กระทู้นี่ต่อจากการเดินทางไปที่ตาดแซป่องไล คลิกอ่านได้ที่ >>
https://ppantip.com/topic/37243607
พอเราได้ชื่นชมกับความสวยงามของตาดแซพระและตาดแซป่องไลเสร็จปุ๊บ เราก็มีปลายทางต่อไปอยู่ที่ "ด่านใหญ่หนองหลวง" แขวงจำปาสัก เราอยากจะไปตั้งแคมป์ชมป่าสนสวยๆของที่ราบสูงโบโลเวนชิลๆกันสักคืนนึง ซึ่งสามารถเข้าถึงได้2เส้นทาง คือ 1.เดิน Trekking ลัดเลาะเข้าป่าด้วยระยะทาง 4 กม. และ 2.เส้นทางสู่ไร่กาแฟของชาวบ้าน ที่รถมอเตอร์ไซค์สามารถเข้าได้ ระยะทางประมาณ 16 กม. (โดยประมาณ) **เราเลือกเส้นทางที่2 เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมีใครเข้า (อยากแหวกแนวไปอีก) แล้วการผจญภัยก็เริ่มต้นขึ้น**
12.00 น. ทานมื้อเที่ยงเสร็จก็สตาร์ทรถออกเดินทางกลับเส้นทางเดิมเพื่อเข้าไปที่แขวงจำปาสัก
ข้ามสะพานไม้แกว่งๆเหมือนเดิม
ถนนลูกรังดินแดง
ติดหล่มเบาๆ มีกองเชียร์ด้วย 55555+
16.00 น. ถึงบ้านหลักห้า เป็นปากทางเข้าด่านใหญ่หนองหลวง เราแวะนั่งพักและแพ็คของที่จำเป็นสำหรับตั้งแคมป์1คืน
ทีมงาน5คน ต้องเปลี่ยนไปนั่งรถแต๊กๆ และ อีก3ขับมอเตอร์ไซค์(ภูริ ,พี่ต้น ,อ้ายบุน ไกด์ของเรา) เส้นทางช่วงแรกยังเป็นดินแดงแข็งๆอยู่ทำให้ขับผ่านไปได้สบายๆ
ถนนยังชิลอยู่
16.30น. ขับเข้ามาไม่ถึง 800 เมตร ความเละก็บังเกิด.. เพราะถนนที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า มันเป็นร่องโคลนขนาดเท่าล้อรถยนต์ขวางเราอยู่ เอาวะ! มันคงมีไม่เยอะหรอก เราก็เลยตัดสินใจลุยกันเลยมาแล้วต้องไปให้สุด รถเรามันอึด!ผ่านไปได้อยู่แล้ว
ไปไลน์ไหนดีเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ
ลงร่องแล้วจ้าาา
ยังไงดี??
ดอกยางหมดแล้ว
ก็จะเละๆ ลึกๆหน่อย
อ้ายบุน ไกด์ของเราจาก Green Discovery Laos
งานลุยน้ำก็มา Africa Twin x CRF ผ่านได้สบายๆ
เราผ่านเส้นทางโคลนกันมาหลายบ่อ หลายหลุมและแล้วเวลาก็ล่วงเลยมาถึง 6 โมงเย็น เราผ่านมาได้แค่ 3-4กม. เท่านั้นเอง!!!!! ติดอยู่กลางป่าไม่มีหมู่บ้านซะด้วย แล้วท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง ความเครียดก็เพิ่มขึ้น ความหิวก็คืบคลาน เริ่มหมดแรง เสบียงก็อยู่บนรถแต๊กๆรื้อออกมาก็ไม่ได้ ถ้ารื้อแล้วงานใหญ่แน่ๆ ทำยังไงดี!!?? โอ้ยย ณ ตอนนั้นมีหลากหลายความรู้สึกมากๆ ในใจก็คิด ถอยกลับดีไหม?? จะไปต่อจริงหรอ?? มันจะปลอดภัยไหม?? บลาๆๆๆ
เราจอดรถปรึกษากับไกด์และคนขับรถแต๊กๆอยู่พักนึง สอบถามเส้นทางว่าอีกไกลไหม? แล้วจะมีร่องโคลนแบบนี้อีกกี่ร่อง? คำตอบคือ : มีอีกเป็นสิบๆร่อง!!!! 4ทุ่มถึงแคมป์ ผ่างงงงงงงงงง ยังไงดีละทีนี้...เหลืออีกสิบกว่ากิโลเมตรไม่ไหวแน่ๆ และแล้ว...เราก็ตัดสินใจกันว่า "ไปต่อ" เราจะไปจนไม่ไหวจริงๆ แล้วความโหดหฤหรรษ์ก็บังเกิด..รถเราติดหล่มตลอดทาง แม้แต่รถแต๊กๆก็ยังต้องใช้วิ้นส์ช่วยดึง ร่องโคลนที่เห้นเราไม่รู้เลยว่าดินข้างล่างแข็งหรือนุ่ม จนทีมงานต้องเดินลุยโคลนสำรวจร่องเพื่อหาไลน์ให้มอเตอร์ไซค์
