ต่อจากตอนที่แล้ว
พวกบาคุโก, โทโดโรกิ, อินาซะ และเคย์มิก็ยังคงประสบความยากลำบากในการรับมือกับบรรดาเด็กแสบกันอยู่
ส่วนที่นั่งคณะกรรมการที่ตอนนี้โดน Present Mic ยึดเป็นโต๊ะผู้บรรยายไปซะงั้นก็กำลังสัมภาษณ์แขกรับเชิญประจำวันนี้ ซึ่งนั่นก็คือครูประจำชั้นของบรรดาเด็กแสบนั่นเอง
ครูสาวบอกว่าชั้นประถมต้นนั้นมีความสำคัญมากในการพัฒนาบุคลิคภาพของเด็ด และด้วยการที่แต่ละคนก็มีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ก็ทำให้ความยากเพิ่มขึ้นอีกมาก แม้บรรดาครูจะให้คำปรึกษาและช่วยสนับสนุนให้บรรดาเด็กๆมีสุขภาพจิตที่ดี แต่ว่า...มันก็มีขีดจำกัดของสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้อยู่ พวกเด็กในห้องเรียนที่พามาในครั้งนี้เป็นพวกที่ปิดใจตัวเองจากบรรดาครูอย่างสิ้นเชิง และแม้เธอจะรู้ดีว่ามันเป็นความรับผิดชอบของตัวเธอเอง แต่เธอก็หวังว่าด้วยการพบปะกับบรรดานักเรียนฮีโร่ที่พยายามไปให้ถึงความฝันของจนจะทำให้บรรดาเด็กๆสามารถเปิดใจออกมาได้
เมื่อได้ยินคำพูดของครูสาว พวกโทโดโรกิก็ตั้งมั่นว่าจะช่วยเธอที่ในตอนนี้ถือว่าเป็นคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือให้เต็มที่
ว่าแล้วก็เริ่มระดมสมองกัน
บาคุโกที่มีประสบการณ์เป็นหัวโจกเด็กในห้องสมัยประถมมาก่อนก็ออกความเห็นว่า ที่เด็กพวกนี้เป็นแบบนี้ส่วนมาจากการที่ครูพลาดที่จะสวมบทบาทเป็น "ผู้นำ" ของบรรดาเด็กๆมาตั้งแต่ต้น จนเป็นฝ่ายโดนเล่นงานก่อน เด็กพวกนี้จะต้องมี "หัวโจก" อยู่คนหนึ่ง ที่เป็นคนชี้นำอารมณ์ของเด็กคนอื่นในห้อง
แผนของเขาคือหาหัวโจกให้พบแล้วจัดการให้อยู่หมัดเอาให้เป็นตัวอย่าง! จากนั้นก็ให้คนอื่นเอาหินขว้างหลังจากหมดฤทธิ์ไปแล้ว! เอาให้พวกมันรับรู้จนถึงกระดูกว่าพวกมันนั้นไร้ค่าแค่ไหน!!
แผนที่ราวกับตัวร้ายของบาคุโกทำเอาบรรดาผู้บรรยายอึ้งรับประทานไปตามๆกัน
แต่ยังไม่ทันได้ลงมือก็โดนเด็กแสบคนหนึ่งตอกหน้าเต็มๆว่าวิธีคิดแบบนั้นมันหัวโบราณมั่กๆ และเขาน่าจะถูกเลี้ยงดูมาไม่ดีแหงๆ...(เถียงแทนไม่ออกเลยวุ๊ย)
ทีนี้ก็มาถึงตาอินาซะ วิธีการของเขาคือเข้าหาพวกเด็กๆด้วยการทำความรู้จักเพื่อเป็นเพื่อนกับพวกเด็กๆ
เริ่มจากถามว่าใครอยากเป็นฮีโร่บ้าง และเมื่อมีหลายคนตอบรับมาอินาซะก็หวังจะใช้ความเชื่อมโยงจากความใฝ่ฝันเดียวกันนี้เพื่อสอนให้พวกเขารู้ว่าเด็กที่สร้างความลำบากให้คุณครูน่ะไม่สามารถเป็นฮีโร่ที่ดีได้หรอก
แต่กลับกลายเป็นว่าโดนเด็กพูดกลับว่า "งั้นเขาก็เป็นฮีโร่ไม่ได้เหมือนกันสิ เพราะเขาสอบตกจนทำให้บรรดาอาจารย์เจ้าหน้าที่ต้องทำงานมากขึ้นด้วยการจัดการเรียนซ่อมเสริมแบบนี้..."
