‘ธนวรรธน์ พลวิชัย’ กรรมการสลากฯ ชี้ต้นเหตุหวยแพงจากใบละ 80 พุ่งขึ้นถึง 100 กว่าบาท เกิดจาก ‘กิเลส’ และมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลกลุ่มเดิม เปลี่ยนกลยุทธ์ไปรับซื้อจากผู้ค้ารายย่อย/สมาคม ทั้งเล่มมาจัดรวมชุด พร้อมสร้างกระแสปั่นเลขดัง-หายาก ให้คนแห่ซื้อ ขณะที่สำนักงานสลากฯ เตรียมเสนอบอร์ดอนุมัติสลาก ‘ล็อตโต-สลากชุด’ ออกมาล้มพวกเจ้ามือปั่นสลากแพงและหวยใต้ดินที่มีมูลค่าหลายแสนล้าน/ปี หวังนำเงินมาพัฒนาประเทศ คาดต้นเดือนมีนาคมคนไทยอาจได้เห็นล็อตโตหรือหวยชุดออกสู่สังคม
'5
องสลาก' หรือ มาเฟียกองสลาก ผู้สร้างตำนานเสือนอนกินจากการทำราคาหวยแพง ปกติใบละ 80 บาท พุ่งขึ้นไปถึงใบละ 120-150 บาท ขึ้นอยู่กับว่ากระแสเลข 'ดัง-หายาก' หรือไม่? สร้างความเดือดร้อนให้กับบรรดาคอหวยมายาวนานแม้จะได้ปิดฉากไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558 หลังที่ประชุมบอร์ดกองสลาก ที่มี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก สมัยดำรงตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติไม่ต่ออายุสัญญารับสลากฯ ไปจำหน่าย หรือโควตาสลากฯ กับนิติบุคคลทั้งหมด รวมทั้งองค์กร หรือมูลนิธิต่าง ๆ ยกเว้นองค์กรการกุศลและองค์กรที่เกี่ยวข้องผู้พิการเท่านั้น จำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,495 แห่ง หรือคิดเป็นจำนวนสลากฯ กว่า 15.8 ล้านฉบับ (7.9 ล้านคู่)
สร้างความยินดีปรีดาให้กับบรรดาคอหวยได้สะใจเมื่อเจ้าพ่อ เจ้าแม่คุมโควตาหวยถูกล้างบางกันอย่างจริงจัง ส่วนประชาชนก็สามารถเลือกซื้อหวยรัฐบาลได้ในราคาควบคุมตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ต้นทุนซื้อหวยถูกลง..ถูกแล้วได้รางวัลเท่าเดิม..ใคร ๆ ก็ชอบ
แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ดูเหมือนว่าราคาหวยได้กลับไปสู่จุดเดิม มีกลยุทธ์ในการสร้างกระแสเพื่อดันราคาหวยขึ้นมา ด้วยการอ้างว่าเป็น “เลขดัง -เลขหายาก” จากแหล่งต่าง ๆ มีการรวมเป็นเลขชุด ทั้งชุดที่เลขเหมือนทุกใบ และชุดที่เหมือนเฉพาะเลขท้ายก็นำมาบอกกล่าวว่าเป็นเลขชุด จากราคา 80 ขยับขึ้นไป 100 กว่าบาท และผู้ค้าสลากบางรายบอกว่าไม่ไปรอกดคิวซื้อสลากจากธนาคารกรุงไทยแล้วเพราะเสียเวลา จึงเลือกไปซื้อมาจากแหล่งใหญ่ และเน้นขายเฉพาะเลขชุดได้กำไรมากกว่า
ดังนั้นจึงนำไปสู่คำถาม…ที่ต้องการคำตอบก็คือ...เมื่อมาเฟียกองสลากได้กลายเป็นตำนานไปแล้ว แต่ด้วยเหตุผลใด ราคาล็อตเตอรี่หรือหวยรัฐบาล จึงยัง 'แพง' ราคาใบละ 100 บาทขึ้นไป ส่วนกำไรหรือส่วนต่างที่ได้ไปเข้ากระเป๋าใครกัน และตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบิ๊กตู่และสำนักงานสลากฯ พยายามที่จะแก้ปัญหาหวยรัฐบาลที่แพงกว่ากำหนดไว้จริงหรือไม่?
