รีวิวทำปากกระจับ และแก้ปากล่างห้อย เน้นธรรมชาติ ไม่เอาออกเยอะ
โดยส่วนตัวเป็นคนปากประจับอยู่แล้วค่ะ แต่กระจับน้อย ช่วงปากบน ปากล่างจะหนาๆหน่อย และที่สำคัญปากล่างห้อยด้วย ตอนแรกรก็คิดนะว่าจะตัดดีไหม แต่เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วปากจะไม่สวย ดูหนาวๆ ไม่เข้ารูป และเป็นคนปากไม่เท่ากันด้วย เวลายิ้มปากจะเอียงๆ ศึกษามานานเหมือนกันค่ะ ค้นหาคลีนิคทำปากประจำ ปากบาง เพราะเคยทำศัลยกรรม เป็นคนที่เวลาทำศัลยกรรม จะชอบทำแบบเนียนๆค่ะ แบบไม่ทำไปจากเดิมมาก ให้คงรูปเดิม เช่น จมูก ก็จะเน้นธรรมชาติ จนบางคนดูไม่อออกว่าทำเลยค่ะ (คือเราเป็นเจ้าของบร็อกมารีวิวเองเลยค่ะ ปกติไม่เคยรีวิวนี่ครั้งแรกเลยค่ะ )
ตอนนี้ก็พอใจกับใบหน้าค่ะ แต่สิ่งเดียวที่ขัดๆ เวลาส่องกระจก นั่นคือปาก คิดแล้วคิดอีกนะคะ ว่าจะทำดีไหม เพราะตัดออกแล้วหายไปเลย ต่อคืนไม่ได้นอกจากฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม แต่จะดูแบบปากเบิร์นๆ ดูไม่เป็นธรรมชาติ กลัวตรงนี้แหละค่ะ กลัวทำมาแล้วจะได้ไปฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม เพราะมีพี่รู้จักไปทำปากกระจับมาแล้ว เขาต้องไปฉีดปากเพิ่มบ่อยๆ เขาบอกปากม้วนเข้าทำให้เล็กมากจนน่าเกลียด
หลังจากตัดสินใจจะตัดแล้วเลยหาคลีนิค นั่นคือ Lenista Clinic เลอนิสต้า ค่ะ อยู่ทางไปสะพานใหม่ พอได้คลินิคแล้ว ก็เลยตัดสินใจเข้าไปปรึกษาคุณหมอ เพราะช่วงนี้มี โปรโมชั่นลดราคาเลยไปค่ะ อิอิ คุณหมอน่ารักค่ะ เราบอกหมออยากทำทรงนี้ แบบนี้ หมอก็ตามใจ อยากทำแบบไหน บอกมาได้ครับ เราบอกหมอว่าอยากได้ปากเหมือน ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เพราะไม่กระจับมาก ดูเป็นธรรมชาติ ไม่บาง ไม่หนาจนเกินไป ในความรู้สึกเรานะ หลังจากนั้นหมอก็ประเมินรูปปากเราก่อนว่าจะทำได้ประมาณไหน คุณหมอบอกทำได้ เราก็บอกว่า ขอเป็นธรรมชาติ ไม่เอาออกเยอะ ค่ะ หลังจากนั้นก็นัดวันมาทำเลยค่ะ
วันทำมาแล้วค่ะ ใจสั่นๆ แอบกลัวนะคะ เพราะการทำศัลยกรรมปากนี่ถือว่า น่าจะเจ็บมากนะ กินไรก็ลำบาก ยังต้องระวังไม่ให้น้ำโดนแผลอีก ไหนก็มาแล้วเลยคิดว่า อย่างอื่นก็ทำมาบ้างแล้วจะกลัวไร เจ็บไม่กลัวค่ะ กลัวไม่สวย 55555