อินาซะโดนคริติเคิลเข้าไปจนลอยละลิ่วด้วยลมของตัวเองซะงั้น
ตัดไปที่อัฐจรรย์ ที่ฮีโร่รุ่นใหญ่ทั้งสองคนกำลังคุยกันเรื่องหัวข้อ "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพคืออะไรกันแน่?"
Endeavor : ฉันเคยฝากความหวังทั้งหมดไว้กับโชโตะ
Endeavor : เมื่อตอนที่ฉันอายุยี่สิบ ฉันก็ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งฮีโร่อันดับสองไปเรียบร้อยแล้ว
Endeavor : และเพราะฉันปีนป่ายมาจนถึงจุดนั้น...ฉันจึงได้รู้ในทันที
Endeavor : ว่าฉันไม่มีวันก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้แน่ๆ
Endeavor : ถ้าฉันแค่ต้องการตำแหน่งหรือเกียรติ์ยศล่ะก็ ฉันคงสามารถปั้นยิ้มใส่ทุกคนได้เหมือนนาย และคงทำตัวให้เป็นที่นิยมของมหาชนได้
Endeavor : แต่ฉันอยากจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครๆ
All Might : พูดแบบนั้นมันไม่สมเป็นนายเอาซะเลยนะ
Endeavor : เงียบไปเลยแล้วตอบคำถามฉันมาซะที!
All Might : {สัญลักษณ์แห่งสันติภาพมันคืออะไรกันแน่...งั้นรึ?}
All Might : บอกตามตรงนะ...
All Might : ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีเหมือนกัน
All Might : ฉันแค่เชื่อว่าประเทศนี้ต้องการสัญลักษณ์ และฉันก็วิ่งเต็มเหยียดเพื่อไปให้ถึงจุดหมายนั้น
All Might : แสงสว่างที่แรงกล้า...มันจะเป็นสิ่งที่นำความหวังมาสู่ผู้คน และกำหราบพวกเหล่าร้าย
All Might : ฉันสาบานกับตัวเองว่าจะเป็นแสงนั้นให้ได้ และวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งฉันไปถึงจุดนั้นได้
All Might : ในตอนนั้นผู้คนบนท้องถนนต่างก็มีใบหน้าเคร่งเครียดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีฮีโร่จำนวนมากขนาดไหน จำนวนอาชญากรรมก็ไม่ลดลง
All Might : ผู้คนกำลังหวาดกลัว...มากยิ่งกว่าในปัจจุบันนี้เสียอีก
All Might : ฉันเลือกที่จะไม่สนใจความหวังดีของคนรอบตัว...และผลักพวกเขาออกไป
All Might : นั่นแหละคือเส้นทางที่ฉันเลือก
Endeavor : ...พูดถึงผู้ช่วยเก่าของนายคนนั้นสินะ
All Might : ....
