เปิดมาก็สยอง !!
(ไม่ทำการใช้รูปเพื่อการขายสินค้าใดใดทั้งสิ้น)
เริ่มต้นด้วยการพลีชีพหน้าตัวเอง ในการเปิดทุกมิติของการรักษาหน้า แบบREAL
ทุกยี่ห้อ ทุกศาสตร์ของการรักษาหน้า ลองมาหมด ถึงได้รู้ว่าเป็นยังไง !!
เริ่มต้นจากที่คิดมานานว่าจะแนะนำชาวเน็ตอย่างไร ในการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาหน้า (สิว) รอยดำ – แดง
แบบไม่อิงกระแสนิยมและคล้อยตามพรีเซ็นต์เตอร์ในเน็ต
คงไม่มีใครเอาคนหน้าสิวมารีวิวครีมที่เพิ่งผลิตขึ้นมา 1 เดือน แล้วบอกว่าตัวเองใช้มาดีเป็นปี ๆ
//(-_____-)// เฮ้อม That doesn't make any sense. มาก
จึงเกิดความคิดที่จะทำการรีวิวผลิตภัณฑ์รักษาสิว แบบจริงๆจังๆสักที
ตลอดการรักษาสิว แบบลองผิดลองถูกเอง มา 9 ปี
แบบไม่มีสปอนเซอร์ ทุกอย่างจกเอง (กินแกลบ)
ก่อนอื่นต้องสวัสดิ์ดีนะคะ ทุกท่านที่มีความสนใจในการรักษาหน้าของตนเอง
เบลล์เชื่อว่าทุกคนรักหน้าตาตนเอง ถึงหาทุกวิถีทางที่จำทำให้ไม่เป็นสิว เต่งตึง เด้งดึ๋งๆ
และก็มีหลายท่านที่พลาดใช้ครีมจนหน้าแหก กู้กลับมาใช้เวลาและค่ารักษาเยอะกว่าซื้อครีมมาใช้ ขาวแค่ 2 – 3 เดือน อีก 7 เดือนคือ
วิ่งร่อนเข้าออกตามเว็บ ตามคลินิก T___T
เบลล์เหมือนกันที่เป็นคนหนึ่ง ในการรักษาหน้ามาเป็นระยะเวลานาน
เริ่มต้นที่เป็นสิวฮอร์โมน แรกสาว ม.1
ขึ้นเต็มหน้า ในความอายหนังหน้าตัวเองจึงไปทำการรักษาคลินิก (ในจังหวัดมหาสารคาม ตอนนี้ปิดตัวลงแล้ว)
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 1
1. เป็นการรักษาโดยการ กดสิว คือเริ่มแรกคือกดเลย ไม่มีครีมอะไรลง เราก็กดๆไป
2. เป็นการทำ IONTO ม.1 งะคุณเทอไม่รู้ว่ามันคืออะไรหรอก แต่จำความรู้สึกได้คือ เป็นประจุไฟฟ้าสัมผัสหน้าจะแสบแปล๊บๆ
นางแคลมว่าการทำไอออนโต จำช่วยให้หน้าใส รักษาสิว รอยดำ รอยแดง ลดการอักเสบของการเกิดสิว
3. และมียาทา มาให้ก่อนล้างหน้า หลังล้างหน้า เช้า-เย็น
ค่าใช้จ่าย สุทธิ ประมาณ 15000 บาท
ผลที่ได้จากการรักษา 1 ปีคือ สิวลดลง แต่ ไม่ไปหาหมออีก 2-3 เดือน สิวก็กลับมาเป็นใหม่ เพิ่มเติมคือลามไปหลัง จากการเป็นสิวฮอร์โมนแหละ
คงไม่สามารถที่จะหายขาดได้ในระยะเวลา 1 ปี
ช่วงวัยรุ่นคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอยู่แล้ว Estrogen & Progesterone พูดง่ายๆนางกำลังปรับสมดุล แต่สมดุลของคนเราไม่เท่ากัน บางคนคงที่ 30 หรือ 35 ปี หรือมีบางคนอยากสาวมาก 35 ขึ้นไปยังมีสิวก็มี
ก็ยังคงไม่ได้ยอมแพ้ อะไร ไปกันต่อ
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 2
หลังจากผิดหวังในการรักษาครั้งที่ 1 ก็เริ่มที่จะสนใจครีมในเน็ต เป็นแพ็คแก็ตสีขาว ภายในนั้นบันจุผลิตภัณฑ์แคลมว่ารักษาสิว
ซื้อมาใช้ได้ 1 ชุด ต่อ 1 เดือน ได้ผลเว้ยเห้ย หน้าดีขึ้นมาก หน้าใส สิวลด ตามคำแคลมที่เขาบอกเลยแหละ
เลยซื้อมาใช้เรื่อยๆ จาก ม. 2 – ม.4 หน้าเริ่มแย่ !
