คำเตือนบทความต่อไปนี้ไม่สามรถหาเเหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นได้โปรดใช้วิจารณญาณ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/Madsen_machine_gun
ปืนกลเบา Madsen ออกแบบโดย Julius A. Rasmussen และ Theodor Schoubue แต่ตั้งชื่อตามพันเอก Vilhelm Herman Oluf Madsen ผู้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการสงครามของเดนมาร์กในขณะนั้นออกแบบและพัฒนาอยู่ในช่วงถึง 1883-1901 ปืนกลเบาชนิดนี้เริ่มแรกใช้กระสุนแบบดินดำควันเยอะแบบเก่าทำให้มีปัญหาเรื่องการขัดลำกล้องแต่ต่อมาเมื่อมีเปลี่ยนไปใช้กระสุนดินปืนแบบควันน้อยขึ้นจึงเเก้ปัญหาเรื่องการขัดลำกล้องได้มันได้ประจำการในกองทัพเดนมาร์ในปี 1902 การออกเเบบของมันมีจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาปืนไรเฟิลอัตโนมัติของกองทัพเดนมาร์กในปี 1883
ต่อมาไม่นานหลังปี 1902 มันถูกขายให้กับ 34 ประเทศที่ใช้กระสุนที่ต่างกันถึง 12 ชนิด ลูกค้ากลุ่มเเรกๆที่นำไปใช้นั่นก็คือกองทหารม้ารัสเซียในสงครามกับญี่ปุ่นในปี 1905 ต่อมามันก็ได้ถูกใช้เป็นปืนกลบนอากาศยานของกองทัพจักรวรรดิรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 1 และถูกใช้โดยหลายประเทศที่เข้าร่วมในสงครามครั้งนั้น (ทั้งฝ่ายพันธมิตรเเละมหาอำนาจกลาง)

ปืนกลเบา Madsen รุ่นที่ใช้การป้อนกระสุนเเบบสายพาน

ระบบปฏิบัติการ Long recoil-operated
ขนาดกระสุน: 8×58mmR Danish Krag 7×57mm Mauser 6.5×55mm 7.92×57mm Mauser7.65×53mm Argentine 7.62×54mmR 7.62×51mm NATO .303 British
น้ำหนักปืนเปล่า: 9.07 กก.
อัตราการยิง: 450 นัดต่อนาที
ความจุกระสุน: 25,30,40 นัด
ปืนกลเบา Madsen ในประเทศไทย

(ด้านล่างคือทหารไทยกับปืนกลเบา Madsen ในช่วงเกิดกบฏบวรเดช)
ในปี 2466 ในสมัยรัชกาลที่ 6 สยามได้สั่งซื้อปืนเล็กยาวแบบ 66 ปลย.66 ( Arisaka type 38) ที่ใช้กระสุนขนาด 8x52 มม.8x52 mm.R Siamese mauser type 66 ปืนกลเบา Madsen ปกบ.66 ก็ใช้กระสุนเเบบเดียวกับปืนเล็กยาวแบบ 66 น่าจะปลดประจำการไปหลังสงครามเกาหลี
เชิญไปดูเรื่องอื่นๆได้ที่นี่
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4942.240
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 88 Madsen ปืนกลเบาชนิดเเรกของโลก
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปืนกลเบา Madsen ออกแบบโดย Julius A. Rasmussen และ Theodor Schoubue แต่ตั้งชื่อตามพันเอก Vilhelm Herman Oluf Madsen ผู้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการสงครามของเดนมาร์กในขณะนั้นออกแบบและพัฒนาอยู่ในช่วงถึง 1883-1901 ปืนกลเบาชนิดนี้เริ่มแรกใช้กระสุนแบบดินดำควันเยอะแบบเก่าทำให้มีปัญหาเรื่องการขัดลำกล้องแต่ต่อมาเมื่อมีเปลี่ยนไปใช้กระสุนดินปืนแบบควันน้อยขึ้นจึงเเก้ปัญหาเรื่องการขัดลำกล้องได้มันได้ประจำการในกองทัพเดนมาร์ในปี 1902 การออกเเบบของมันมีจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาปืนไรเฟิลอัตโนมัติของกองทัพเดนมาร์กในปี 1883
ต่อมาไม่นานหลังปี 1902 มันถูกขายให้กับ 34 ประเทศที่ใช้กระสุนที่ต่างกันถึง 12 ชนิด ลูกค้ากลุ่มเเรกๆที่นำไปใช้นั่นก็คือกองทหารม้ารัสเซียในสงครามกับญี่ปุ่นในปี 1905 ต่อมามันก็ได้ถูกใช้เป็นปืนกลบนอากาศยานของกองทัพจักรวรรดิรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 1 และถูกใช้โดยหลายประเทศที่เข้าร่วมในสงครามครั้งนั้น (ทั้งฝ่ายพันธมิตรเเละมหาอำนาจกลาง)
ปืนกลเบา Madsen รุ่นที่ใช้การป้อนกระสุนเเบบสายพาน
ระบบปฏิบัติการ Long recoil-operated
ขนาดกระสุน: 8×58mmR Danish Krag 7×57mm Mauser 6.5×55mm 7.92×57mm Mauser7.65×53mm Argentine 7.62×54mmR 7.62×51mm NATO .303 British
น้ำหนักปืนเปล่า: 9.07 กก.
อัตราการยิง: 450 นัดต่อนาที
ความจุกระสุน: 25,30,40 นัด
ปืนกลเบา Madsen ในประเทศไทย
(ด้านล่างคือทหารไทยกับปืนกลเบา Madsen ในช่วงเกิดกบฏบวรเดช)
ในปี 2466 ในสมัยรัชกาลที่ 6 สยามได้สั่งซื้อปืนเล็กยาวแบบ 66 ปลย.66 ( Arisaka type 38) ที่ใช้กระสุนขนาด 8x52 มม.8x52 mm.R Siamese mauser type 66 ปืนกลเบา Madsen ปกบ.66 ก็ใช้กระสุนเเบบเดียวกับปืนเล็กยาวแบบ 66 น่าจะปลดประจำการไปหลังสงครามเกาหลี
เชิญไปดูเรื่องอื่นๆได้ที่นี่
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4942.240