หน้าปกLOVEเล่ม1 และหน้าหาดOmuraที่เกาะChichijima
เหล่านักเดินทางมักจะมี Dream Destinationของตนเอง เป็นสถานที่ที่ครั้งหนึงในชีวิตเราอยากไปจะเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาEverestอันยิ่งใหญ่, Leh Ladakhกับภูมิประเทศอันงดงาม, ภาพแสงเหนือที่กำลังร่ายรำยามค่ำคืน และสถานที่สวยงามอีกมากมายบนโลกใบนี้
สำหรับDream Destinationของตัวผมนั้น แรงบันดาลใจเริ่มจากการได้อ่านการ์ตูนเทนนิสของญี่ปุ่นเรื่อง LOVE (ชื่อไทย : ผู้ชายหัวใจสีชมพู -> ชื่อไทยดูหวานแหววมาก) เป็นการ์ตูนเก่า30เล่มจบ ของค่ายสยามอินเตอร์คอมิคส์เอามาแปลไทยเมื่อสัก20กว่าปีที่แล้ว เขียนโดยอาจารย์Osamu Ishiwata (ผลงานอื่นที่เคยพิมพ์ในบ้านเราก็มีเรื่องB.B., Passport Blue) เนื้อเรื่องก็ประมาณว่านางเอกของเรื่องได้เจอพระเอกบนเกาะชื่อOgasawara แล้วก็ได้เริ่มเล่นเทนนิสด้วยกันที่นี่ ภายหลังพระเอกไปเรียนต่อที่โตเกียวเพื่อฝึกเป็นนักเทนนิสอาชีพแต่ยังแข่งกับนางเอกไม่เสร็จ นางเอกเลยพยายามจะตามไปแข่งให้จบโดยปลอมตัวเป็นผู้ชายไปเข้าโรงเรียนชายล้วนในโตเกียวที่เก่งเรื่องเทนนิสเพื่อจะได้แข่งกับพระเอกอีกรอบ (คือไปขอแข่งกับเค้าให้จบดีๆก็ไม่ได้นะ ต้องลำบากปลอมตัวเข้าโรงเรียนชายล้วนด้วย 5555)
ทีนี้ช่วงเล่ม1-5เนี่ยมันมีหลายๆสถานที่บนเกาะOgasawaraที่เอามาเป็นฉากในเรื่อง เด็กน้อยเมื่อตอนนั้นได้อ่านเลยสงสัยว่าไอ่เกาะนี่มันมีจริงไหมนะอยากลองไปดูจังเลย ปรากฎว่าเกาะนี้มีจริงๆครับคุณ อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ห่างจากญี่ปุ่น1,000กม.เยื้องๆไปทางเกาะกวม แต่ไปลำบากโคตร เพราะที่เกาะนี้ไม่มีสนามบินต้องนั่งเรือจากโตเกียวไปเท่านั้น แถมต้องนั่งเรือ24ชม.เลยจร้า (นอนบนเรือคืนนึง) เปิดวาร์ปมาช่วงปี2016-2017ได้มีโอกาสไปทำงานที่ญีปุ่น จึงตั้งใจไปเยี่ยมชมเกาะนี้ตามความฝันเมื่อ20ปีก่อนและเป็นที่มาของรีวิวนี้ครับ
หมู่เกาะOgasawara อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ห่างจากโตเกียวประมาณ1,000กม.ทางตะวันออกเฉียงใต้
แผนที่Chichijima และ Hahajima เฉพาะ2เกาะนี้เท่านั้นที่มีผู้คนอาศัยอยู่
หมู่เกาะOgasawara (小笠原諸島, Ogasawara Shotō) อีกชื่อคือหมู่เกาะBonin เพี้ยนเสียงมากจากคำว่าBunin(無人)ในภาษาญีปุ่นแปลว่า"ไร้ผู้คน" เป็นหมู่เกาะที่มีสถานะเป็น Chou 町 (ไม่ใหญ่เท่า Shi 市 )โดยขึ้นตรงกับกรุงโตเกียว ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของUNESCOเมื่อปี2011 ได้รับการขนานนามว่า กาลาปากอสแห่งตะวันออก เพราะอุดมไปด้วยสัตว์และพืชหายากหลากหลายสายพันธุ์ เช่น วาฬ โลมา เต่าทะเล นกทะเล เนื่องจากอยู่ไกลจากเกาะใหญ่ของญี่ปุ่นกว่า1,000กม.กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ระบบนิเวศที่นี่จึงแตกต่างจากเกาะใหญ่ญีปุ่นมาก หมู่เกาะOgasawaraประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า30เกาะ แต่เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ มีแค่2เกาะเท่านั้น คือ Chichijima (เกาะพ่อ) และ Hahajima (เกาะแม่) ตามแผนที่ด้านบน แน่นอนว่ามีเกาะพี่ชาย, น้องชาย, พี่สาว, น้องสาว และญาติๆอีกมากมายแต่เป็นเขตอนุรักษ์ของอุทยานนักท่องเที่ยวเข้าไปไม่ได้ อีกเกาะนึงที่เป็นไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่นี่ชื่อเกาะ Minamijima (เกาะใต้) ตามรูปล่าง จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงจะมีน้ำทะเลที่ไหลลอดสะพานหินเข้ามาที่หาดทรายสีขาวในเกาะ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนบนเกาะนี้แต่สามารถติดต่อทัวร์บนเกาะแล้วลงเรือเล็กมาเยี่ยมชมได้
รายละเอียดเกี่ยวกับเกาะตามไปอ่านต่อได้ที่เวบไซต์ :
http://www.ogasawaramura.com/en
Minamijimaและน้ำทะเลสีฟ้าลอดสะพานหินเข้ามาที่หาดทรายสีขาว
วันที่ 0 : เริ่มจองตั๋วเรือกันเลย
ช่วงจองตั๋วนี่จะยาวหน่อย ผมขอปิดเป็นspoilไว้ละกันนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การเดินทางไปที่เกาะนั้นต้องนั่งเรือOgasawara Maruจากโตเกียวไป24ชม. ลงที่ท่าเรือFutami เกาะChichijima
เราจะเริ่มจากเข้าไปที่เวบไซต์ของบริษัทเดินเรือOgasawara Kaiun เพื่อเชคกำหนดการเดินทาง ราคาค่าตั๋ว และจองตั๋วออนไลน์
http://www.ogasawarakaiun.co.jp/english
สำหรับราคาตั๋วเรือจะมีให้เลือกหลายclass ตั้งแต่ห้องSuiteไปจนถึงEconomyแบบนอนรวมกัน
การจองตั๋วใช้ระบบการจองออนไลน์และใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน เพราะฉะนั้นจองจากที่ไทยได้เลยครับ
อัตราค่าโดยสารOne-wayเมื่อ 3 ม.ค. 2018
Suite
Deluxe
Standard Room : ห้องนอน2คน ¥48,600
Premium Berth : เตียง2ชั้นแบบHostel มีทีวี ¥35,100
Economy Berth : เตียง2ชั้นแบบHostel ไม่มีทีวี ¥26,450
Economy : ห้องใหญ่นอนรวมกัน ¥23,210
ผมเลือกแบบEconomy Berthเพราะเป็นคนไม่ดูทีวี ราคาแพงกว่าEconomyแค่3พันกว่าเยน แต่ได้นอนที่ส่วนตัวมีม่านปิด
บอกไว้ก่อนว่าหลังจากออกจากฝั่งโตเกียวได้ไม่เกิน2ชม.สัญญาณมือถือจะหายไป รวมทั้งขากลับด้วย
อีกทั้งทุกที่ในเรือไม่มีWifiหรืออินเตอร์เนทให้ยืมใช้ มีหนังให้ยืมดูบ้างแต่แค่ไม่กี่เรื่อง