หน้าดำง่าย สิวเริ่มมา หน้าเริ่มมัน
เลยหยุดใช้
…… และหน้าแหกก็มาเยือน
เลยเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไป และหันมาใช้สมุนไพร เอง
เริ่มแรกคือตั้งปณิธาน ว่าจะอดทน ต่อการรักษาสิว ที่มีทั้งฮอร์โมน ทั้ง เสตรียรอย คิดดูว่าจะแหกขนาดไหน
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 3
1. ใช้ขมิ้นขาว สด ขูดๆๆ ๆ ½ ถ้วยซุป + น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + มะขามเปียกพอประมาณ + ดินสอพอง +น้ำอุ่น
ทำการพอกหน้า ทุกวัน !!!!!
(อยากหายคัก)
2. โฟมล้างหน้า คือ ดอกเตอร์มนตรี สมูทอี ใช้สลับกัน บางวันใช้ด้วยกัน ! งงตัวเองมีความคิดตอนนั้นว่าล้างเยอะๆอะสะอาด
2. ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้คือ Oriental Vit C
ทำแบบนี้ไป 1 ปี จนถึง ม.5
ผลที่ได้จากการใช้ทั้งหมด คือ หน้าไม่เป็นสิวอักเสบ และหน้าแห้งมากกก สิวอุดตันกลับเพิ่ม
ตอนนั้นเลยแก้วิธีการรักษาเอง เปลี่ยนจากการพอกหน้าแม่มทุกวัน คือพอก่อน เอาเป็นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
เปลี่ยนสูตร ตัดที่ทำให้อุดตันคือ ดินสอพอง นอกนั้นเหมือนเดิม
โฟมล้างหน้าใช้อันเดียว ใช้สมูทอี (จะใช้ไรเยอะเยะ 2 อัน)
กลับมาหาข้อมูลตอนนี้จึงได้รู้ว่า การที่เรายิ่งเป็นสิว แล้วยิ่งไปพอก ไปขัด ไปถู ยิ่งเพิ่มการอักเสบของชั้นผิวหนังที่บอบบาง กระตุ้นการอักเสบของสิว
ดังนั้น คนที่สิวอักเสบมาก แต่อยากพอกหน้า อดใจรอก่อน ให้สิวยุบ
ทำแบบนี้จนถึง ม.6
นอกจากการใช้สมุนไพรพวกนี้รักษา ก็ยังต้องขัดผิวไปด้วย ทาครีม โบกมันเข้าไปอยากขาวคัก อยากหน้าใสคัก
ผลที่ได้การการรักษาเอง ด้วยสมุนไพร และสกินแคร์นิดหน่อย (ทาบ้างไม่ทาบ้าง)
คือสิวขึ้น ช่วงเป็นประจำเดือน แต่จะไม่ขึ้นเอาๆทุกวันเหมือนก่อน
หน้ามันปกติ อาศัยการล้างหน้าตอนเที่ยงที่โรงเรียนเอา