จมครึ่งล้อ
เอ้า ดึงงงงงง
มองดูเวลาอีกที 2 ทุ่ม ทุกคนเริ่มหิว เสบียงก็ไม่ได้พกแยกออกมา ทีมงานที่นั่งรถแต๊กๆ ต้องเปลี่ยนเป็นเดินเท้าเพราะรถติดหล่ม ติดตลอดทางก็ทำให้ต้องเดินตลอดทางเช่นกัน ท้องฟ้ามืดสนิทมองไปเห็นแต่แสงไฟจากมอเตอร์ไซค์และไฟฉาย สองข้างทางเป็นป่ารกทึบทางเดินก็ไม่มีต้องยอมเดินลุยโคลนที่ทำให้เราจมไปครึ่งหน้าแข้ง เหมือนเดินลุยในแม่น้ำช็อคโกแลตยังไงอย่างงั้น หิวขั้นสุดพยายามรื้อหาขนมจากกระเป๋าก็เจอแต่ถั่วรสวาซาบิกับลูกอมแบบ Sugar Free คิดในใจทำไมไม่เอาแบบมีน้ำตาลมาว่ะเนี้ย ร่างกายต้องการพลังานอย่างมากกกกกกก เราเอาถั่วกับลูกอมมาแบ่งกันกินคนละนิดละหน่อยพอประทังชีวิตให้รอดแล้วก็แอบร้องเพลงในใจ นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่~
เละแค่ไหนถามใจดู
รองเท้าคู่นี้ซักไม่ไหว ต้องทิ้งสถานเดียว!
ผ่านไป 2 ชั่วโมง (22.00น.) ด้วยความที่เรากินข้าวมื้อสุดท้ายกันตอนเที่ยง นี่ก็ 10 ชั่วโมงผ่านมา หิวขั้นสุดกันอีกรอบ เราเลยแวะพักและพยายามรื้อขนมจากกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อกันอีกครั้ง และแล้ว..เราก็เจอ!!! Jolly Bear ขนมเยลลี่รูปหมีไซต์เล็กมินิเท่านิ้วก้อยในตำนาน แต่..มันเป็นซองที่แกะกินแล้วมันต้องเหลือไม่พอครบทุกคนแน่ๆ เราเอา Jolly Bear ออกมานับได้ 7-8 ตัว ครบคนพอดี น้ำตาจะไหลลลล
เลยแบ่งกันกินคละตัว ย้ำว่า คนละตัว เอ่อ..วินาทีนี้ก็ต้องกินล่ะแหละ กันตายไปก่อน แล้วก็ร้องเพลงอีกครั้ง ฉันมาทำอะไรที่นี่~
23.45 น. ในที่สุดก็มาถึแคมป์พร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาดั่งสวรรค์กลั่นแกล้ง ต้องรีบกางเต็นท์ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ แต่ยังดีที่เราโทรแจ้งชาวบ้านให้มาทำอาหารรอ มาถึงปุ๊บก็นั่งกินข้าวกันอย่างบ้าคลั่งเพราะแต่ละคนหิวสุดๆ ราตรีสวัสดิ์ที่น้องชาว Viewfinder Dreamlist และร้องเพลงในใจอีกครั้ง ฉันมาทำอะไรที่นี่~
สภาพรถคลุกโคลน ล้มหลายรอบจนต้องถอดชิลด์หน้าออก
Africa Twin อึดจริงๆ ล้มกี่รอบก็สตาร์ทติดทุกรอบไม่มีงอแง
ตื่นมาก็นั่งคิด..เมื่อคืนกว่าจะผ่านมาได้ลำบากสุด นับถือใจทีมงานที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกันได้กิน Jolly Bear ร่วมสาบานไปอีกเล่าแค่นี้อาจจะไม่เห็นภาพ สามารถติดตามชมแบบเต็มๆได้ใน Viewfinder Dreamlist >>
https://www.youtube.com/watch?v=OH47hldf53Y&t=22s