All Might : เอ็นเดเวอร์
All Might : ฉันเข้าใจดีว่าสถานการณ์ของนายเป็นยังไง...และโลกพูดถึงนายยังไง
All Might : มีคนมากมายที่เปรียบเทียบพวกเราสองคนว่าแตกต่างกันยังไง แต่นายกับฉันนั้นไม่เหมือนกัน
All Might : นายไม่จำเป็นต้องทำตามอย่างฉัน
All Might : แล้วกลายไปเป็นสัญลักษณ์แบบเดียวกับที่ฉันตั้งมั่นว่าจะเป็นหรอก
All Might : นายแค่ต้องหาวิธีของตัวเองในการจัดการเรื่องต่างๆก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปหรอก
ตัดไปที่ด้านล่าง ถึงตาโทโดโรกิบ้าง
โทโดโรกิพยายามอธิบายเรื่องประวัติของตัวเองแบบละเอียดลออ ราวกับอ่านจากบทแนะนำตัวละครของตัวเองก็ไม่ปาน...
ซึ่งแน่นอนว่าพวกเด็กๆที่มีสมาธิสั้นกันอยู่แล้วก็เบื่ออย่างรวดเร็ว...
เมื่อหนุ่มๆทั้งสามคนต่างก็พลาดกันไป ก็มาถึงตาเคย์มิบ้าง
เธอเสนอว่าในเมื่อวิธีการธรรมดามันไม่ได้เรื่อง งั้นก็ลองเปลี่ยนมาเข้าหาด้วยการใช้อัตลักษณ์ของพวกเขาดูดีไหม?
เพราะในเมื่อช่องว่างระหว่างพวกเขากับเด็กพวกนั้นมันกว้างมากๆมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเด็กพวกนั้นก็ดูจะสนุกกับการทำให้พวกเขาลำบากอยู่แล้วด้วย
มาถึงตรงนี้บาคุโกก็จับใจความที่เคย์มิต้องการจะสื่อออกมาได้แล้ว
บาคุโก : ถ้าเราจะ "เข้าหา" เราไม่ควรพยายามลดระยะห่าง เราควรจะพุ่งเข้าใส่เลยต่างหาก! เราจะแสดงความสามารถของพวกเราให้เจ้าพวกนั้นได้เห็นว่าตัวตนพวกเราเป็นยังไง!
อีกด้านหนึ่ง ทางด้านเด็กๆก็มีคนที่น่าจะเป็นหัวโจกออกนำพรรคพวกให้เห็นแล้ว...
หัวโจก : พวกนั้นคุยกันใหญ่เลยนะ
หัวโจก : เฮะๆ...เรารู้อยู่แล้วล่ะ พวกพ่อกับแม่แล้วก็คนในทีวีต่างก็พูดเหมือนกันหมด
หัวโจก : พวกนั้นบอกว่า "เราจะเชื่อใจฮีโร่พวกนี้ได้หรือ?"
หัวโจก : และเราก็รู้อีกอย่างด้วย เราได้ยินพวกนั้นพูดแล้วพูดอีก...
ครู : อ๊า! ทุกคนหยุดนะ! แบบนั้นมันอันตราย!
หัวโจก : ว่าคนรุ่นพวกเราน่ะ จะเหนือกว่าพวกนั้น!
เมื่อโดนพวกหัวโจกปลุกเร้า พวกเด็กๆก็เตรียมใช้อัตลักษณ์ของตนเข้าเล่นงานพวกฮีโร่ฝึกหัด!!
โดยหารู้ไม่ว่าดันไปเข้าทางของอีกฝ่ายเข้าเต็มๆซะแล้ว...
บาคุโก : เฮอะ! นั่นแหละที่ฉันอยากจะเห็นเลย…!
บาคุโก : เข้ามาเลยเจ้าพวกเด็กเวร!
บาคุโก : ฉันจะรับมือพวกแกเอง!