ทุกเรื่อง 'ธนวรรธน์ พลวิชัย' ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะกรรมการสำนักงานสลากฯ เปิดใจถึงวิธีการจัดการกับราคาสลากแพง แต่ที่สำคัญ 5
องสลากยังคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการกำหนดราคากองสลากที่หลายคนคาดไม่ถึง?
นายธนวรรธน์ บอกว่า การที่ราคาสลากยังแพงพูดกันตรง ๆ อยู่ที่ “กิเลส” ของคน เปรียบเทียบกับยาบ้า ซึ่งมีตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีกฎหมายชัดเจน คนถือครองอาจถูกตัดสินประหารชีวิตได้ หรือต้องโทษสูงติดคุกเป็นเวลานาน แต่สลากฯ มีโทษสูงสุดแค่ปรับหนึ่งหมื่น จำคุกหนึ่งเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่มีตำรวจสลากกินแบ่งโดยเฉพาะ จึงไม่มีเจ้าภาพในการดูแลผู้กระทำผิด จึงเทียบไม่ได้กับยาบ้า
“รัฐรณรงค์ในการแก้ปัญหายาบ้า คือ just say no ปฏิเสธการเสพ และเชื่อว่าไม่มีการเสพ ยาบ้าจะหายไปจากเมืองไทย เหมือนกันหากปฏิเสธไม่ซื้อเกิน 80 สลากเกินราคาก็จะหายไปจากเมืองไทย”
เมื่อการปฏิเสธไม่ซื้อหวยแพงคือความจริงที่จะแก้หวยแพงได้ แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าสลากเกี่ยวข้องกับคน 3 กลุ่ม คือ คนซื้อ คนขาย และสังคม ซึ่งถ้าเราแก้ด้วยหลักการทั่วไป การที่จะทำให้ราคาตกลงมา ก็ต้องใช้วิธีเพิ่มปริมาณล็อตเตอรี่เข้าไปในระบบให้มากที่สุด แต่เมื่อเราเลือกวิธีนี้ บรรดา NGO ก็ออกมาโจมตีทันทีว่าเป็นการมอมเมาประชาชน
“จาก 37 ล้านฉบับ เป็น 60 ล้านและเป็น 71 ล้าน NGO ก็โจมตีว่าทำร้ายสังคม มอมเมาประชาชน ตรงนี้จึงเป็นข้อจำกัดในการเพิ่มปริมาณมากไม่ได้”
ส่วนวิธีแก้ปัญหาสลากแพงที่ดีที่สุดก็คือ การออกผลิตภัณฑ์สลากออนไลน์รูปแบบใหม่ หรือ สลากล็อตโต ก็จะทำให้คนซื้อได้ในราคา 80 บาท ซึ่งจะแก้ปัญหาหวยใต้ดินได้ด้วย ส่งผลดีจะทำให้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งล็อตโตจึงเป็นวิธีการแก้ไขที่ทั่วโลกยอมรับแต่ที่กองสลากยังไม่สามารถนำมาใช้ได้เพราะสังคมยังไม่พร้อม เพียงแค่เป็นข่าวออกมาว่าจะมีการนำล็อตโตมาใช้ ก็มีกระแสต่อต้านจากคนที่เคยขาย คนที่มีรายได้น้อย คนพิการ ต่างโจมตีว่าสำนักงานสลากฯ ทำร้ายประชาชนผู้ประกอบอาชีพสุจริต จนกลายเป็นประเด็นทางสังคมมากเกินไป
“ถ้ามีคนพิการคนตาบอดมาปิดทำเนียบ หรือว่ามาปิดล้อมสำนักงานสลากฯ ชูป้ายภาษาอังกฤษ ว่า ประเทศไทยกำลังทำร้ายสังคม ทำร้ายคนพิการ ตรงนี้จะเป็นประเด็นที่เราจะยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะสังคมไทยยังไม่พร้อมรับล็อตโต”
ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนกลุ่มหนึ่งต้องเดือดร้อนสำนักงานสลากฯ จึงเลือกจะใช้วิธีการผสมผสานคือมีการออกสลากแบบล็อตโต ควบคู่ไปกับการออกสลากใบหรือล็อตเตอรี่ แต่ก็มีเสียงจากคนพิการออกมาไม่เห็นด้วยเหมือนเดิมว่าจะทำให้พวกเขาขายสลากได้น้อยลงและอาจไม่มีโอกาสในการเข้ามาขายล็อตโตเช่นเดิม