เส้นทางขี่มอเตอร์ไซค์ที่เละที่สุด ณ ลาวใต้
กระทู้นี่ต่อจากการเดินทางไปที่ตาดแซป่องไล คลิกอ่านได้ที่ >> https://ppantip.com/topic/37243607
พอเราได้ชื่นชมกับความสวยงามของตาดแซพระและตาดแซป่องไลเสร็จปุ๊บ เราก็มีปลายทางต่อไปอยู่ที่ "ด่านใหญ่หนองหลวง" แขวงจำปาสัก เราอยากจะไปตั้งแคมป์ชมป่าสนสวยๆของที่ราบสูงโบโลเวนชิลๆกันสักคืนนึง ซึ่งสามารถเข้าถึงได้2เส้นทาง คือ 1.เดิน Trekking ลัดเลาะเข้าป่าด้วยระยะทาง 4 กม. และ 2.เส้นทางสู่ไร่กาแฟของชาวบ้าน ที่รถมอเตอร์ไซค์สามารถเข้าได้ ระยะทางประมาณ 16 กม. (โดยประมาณ) **เราเลือกเส้นทางที่2 เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมีใครเข้า (อยากแหวกแนวไปอีก) แล้วการผจญภัยก็เริ่มต้นขึ้น**
12.00 น. ทานมื้อเที่ยงเสร็จก็สตาร์ทรถออกเดินทางกลับเส้นทางเดิมเพื่อเข้าไปที่แขวงจำปาสัก
ข้ามสะพานไม้แกว่งๆเหมือนเดิม
ถนนลูกรังดินแดง
ติดหล่มเบาๆ มีกองเชียร์ด้วย 55555+
16.00 น. ถึงบ้านหลักห้า เป็นปากทางเข้าด่านใหญ่หนองหลวง เราแวะนั่งพักและแพ็คของที่จำเป็นสำหรับตั้งแคมป์1คืน
ทีมงาน5คน ต้องเปลี่ยนไปนั่งรถแต๊กๆ และ อีก3ขับมอเตอร์ไซค์(ภูริ ,พี่ต้น ,อ้ายบุน ไกด์ของเรา) เส้นทางช่วงแรกยังเป็นดินแดงแข็งๆอยู่ทำให้ขับผ่านไปได้สบายๆ
ถนนยังชิลอยู่
16.30น. ขับเข้ามาไม่ถึง 800 เมตร ความเละก็บังเกิด.. เพราะถนนที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า มันเป็นร่องโคลนขนาดเท่าล้อรถยนต์ขวางเราอยู่ เอาวะ! มันคงมีไม่เยอะหรอก เราก็เลยตัดสินใจลุยกันเลยมาแล้วต้องไปให้สุด รถเรามันอึด!ผ่านไปได้อยู่แล้ว
ไปไลน์ไหนดีเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ
ลงร่องแล้วจ้าาา
ยังไงดี??
ดอกยางหมดแล้ว
ก็จะเละๆ ลึกๆหน่อย
อ้ายบุน ไกด์ของเราจาก Green Discovery Laos
งานลุยน้ำก็มา Africa Twin x CRF ผ่านได้สบายๆ
เราผ่านเส้นทางโคลนกันมาหลายบ่อ หลายหลุมและแล้วเวลาก็ล่วงเลยมาถึง 6 โมงเย็น เราผ่านมาได้แค่ 3-4กม. เท่านั้นเอง!!!!! ติดอยู่กลางป่าไม่มีหมู่บ้านซะด้วย แล้วท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง ความเครียดก็เพิ่มขึ้น ความหิวก็คืบคลาน เริ่มหมดแรง เสบียงก็อยู่บนรถแต๊กๆรื้อออกมาก็ไม่ได้ ถ้ารื้อแล้วงานใหญ่แน่ๆ ทำยังไงดี!!?? โอ้ยย ณ ตอนนั้นมีหลากหลายความรู้สึกมากๆ ในใจก็คิด ถอยกลับดีไหม?? จะไปต่อจริงหรอ?? มันจะปลอดภัยไหม?? บลาๆๆๆ
เราจอดรถปรึกษากับไกด์และคนขับรถแต๊กๆอยู่พักนึง สอบถามเส้นทางว่าอีกไกลไหม? แล้วจะมีร่องโคลนแบบนี้อีกกี่ร่อง? คำตอบคือ : มีอีกเป็นสิบๆร่อง!!!! 4ทุ่มถึงแคมป์ ผ่างงงงงงงงงง ยังไงดีละทีนี้...เหลืออีกสิบกว่ากิโลเมตรไม่ไหวแน่ๆ และแล้ว...เราก็ตัดสินใจกันว่า "ไปต่อ" เราจะไปจนไม่ไหวจริงๆ แล้วความโหดหฤหรรษ์ก็บังเกิด..รถเราติดหล่มตลอดทาง แม้แต่รถแต๊กๆก็ยังต้องใช้วิ้นส์ช่วยดึง ร่องโคลนที่เห้นเราไม่รู้เลยว่าดินข้างล่างแข็งหรือนุ่ม จนทีมงานต้องเดินลุยโคลนสำรวจร่องเพื่อหาไลน์ให้มอเตอร์ไซค์