แนะนำให้เตรียมหนังสือไปอ่าน หรือเอาโน้ตบุคไปนอนดูหนังในตู้นอนตัวเองแล้วใส่หูฟังเอา
กำหนดการเดินเรือ และอัตราค่าโดยสารแต่ละประเภท : http://www.ogasawarakaiun.co.jp/english/service/index.html
รายละเอียดรูปห้องแต่ละประเภท : http://www.ogasawarakaiun.co.jp/english/ship/cabin.html
แผนผังโครงสร้างเรือแต่ละชั้น : http://www.ogasawarakaiun.co.jp/english/ship/
จองตั๋วเรือออนไลน์ : http://www.ogasawarakaiun.co.jp/english/reserve/index.html
พอเข้าไปแล้วให้ไปกดที่Online Reservationsเลยครับ
ซึ่งก่อนที่จะเริ่มการจองได้ เราต้องทำLog inเพื่อลงข้อมูลเป็นสมาชิกก่อน
ให้ไปที่New Registrationครับ
กดacceptเงื่อนไขการใช้งาน แล้วจะไปที่หน้ากรอกข้อมูลของเรา
ทีนี้หลังจากสมัครแล้วทุกครั้งที่เราจะเข้ามาจองตั๋ว หรือตรวจสอบข้อมูล ให้Log inก่อนเสมอครับ
คราวนี้เราจะเข้าไปที่การจองตั๋วจริงๆกันละครับ
พอLog inเข้าไป เราก็เลือกแบบRound Trip (ไปกลับ)
ฝั่งOutward Route
- เลือกวันที่เรือออก เลือกTokyo -> Chichijimaนะครับ (อย่าไปเลือกChichijima -> Tokyoเชียว)
- เลือกClassห้อง (ของผมเลือกแบบ Economy Berth)
- บอกจำนวนผู้โดยสารที่ไปกับเรา ผู้ใหญ่กี่คน เด็กกี่คน
ส่วนRoom Count ถ้าไม่ได้เลือกห้องแบบSuiteหรือStandard ก็ปล่อยเป็นเลข0ไปครับ
ส่วนฝั่งReturn Routeก็ให้ทำเหมือนกันครับ เพียงแต่เลือกวันที่เป็น Chichijima -> Tokyoแทน
Economy, Economy berth, Premium berth จะมีห้องสำหรับผู้หญิงด้วย (อันที่เขียนว่าLDS)
หน้าถัดไปจะเป็นสรุปข้อมูลของเราที่Registerเอาไว้
รวมถึงวันเวลาที่เรือจะออก และกลับมาโตเกียว ค่าโดยสารรวมทั้งหมดเท่าไหร่
ตรงนี้เราต้องระบุเพศของผู้โดยสารทั้งขาไปขากลับ ไม่งั้นจะไปหน้าต่อไปไม่ได้
หน้านี้จะสรุปรวมทุกอย่างอีกครั้งก่อนจะชำระเงิน
ด้านล่างสุดของหน้านี้ให้เรากดช่องนี้เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ที่จะไปที่เกาะ (ของผมตอบSightseeing)
และอีกช่องข้างล่างเพื่อเชคว่าเราตกลงตามเงื่อนไขของเวบ
สุดท้ายคือหน้านี้ครับ กรอกรายละเอียดบัตรเครดิตของเราเพื่อทำการชำระเงิน
เมื่อกดชำระเงินแล้ว จะขึ้นหน้านี้ครับ เป็นอันว่าการจองตั๋วเรือของเราก็เสร็จสมบูรณ์
อย่าลืมจดเลขIDการจองไว้ด้วยนะครับ ตอนไปรับตั๋วที่ท่าเรือจะได้บอกเจ้าหน้าที่เค้าได้
ป.ล.ถึงขั้นนี้ผมไม่แน่ใจว่ามีให้กดพิมพ์ตั๋วออกมารึเปล่านะครับ อันนี้จำไม่ได้จริงๆ เพราะเจ้าหน้าที่เค้าจะขอดูตั๋วเราด้วยตอนไปขอรับBoarding Pass ตอนนั้นก็เหวอไปแปปนึงเพราะเห็นคนอื่นเค้าถือกระดาษตั๋วกันหมด แต่ผมใช้วิธีบอกเลขIDการจองให้เค้าแทนเลยรอดไป
