จากคำถามที่คุณถามเรื่องการกดไลค์หรืออีโม่ มีความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่
ซึ่งผมกับคุณอ่ำเห็นต่างกันอยู่จุดหนึ่งที่ว่า
ผมว่าไม่ได้มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
แต่คุณอ่ำบอกว่าอาจถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทได้
เรื่องนี้เป็นแค่การเห็นต่าง น่าจะไม่ใช่ใครถูกหรือผิด
เพราะผมเองก็ยังไม่เห็นฎีกาเรื่องนี้ ว่าสรุปแล้ว การกดไลค์หรือกดอีโม่ มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คุณอ่ำเองก็พูดถูกที่ว่า อาจโดนดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทได้ (หากมีเจ้าทุกข์แจ้งความ และตำรวจรับแจ้งดำเนินการ)
แต่เรื่องที่อาจจะโดนได้แน่ๆ คือการถูกเรียกไปเป็นพยาน ที่ผมเห็นค้านว่าดูจะเลื่อนลอยไร้ประโยชน์
https://freedom.ilaw.or.th/blog/ClickLike
จากข่าวที่ตำรวจนายหนึ่งโดนเรียกไปเป็นพยาน เกี่ยวกับการไปกดไลค์ข้อความที่มีการหมิ่นประมาทกัน
จะเห็นว่าตำรวจผู้ออกหมายเรียกเองก็แค่ต้องการทราบว่ารู้สึกอย่างไร ไม่ได้ให้เป็นพยานรู้เห็นอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลย
เผลอๆ ถ้าพยานบอกว่าอ่านแล้วไม่ทราบว่าหมายถึงใคร ไม่รู้สึกว่าหมิ่นประมาท อาจจะเป็นผลดีกับจำเลยมากกว่าอีก
ข้อสำคัญคือ จะนำสืบได้ยังไงว่าใครคือคนกดไลค์
ข้อสังเกตอีกอย่างคือ การเรียกไปเป็นพยานนั้น 90% คือโจทก์หรือจำเลย รู้จักกับคนที่จะอ้างมาเป็นพยาน
หากเป็นคนอื่นทั่วไป หรืออย่างการกดอีโม่ในพันทิบ แทบเป็นไปได้ยากมากๆในการที่จะชี้ให้ใครไปเป็นพยาน
เว้นแต่มีมิตรผู้หวังดี ให้ชื่อและเบอร์โทรเจ้าของ login นั้น
แต่ก็เห็นด้วยในข้อที่ว่า การจะเล่นบอร์ดเล่นโซเชี่ยลให้สบายใจ ก็พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องที่อาจจะนำความยุ่งยากมาสู่ชีวิตซะดีกว่า
ในยุคที่มีคนอ่อนไหวแตะต้องไม่ได้ นิดๆหน่อยๆก็ขู่กัน นิดๆหน่อยๆก็จะฟ้องกัน
โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะความไว้ใจกับเพื่อนผู้หวังดี
อีกหน่อยจะเห็นคนแบบตุ๊กตา แร๊พ หรือปี๊บ (ชบาเหลือง) เพิ่มมากขึ้น
จะพิมพ์จะด่าใครก็ได้ เจ้าทุกข์จะประสบปัญหาในการตามหาตัว อย่างมากก็อ้างว่าก้าวข้าม ไม่อยากเอาเรื่อง
ความจริงคือไม่สามารถตามได้ ตามได้ก็พิสูจน์ไม่ได้
ถ้าเรียกนพนครพิงค์เป็นยัยเบ๊อะนพ จะโดนฟ้องมั้ย
ถ้าเรียกน้ำมิตรเป็นน้ำหมา จะโดนฟ้องมั้ย
ถ้าเรียกแกงส้มเป็นส้มเน่า จะโดนฟ้องมั้ย
โอย..ปวดหัว!
***** ว่าด้วยการกดไลค์ หรือกดอีโม่ ตอบคุณ 4303540 *****
ซึ่งผมกับคุณอ่ำเห็นต่างกันอยู่จุดหนึ่งที่ว่า ผมว่าไม่ได้มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
แต่คุณอ่ำบอกว่าอาจถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทได้
เรื่องนี้เป็นแค่การเห็นต่าง น่าจะไม่ใช่ใครถูกหรือผิด
เพราะผมเองก็ยังไม่เห็นฎีกาเรื่องนี้ ว่าสรุปแล้ว การกดไลค์หรือกดอีโม่ มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คุณอ่ำเองก็พูดถูกที่ว่า อาจโดนดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทได้ (หากมีเจ้าทุกข์แจ้งความ และตำรวจรับแจ้งดำเนินการ)
แต่เรื่องที่อาจจะโดนได้แน่ๆ คือการถูกเรียกไปเป็นพยาน ที่ผมเห็นค้านว่าดูจะเลื่อนลอยไร้ประโยชน์
https://freedom.ilaw.or.th/blog/ClickLike
จากข่าวที่ตำรวจนายหนึ่งโดนเรียกไปเป็นพยาน เกี่ยวกับการไปกดไลค์ข้อความที่มีการหมิ่นประมาทกัน
จะเห็นว่าตำรวจผู้ออกหมายเรียกเองก็แค่ต้องการทราบว่ารู้สึกอย่างไร ไม่ได้ให้เป็นพยานรู้เห็นอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลย
เผลอๆ ถ้าพยานบอกว่าอ่านแล้วไม่ทราบว่าหมายถึงใคร ไม่รู้สึกว่าหมิ่นประมาท อาจจะเป็นผลดีกับจำเลยมากกว่าอีก
ข้อสำคัญคือ จะนำสืบได้ยังไงว่าใครคือคนกดไลค์
ข้อสังเกตอีกอย่างคือ การเรียกไปเป็นพยานนั้น 90% คือโจทก์หรือจำเลย รู้จักกับคนที่จะอ้างมาเป็นพยาน
หากเป็นคนอื่นทั่วไป หรืออย่างการกดอีโม่ในพันทิบ แทบเป็นไปได้ยากมากๆในการที่จะชี้ให้ใครไปเป็นพยาน
เว้นแต่มีมิตรผู้หวังดี ให้ชื่อและเบอร์โทรเจ้าของ login นั้น
แต่ก็เห็นด้วยในข้อที่ว่า การจะเล่นบอร์ดเล่นโซเชี่ยลให้สบายใจ ก็พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องที่อาจจะนำความยุ่งยากมาสู่ชีวิตซะดีกว่า
ในยุคที่มีคนอ่อนไหวแตะต้องไม่ได้ นิดๆหน่อยๆก็ขู่กัน นิดๆหน่อยๆก็จะฟ้องกัน
โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะความไว้ใจกับเพื่อนผู้หวังดี
อีกหน่อยจะเห็นคนแบบตุ๊กตา แร๊พ หรือปี๊บ (ชบาเหลือง) เพิ่มมากขึ้น
จะพิมพ์จะด่าใครก็ได้ เจ้าทุกข์จะประสบปัญหาในการตามหาตัว อย่างมากก็อ้างว่าก้าวข้าม ไม่อยากเอาเรื่อง
ความจริงคือไม่สามารถตามได้ ตามได้ก็พิสูจน์ไม่ได้
ถ้าเรียกนพนครพิงค์เป็นยัยเบ๊อะนพ จะโดนฟ้องมั้ย
ถ้าเรียกน้ำมิตรเป็นน้ำหมา จะโดนฟ้องมั้ย
ถ้าเรียกแกงส้มเป็นส้มเน่า จะโดนฟ้องมั้ย
โอย..ปวดหัว!