ตัดไปที่นั่งผู้บรรยาย
Present Mic : {นี่มีปัญหากันขนาดนี้กับแค่การรับมือเด็กประถมเลยเรอะ?}
ด้วยจิตสำนึกที่ยังเหลืออยู่ทำให้ Mic ไม่ได้พูดสิ่งที่คิดอยู่ออกไป
Spoil Boku no Hero Academia 165 : ชนะใจพวกเด็กๆให้ได้
พวกบาคุโก, โทโดโรกิ, อินาซะ และเคย์มิก็ยังคงประสบความยากลำบากในการรับมือกับบรรดาเด็กแสบกันอยู่
ส่วนที่นั่งคณะกรรมการที่ตอนนี้โดน Present Mic ยึดเป็นโต๊ะผู้บรรยายไปซะงั้นก็กำลังสัมภาษณ์แขกรับเชิญประจำวันนี้ ซึ่งนั่นก็คือครูประจำชั้นของบรรดาเด็กแสบนั่นเอง
ครูสาวบอกว่าชั้นประถมต้นนั้นมีความสำคัญมากในการพัฒนาบุคลิคภาพของเด็ด และด้วยการที่แต่ละคนก็มีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ก็ทำให้ความยากเพิ่มขึ้นอีกมาก แม้บรรดาครูจะให้คำปรึกษาและช่วยสนับสนุนให้บรรดาเด็กๆมีสุขภาพจิตที่ดี แต่ว่า...มันก็มีขีดจำกัดของสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้อยู่ พวกเด็กในห้องเรียนที่พามาในครั้งนี้เป็นพวกที่ปิดใจตัวเองจากบรรดาครูอย่างสิ้นเชิง และแม้เธอจะรู้ดีว่ามันเป็นความรับผิดชอบของตัวเธอเอง แต่เธอก็หวังว่าด้วยการพบปะกับบรรดานักเรียนฮีโร่ที่พยายามไปให้ถึงความฝันของจนจะทำให้บรรดาเด็กๆสามารถเปิดใจออกมาได้
เมื่อได้ยินคำพูดของครูสาว พวกโทโดโรกิก็ตั้งมั่นว่าจะช่วยเธอที่ในตอนนี้ถือว่าเป็นคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือให้เต็มที่
ว่าแล้วก็เริ่มระดมสมองกัน
บาคุโกที่มีประสบการณ์เป็นหัวโจกเด็กในห้องสมัยประถมมาก่อนก็ออกความเห็นว่า ที่เด็กพวกนี้เป็นแบบนี้ส่วนมาจากการที่ครูพลาดที่จะสวมบทบาทเป็น "ผู้นำ" ของบรรดาเด็กๆมาตั้งแต่ต้น จนเป็นฝ่ายโดนเล่นงานก่อน เด็กพวกนี้จะต้องมี "หัวโจก" อยู่คนหนึ่ง ที่เป็นคนชี้นำอารมณ์ของเด็กคนอื่นในห้อง
แผนของเขาคือหาหัวโจกให้พบแล้วจัดการให้อยู่หมัดเอาให้เป็นตัวอย่าง! จากนั้นก็ให้คนอื่นเอาหินขว้างหลังจากหมดฤทธิ์ไปแล้ว! เอาให้พวกมันรับรู้จนถึงกระดูกว่าพวกมันนั้นไร้ค่าแค่ไหน!!
แผนที่ราวกับตัวร้ายของบาคุโกทำเอาบรรดาผู้บรรยายอึ้งรับประทานไปตามๆกัน
แต่ยังไม่ทันได้ลงมือก็โดนเด็กแสบคนหนึ่งตอกหน้าเต็มๆว่าวิธีคิดแบบนั้นมันหัวโบราณมั่กๆ และเขาน่าจะถูกเลี้ยงดูมาไม่ดีแหงๆ...(เถียงแทนไม่ออกเลยวุ๊ย)
ทีนี้ก็มาถึงตาอินาซะ วิธีการของเขาคือเข้าหาพวกเด็กๆด้วยการทำความรู้จักเพื่อเป็นเพื่อนกับพวกเด็กๆ
เริ่มจากถามว่าใครอยากเป็นฮีโร่บ้าง และเมื่อมีหลายคนตอบรับมาอินาซะก็หวังจะใช้ความเชื่อมโยงจากความใฝ่ฝันเดียวกันนี้เพื่อสอนให้พวกเขารู้ว่าเด็กที่สร้างความลำบากให้คุณครูน่ะไม่สามารถเป็นฮีโร่ที่ดีได้หรอก
แต่กลับกลายเป็นว่าโดนเด็กพูดกลับว่า "งั้นเขาก็เป็นฮีโร่ไม่ได้เหมือนกันสิ เพราะเขาสอบตกจนทำให้บรรดาอาจารย์เจ้าหน้าที่ต้องทำงานมากขึ้นด้วยการจัดการเรียนซ่อมเสริมแบบนี้..."
