ผมจะคล้ายกัน แต่การทำผม ความเนี้ยบไม่เหมือนกัน

- สืบเนื่องจากข้างบน เราจึงเห็นว่า ถ้าเป็นแพง ผมต้องเป๊ะ ถ้าปล่อยจะตรงยาว แต่ถ้ารวบจะรวบตึง มีอยู่ฉากนึง แพงรู้ว่าแม่รถชนตอนเข้าฉากละครอยู่ รีบร้อนจะไปหาแม่ แต่วิ่งผ่านกระจกเห็นผมตัวเองยุ่งก็ทนไม่ได้ ต้องเอาหวีมาหวีรวบผมให้เรียบร้อย แต่พอเป็นโฮปจะเห็นว่าช่วงหลังๆ โฮปที่ปลอมเป็นแพงปล่อยผมและผมยุ่งบ่อย และไม่รวบผมตึงเลย

- แพงชอบกินอาหารรสจัด โฮปกินอาหารรสจืดแบบฝรั่ง ตอนที่แม่มาดูแลแพง(ตัวจริง) แม่จะเอาก๋วยเตี๋ยวรสจืดให้แพง แต่แพงชี้ไปที่ต้มยำของแม่แทน ส่วนแพงปลอมกินอาหารรสจัดอย่างส้มตำหรืออาหารใต้ทีไรจะท้องเสียไม่ก็อาเจียนจนทุกคนคิดว่าท้อง

-โฮปชอบสีดำ ชุดดำ ผ้าปูที่นอนข้าวของต่างๆ ในห้องก็ดำ แพงชอบสีขาว ชุด ผ้าปู ข้าวของต่างๆ ในห้องเป็นสีขาว ต่อเมื่อโฮปมาสวมรอยเป็นแพง แรกๆ ใส่สีขาว หลังๆเปิดเผยตัวตนใส่สีดำมากขึ้นๆ

- ถ้าเป็นละครแฝดเรื่องอื่นๆ จะต้องพิสูจน์กันด้วยปานแดงรูปหัวใจที่ก้นซ้ายอะไรก็ว่ากันไป ๕๕๕ แต่เรื่องนี้พิสูจน์กันด้วยรอยสัก ๕๕ และการตรวจดีเอ็นเอที่ได้ความรู้

- วรัชช์สามารถอุ้มโฮปได้โดยที่ไม่ต้องงอเข่า ๕๕๕

- เรื่องนี้ไม่มีนางร้าย คนที่ตั้งท่าจะเป็นนางร้ายอย่างจีหรือเจี๊ยก เป็นคนน่ารักมาก จังหวะตลกเป๊ะแบบธรรมชาติ คนที่ร้ายจริงๆ เกิดจากด้านมืดในใจมากกว่าซึ่งก็คือนางเอกนั่นเอง ๕๕๕

- ตัวละครทุกตัว มีเหตุผลในการกระทำ อาจจะน้อยมาก หรืออาจจะไม่มีใครเข้าใจเหตุผลนั้นก็ตาม ๕๕ เป็นคนจริงๆ บนโลกใบนี้ที่ทำถูกผิดได้เสมอ

- ความสัมพันธ์ของตัวละครน่ารัก มีความรักความปรารถนาดีให้กัน นอกเหนือจากคู่หนุ่มสาว ทั้งมัมซาร่ากับโฮป แม่กับแพง ป้าเฮียมะกับนุกนิก  คุณหญิงกุ๊กไก่กับพะลอง คุณหญิงกุ๊กไก่กับป้ารวย โฮปกับเฟยหลัน เฮียมะกับแม่รื่นจิต วรัชช์จีนนท์ และความรักอย่างลึกซึ้งของแฝดคู่หนึ่งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย

- ดูละครแล้วคิดได้ว่า อย่าแยกเด็กแฝดจากกันเลย เค้าเกิดมาด้วยกันก็ควรให้เค้าอยู่ด้วยกัน

- คำพูดของคนทำร้ายกันได้มากกว่าที่คิด อย่างคำพูดของแพงที่พูดกับโฮปก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้โฮปเสียใจมาก

ยังมีสิ่งละอันพันละน้อยอีกมากมายเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ บางทีก็ยังมองไม่เห็น บางทีก็ยังไม่เข้าใจ บางทียังดูไม่จุใจ ฉากสุดท้ายคืนนี้คงมีอะไรให้ประทับใจได้อีกมากมาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่