ช่วงหลังๆ นี่ไม่ค่อยจะมีอะไรให้เล่นและคงกลัวว่าสังคมจะลืม เฮียสุวิทย์ก็เลยต้องออกมาเอ๊กเซอรไซส์บ้าง กระแสข่าวเล็กๆ คนอย่างเฮียสุวิทย์ไม่ กระแสใหญ่ๆ และใหญ่อย่างต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์อย่างพี่ตูนเกือบจะผ่านหน้าเฮียสุวิทย์ไปเฉยๆ แต่แล้วกรณีว.วชิรเมธีนำพระเชียงรายออกมากล่าวอนุโมทนาสาธุการกับพี่ตูนก็มาต่อลมหายใจของกิเลสในใจของเฮียสุวิทย์ Phew! เฮียสุวิทย์ของผมเกือบจะไม่ได้ติดกระแสดังกับเขาซะไหมล่ะ?
ก้อ...ไม่รู้อะไรเฮียนักหนา แค่ท่านว. นำพระมายกย่องมาส่งเสริมคนทำเพื่อส่วนรวมอย่างนี้ เฮียถึงกับเรียวกว่า “วิปลาศ” !! การกระทำของว. วชิรเมธียังน้อยไป และเทียบกันไม่ติดเลยกับตอนที่เฮียถลกชายสบงก้าวขึ้นเวทีราชดำเนินแล้วประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงว่า “สิ่งที่กปปส. ทำอย่างตอนนี้คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในโลก!” น้อยไปหรือแทบจะตรงกันข้ามกันเลยตอนที่เฮียสุวิทย์เห็นดีเห็นงามไปกับมือปืนป๊อปคอร์นในขณะที่ว.วชิรเมธีนำพระออกมากล่าวแสร่สร้องสาธุการในคุณความดีของคนอย่างพี่ตูน
หากใครที่ไม่ติดตาม “การเมือง” ในดงขมิ้นอาจจะไม่รู้ลึกตื้นบางหนาเท่าไหร่ การออกมาตำหนิว. วชิรเมธีคราวนี้ เฮียสุวิทย์กดเครื่องคิดเลขคำนวนออกมาแล้วว่า “ได้มากกว่าเสีย”
๑. ออกมาเกาะกระแสพี่ตูนกับว. วชิรเมธีอย่างนี้ ไม่ตกเป็นข่าวก็ให้มันรู้ไป (ประมาณนั้น)
๒. ต้องการสั่งสอนว. วชิรเมธีผู้ซึ่งระยะหลังๆ ตีตัวห่างจากกกปส. (หรือส่วนหนึ่งของคนเสื้อเหลือง) ไป การเดินเข้าวัดปากน้ำเข้าไปกราบนมัสการ “สมเด็จช่วง” อย่างนอบน้อมและรับใบเป็นพระปกครองระดับสังฆาธิการของว. วชิรเมธี เป็นภาพตรงกันข้ามกับเดินเข้าวัดปากน้ำของพุทธอิสระที่มีหน่วยทหารถือปืนห้อมล้อมป้องกัน พร้อมนำชุดสังฆทานที่มี ดอกไม้จันท์ สากกระเบือและรองเท้าไปถวายสมเด็จช่วง
๓. พุทธอิสระกำลังสร้างเกาะกำบังตัว พุทธอิสระรู้ดีว่าศรัตรูหมายเลขหนึ่งที่ตามจิกกัดว. วชิรเมธีมาตลอดคือพระมหานรินทร์ พระธรรมทูตเจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งที่มีฝีปากกล้าและจัดจ้าน ตัวพุทธอิสระเองก็เคยโดนพระมหานรินทร์ด่าและตรวจสอบมาแล้ว พระมหานรินทร์ก็ใช่ไก่กาอาราเร่ที่ไหน มีดีกรีเป็นถึงพระมหาเปรียญธรรมเก้าประโยคเท่าๆ กับว. วชิรเมธี พุทธอิสระคงไม่อยากจะเปิดศึกหลายด้านอยู่แล้ว ไหนๆ ว.วชิรเมธีหันค่อยๆ หันหลังให้กับกปปส. แล้ว มิหนำซ้ำไปถ่ายรูปคู่กับปูยิ่งลักษณ์เข้าไปอีก เลยเอาเรื่องต้อนรับพี่ตูนด้วยมุทิตาและอนุโมทนาจิตของคณะสงฆ์ไร่เชิญตะวันเป็นมูลเหตุด่าว่าวิปลาสไปนู่นเลย เอาใจพระมหานรินทร์ที่ลาสเวกัสไปพร้อมๆ กัน
แหม...ได้เห็นคำว่า “วิปัสสนาวิปลาส” แล้วเกิดเปรี้ยวปาก นึกอยากจะลากโยงไปถึงพระอาการวิปลาสที่เกิดจากการนั่งวิปัสสนาของพระเจ้ากรุงธนบุรีเหมือนกัน “การเมือง” ช่วงนั้นทั้งฝ่ายฆราวาสทั้งฝ่ายพระสงฆ์เล่นกันหนักถึงตายเลยทีเดียว....แต่ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวโดนยึดล็อคอิน ขนาดแค่เขียนถึงนายสุวิทย์ผู้เคยเจิมหน้าผากให้ใครต่อใครมาแล้วหลายคน...ผมยังเสียวๆ อยู่เลย 555