อินาซะโดนคริติเคิลเข้าไปจนลอยละลิ่วด้วยลมของตัวเองซะงั้น
ตัดไปที่อัฐจรรย์ ที่ฮีโร่รุ่นใหญ่ทั้งสองคนกำลังคุยกันเรื่องหัวข้อ "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพคืออะไรกันแน่?"
Endeavor : ฉันเคยฝากความหวังทั้งหมดไว้กับโชโตะ
Endeavor : เมื่อตอนที่ฉันอายุยี่สิบ ฉันก็ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งฮีโร่อันดับสองไปเรียบร้อยแล้ว
Endeavor : และเพราะฉันปีนป่ายมาจนถึงจุดนั้น...ฉันจึงได้รู้ในทันที
Endeavor : ว่าฉันไม่มีวันก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้แน่ๆ
Endeavor : ถ้าฉันแค่ต้องการตำแหน่งหรือเกียรติ์ยศล่ะก็ ฉันคงสามารถปั้นยิ้มใส่ทุกคนได้เหมือนนาย และคงทำตัวให้เป็นที่นิยมของมหาชนได้
Endeavor : แต่ฉันอยากจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครๆ
All Might : พูดแบบนั้นมันไม่สมเป็นนายเอาซะเลยนะ
Endeavor : เงียบไปเลยแล้วตอบคำถามฉันมาซะที!
All Might : {สัญลักษณ์แห่งสันติภาพมันคืออะไรกันแน่...งั้นรึ?}
All Might : บอกตามตรงนะ...
All Might : ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีเหมือนกัน
All Might : ฉันแค่เชื่อว่าประเทศนี้ต้องการสัญลักษณ์ และฉันก็วิ่งเต็มเหยียดเพื่อไปให้ถึงจุดหมายนั้น
All Might : แสงสว่างที่แรงกล้า...มันจะเป็นสิ่งที่นำความหวังมาสู่ผู้คน และกำหราบพวกเหล่าร้าย
All Might : ฉันสาบานกับตัวเองว่าจะเป็นแสงนั้นให้ได้ และวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งฉันไปถึงจุดนั้นได้
All Might : ในตอนนั้นผู้คนบนท้องถนนต่างก็มีใบหน้าเคร่งเครียดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีฮีโร่จำนวนมากขนาดไหน จำนวนอาชญากรรมก็ไม่ลดลง
All Might : ผู้คนกำลังหวาดกลัว...มากยิ่งกว่าในปัจจุบันนี้เสียอีก
All Might : ฉันเลือกที่จะไม่สนใจความหวังดีของคนรอบตัว...และผลักพวกเขาออกไป
All Might : นั่นแหละคือเส้นทางที่ฉันเลือก
Endeavor : ...พูดถึงผู้ช่วยเก่าของนายคนนั้นสินะ
All Might : ....
