เหตุการณ์นี้เกิดกับหลานสาวเราค่ะ เกิดจากการที่หลานมานั่งเล่นในที่ทำงานเราแล้วบ่นเรื่องนี้ให้ฟัง ทำให้รู้ว่าความคิดเห็นของคนในแผนกที่นั่งฟังอยู่แบ่งออกเป็น2กลุ่มชัดเจนเลย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
บางช่วงของกระทู้เป็นสิ่งที่หลานพูดให้เราฟัง เลยอยากให้มารับฟังความคิดเห็นของเด็กดู
เรื่องคือในวิชาคณะวิชาหนึ่ง จากตอนแรกกำหนดเกณ์การให้คะแนนไว้ใน Course syllabus อย่างชัดเจนว่า
A 80
B 70
C 60
D 50
พอคะแนนออก นศได้คะแนนสอบน้อย อาจารย์กลับมาเปลี่ยนเกณฑ์เป็น
A 70
B 60
C 50
D 40
ส่วนตัวเราว่าเป็นเรื่องไม่ควรทำ
1 มันเป็นการลดมาตราฐานการศึกษาลง ทีนี้เด็กที่ไม่สนใจเรียนก็เคยตัว ขี้เกียจต่อไป เพราะแค่กลุ่มที่คะแนนน้อยมีจำนวนมาก ตัวเองก็จะปลอดภัยไม่ตกเพราะอาจารย์ต้องหาวิธีช่วย จบที่เด็กไม่ได้อะไรที่ควรได้จากการเรียนมหาลัยเลย ทั้งความรู้ และ ความรับผิดชอบตัวเอง
เด็กที่จบออกไปก็คือพวกที่ไม่เก่งจริง บวกกับไม่ขยัน
มหาลัยควรเป็นที่ๆเด็กได้เรียนรู้สิ เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าความพยายาม ชีวิตจริงเวลาทำงานไม่มีใครเค้าลดมาตราฐานหน่วยงานเค้าให้คุณนะ
เราเห็นเด็กมหาลัยที่จบมาแล้วไม่รู้อะไรเลยเยอะมาก เรียกว่าล้นตลาดแล้ว มหาลัยควรจะควบคุมคุณภาพให้มากกว่านี้นะคะ จบก็จบไม่จบก็ไม่จบ ให้มันเป็นไปตามที่เค้าทำตัวเองเถอะ ไม่ใช่ถีบๆให้จบออกมาแบบไร้ความสามารถ
2 การที่อาจารย์ตกลงอะไรกับนักศึกษา โดยทั้ง2ฝ่ายรับรู้เข้าใจตรงกัน แล้วมาเปลี่ยนเอาทีหลัง เราว่ามันไม่แฟร์กับเด็กที่ตั้งใจเรียนมากๆเพราะอาจารย์บอกตั้งแต่แรกว่าวิชานี้ยาก รู้แบบนี้เรียนๆเล่นๆก็ได้Aแล้ว
จำนวนคนได้ A เพิ่มจาก6คน เป็นเกือบ20คน มันแฟร์หรอคะ
ถ้าอยากจะช่วยเด็ก ก็ควรแจ้งตั้งแต่แรกว่าจะตัดเกรดด้วยคะแนนเท่าไหร่ ไม่ใช่เปลี่ยนตามอำเภอใจ
อย่างตอนเราเรียนนิติศาสตร์ ถึงจะไม่ใช่มหาลัยที่มีชื่อเสียงมากนัก แต่มีมาตราฐาน ต้องผ่านที่C อาจารย์ตรวจคำตอบตามธง แทบไม่มีคะแนนเก็บช่วย บางวิชาตกกันครึ่งต่อครึ่ง เราเองก็เคยตก ก็แค่ลงใหม่เทอมหน้า ไม่มีการที่อาจารย์ลงมาตราฐานของคณะลงมา มีแต่เราต้องต่อสู้อ่านหนังสือเพื่อทำให้ถึงมาตราฐาน
ถ้าจะบอกว่าการมองแบบนี้ไม่มีน้ำใจ เราว่าน้ำใจมีการแสดงออกแบบอื่นอีก น้ำใจที่ไม่ต้องลดมาตราฐานการศึกษาลง
เช่น นศ ติวหนังสือให้เพื่อน แบ่งหนังสือให้อ่าน แบ่งชีทสรุปให้เพื่อน
หรือ อาจารย์ จัดกลุ่มติวให้นักศึกษา ตอนที่สอนเน้นย้ำตรงที่จะออกสอบมากๆ ให้การบ้านเยอะๆเพื่อนเป็นการเตรียมความพร้อม