คุณหมอเริ่มวาดปากก่อนค่ะ อันดับแรก เพื่อให้เราดูว่าโอเครไหม ก่อนจะตัด เราบอกหมอนะว่า ไม่อยากไปฉีดฟิลเลอร์เพิ่มค่ะหมอ ขอแบบไม่ต้องไปเพิ่ม งั้นก็ไม่ต้องเอาออกเยอะครับ (คุณหมอใจดีคุยง่ายค่ะ น่ารักด้วย อยากได้แบบไหน บอกหมอได้ คุณหมอตามใจคนป่วยค่ะ)
ภาพก่อนทำค่ะ
อันนี้ภาพเวลาถ่ายรูปค่ะ ปากจะหนาๆ โดยส่วนตัวไม่ชอบเอาซะเลย เอามาให้ดูค่ะ
เริ่มทำแล้วค่ะ ก่อนทำคุณหมอจะ ฉีดยาชาที่ปากก่อนค่ะ ถามว่าเจ็บไหม เจ็บค่ะ แต่เจ็บไม่กลัว กลัวไม่สวยค่ะ 55555
หลังทำเสร็จค่ะ คุณหมอใช้เทคนิคพิเศษในการเย็บ คือเย็บแบบซ่อนแผล ให้รอยเย็บไปอยู่ในปากค่ะ ดูโดยรวมสวยดีค่ะ ไม่หนามากไม่กระจับมากเดินไป และที่ชอบสุดๆคือปากล่างไม่ห้อยอีกแล้ว อิอิ จะสวยมากแค่ไหน 2-3 เดือนค่อยมาอัพเดทกันอีกทีนะคะ
หลังจากเสร็จแล้วเรามาอัพเดทวันต่อมากันดีกว่าค่ะ
วันที่ 2 หลังทำค่ะ จะบวมๆหน่อย เหมือนเป็ดเลย ถามว่าเจ็บไหม ไม่เจ็บเลยค่ะ จะเจ็บคืนแรกที่ไปทำเท่านั้น ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่พูดไม่กิน จะเจ็บเวลา กินและแปลงฟันค่ะ แต่วันแรก เราไม่แปลงฟันนะ แค่บ้วนปาก และใช้น้ำเกลือเช็ดแผลเบา ทางคลีนิคจะให้ ยา และ ที่ล้างแผลมาด้วยค่ะ ถามว่าวันแรกกินอะไรได้ บอกได้ว่า น้ำกับนม 5555 คนอื่นอาจกินอย่างอื่นได้นะ แต่เราเป็นคนขี้กลัว เคร่งครัดด้วยแหละ เลยไม่กินไรเลย นอกจากน้ำและนม คิดอยู่ว่า นน ต้องลดแน่นอน
วันที่ 3 วันนี้เราต้องไปทำงานแล้วค่ะ ก็ยังบวมๆอยู่ ใส่ผ้าแมทไปทำงานค่ะ พูดได้ปกตินะคะ แต่จะตึงๆ หน่อย เราก็ไม่ค่อยคุนกับใครเท่าไหร่ อือ ออ อย่างเดียว ที่ทำงานก็เข้าใจค่ะ เพราะแจ้งก่อนไปทำ ส่วนการกินเรายังกิน นม โอวัลติน และน้ำเหมือนเดิมค่ะ เพราะไม่อยากให้ น้ำลายมีเชื้อโรค เพราะเวลาเราพูด กินอะไรเข้าไปน้ำลายจะมาโดนแผล อาจติดเชื้อได้ ช่วง 2-4 วันต้องระวังพอเศษ วันที่3 นี้ เราจะแปลงฟันตอนเช้าได้แล้วแผลลเริ่มดีขึ้น แบะแปลงฟันก่อนอนอ ถามว่าหิวไหม หิวตลอดเวลาค่ะ แต่เวลาหิวเราก็กินมไป ค่ะ คนอื่นอาจกินได้ปกติ แต่เราเป็นคนขี้กลัว เลยอดไปให้นานที่สุด
วันที่ 4 แล้ว ยังบวมอยู่นิดหน่อย วันนี้เริ่มกิน โจ๊กหมู แล้วค่ะ คือแบบหิวมาก555 อดไรมานาน 3 วัน กินได้ปกติค่ะ แต่ก็ต้องแปลงหลังกินเสร็จ เคี้ยวได้ปกติ ค่ะ ปากก็ยังตึงๆอยู่ แผลเริ่มแห้งมากแล้วค่ะ วันที่ 16 มค หมอนัดตัดไหมค่ะ ตื่นเต้น อยากให้หายไวๆ นี่ไม่ลางานเลยค่ะ มาทำงานปกติ เดี๋ยวพรุ้งนี้มารีวิวให้ดูอีกค่ะ