จมครึ่งล้อ
เอ้า ดึงงงงงง
มองดูเวลาอีกที 2 ทุ่ม ทุกคนเริ่มหิว เสบียงก็ไม่ได้พกแยกออกมา ทีมงานที่นั่งรถแต๊กๆ ต้องเปลี่ยนเป็นเดินเท้าเพราะรถติดหล่ม ติดตลอดทางก็ทำให้ต้องเดินตลอดทางเช่นกัน ท้องฟ้ามืดสนิทมองไปเห็นแต่แสงไฟจากมอเตอร์ไซค์และไฟฉาย สองข้างทางเป็นป่ารกทึบทางเดินก็ไม่มีต้องยอมเดินลุยโคลนที่ทำให้เราจมไปครึ่งหน้าแข้ง เหมือนเดินลุยในแม่น้ำช็อคโกแลตยังไงอย่างงั้น หิวขั้นสุดพยายามรื้อหาขนมจากกระเป๋าก็เจอแต่ถั่วรสวาซาบิกับลูกอมแบบ Sugar Free คิดในใจทำไมไม่เอาแบบมีน้ำตาลมาว่ะเนี้ย ร่างกายต้องการพลังานอย่างมากกกกกกก เราเอาถั่วกับลูกอมมาแบ่งกันกินคนละนิดละหน่อยพอประทังชีวิตให้รอดแล้วก็แอบร้องเพลงในใจ นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่~
เละแค่ไหนถามใจดู
รองเท้าคู่นี้ซักไม่ไหว ต้องทิ้งสถานเดียว!
ผ่านไป 2 ชั่วโมง (22.00น.) ด้วยความที่เรากินข้าวมื้อสุดท้ายกันตอนเที่ยง นี่ก็ 10 ชั่วโมงผ่านมา หิวขั้นสุดกันอีกรอบ เราเลยแวะพักและพยายามรื้อขนมจากกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อกันอีกครั้ง และแล้ว..เราก็เจอ!!! Jolly Bear ขนมเยลลี่รูปหมีไซต์เล็กมินิเท่านิ้วก้อยในตำนาน แต่..มันเป็นซองที่แกะกินแล้วมันต้องเหลือไม่พอครบทุกคนแน่ๆ เราเอา Jolly Bear ออกมานับได้ 7-8 ตัว ครบคนพอดี น้ำตาจะไหลลลล เลยแบ่งกันกินคละตัว ย้ำว่า คนละตัว เอ่อ..วินาทีนี้ก็ต้องกินล่ะแหละ กันตายไปก่อน แล้วก็ร้องเพลงอีกครั้ง ฉันมาทำอะไรที่นี่~
23.45 น. ในที่สุดก็มาถึแคมป์พร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาดั่งสวรรค์กลั่นแกล้ง ต้องรีบกางเต็นท์ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ แต่ยังดีที่เราโทรแจ้งชาวบ้านให้มาทำอาหารรอ มาถึงปุ๊บก็นั่งกินข้าวกันอย่างบ้าคลั่งเพราะแต่ละคนหิวสุดๆ ราตรีสวัสดิ์ที่น้องชาว Viewfinder Dreamlist และร้องเพลงในใจอีกครั้ง ฉันมาทำอะไรที่นี่~
สภาพรถคลุกโคลน ล้มหลายรอบจนต้องถอดชิลด์หน้าออก
Africa Twin อึดจริงๆ ล้มกี่รอบก็สตาร์ทติดทุกรอบไม่มีงอแง
ตื่นมาก็นั่งคิด..เมื่อคืนกว่าจะผ่านมาได้ลำบากสุด นับถือใจทีมงานที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกันได้กิน Jolly Bear ร่วมสาบานไปอีกเล่าแค่นี้อาจจะไม่เห็นภาพ สามารถติดตามชมแบบเต็มๆได้ใน Viewfinder Dreamlist >> https://www.youtube.com/watch?v=OH47hldf53Y&t=22s