และสิ่งสำคัญคือ ตลอดม.ปลาย ไม่ทาแป้งพัพที่ผสมรองพื้นเลย คิ้วไม่เขียน ทาแต่ปาก
ทาแป้งเด็กเอา
และม. 6 ก็มาถึง ช่วงปลายๆ เทอม 2 จะเป็นการสอบ
เครียดมาก และไม่ดูแลตัวเอง สิวจึงเริ่มกลับมาๆ แต่ก็ช่างมันไปก่อน
พอเข้าปี 1 ต้องอยู่หอใน
จะไปนั่งเอาขมิ้นมาขูด เอามะขามเปียกพอก คงยาก
เลยตัดสินใจเข้าคลินิก นตพ.อิอิ
(จะโดนฟ้องมั้ยหึ) 55555
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 4 ปี
เราก็ซื้อเป็นคอสเลยครับพี่น้อง คอสนึงตก 13000 บาท ทำได้ 10 ครั้ง
เป็นการรักษาสิวทั่วไป
กดสิว ทายาสิว นวดหน้า
ผลที่ได้จากการรักษาคือ 5 ครั้งแรก สิวหายดีขึ้น รอยแดง ดำดีขึ้น
พอเข้าคอสที่ 6 7 8 สิวเพิ่มมากขึ้น จนเราช่างมันเหอะ ไม่ไหวแล้วหน้า เลยทิ้งคอสไป
หน้าแหกแบบ อยากร้องไห้
เลยเข้าปรึกษาหมอผิวหนัง ที่จังหวัดขอนแก่น
หมอผิวหนัง ชื่อ หมอสมัยการแพทย์
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 5
ขั้นตอนการรักษา
1. เข้ารับคำปรึกษา และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร งด หวาน ช็อคโกแลต งดมัน งดเค็ม
ดื่มน้ำเยอะๆ ไม่ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า ให้ล้างน้ำเปล่า
2. ผลิตภัณฑ์ในการรักษาคือ ครีมเนื้อขาว 1 กระปุกเล็ก
ยาน้ำทาสิว 1 ขวดเล็ก
ยากิน เม็ดสีขาว 1 เดือน
รักษา จนถึงปี3 รู้สึกว่า สิวไม่ขึ้น แต่หน้าตัวเองดำมาก รอยดำยังคงชัด หน้ามันเหมือนเดิม เลยทนไม่ได้กับหน้าตัวเอง ตัดสินใจ
เปลี่ยนคลินิกอีก ต้องบอกว่าคลินิกนี้เปลี่ยนชีวิต -____- เลยจ้า
ช่วงปี 3 ต้องเทียวกลับมาบ้านที่ สารคามบ่อยขึ้น เพราะรักษาสิว ครั้งที่ 6 ปี ที่คลินิก ศวบ.อิอิ (กลัวโดนฟ้อง)
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 6
1. รักษาโดยมีผลิตภัณฑ์ เล็กๆทาหน้า เช้า เย็น เรียงตามลำดับ และยา Acnotin 10 mg.