เมื่อสำนักงานสลากฯ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด คือไม่สามารถออกสลากล็อตโตได้ก็ต้องใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนช่วยกันเสียสละ ปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคา เพราะถ้าไม่มีคนซื้อคนขายจะหายไปในที่สุด
“ราคาทุนคือ 70.40 บาทต่อใบ เค้าได้กำไร 12% เป็นกำไรที่พอสมควรแล้ว แต่ผู้ขายจับจุดประเด็นสังคมที่ต้องการเลขเด็ด ก็ขายเกินราคา โดยเฉพาะสลากชุดกำลังเป็นที่ต้องการเพราะข้อมูลข่าวสารบอกว่า ถูก 30 ล้าน 90 ล้าน 180 ล้าน ก็วิ่งหาเลขชุดกัน”
นายธนวรรธน์ บอกว่า สำนักงานสลากฯ ขายสลากออกเป็นใบ ๆ แต่มีกลไกทางธุรกิจที่ไปจัดการรวมสลากไปทำสลากชุด จึงเป็นเหตุให้ต้นทุนแพงขึ้น ก็ไปขายกันที่ใบละ 100 จำนวน 5 ใบก็ 500 บาท หรือถ้าชุด 5 ใบถ้าเลขเด็ดก็จะขึ้นไปถึง 600-700 บาท
การที่พวกนี้ตั้งราคาสูงได้ ก็เพราะรู้ว่าคนซื้ออยากได้
อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าสำนักงานสลากฯ จะไม่รู้ว่าพวกนี้เขาทำอย่างไร แต่เราก็ต้องมีวิธีจัดการ เพราะคนที่มารับโควตาของสำนักงานสลากฯ หรือตามตู้เอทีเอ็ม ได้ทำสัญญากับสำนักงานสลากฯ ว่าจะเป็นคนขายเอง และจะขายในราคา 80 บาท จึงได้ไปคนละ 5 เล่ม ก็จะมีประมาณ 2 แสนคนที่อยู่ในระบบ
ที่แสบสุด ก็คือมีคนกลุ่มหนึ่งอยากได้กำไรพิเศษและรู้ว่ามีการไปรับใบสลากที่ไปรษณีย์ บรรดาพวกยี่ปั๊ว ซาปั๋ว ก็มาติดต่อซื้อ โดยให้ราคาใบละ 79 บาทเล่มนี่ และบางเล่มให้ราคาใบละ 80 บาท ผู้ขายกลุ่มนี้ก็ขายให้พวกยี่ปั๊วทันที
“ผู้ขายรายย่อยที่ทำแบบนี้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะเขาไม่ได้ขายเกินราคา แต่เขาทำผิดระเบียบสำนักงานสลากฯ ที่บอกว่า ต้องขายเอง เมื่อผู้ขายส่งต่อแบบนี้ทำให้เกิดการรวมชุดหรือขายช่วงจึงเป็นการผิดสัญญา เมื่อถูกจับได้ก็ต้องถูกตัดโควตาไปตลอดชีวิต”
แต่ปัญหาก็คือบางรายเรายังจับไม่ได้ ก็จะใช้วิธีปล่อยขายเช่นเดิม ทำให้การรวมสลากชุดจึงยังไม่สามารถจัดการได้ และผู้ค้ารายย่อยที่ขายให้ยี่ปั๊วไปแล้วก็จะใช้วิธีมาเดินซื้อในตลาดขายส่ง ที่สี่แยกคอกวัว สนามบินน้ำ เพื่อนำสลากชุดไปเดินขายต่อในราคาที่สูงขึ้น
“ผู้ค้ารายย่อยก็ได้กำไร 2 ต่อ กองสลากจึงร่นเวลารับสลากจากประมาณ 10-12 เหลือเพียง 8-9 วันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรวมชุด”
สำหรับในระยะยาว สำนักงานสลากฯ คาดว่าจะมีการออกสลากชุดเองเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนประมาณ 20-30% ของจำนวนสลากซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและน่าจะนำเสนอเข้าบอร์ดตัดสินใจได้ประมาณเดือนมีนาคม 2561