[CR] รีวิวทำปากกระจับ และแก้ปากล่างห้อย เน้นธรรมชาติ ไม่เอาออกเยอะ
โดยส่วนตัวเป็นคนปากประจับอยู่แล้วค่ะ แต่กระจับน้อย ช่วงปากบน ปากล่างจะหนาๆหน่อย และที่สำคัญปากล่างห้อยด้วย ตอนแรกรก็คิดนะว่าจะตัดดีไหม แต่เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วปากจะไม่สวย ดูหนาวๆ ไม่เข้ารูป และเป็นคนปากไม่เท่ากันด้วย เวลายิ้มปากจะเอียงๆ ศึกษามานานเหมือนกันค่ะ ค้นหาคลีนิคทำปากประจำ ปากบาง เพราะเคยทำศัลยกรรม เป็นคนที่เวลาทำศัลยกรรม จะชอบทำแบบเนียนๆค่ะ แบบไม่ทำไปจากเดิมมาก ให้คงรูปเดิม เช่น จมูก ก็จะเน้นธรรมชาติ จนบางคนดูไม่อออกว่าทำเลยค่ะ (คือเราเป็นเจ้าของบร็อกมารีวิวเองเลยค่ะ ปกติไม่เคยรีวิวนี่ครั้งแรกเลยค่ะ )
ตอนนี้ก็พอใจกับใบหน้าค่ะ แต่สิ่งเดียวที่ขัดๆ เวลาส่องกระจก นั่นคือปาก คิดแล้วคิดอีกนะคะ ว่าจะทำดีไหม เพราะตัดออกแล้วหายไปเลย ต่อคืนไม่ได้นอกจากฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม แต่จะดูแบบปากเบิร์นๆ ดูไม่เป็นธรรมชาติ กลัวตรงนี้แหละค่ะ กลัวทำมาแล้วจะได้ไปฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม เพราะมีพี่รู้จักไปทำปากกระจับมาแล้ว เขาต้องไปฉีดปากเพิ่มบ่อยๆ เขาบอกปากม้วนเข้าทำให้เล็กมากจนน่าเกลียด
หลังจากตัดสินใจจะตัดแล้วเลยหาคลีนิค นั่นคือ Lenista Clinic เลอนิสต้า ค่ะ อยู่ทางไปสะพานใหม่ พอได้คลินิคแล้ว ก็เลยตัดสินใจเข้าไปปรึกษาคุณหมอ เพราะช่วงนี้มี โปรโมชั่นลดราคาเลยไปค่ะ อิอิ คุณหมอน่ารักค่ะ เราบอกหมออยากทำทรงนี้ แบบนี้ หมอก็ตามใจ อยากทำแบบไหน บอกมาได้ครับ เราบอกหมอว่าอยากได้ปากเหมือน ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เพราะไม่กระจับมาก ดูเป็นธรรมชาติ ไม่บาง ไม่หนาจนเกินไป ในความรู้สึกเรานะ หลังจากนั้นหมอก็ประเมินรูปปากเราก่อนว่าจะทำได้ประมาณไหน คุณหมอบอกทำได้ เราก็บอกว่า ขอเป็นธรรมชาติ ไม่เอาออกเยอะ ค่ะ หลังจากนั้นก็นัดวันมาทำเลยค่ะ
วันทำมาแล้วค่ะ ใจสั่นๆ แอบกลัวนะคะ เพราะการทำศัลยกรรมปากนี่ถือว่า น่าจะเจ็บมากนะ กินไรก็ลำบาก ยังต้องระวังไม่ให้น้ำโดนแผลอีก ไหนก็มาแล้วเลยคิดว่า อย่างอื่นก็ทำมาบ้างแล้วจะกลัวไร เจ็บไม่กลัวค่ะ กลัวไม่สวย 55555