2. กดสิว เดือนละ 1 ครั้ง
3. เช็คสภาพผิวหน้าทุก 1 เดือนเพื่อนการลด และปรับตัวครีมตามสภาพที่หน้าจะรับได้
ค่าใช้จ่ายรวมสุทธิ โดยประมาณ 1500 ×10 = 15,000 บาท
**การรักษานี้เป็นไปด้วยความทรมาน เพราะหน้าลอก แดง แสบ คัน ทาครีมปึ๊บ ต้องไปนั่งหน้าพัดลมอาศัยความเย็นช่วย
รักษาใช้เวลา 6 เดือนหน้าเริ่มใส ทุกอย่างที่ใบหน้าหายไป
และจากนั้นต้องไปฝึกงานในอำเภอที่ไกล จึงไม่ได้ไปอีก ผลที่ได้จากการไม่ไปรักษาคือ
เริ่มจากการลอก แดง แสบ คัน (ทางร้านบอกเป็นปฏิกิริยาของครีม) จ้าาา -___-
ฝั่งขวาคือมันลุกลาม จากที่ไม่เคยมีสิวที่คอ กลับมี และเยอะ พาพักพวกมาจ้าาา
คุณพระ หน้าแหกยิ่งกว่าแหก เรียกว่าการเลี้ยงสิว ของแท้
ร่องห๊ายยยย จบปี 4 ด้วยหน้าแบบนี้อ่ะ
จบปึ๊บมาทำงานเลย ก็แบบนี้ เลยเข้าคลินิกรักษาโรคผิวหนัง กึ่งๆกับเสริมความงามอีกครั้ง
ชื่อ คต.อิอิ ในจังหวัดมหาสารคาม
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 7
ขั้นตอนของการรักษา คอสรักษาสิว
1. การใช้แสงช่วยรักษาสิว LED (เป็นการใช้พลังงานแสงช่วยฆ่าเชื้อสิว และลดการทำงานของต่อมไขมัน)
2. การกดสิว ตามที่เราต้องการ เลยเลือกที่จะกด 1 เดือนครั้ง
3. ครีมจากทางร้าน
ผลที่ได้จากการรักษา สิวลดลง หน้ามันเท่าเดิม รอยแดง รอยดำ ยังชัด
ตัดสินใจซื้ออีกคอส ซึ่งเป็นการใช้ Laser รักษารอยแดง จากการเกิดสิว ราคาลด 30 % เหลือ 13,000 บาท สามารถทำได้ 5 ครั้ง และไม่รวมครีมทา
ครั้งที่ 1
สิวเริ่มแห้ง รอยยังชัดจากการยิง 600 ช๊อต
ครั้งที่ 2
ความแดงของหน้าลดลง
ครั้งที่ 3
ประทับใจ รอยจางลงเห็นได้ชัดเจน หน้าใสขึ้น สิวลดลงไปมาก
ครั้งที่ 4
สิวหายลูกเพี้ย รอยก็จางลง แต่หลุมสิวก็ใหญ่เท่าอุกาบาตเหมือนเดิมช่างมัน
ผลที่เกิดจากการทำ Laser คือ รอยแดงลดลง รอยดำลดลงเห็นได้ชัด หลุมสิวเท่าเดิม
แต่ราคาค่อนข้างสูง
ส่วนเรื่องสิว เริ่มมารักษาเองโดยการใช้สกินแคร์ที่ซื้อได้ตามร้านขายค้า หรือ Watson, Boots
มีดังนี้ ขั้นตอนของการรักษาสิวเอง ครั้งที่ 8
1. BenZac AC 2.5 % 260 – 300 บาท (เกินกว่านี้ถือว่าขายแพง ลองหาดูร้านอื่นเลย)
วิธีใช้ : ให้ทาบางๆทั่วใบหน้า 5 – 10 นาที
2. โฟมล้างหน้า Acne aid บรรจุภัณฑ์สีแดง ราคา 179 -280 บาท แล้วแต่ช่วงโปรโมนชั่น
ล้างแล้วหน้าไม่ตึง
ความมันของใบหน้าลดน้อยลง
3. Defenza cream เป็นครีมบำรุง ทาทั้งเช้า และ เย็น ราคา 290 บาท