สุดท้ายแล้วต่างคนต่างคิดค่ะ ในมุมเราแค่อยากให้แฟร์กับนักศึกษา และ ไม่สนับสนุกการทำร้ายระบบการศึกษาแบบพ่อแม่รังแกฉัน
อาจารย์เปลี่ยนเกณฑ์การตัดเกรดหลังคะแนนออก เป็นเรื่องที่ควรทำหรือไม่คะ
บางช่วงของกระทู้เป็นสิ่งที่หลานพูดให้เราฟัง เลยอยากให้มารับฟังความคิดเห็นของเด็กดู
เรื่องคือในวิชาคณะวิชาหนึ่ง จากตอนแรกกำหนดเกณ์การให้คะแนนไว้ใน Course syllabus อย่างชัดเจนว่า
A 80
B 70
C 60
D 50
พอคะแนนออก นศได้คะแนนสอบน้อย อาจารย์กลับมาเปลี่ยนเกณฑ์เป็น
A 70
B 60
C 50
D 40
ส่วนตัวเราว่าเป็นเรื่องไม่ควรทำ
1 มันเป็นการลดมาตราฐานการศึกษาลง ทีนี้เด็กที่ไม่สนใจเรียนก็เคยตัว ขี้เกียจต่อไป เพราะแค่กลุ่มที่คะแนนน้อยมีจำนวนมาก ตัวเองก็จะปลอดภัยไม่ตกเพราะอาจารย์ต้องหาวิธีช่วย จบที่เด็กไม่ได้อะไรที่ควรได้จากการเรียนมหาลัยเลย ทั้งความรู้ และ ความรับผิดชอบตัวเอง
เด็กที่จบออกไปก็คือพวกที่ไม่เก่งจริง บวกกับไม่ขยัน
มหาลัยควรเป็นที่ๆเด็กได้เรียนรู้สิ เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าความพยายาม ชีวิตจริงเวลาทำงานไม่มีใครเค้าลดมาตราฐานหน่วยงานเค้าให้คุณนะ
เราเห็นเด็กมหาลัยที่จบมาแล้วไม่รู้อะไรเลยเยอะมาก เรียกว่าล้นตลาดแล้ว มหาลัยควรจะควบคุมคุณภาพให้มากกว่านี้นะคะ จบก็จบไม่จบก็ไม่จบ ให้มันเป็นไปตามที่เค้าทำตัวเองเถอะ ไม่ใช่ถีบๆให้จบออกมาแบบไร้ความสามารถ
2 การที่อาจารย์ตกลงอะไรกับนักศึกษา โดยทั้ง2ฝ่ายรับรู้เข้าใจตรงกัน แล้วมาเปลี่ยนเอาทีหลัง เราว่ามันไม่แฟร์กับเด็กที่ตั้งใจเรียนมากๆเพราะอาจารย์บอกตั้งแต่แรกว่าวิชานี้ยาก รู้แบบนี้เรียนๆเล่นๆก็ได้Aแล้ว
จำนวนคนได้ A เพิ่มจาก6คน เป็นเกือบ20คน มันแฟร์หรอคะ
ถ้าอยากจะช่วยเด็ก ก็ควรแจ้งตั้งแต่แรกว่าจะตัดเกรดด้วยคะแนนเท่าไหร่ ไม่ใช่เปลี่ยนตามอำเภอใจ
อย่างตอนเราเรียนนิติศาสตร์ ถึงจะไม่ใช่มหาลัยที่มีชื่อเสียงมากนัก แต่มีมาตราฐาน ต้องผ่านที่C อาจารย์ตรวจคำตอบตามธง แทบไม่มีคะแนนเก็บช่วย บางวิชาตกกันครึ่งต่อครึ่ง เราเองก็เคยตก ก็แค่ลงใหม่เทอมหน้า ไม่มีการที่อาจารย์ลงมาตราฐานของคณะลงมา มีแต่เราต้องต่อสู้อ่านหนังสือเพื่อทำให้ถึงมาตราฐาน
ถ้าจะบอกว่าการมองแบบนี้ไม่มีน้ำใจ เราว่าน้ำใจมีการแสดงออกแบบอื่นอีก น้ำใจที่ไม่ต้องลดมาตราฐานการศึกษาลง
เช่น นศ ติวหนังสือให้เพื่อน แบ่งหนังสือให้อ่าน แบ่งชีทสรุปให้เพื่อน
หรือ อาจารย์ จัดกลุ่มติวให้นักศึกษา ตอนที่สอนเน้นย้ำตรงที่จะออกสอบมากๆ ให้การบ้านเยอะๆเพื่อนเป็นการเตรียมความพร้อม
สุดท้ายแล้วต่างคนต่างคิดค่ะ ในมุมเราแค่อยากให้แฟร์กับนักศึกษา และ ไม่สนับสนุกการทำร้ายระบบการศึกษาแบบพ่อแม่รังแกฉัน