“ระหว่างนี้ก็ต้องศึกษาผลกระทบทั้งในเรื่องปริมาณสลาก กลไกทางสังคม หากกองสลากมีสลากชุดทางเลือกออกมาเอง สลากชุดที่บรรดายี่ปั๊วจัดทำราคาต้องลดลง แต่ถ้าราคาไม่ลดลง สำนักงานสลากฯ ก็ต้องทำสลากชุดเอง 100%”
ส่วนที่มีกระแสข่าวไปในทางลบว่ากรณีสลากยังแพงเป็นเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงระหว่างมาเฟียกองสลากกับผู้มีอำนาจในกองสลากนั้น นายธนวรรธน์ บอกว่าเรื่องนี้มันเหมือนเป็นข้อกล่าวหา ทั้งที่ความจริงเวลาสลากออกจากโรงพิมพ์ และที่ไปรษณีย์มีการมารับจะมีต้นขั้วบอกชัดเจนว่าจะส่งไปที่ใคร ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการจ่ายโควตาให้กับกลุ่ม 5 เสือ ซึ่งกลุ่ม 5 เสือเคยได้สลากกลุ่มละหลายพันเล่ม บอร์ดสลากชุดนี้ ได้ตัดโควตาไปแล้ว ทั้งของนิติบุคคลเพื่อคนพิการ องค์กรการกุศลด้วย
“ผมกล้าพูดได้เลยว่า 5 เสือไม่ได้สลากจากกรรมการชุดนี้และไม่มีการรู้เห็นเป็นใจแน่นอน แต่ผมอยากถามว่า คนที่ทำธุรกิจนี้มานานมีเงินสะสมหลายพันล้าน มีกำลัง การรวบสลากทำได้มั้ย”
นายธนวรรธน์ บอกว่าวิธีการที่จะทำนั้นง่ายนิดเดียว แค่เดินไปที่ไปรษณีย์แล้วเข้าไปขอซื้อจากคน/สมาคม ที่ได้โควตาไว้ และซื้อทั้งเล่มจำนวนมาก ซึ่งมีโอกาสสูงมากเพราะพวกนี้มีฐานเงินทุนสูง ส่วนวิธีการหากตรวจสอบพบก็คือตัดผู้ซื้อรายย่อยรายนั้นออกไปไม่สามารถจะเป็นผู้ค้ากับกองสลากได้อีกต่อไป
เมื่อสำนักงานสลากฯ รู้แล้วว่าต้นเหตุของหวยแพงมีต้นตอมาจากไหนและก็รู้ว่าทางแก้ที่ตรงจุดที่สุดก็คือการออกสลากล็อตโต ซึ่งจะเป็นการให้ผลประโยชน์กับประชาชนโดยตรงแต่จะทำให้ผู้ขายที่ซื่อสัตย์ สุจริตต้องเสียผลประโยชน์ไปบ้างก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวสำนักงานสลากฯ จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาสลากแพงแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการขอให้ประชาชนปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคาในเบื้องต้น แต่เมื่อประชาชนยังมีความต้องการสูงโดยเฉพาะสลากชุด สำนักงานสลากฯ ก็จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกด้วยการออกสลากชุดเข้าไปในระบบ รวมถึงการพิจารณานำผลิตภัณฑ์สลาก 'ล็อตโต' ออกสู่สังคม
เพราะ 'ล็อตโต-สลากชุด' เป็นช่องทางสำคัญที่แก้ปัญหาสลากแพงและล้มมาเฟียกองสลากที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้แค่เปลี่ยนกลยุทธ์ทางการค้าเท่านั้น แถมยังสามารถทำลายบรรดามาเฟียหวยใต้ดินและนำเงินที่อยู่นอกระบบปีละหลายแสนล้านเข้ามาเป็นรายได้ของรัฐเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป!
ข่าวจาก : MGR Online
https://mgronline.com/specialscoop/detail/9610000001036
เตรียมล้มมาเฟียหวย “บนดิน-ใต้ดิน” ชง “ล็อตโต-สลากชุด” ขายคอหวย!