วันที่ 1 : ออกเดินทางไปขึ้นเรือ
จุดขึ้นเรือที่โตเกียว :
http://www.ogasawarakaiun.co.jp/english/access/
- ผมใช้วิธีนั่งรถไฟไปลงJR Hamamatsucho Stationในโตเกียว (จุดA)
- เดินต่อประมาณ7นาทีไปถึงท่าเรือ Takeshiba Terminal (จุดD)
ไปถึงท่าเรือแล้วให้ไปที่เค้าเตอร์เบอร์8 เพื่อcheck inและรับBoarding Passขึ้นเรือครับ (เวลาcheck in 09:30-10:40)
ฺBoarding Passหน้าตาแบบนี้ครับ ผมได้ห้องเบอร์453 เตียงเบอร์29
เรือออกตั้ง11โมง ยังพอมีเวลาอยู่ ผมเลยไปเดินถ่ายรูปเรือOgasawaraMaruจากชั้น2
(เค้าเตอร์เชคอินจะไม่รับฝากกระเป๋า เชคอินแล้วจะไปถ่ายรูปก็ต้องลากกระเป๋าไปด้วยครับ)
เรือจริงใหญ่มาก รู้สึกตื่นเต้นหยั่งกะแจ๊คจะได้ขึ้นไททานิค 5555
ชื่อเรือOgasawaraMaru กับแถบธงสีน้ำเงิน-แดงอันเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทเดินเรือOgasawara Kaiun
เจ้าหน้าที่กำลังลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์ลงใส่ท้ายเรือ
OgasawaraMaruไม่ได้พานักท่องเที่ยวไปที่เกาะเท่านั้น แต่ยังส่งสินค้าอื่นๆไปที่เกาะและนำสินค้าจากเกาะมาโตเกียวด้วย
ทางขึ้นเรือ พอเราขึ้นไปจะอยู่ที่ชั้น4ของเรือครับ
จะเจอกับInformation Counterก่อนเลย
แผนผังชั้น2-5 ผมได้ที่ห้องเบอร์453(เลขตัวหน้าจะบอกชั้นเรือ) ซึ่งตามแผนผังจะอยู่ด้านหลังสุดของชั้น4
เดินหาเตียงตัวเองเจอจนได้ เป็นช่องนอนแบบนี้ครับ ผมได้เตียงล่างด้านขวา
เตียงล่างจะได้เปรียบเตียงบนหน่อย ตรงที่มีช่องใต้เตียงให้เก็บประเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ใบนึง
มีหมอนเล็กให้1ใบ ปลอกหมอนและผ้าขาวคลุมผ้าห่มอีกที
ข้างในมีหลอดไฟหัวเตียง ปลั๊กไฟ1ช่อง ไม้แขวน1อัน ที่วางของเป็นตาข่ายเอาไว้วางพวกกระเป๋าตัง
วิธีใช้ปลอกหมอน กับผ้าคลุมผ้าห่ม
ถ้าใครของเยอะจะมีที่เก็บกระเป๋าเดินทางให้อยู่ใกล้ๆทางเข้าห้องเลย
[CR] ตามรอยการ์ตูนเทนนิส LOVE หมู่เกาะOgasawara ญี่ปุ่น
เหล่านักเดินทางมักจะมี Dream Destinationของตนเอง เป็นสถานที่ที่ครั้งหนึงในชีวิตเราอยากไปจะเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาEverestอันยิ่งใหญ่, Leh Ladakhกับภูมิประเทศอันงดงาม, ภาพแสงเหนือที่กำลังร่ายรำยามค่ำคืน และสถานที่สวยงามอีกมากมายบนโลกใบนี้