4. ครีมกันแดด SpectarBAN SPF 50 ราคา 580 – 600 บาท
5.ปฏิบัติในตัวเองใหม่ ไม่กินเหล้า เบียร์ ทำได้แล้วจะหน้าดีขึ้น ไม่อ้วน มีตังค์เก็บอีกก
ออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 นาที 3 วัน/สัปดาห์ หลังจากออกกำลังกายให้รีบใช้น้ำเปล่าล้างหน้า เพราะเหงือเป็นกรดจะทำให้กัดหน้า บางคนแพ้เหงือก็มี
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยให้มันได้ 6 ชั่วโมง หรือให้นอนนานกว่านั้นก็ยิ่งดี
ดื่มน้ำเยอะๆเลย วันนึงให้ได้ขวดลิตรใหญ่ไปเลย (ร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบที่เยอะ)
กินอาหารที่มีประโยชน์ แต่ถ้าอยากกินอดไม่ได้พวกหมูกระทะ ชาบู เค้ก น้ำหวาน ก็กินได้ แต่ก็น้อยๆไม่ใช่กินทุกวัน
6.อดทนรอเวลา รอยจากสิวจะหายได้เอง 6 เดือนจะเริ่มจาง
7.ออกไปใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข แต่งหน้าเบาๆ เลือกใช้เครื่องสำอางที่ดีมีคุณภาพ
ไม่อิงกระแส อะไรเข้าใหม่ซื้อเอาๆ เก็บไว้หมดอายุเอามาใช้หน้าเป็นสิวได้
สิ่งสุดท้ายที่เราต้องมี คือความมั่นใจในตัวเอง รักในความเป็นตัวเอง สวยในฉบับของเรา
ยิ้มรับกับเรื่องสิวๆ ที่มันจะต้องมาอีกแน่ ^^//
เป็นกำลังใจให้นะคะ
[CR] Review: รักษาหน้า 9 ปี กับความพยายาม 8 ครั้ง
เปิดมาก็สยอง !!
(ไม่ทำการใช้รูปเพื่อการขายสินค้าใดใดทั้งสิ้น)
เริ่มต้นด้วยการพลีชีพหน้าตัวเอง ในการเปิดทุกมิติของการรักษาหน้า แบบREAL
ทุกยี่ห้อ ทุกศาสตร์ของการรักษาหน้า ลองมาหมด ถึงได้รู้ว่าเป็นยังไง !!
เริ่มต้นจากที่คิดมานานว่าจะแนะนำชาวเน็ตอย่างไร ในการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาหน้า (สิว) รอยดำ – แดง
แบบไม่อิงกระแสนิยมและคล้อยตามพรีเซ็นต์เตอร์ในเน็ต
คงไม่มีใครเอาคนหน้าสิวมารีวิวครีมที่เพิ่งผลิตขึ้นมา 1 เดือน แล้วบอกว่าตัวเองใช้มาดีเป็นปี ๆ
//(-_____-)// เฮ้อม That doesn't make any sense. มาก
จึงเกิดความคิดที่จะทำการรีวิวผลิตภัณฑ์รักษาสิว แบบจริงๆจังๆสักที
ตลอดการรักษาสิว แบบลองผิดลองถูกเอง มา 9 ปี
แบบไม่มีสปอนเซอร์ ทุกอย่างจกเอง (กินแกลบ)
ก่อนอื่นต้องสวัสดิ์ดีนะคะ ทุกท่านที่มีความสนใจในการรักษาหน้าของตนเอง
เบลล์เชื่อว่าทุกคนรักหน้าตาตนเอง ถึงหาทุกวิถีทางที่จำทำให้ไม่เป็นสิว เต่งตึง เด้งดึ๋งๆ