.....พุทธะอิสระฉะวชิรเมธี.... / วัชรานนท์ชี้
ก้อ...ไม่รู้อะไรเฮียนักหนา แค่ท่านว. นำพระมายกย่องมาส่งเสริมคนทำเพื่อส่วนรวมอย่างนี้ เฮียถึงกับเรียวกว่า “วิปลาศ” !! การกระทำของว. วชิรเมธียังน้อยไป และเทียบกันไม่ติดเลยกับตอนที่เฮียถลกชายสบงก้าวขึ้นเวทีราชดำเนินแล้วประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงว่า “สิ่งที่กปปส. ทำอย่างตอนนี้คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในโลก!” น้อยไปหรือแทบจะตรงกันข้ามกันเลยตอนที่เฮียสุวิทย์เห็นดีเห็นงามไปกับมือปืนป๊อปคอร์นในขณะที่ว.วชิรเมธีนำพระออกมากล่าวแสร่สร้องสาธุการในคุณความดีของคนอย่างพี่ตูน
หากใครที่ไม่ติดตาม “การเมือง” ในดงขมิ้นอาจจะไม่รู้ลึกตื้นบางหนาเท่าไหร่ การออกมาตำหนิว. วชิรเมธีคราวนี้ เฮียสุวิทย์กดเครื่องคิดเลขคำนวนออกมาแล้วว่า “ได้มากกว่าเสีย”
๑. ออกมาเกาะกระแสพี่ตูนกับว. วชิรเมธีอย่างนี้ ไม่ตกเป็นข่าวก็ให้มันรู้ไป (ประมาณนั้น)
๒. ต้องการสั่งสอนว. วชิรเมธีผู้ซึ่งระยะหลังๆ ตีตัวห่างจากกกปส. (หรือส่วนหนึ่งของคนเสื้อเหลือง) ไป การเดินเข้าวัดปากน้ำเข้าไปกราบนมัสการ “สมเด็จช่วง” อย่างนอบน้อมและรับใบเป็นพระปกครองระดับสังฆาธิการของว. วชิรเมธี เป็นภาพตรงกันข้ามกับเดินเข้าวัดปากน้ำของพุทธอิสระที่มีหน่วยทหารถือปืนห้อมล้อมป้องกัน พร้อมนำชุดสังฆทานที่มี ดอกไม้จันท์ สากกระเบือและรองเท้าไปถวายสมเด็จช่วง
๓. พุทธอิสระกำลังสร้างเกาะกำบังตัว พุทธอิสระรู้ดีว่าศรัตรูหมายเลขหนึ่งที่ตามจิกกัดว. วชิรเมธีมาตลอดคือพระมหานรินทร์ พระธรรมทูตเจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งที่มีฝีปากกล้าและจัดจ้าน ตัวพุทธอิสระเองก็เคยโดนพระมหานรินทร์ด่าและตรวจสอบมาแล้ว พระมหานรินทร์ก็ใช่ไก่กาอาราเร่ที่ไหน มีดีกรีเป็นถึงพระมหาเปรียญธรรมเก้าประโยคเท่าๆ กับว. วชิรเมธี พุทธอิสระคงไม่อยากจะเปิดศึกหลายด้านอยู่แล้ว ไหนๆ ว.วชิรเมธีหันค่อยๆ หันหลังให้กับกปปส. แล้ว มิหนำซ้ำไปถ่ายรูปคู่กับปูยิ่งลักษณ์เข้าไปอีก เลยเอาเรื่องต้อนรับพี่ตูนด้วยมุทิตาและอนุโมทนาจิตของคณะสงฆ์ไร่เชิญตะวันเป็นมูลเหตุด่าว่าวิปลาสไปนู่นเลย เอาใจพระมหานรินทร์ที่ลาสเวกัสไปพร้อมๆ กัน
แหม...ได้เห็นคำว่า “วิปัสสนาวิปลาส” แล้วเกิดเปรี้ยวปาก นึกอยากจะลากโยงไปถึงพระอาการวิปลาสที่เกิดจากการนั่งวิปัสสนาของพระเจ้ากรุงธนบุรีเหมือนกัน “การเมือง” ช่วงนั้นทั้งฝ่ายฆราวาสทั้งฝ่ายพระสงฆ์เล่นกันหนักถึงตายเลยทีเดียว....แต่ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวโดนยึดล็อคอิน ขนาดแค่เขียนถึงนายสุวิทย์ผู้เคยเจิมหน้าผากให้ใครต่อใครมาแล้วหลายคน...ผมยังเสียวๆ อยู่เลย 555