สำหรับDream Destinationของตัวผมนั้น แรงบันดาลใจเริ่มจากการได้อ่านการ์ตูนเทนนิสของญี่ปุ่นเรื่อง LOVE (ชื่อไทย : ผู้ชายหัวใจสีชมพู -> ชื่อไทยดูหวานแหววมาก) เป็นการ์ตูนเก่า30เล่มจบ ของค่ายสยามอินเตอร์คอมิคส์เอามาแปลไทยเมื่อสัก20กว่าปีที่แล้ว เขียนโดยอาจารย์Osamu Ishiwata (ผลงานอื่นที่เคยพิมพ์ในบ้านเราก็มีเรื่องB.B., Passport Blue) เนื้อเรื่องก็ประมาณว่านางเอกของเรื่องได้เจอพระเอกบนเกาะชื่อOgasawara แล้วก็ได้เริ่มเล่นเทนนิสด้วยกันที่นี่ ภายหลังพระเอกไปเรียนต่อที่โตเกียวเพื่อฝึกเป็นนักเทนนิสอาชีพแต่ยังแข่งกับนางเอกไม่เสร็จ นางเอกเลยพยายามจะตามไปแข่งให้จบโดยปลอมตัวเป็นผู้ชายไปเข้าโรงเรียนชายล้วนในโตเกียวที่เก่งเรื่องเทนนิสเพื่อจะได้แข่งกับพระเอกอีกรอบ (คือไปขอแข่งกับเค้าให้จบดีๆก็ไม่ได้นะ ต้องลำบากปลอมตัวเข้าโรงเรียนชายล้วนด้วย 5555)
ทีนี้ช่วงเล่ม1-5เนี่ยมันมีหลายๆสถานที่บนเกาะOgasawaraที่เอามาเป็นฉากในเรื่อง เด็กน้อยเมื่อตอนนั้นได้อ่านเลยสงสัยว่าไอ่เกาะนี่มันมีจริงไหมนะอยากลองไปดูจังเลย ปรากฎว่าเกาะนี้มีจริงๆครับคุณ อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ห่างจากญี่ปุ่น1,000กม.เยื้องๆไปทางเกาะกวม แต่ไปลำบากโคตร เพราะที่เกาะนี้ไม่มีสนามบินต้องนั่งเรือจากโตเกียวไปเท่านั้น แถมต้องนั่งเรือ24ชม.เลยจร้า (นอนบนเรือคืนนึง) เปิดวาร์ปมาช่วงปี2016-2017ได้มีโอกาสไปทำงานที่ญีปุ่น จึงตั้งใจไปเยี่ยมชมเกาะนี้ตามความฝันเมื่อ20ปีก่อนและเป็นที่มาของรีวิวนี้ครับ
หมู่เกาะOgasawara อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ห่างจากโตเกียวประมาณ1,000กม.ทางตะวันออกเฉียงใต้
แผนที่Chichijima และ Hahajima เฉพาะ2เกาะนี้เท่านั้นที่มีผู้คนอาศัยอยู่
หมู่เกาะOgasawara (小笠原諸島, Ogasawara Shotō) อีกชื่อคือหมู่เกาะBonin เพี้ยนเสียงมากจากคำว่าBunin(無人)ในภาษาญีปุ่นแปลว่า"ไร้ผู้คน" เป็นหมู่เกาะที่มีสถานะเป็น Chou 町 (ไม่ใหญ่เท่า Shi 市 )โดยขึ้นตรงกับกรุงโตเกียว ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของUNESCOเมื่อปี2011 ได้รับการขนานนามว่า กาลาปากอสแห่งตะวันออก เพราะอุดมไปด้วยสัตว์และพืชหายากหลากหลายสายพันธุ์ เช่น วาฬ โลมา เต่าทะเล นกทะเล เนื่องจากอยู่ไกลจากเกาะใหญ่ของญี่ปุ่นกว่า1,000กม.กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ระบบนิเวศที่นี่จึงแตกต่างจากเกาะใหญ่ญีปุ่นมาก หมู่เกาะOgasawaraประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า30เกาะ แต่เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ มีแค่2เกาะเท่านั้น คือ Chichijima (เกาะพ่อ) และ Hahajima (เกาะแม่) ตามแผนที่ด้านบน แน่นอนว่ามีเกาะพี่ชาย, น้องชาย, พี่สาว, น้องสาว และญาติๆอีกมากมายแต่เป็นเขตอนุรักษ์ของอุทยานนักท่องเที่ยวเข้าไปไม่ได้ อีกเกาะนึงที่เป็นไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่นี่ชื่อเกาะ Minamijima (เกาะใต้) ตามรูปล่าง จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงจะมีน้ำทะเลที่ไหลลอดสะพานหินเข้ามาที่หาดทรายสีขาวในเกาะ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนบนเกาะนี้แต่สามารถติดต่อทัวร์บนเกาะแล้วลงเรือเล็กมาเยี่ยมชมได้