และก็มีหลายท่านที่พลาดใช้ครีมจนหน้าแหก กู้กลับมาใช้เวลาและค่ารักษาเยอะกว่าซื้อครีมมาใช้ ขาวแค่ 2 – 3 เดือน อีก 7 เดือนคือ
วิ่งร่อนเข้าออกตามเว็บ ตามคลินิก T___T
เบลล์เหมือนกันที่เป็นคนหนึ่ง ในการรักษาหน้ามาเป็นระยะเวลานาน
เริ่มต้นที่เป็นสิวฮอร์โมน แรกสาว ม.1
ขึ้นเต็มหน้า ในความอายหนังหน้าตัวเองจึงไปทำการรักษาคลินิก (ในจังหวัดมหาสารคาม ตอนนี้ปิดตัวลงแล้ว)
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 1
1. เป็นการรักษาโดยการ กดสิว คือเริ่มแรกคือกดเลย ไม่มีครีมอะไรลง เราก็กดๆไป
2. เป็นการทำ IONTO ม.1 งะคุณเทอไม่รู้ว่ามันคืออะไรหรอก แต่จำความรู้สึกได้คือ เป็นประจุไฟฟ้าสัมผัสหน้าจะแสบแปล๊บๆ
นางแคลมว่าการทำไอออนโต จำช่วยให้หน้าใส รักษาสิว รอยดำ รอยแดง ลดการอักเสบของการเกิดสิว
3. และมียาทา มาให้ก่อนล้างหน้า หลังล้างหน้า เช้า-เย็น
ค่าใช้จ่าย สุทธิ ประมาณ 15000 บาท
ผลที่ได้จากการรักษา 1 ปีคือ สิวลดลง แต่ ไม่ไปหาหมออีก 2-3 เดือน สิวก็กลับมาเป็นใหม่ เพิ่มเติมคือลามไปหลัง จากการเป็นสิวฮอร์โมนแหละ
คงไม่สามารถที่จะหายขาดได้ในระยะเวลา 1 ปี
ช่วงวัยรุ่นคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอยู่แล้ว Estrogen & Progesterone พูดง่ายๆนางกำลังปรับสมดุล แต่สมดุลของคนเราไม่เท่ากัน บางคนคงที่ 30 หรือ 35 ปี หรือมีบางคนอยากสาวมาก 35 ขึ้นไปยังมีสิวก็มี
ก็ยังคงไม่ได้ยอมแพ้ อะไร ไปกันต่อ
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 2
หลังจากผิดหวังในการรักษาครั้งที่ 1 ก็เริ่มที่จะสนใจครีมในเน็ต เป็นแพ็คแก็ตสีขาว ภายในนั้นบันจุผลิตภัณฑ์แคลมว่ารักษาสิว
ซื้อมาใช้ได้ 1 ชุด ต่อ 1 เดือน ได้ผลเว้ยเห้ย หน้าดีขึ้นมาก หน้าใส สิวลด ตามคำแคลมที่เขาบอกเลยแหละ
เลยซื้อมาใช้เรื่อยๆ จาก ม. 2 – ม.4 หน้าเริ่มแย่ !
หน้าดำง่าย สิวเริ่มมา หน้าเริ่มมัน
เลยหยุดใช้
…… และหน้าแหกก็มาเยือน
เลยเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไป และหันมาใช้สมุนไพร เอง
เริ่มแรกคือตั้งปณิธาน ว่าจะอดทน ต่อการรักษาสิว ที่มีทั้งฮอร์โมน ทั้ง เสตรียรอย คิดดูว่าจะแหกขนาดไหน
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 3
1. ใช้ขมิ้นขาว สด ขูดๆๆ ๆ ½ ถ้วยซุป + น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + มะขามเปียกพอประมาณ + ดินสอพอง +น้ำอุ่น
ทำการพอกหน้า ทุกวัน !!!!!
