New York มหานครแห่งสหรัฐอเมริกา
ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครคิด เป็นเมืองที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกด้วยซ้ำ
เมืองนี้มีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ
จขกท. โชคดีได้มีโอกาสมาหาประสบการณ์ที่ Florida เลยอยากมีโอกาสสักครั้ง
ที่จะได้ไปเคาท์ดาวน์ที่ Timesquare เลยตัดสินใจเริ่มการเดินทางในครั้งนี้
ไปตั้งแต่ก่อนคริสมาสต์เพื่อไปซึมซับบรรยากาศของเทศกาลแห่งความสุข เราเลยเริ่มเดินทางตั้งวันคริสมาสต์อีฟซะเลย
แต่...อากาศของสหรัฐอเมริกาฝั่ง East coast กลับหนาวเย็นสุดขั้วและยาวนานกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา
จากรีวิวครั้งก่อน
https://ppantip.com/topic/37258729
วันนี้เรามาต่อกันด้วยไฟยามค่ำคืนของช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ของนิวยอร์คนะคะ
ก็คงต้องเริ่มต้นด้วยต้นเดิมนะคะ ต้นคริสมาสต์ตรงบริเวณตึก Rockefeller Center กลางคืนวันคริสมาสต์สวยขึ้นมากเลยค่ะ
แต่ต้องแลกมาด้วยการเบียดเสียดกับผู้คนล้านแปด แต่คุ้มค่ะ เพราะพอหันหลังกลับไปก็เจอกับ
ไฟที่บริเวณตึก SAK
ขอบอกว่าตอนนี้อุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส แต่ไม่แน่ใจว่าติดลบเท่าไหร่นะคะ
แล้วอีกที่ที่ต้องไปซ่อมคือ Bryan park ค่ะ
สวยมากเลยค่ะ แต่อุปสรรคอีกอย่างของวันนี้คือ อุปกรณ์อิเลคทรอนิกต่างๆ เมื่อเจออากาศขนาดนี้ แบตหมดสิคะ
กล้องของ จขกท. ก้อเป็นเช่นนั้นค่ะ รูปนี้จึงได้จากกล้องของโทรศัพท์มือถือ รูปจะไม่ค่อยชัดไม่ใช่จากกล้องนะคะ
จากสภาพอากาศค่ะ หนาวจนมือสั่นค่ะ
ความพยายามของเราในวันนี้จึงหมดเท่านี้ค่ะ
วันอื่นๆ คือวันช๊อปปิ้งค่ะ จขกท.ขอข้ามการรีวิวในวันช๊อปไปนะคะ เนื่องจากจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ...งุงิ
มาต่อด้วยวันที่ 31 ธันวาคมเลยนะคะ วันนี้จขกท.เริ่มต้นด้วยการเดิน Central park ค่ะ
อย่าคิดว่ามันธรรมดานะคะ เพราะจขกท. เดินตั้งแต่ Upper ลงมาถึง Timesqaure ค่ะ ภายใต้อุณหภูมิ -12 องศาเซลเซียสค่ะ
น้ำในทะเลสาปกลายเป็นน้ำแข็งจนนกลงไปเดินเล่นได้เลยค่ะ
เป็นครั้งแรกที่ จขกท. รู้สึกชอบแสงแดดเลยค่ะ วันนี้เรามีจุดมุ่งหมายเป็นตามรอยภาพยนตร์และซีรีย์ค่ะ
มาที่เรื่องแรกเลยค่ะ ถ้าเดิน Central park จาก upper ลงมาเราจะเจอนี่ก่อนเลยค่ะ
The MET ค่ะ ฉากที่คุณนายแบลร์แห่ง Gozzip girl นั่งตรงบันไดไงคะ ตอนแรกว่าจะเลียนแบบแต่พอเห็นคนแล้ว ... แค่นี้พอค่ะ
แล้วเราก็เดินลงไปเรื่อยๆ จนเจอน้ำพุค่ะ
Bethesda Fountain จากหนังเรื่องกุมภาพันธ์ค่ะ
จาก central park เราจะเดินไปถนน Fifth, Sixth หรือ สาย 7 ก็ได้นะคะ แต่ จขกท.เลือกเดินไปสายที่ 6 ค่ะ เพื่อไปหาคำว่า LOVE
แต่ตอนนี้ จขกท.ยังหาเมมโมรีการ์ดอันนั้นไม่เจอเลยค่ะ
มาถึงแสงสุดท้ายของวันที่ 31 ธันวาคมกันดีกว่าค่ะ ด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้
จำตอนที่ King Kong ปีนยอดตึก Empire state ได้มั้ยคะ ที่นี่เลยค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องรอเคาท์ดาวน์ค่ะ ภายใต้อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียสค่ะ
อย่างที่จขกท.บอก เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน
การเตรียมตัวมาในครั้งนี้จขกท. ก็เก็บข้อมูลจากพันทิพเรานี่แหละค่ะ แล้วก็เตรียมตัวไป
ซึ่งจขกท.รู้ว่าวันนี้อากาศหนาวสุดๆของนิวยอร์ค ทำให้ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อยู่หน้าเวที แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้
สักประมาณ 1 ทุ่มจขกท. ก็เริ่มเดินตามถนน 5 เพื่อหาทางเข้า แต่ตลอดเส้นทางทำให้เรารู้ว่า
ตอนนี้ถ้าจะเข้างานเคาท์ดาวน์ที่ไทม์สแคว์ต้องซื้อบัตรจ้า
ถึงจะได้เห็นบริเวณที่ลูกบอลหล่นลงมาจ้า
ระหว่างการหาทางเข้าสำหรับคนไม่มีบัตร คนงบน้อยก้องี้แหละ ก็ได้ทราบว่ามีการขายบัตรมา 3 ปีแล้วค่ะ
จนจขกท.ได้จุดที่เข้าจากบริเวณที่กั้นสุดท้าย
นี่คือระยะใกล้ที่สุดที่เราสามารถเข้าไปได้ค่ะ ซึ่งถ้าเราต้องการเข้าเราต้องไปต่อคิวเข้าที่ถนน 52 แต่จุดที่เรายืนอยู่คือ ถนน 38
เราและชาวคณะเลยตัดสินใจกันว่าจะยืนดูจากจุดนี้เอาแล้วกันเพื่อยืนดูพุ เรายืนท่ามกลางอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส
เพื่อรอดูพลุ แต่เราแค่ได้เห็นจากไกล และไม่สามารถถ่ายรูปอะไรได้เลย เนื่องจากพอหยิบกล้องหรือโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะถ่ายรูป
ทุกอย่างก็อันตรธานหายไป เนื่องด้วยอุณหภูมิที่หนาวเหน็บทำให้เราได้มาแค่ภาพนี้จริง

แต่จขกท.ก็ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาให้ดีซะก่อน
เห้อ...อดดูป้ามารายห์เลย
แต่ทริปนี้ทำให้รู้ว่านิวยอร์กไม่ได้ต่างจากโตเกียว คือ ครั้งเดียวไม่เคยพอ
ต้องซ่อมล่ะคร้า .... ทริปเคาท์ดาวน์ของจขกท. คงต้องปิดท้ายด้วยความล้มเหลว

หากมีอะไรผิดพลาดให้อภัย จขกท. ด้วยนะคะ เพราะยังเป็นมือใหม่หัดรีวิวอยู่ เด่วครั้งนั้นจะมารีวิว Universal Orlando ให้ติดตามกันนะคะ