รายละเอียดเกี่ยวกับเกาะตามไปอ่านต่อได้ที่เวบไซต์ : http://www.ogasawaramura.com/en
Minamijimaและน้ำทะเลสีฟ้าลอดสะพานหินเข้ามาที่หาดทรายสีขาว
วันที่ 0 : เริ่มจองตั๋วเรือกันเลย
ช่วงจองตั๋วนี่จะยาวหน่อย ผมขอปิดเป็นspoilไว้ละกันนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 1 : ออกเดินทางไปขึ้นเรือ
จุดขึ้นเรือที่โตเกียว : http://www.ogasawarakaiun.co.jp/english/access/
- ผมใช้วิธีนั่งรถไฟไปลงJR Hamamatsucho Stationในโตเกียว (จุดA)
- เดินต่อประมาณ7นาทีไปถึงท่าเรือ Takeshiba Terminal (จุดD)
ไปถึงท่าเรือแล้วให้ไปที่เค้าเตอร์เบอร์8 เพื่อcheck inและรับBoarding Passขึ้นเรือครับ (เวลาcheck in 09:30-10:40)
ฺBoarding Passหน้าตาแบบนี้ครับ ผมได้ห้องเบอร์453 เตียงเบอร์29
เรือออกตั้ง11โมง ยังพอมีเวลาอยู่ ผมเลยไปเดินถ่ายรูปเรือOgasawaraMaruจากชั้น2
(เค้าเตอร์เชคอินจะไม่รับฝากกระเป๋า เชคอินแล้วจะไปถ่ายรูปก็ต้องลากกระเป๋าไปด้วยครับ)
เรือจริงใหญ่มาก รู้สึกตื่นเต้นหยั่งกะแจ๊คจะได้ขึ้นไททานิค 5555
ชื่อเรือOgasawaraMaru กับแถบธงสีน้ำเงิน-แดงอันเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทเดินเรือOgasawara Kaiun
เจ้าหน้าที่กำลังลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์ลงใส่ท้ายเรือ
OgasawaraMaruไม่ได้พานักท่องเที่ยวไปที่เกาะเท่านั้น แต่ยังส่งสินค้าอื่นๆไปที่เกาะและนำสินค้าจากเกาะมาโตเกียวด้วย
ทางขึ้นเรือ พอเราขึ้นไปจะอยู่ที่ชั้น4ของเรือครับ
จะเจอกับInformation Counterก่อนเลย
แผนผังชั้น2-5 ผมได้ที่ห้องเบอร์453(เลขตัวหน้าจะบอกชั้นเรือ) ซึ่งตามแผนผังจะอยู่ด้านหลังสุดของชั้น4
เดินหาเตียงตัวเองเจอจนได้ เป็นช่องนอนแบบนี้ครับ ผมได้เตียงล่างด้านขวา
เตียงล่างจะได้เปรียบเตียงบนหน่อย ตรงที่มีช่องใต้เตียงให้เก็บประเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ใบนึง
มีหมอนเล็กให้1ใบ ปลอกหมอนและผ้าขาวคลุมผ้าห่มอีกที
ข้างในมีหลอดไฟหัวเตียง ปลั๊กไฟ1ช่อง ไม้แขวน1อัน ที่วางของเป็นตาข่ายเอาไว้วางพวกกระเป๋าตัง
วิธีใช้ปลอกหมอน กับผ้าคลุมผ้าห่ม
ถ้าใครของเยอะจะมีที่เก็บกระเป๋าเดินทางให้อยู่ใกล้ๆทางเข้าห้องเลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น