‘ธนวรรธน์ พลวิชัย’ กรรมการสลากฯ ชี้ต้นเหตุหวยแพงจากใบละ 80 พุ่งขึ้นถึง 100 กว่าบาท เกิดจาก ‘กิเลส’ และมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลกลุ่มเดิม เปลี่ยนกลยุทธ์ไปรับซื้อจากผู้ค้ารายย่อย/สมาคม ทั้งเล่มมาจัดรวมชุด พร้อมสร้างกระแสปั่นเลขดัง-หายาก ให้คนแห่ซื้อ ขณะที่สำนักงานสลากฯ เตรียมเสนอบอร์ดอนุมัติสลาก ‘ล็อตโต-สลากชุด’ ออกมาล้มพวกเจ้ามือปั่นสลากแพงและหวยใต้ดินที่มีมูลค่าหลายแสนล้าน/ปี หวังนำเงินมาพัฒนาประเทศ คาดต้นเดือนมีนาคมคนไทยอาจได้เห็นล็อตโตหรือหวยชุดออกสู่สังคม
'5 องสลาก' หรือ มาเฟียกองสลาก ผู้สร้างตำนานเสือนอนกินจากการทำราคาหวยแพง ปกติใบละ 80 บาท พุ่งขึ้นไปถึงใบละ 120-150 บาท ขึ้นอยู่กับว่ากระแสเลข 'ดัง-หายาก' หรือไม่? สร้างความเดือดร้อนให้กับบรรดาคอหวยมายาวนานแม้จะได้ปิดฉากไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558 หลังที่ประชุมบอร์ดกองสลาก ที่มี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก สมัยดำรงตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติไม่ต่ออายุสัญญารับสลากฯ ไปจำหน่าย หรือโควตาสลากฯ กับนิติบุคคลทั้งหมด รวมทั้งองค์กร หรือมูลนิธิต่าง ๆ ยกเว้นองค์กรการกุศลและองค์กรที่เกี่ยวข้องผู้พิการเท่านั้น จำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,495 แห่ง หรือคิดเป็นจำนวนสลากฯ กว่า 15.8 ล้านฉบับ (7.9 ล้านคู่)
สร้างความยินดีปรีดาให้กับบรรดาคอหวยได้สะใจเมื่อเจ้าพ่อ เจ้าแม่คุมโควตาหวยถูกล้างบางกันอย่างจริงจัง ส่วนประชาชนก็สามารถเลือกซื้อหวยรัฐบาลได้ในราคาควบคุมตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ต้นทุนซื้อหวยถูกลง..ถูกแล้วได้รางวัลเท่าเดิม..ใคร ๆ ก็ชอบ
แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ดูเหมือนว่าราคาหวยได้กลับไปสู่จุดเดิม มีกลยุทธ์ในการสร้างกระแสเพื่อดันราคาหวยขึ้นมา ด้วยการอ้างว่าเป็น “เลขดัง -เลขหายาก” จากแหล่งต่าง ๆ มีการรวมเป็นเลขชุด ทั้งชุดที่เลขเหมือนทุกใบ และชุดที่เหมือนเฉพาะเลขท้ายก็นำมาบอกกล่าวว่าเป็นเลขชุด จากราคา 80 ขยับขึ้นไป 100 กว่าบาท และผู้ค้าสลากบางรายบอกว่าไม่ไปรอกดคิวซื้อสลากจากธนาคารกรุงไทยแล้วเพราะเสียเวลา จึงเลือกไปซื้อมาจากแหล่งใหญ่ และเน้นขายเฉพาะเลขชุดได้กำไรมากกว่า
ดังนั้นจึงนำไปสู่คำถาม…ที่ต้องการคำตอบก็คือ...เมื่อมาเฟียกองสลากได้กลายเป็นตำนานไปแล้ว แต่ด้วยเหตุผลใด ราคาล็อตเตอรี่หรือหวยรัฐบาล จึงยัง 'แพง' ราคาใบละ 100 บาทขึ้นไป ส่วนกำไรหรือส่วนต่างที่ได้ไปเข้ากระเป๋าใครกัน และตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบิ๊กตู่และสำนักงานสลากฯ พยายามที่จะแก้ปัญหาหวยรัฐบาลที่แพงกว่ากำหนดไว้จริงหรือไม่?