คุณหมอเริ่มวาดปากก่อนค่ะ อันดับแรก เพื่อให้เราดูว่าโอเครไหม ก่อนจะตัด เราบอกหมอนะว่า ไม่อยากไปฉีดฟิลเลอร์เพิ่มค่ะหมอ ขอแบบไม่ต้องไปเพิ่ม งั้นก็ไม่ต้องเอาออกเยอะครับ (คุณหมอใจดีคุยง่ายค่ะ น่ารักด้วย อยากได้แบบไหน บอกหมอได้ คุณหมอตามใจคนป่วยค่ะ)
ภาพก่อนทำค่ะ
อันนี้ภาพเวลาถ่ายรูปค่ะ ปากจะหนาๆ โดยส่วนตัวไม่ชอบเอาซะเลย เอามาให้ดูค่ะ
เริ่มทำแล้วค่ะ ก่อนทำคุณหมอจะ ฉีดยาชาที่ปากก่อนค่ะ ถามว่าเจ็บไหม เจ็บค่ะ แต่เจ็บไม่กลัว กลัวไม่สวยค่ะ 55555
หลังทำเสร็จค่ะ คุณหมอใช้เทคนิคพิเศษในการเย็บ คือเย็บแบบซ่อนแผล ให้รอยเย็บไปอยู่ในปากค่ะ ดูโดยรวมสวยดีค่ะ ไม่หนามากไม่กระจับมากเดินไป และที่ชอบสุดๆคือปากล่างไม่ห้อยอีกแล้ว อิอิ จะสวยมากแค่ไหน 2-3 เดือนค่อยมาอัพเดทกันอีกทีนะคะ
หลังจากเสร็จแล้วเรามาอัพเดทวันต่อมากันดีกว่าค่ะ
วันที่ 2 หลังทำค่ะ จะบวมๆหน่อย เหมือนเป็ดเลย ถามว่าเจ็บไหม ไม่เจ็บเลยค่ะ จะเจ็บคืนแรกที่ไปทำเท่านั้น ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่พูดไม่กิน จะเจ็บเวลา กินและแปลงฟันค่ะ แต่วันแรก เราไม่แปลงฟันนะ แค่บ้วนปาก และใช้น้ำเกลือเช็ดแผลเบา ทางคลีนิคจะให้ ยา และ ที่ล้างแผลมาด้วยค่ะ ถามว่าวันแรกกินอะไรได้ บอกได้ว่า น้ำกับนม 5555 คนอื่นอาจกินอย่างอื่นได้นะ แต่เราเป็นคนขี้กลัว เคร่งครัดด้วยแหละ เลยไม่กินไรเลย นอกจากน้ำและนม คิดอยู่ว่า นน ต้องลดแน่นอน
วันที่ 3 วันนี้เราต้องไปทำงานแล้วค่ะ ก็ยังบวมๆอยู่ ใส่ผ้าแมทไปทำงานค่ะ พูดได้ปกตินะคะ แต่จะตึงๆ หน่อย เราก็ไม่ค่อยคุนกับใครเท่าไหร่ อือ ออ อย่างเดียว ที่ทำงานก็เข้าใจค่ะ เพราะแจ้งก่อนไปทำ ส่วนการกินเรายังกิน นม โอวัลติน และน้ำเหมือนเดิมค่ะ เพราะไม่อยากให้ น้ำลายมีเชื้อโรค เพราะเวลาเราพูด กินอะไรเข้าไปน้ำลายจะมาโดนแผล อาจติดเชื้อได้ ช่วง 2-4 วันต้องระวังพอเศษ วันที่3 นี้ เราจะแปลงฟันตอนเช้าได้แล้วแผลลเริ่มดีขึ้น แบะแปลงฟันก่อนอนอ ถามว่าหิวไหม หิวตลอดเวลาค่ะ แต่เวลาหิวเราก็กินมไป ค่ะ คนอื่นอาจกินได้ปกติ แต่เราเป็นคนขี้กลัว เลยอดไปให้นานที่สุด
วันที่ 4 แล้ว ยังบวมอยู่นิดหน่อย วันนี้เริ่มกิน โจ๊กหมู แล้วค่ะ คือแบบหิวมาก555 อดไรมานาน 3 วัน กินได้ปกติค่ะ แต่ก็ต้องแปลงหลังกินเสร็จ เคี้ยวได้ปกติ ค่ะ ปากก็ยังตึงๆอยู่ แผลเริ่มแห้งมากแล้วค่ะ วันที่ 16 มค หมอนัดตัดไหมค่ะ ตื่นเต้น อยากให้หายไวๆ นี่ไม่ลางานเลยค่ะ มาทำงานปกติ เดี๋ยวพรุ้งนี้มารีวิวให้ดูอีกค่ะ