All Might : เอ็นเดเวอร์
All Might : ฉันเข้าใจดีว่าสถานการณ์ของนายเป็นยังไง...และโลกพูดถึงนายยังไง
All Might : มีคนมากมายที่เปรียบเทียบพวกเราสองคนว่าแตกต่างกันยังไง แต่นายกับฉันนั้นไม่เหมือนกัน
All Might : นายไม่จำเป็นต้องทำตามอย่างฉัน
All Might : แล้วกลายไปเป็นสัญลักษณ์แบบเดียวกับที่ฉันตั้งมั่นว่าจะเป็นหรอก
All Might : นายแค่ต้องหาวิธีของตัวเองในการจัดการเรื่องต่างๆก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปหรอก
ตัดไปที่ด้านล่าง ถึงตาโทโดโรกิบ้าง
โทโดโรกิพยายามอธิบายเรื่องประวัติของตัวเองแบบละเอียดลออ ราวกับอ่านจากบทแนะนำตัวละครของตัวเองก็ไม่ปาน...
ซึ่งแน่นอนว่าพวกเด็กๆที่มีสมาธิสั้นกันอยู่แล้วก็เบื่ออย่างรวดเร็ว...
เมื่อหนุ่มๆทั้งสามคนต่างก็พลาดกันไป ก็มาถึงตาเคย์มิบ้าง
เธอเสนอว่าในเมื่อวิธีการธรรมดามันไม่ได้เรื่อง งั้นก็ลองเปลี่ยนมาเข้าหาด้วยการใช้อัตลักษณ์ของพวกเขาดูดีไหม?
เพราะในเมื่อช่องว่างระหว่างพวกเขากับเด็กพวกนั้นมันกว้างมากๆมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเด็กพวกนั้นก็ดูจะสนุกกับการทำให้พวกเขาลำบากอยู่แล้วด้วย
มาถึงตรงนี้บาคุโกก็จับใจความที่เคย์มิต้องการจะสื่อออกมาได้แล้ว
บาคุโก : ถ้าเราจะ "เข้าหา" เราไม่ควรพยายามลดระยะห่าง เราควรจะพุ่งเข้าใส่เลยต่างหาก! เราจะแสดงความสามารถของพวกเราให้เจ้าพวกนั้นได้เห็นว่าตัวตนพวกเราเป็นยังไง!
อีกด้านหนึ่ง ทางด้านเด็กๆก็มีคนที่น่าจะเป็นหัวโจกออกนำพรรคพวกให้เห็นแล้ว...
หัวโจก : พวกนั้นคุยกันใหญ่เลยนะ
หัวโจก : เฮะๆ...เรารู้อยู่แล้วล่ะ พวกพ่อกับแม่แล้วก็คนในทีวีต่างก็พูดเหมือนกันหมด
หัวโจก : พวกนั้นบอกว่า "เราจะเชื่อใจฮีโร่พวกนี้ได้หรือ?"
หัวโจก : และเราก็รู้อีกอย่างด้วย เราได้ยินพวกนั้นพูดแล้วพูดอีก...
ครู : อ๊า! ทุกคนหยุดนะ! แบบนั้นมันอันตราย!
หัวโจก : ว่าคนรุ่นพวกเราน่ะ จะเหนือกว่าพวกนั้น!
เมื่อโดนพวกหัวโจกปลุกเร้า พวกเด็กๆก็เตรียมใช้อัตลักษณ์ของตนเข้าเล่นงานพวกฮีโร่ฝึกหัด!!
โดยหารู้ไม่ว่าดันไปเข้าทางของอีกฝ่ายเข้าเต็มๆซะแล้ว...
บาคุโก : เฮอะ! นั่นแหละที่ฉันอยากจะเห็นเลย…!
บาคุโก : เข้ามาเลยเจ้าพวกเด็กเวร!
บาคุโก : ฉันจะรับมือพวกแกเอง!
ตัดไปที่นั่งผู้บรรยาย
Present Mic : {นี่มีปัญหากันขนาดนี้กับแค่การรับมือเด็กประถมเลยเรอะ?}
ด้วยจิตสำนึกที่ยังเหลืออยู่ทำให้ Mic ไม่ได้พูดสิ่งที่คิดอยู่ออกไป