ทุกเรื่อง 'ธนวรรธน์ พลวิชัย' ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะกรรมการสำนักงานสลากฯ เปิดใจถึงวิธีการจัดการกับราคาสลากแพง แต่ที่สำคัญ 5 องสลากยังคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการกำหนดราคากองสลากที่หลายคนคาดไม่ถึง?
นายธนวรรธน์ บอกว่า การที่ราคาสลากยังแพงพูดกันตรง ๆ อยู่ที่ “กิเลส” ของคน เปรียบเทียบกับยาบ้า ซึ่งมีตำรวจปราบปรามยาเสพติด มีกฎหมายชัดเจน คนถือครองอาจถูกตัดสินประหารชีวิตได้ หรือต้องโทษสูงติดคุกเป็นเวลานาน แต่สลากฯ มีโทษสูงสุดแค่ปรับหนึ่งหมื่น จำคุกหนึ่งเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่มีตำรวจสลากกินแบ่งโดยเฉพาะ จึงไม่มีเจ้าภาพในการดูแลผู้กระทำผิด จึงเทียบไม่ได้กับยาบ้า
“รัฐรณรงค์ในการแก้ปัญหายาบ้า คือ just say no ปฏิเสธการเสพ และเชื่อว่าไม่มีการเสพ ยาบ้าจะหายไปจากเมืองไทย เหมือนกันหากปฏิเสธไม่ซื้อเกิน 80 สลากเกินราคาก็จะหายไปจากเมืองไทย”
เมื่อการปฏิเสธไม่ซื้อหวยแพงคือความจริงที่จะแก้หวยแพงได้ แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าสลากเกี่ยวข้องกับคน 3 กลุ่ม คือ คนซื้อ คนขาย และสังคม ซึ่งถ้าเราแก้ด้วยหลักการทั่วไป การที่จะทำให้ราคาตกลงมา ก็ต้องใช้วิธีเพิ่มปริมาณล็อตเตอรี่เข้าไปในระบบให้มากที่สุด แต่เมื่อเราเลือกวิธีนี้ บรรดา NGO ก็ออกมาโจมตีทันทีว่าเป็นการมอมเมาประชาชน
“จาก 37 ล้านฉบับ เป็น 60 ล้านและเป็น 71 ล้าน NGO ก็โจมตีว่าทำร้ายสังคม มอมเมาประชาชน ตรงนี้จึงเป็นข้อจำกัดในการเพิ่มปริมาณมากไม่ได้”
ส่วนวิธีแก้ปัญหาสลากแพงที่ดีที่สุดก็คือ การออกผลิตภัณฑ์สลากออนไลน์รูปแบบใหม่ หรือ สลากล็อตโต ก็จะทำให้คนซื้อได้ในราคา 80 บาท ซึ่งจะแก้ปัญหาหวยใต้ดินได้ด้วย ส่งผลดีจะทำให้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งล็อตโตจึงเป็นวิธีการแก้ไขที่ทั่วโลกยอมรับแต่ที่กองสลากยังไม่สามารถนำมาใช้ได้เพราะสังคมยังไม่พร้อม เพียงแค่เป็นข่าวออกมาว่าจะมีการนำล็อตโตมาใช้ ก็มีกระแสต่อต้านจากคนที่เคยขาย คนที่มีรายได้น้อย คนพิการ ต่างโจมตีว่าสำนักงานสลากฯ ทำร้ายประชาชนผู้ประกอบอาชีพสุจริต จนกลายเป็นประเด็นทางสังคมมากเกินไป
“ถ้ามีคนพิการคนตาบอดมาปิดทำเนียบ หรือว่ามาปิดล้อมสำนักงานสลากฯ ชูป้ายภาษาอังกฤษ ว่า ประเทศไทยกำลังทำร้ายสังคม ทำร้ายคนพิการ ตรงนี้จะเป็นประเด็นที่เราจะยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะสังคมไทยยังไม่พร้อมรับล็อตโต”
ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนกลุ่มหนึ่งต้องเดือดร้อนสำนักงานสลากฯ จึงเลือกจะใช้วิธีการผสมผสานคือมีการออกสลากแบบล็อตโต ควบคู่ไปกับการออกสลากใบหรือล็อตเตอรี่ แต่ก็มีเสียงจากคนพิการออกมาไม่เห็นด้วยเหมือนเดิมว่าจะทำให้พวกเขาขายสลากได้น้อยลงและอาจไม่มีโอกาสในการเข้ามาขายล็อตโตเช่นเดิม
เมื่อสำนักงานสลากฯ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด คือไม่สามารถออกสลากล็อตโตได้ก็ต้องใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนช่วยกันเสียสละ ปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคา เพราะถ้าไม่มีคนซื้อคนขายจะหายไปในที่สุด
“ราคาทุนคือ 70.40 บาทต่อใบ เค้าได้กำไร 12% เป็นกำไรที่พอสมควรแล้ว แต่ผู้ขายจับจุดประเด็นสังคมที่ต้องการเลขเด็ด ก็ขายเกินราคา โดยเฉพาะสลากชุดกำลังเป็นที่ต้องการเพราะข้อมูลข่าวสารบอกว่า ถูก 30 ล้าน 90 ล้าน 180 ล้าน ก็วิ่งหาเลขชุดกัน”
นายธนวรรธน์ บอกว่า สำนักงานสลากฯ ขายสลากออกเป็นใบ ๆ แต่มีกลไกทางธุรกิจที่ไปจัดการรวมสลากไปทำสลากชุด จึงเป็นเหตุให้ต้นทุนแพงขึ้น ก็ไปขายกันที่ใบละ 100 จำนวน 5 ใบก็ 500 บาท หรือถ้าชุด 5 ใบถ้าเลขเด็ดก็จะขึ้นไปถึง 600-700 บาท
การที่พวกนี้ตั้งราคาสูงได้ ก็เพราะรู้ว่าคนซื้ออยากได้
อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าสำนักงานสลากฯ จะไม่รู้ว่าพวกนี้เขาทำอย่างไร แต่เราก็ต้องมีวิธีจัดการ เพราะคนที่มารับโควตาของสำนักงานสลากฯ หรือตามตู้เอทีเอ็ม ได้ทำสัญญากับสำนักงานสลากฯ ว่าจะเป็นคนขายเอง และจะขายในราคา 80 บาท จึงได้ไปคนละ 5 เล่ม ก็จะมีประมาณ 2 แสนคนที่อยู่ในระบบ
ที่แสบสุด ก็คือมีคนกลุ่มหนึ่งอยากได้กำไรพิเศษและรู้ว่ามีการไปรับใบสลากที่ไปรษณีย์ บรรดาพวกยี่ปั๊ว ซาปั๋ว ก็มาติดต่อซื้อ โดยให้ราคาใบละ 79 บาทเล่มนี่ และบางเล่มให้ราคาใบละ 80 บาท ผู้ขายกลุ่มนี้ก็ขายให้พวกยี่ปั๊วทันที
“ผู้ขายรายย่อยที่ทำแบบนี้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะเขาไม่ได้ขายเกินราคา แต่เขาทำผิดระเบียบสำนักงานสลากฯ ที่บอกว่า ต้องขายเอง เมื่อผู้ขายส่งต่อแบบนี้ทำให้เกิดการรวมชุดหรือขายช่วงจึงเป็นการผิดสัญญา เมื่อถูกจับได้ก็ต้องถูกตัดโควตาไปตลอดชีวิต”
แต่ปัญหาก็คือบางรายเรายังจับไม่ได้ ก็จะใช้วิธีปล่อยขายเช่นเดิม ทำให้การรวมสลากชุดจึงยังไม่สามารถจัดการได้ และผู้ค้ารายย่อยที่ขายให้ยี่ปั๊วไปแล้วก็จะใช้วิธีมาเดินซื้อในตลาดขายส่ง ที่สี่แยกคอกวัว สนามบินน้ำ เพื่อนำสลากชุดไปเดินขายต่อในราคาที่สูงขึ้น
“ผู้ค้ารายย่อยก็ได้กำไร 2 ต่อ กองสลากจึงร่นเวลารับสลากจากประมาณ 10-12 เหลือเพียง 8-9 วันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรวมชุด”
สำหรับในระยะยาว สำนักงานสลากฯ คาดว่าจะมีการออกสลากชุดเองเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนประมาณ 20-30% ของจำนวนสลากซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและน่าจะนำเสนอเข้าบอร์ดตัดสินใจได้ประมาณเดือนมีนาคม 2561
“ระหว่างนี้ก็ต้องศึกษาผลกระทบทั้งในเรื่องปริมาณสลาก กลไกทางสังคม หากกองสลากมีสลากชุดทางเลือกออกมาเอง สลากชุดที่บรรดายี่ปั๊วจัดทำราคาต้องลดลง แต่ถ้าราคาไม่ลดลง สำนักงานสลากฯ ก็ต้องทำสลากชุดเอง 100%”
ส่วนที่มีกระแสข่าวไปในทางลบว่ากรณีสลากยังแพงเป็นเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงระหว่างมาเฟียกองสลากกับผู้มีอำนาจในกองสลากนั้น นายธนวรรธน์ บอกว่าเรื่องนี้มันเหมือนเป็นข้อกล่าวหา ทั้งที่ความจริงเวลาสลากออกจากโรงพิมพ์ และที่ไปรษณีย์มีการมารับจะมีต้นขั้วบอกชัดเจนว่าจะส่งไปที่ใคร ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการจ่ายโควตาให้กับกลุ่ม 5 เสือ ซึ่งกลุ่ม 5 เสือเคยได้สลากกลุ่มละหลายพันเล่ม บอร์ดสลากชุดนี้ ได้ตัดโควตาไปแล้ว ทั้งของนิติบุคคลเพื่อคนพิการ องค์กรการกุศลด้วย
“ผมกล้าพูดได้เลยว่า 5 เสือไม่ได้สลากจากกรรมการชุดนี้และไม่มีการรู้เห็นเป็นใจแน่นอน แต่ผมอยากถามว่า คนที่ทำธุรกิจนี้มานานมีเงินสะสมหลายพันล้าน มีกำลัง การรวบสลากทำได้มั้ย”
นายธนวรรธน์ บอกว่าวิธีการที่จะทำนั้นง่ายนิดเดียว แค่เดินไปที่ไปรษณีย์แล้วเข้าไปขอซื้อจากคน/สมาคม ที่ได้โควตาไว้ และซื้อทั้งเล่มจำนวนมาก ซึ่งมีโอกาสสูงมากเพราะพวกนี้มีฐานเงินทุนสูง ส่วนวิธีการหากตรวจสอบพบก็คือตัดผู้ซื้อรายย่อยรายนั้นออกไปไม่สามารถจะเป็นผู้ค้ากับกองสลากได้อีกต่อไป
เมื่อสำนักงานสลากฯ รู้แล้วว่าต้นเหตุของหวยแพงมีต้นตอมาจากไหนและก็รู้ว่าทางแก้ที่ตรงจุดที่สุดก็คือการออกสลากล็อตโต ซึ่งจะเป็นการให้ผลประโยชน์กับประชาชนโดยตรงแต่จะทำให้ผู้ขายที่ซื่อสัตย์ สุจริตต้องเสียผลประโยชน์ไปบ้างก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวสำนักงานสลากฯ จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาสลากแพงแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการขอให้ประชาชนปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคาในเบื้องต้น แต่เมื่อประชาชนยังมีความต้องการสูงโดยเฉพาะสลากชุด สำนักงานสลากฯ ก็จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกด้วยการออกสลากชุดเข้าไปในระบบ รวมถึงการพิจารณานำผลิตภัณฑ์สลาก 'ล็อตโต' ออกสู่สังคม
เพราะ 'ล็อตโต-สลากชุด' เป็นช่องทางสำคัญที่แก้ปัญหาสลากแพงและล้มมาเฟียกองสลากที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้แค่เปลี่ยนกลยุทธ์ทางการค้าเท่านั้น แถมยังสามารถทำลายบรรดามาเฟียหวยใต้ดินและนำเงินที่อยู่นอกระบบปีละหลายแสนล้านเข้ามาเป็นรายได้ของรัฐเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป!
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ข่าวจาก : MGR Online
https://mgronline.com/specialscoop/detail/9610000001036