(อยากหายคัก)
2. โฟมล้างหน้า คือ ดอกเตอร์มนตรี สมูทอี ใช้สลับกัน บางวันใช้ด้วยกัน ! งงตัวเองมีความคิดตอนนั้นว่าล้างเยอะๆอะสะอาด
2. ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้คือ Oriental Vit C
ทำแบบนี้ไป 1 ปี จนถึง ม.5
ผลที่ได้จากการใช้ทั้งหมด คือ หน้าไม่เป็นสิวอักเสบ และหน้าแห้งมากกก สิวอุดตันกลับเพิ่ม
ตอนนั้นเลยแก้วิธีการรักษาเอง เปลี่ยนจากการพอกหน้าแม่มทุกวัน คือพอก่อน เอาเป็นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
เปลี่ยนสูตร ตัดที่ทำให้อุดตันคือ ดินสอพอง นอกนั้นเหมือนเดิม
โฟมล้างหน้าใช้อันเดียว ใช้สมูทอี (จะใช้ไรเยอะเยะ 2 อัน)
กลับมาหาข้อมูลตอนนี้จึงได้รู้ว่า การที่เรายิ่งเป็นสิว แล้วยิ่งไปพอก ไปขัด ไปถู ยิ่งเพิ่มการอักเสบของชั้นผิวหนังที่บอบบาง กระตุ้นการอักเสบของสิว
ดังนั้น คนที่สิวอักเสบมาก แต่อยากพอกหน้า อดใจรอก่อน ให้สิวยุบ
ทำแบบนี้จนถึง ม.6
นอกจากการใช้สมุนไพรพวกนี้รักษา ก็ยังต้องขัดผิวไปด้วย ทาครีม โบกมันเข้าไปอยากขาวคัก อยากหน้าใสคัก
ผลที่ได้การการรักษาเอง ด้วยสมุนไพร และสกินแคร์นิดหน่อย (ทาบ้างไม่ทาบ้าง)
คือสิวขึ้น ช่วงเป็นประจำเดือน แต่จะไม่ขึ้นเอาๆทุกวันเหมือนก่อน
หน้ามันปกติ อาศัยการล้างหน้าตอนเที่ยงที่โรงเรียนเอา
และสิ่งสำคัญคือ ตลอดม.ปลาย ไม่ทาแป้งพัพที่ผสมรองพื้นเลย คิ้วไม่เขียน ทาแต่ปาก
ทาแป้งเด็กเอา
และม. 6 ก็มาถึง ช่วงปลายๆ เทอม 2 จะเป็นการสอบ
เครียดมาก และไม่ดูแลตัวเอง สิวจึงเริ่มกลับมาๆ แต่ก็ช่างมันไปก่อน
พอเข้าปี 1 ต้องอยู่หอใน
จะไปนั่งเอาขมิ้นมาขูด เอามะขามเปียกพอก คงยาก
เลยตัดสินใจเข้าคลินิก นตพ.อิอิ
(จะโดนฟ้องมั้ยหึ) 55555
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 4 ปี
เราก็ซื้อเป็นคอสเลยครับพี่น้อง คอสนึงตก 13000 บาท ทำได้ 10 ครั้ง
เป็นการรักษาสิวทั่วไป
กดสิว ทายาสิว นวดหน้า
ผลที่ได้จากการรักษาคือ 5 ครั้งแรก สิวหายดีขึ้น รอยแดง ดำดีขึ้น
พอเข้าคอสที่ 6 7 8 สิวเพิ่มมากขึ้น จนเราช่างมันเหอะ ไม่ไหวแล้วหน้า เลยทิ้งคอสไป
หน้าแหกแบบ อยากร้องไห้
เลยเข้าปรึกษาหมอผิวหนัง ที่จังหวัดขอนแก่น
หมอผิวหนัง ชื่อ หมอสมัยการแพทย์
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 5
ขั้นตอนการรักษา
1. เข้ารับคำปรึกษา และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร งด หวาน ช็อคโกแลต งดมัน งดเค็ม
ดื่มน้ำเยอะๆ ไม่ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า ให้ล้างน้ำเปล่า
2. ผลิตภัณฑ์ในการรักษาคือ ครีมเนื้อขาว 1 กระปุกเล็ก
ยาน้ำทาสิว 1 ขวดเล็ก
ยากิน เม็ดสีขาว 1 เดือน
รักษา จนถึงปี3 รู้สึกว่า สิวไม่ขึ้น แต่หน้าตัวเองดำมาก รอยดำยังคงชัด หน้ามันเหมือนเดิม เลยทนไม่ได้กับหน้าตัวเอง ตัดสินใจ
เปลี่ยนคลินิกอีก ต้องบอกว่าคลินิกนี้เปลี่ยนชีวิต -____- เลยจ้า
ช่วงปี 3 ต้องเทียวกลับมาบ้านที่ สารคามบ่อยขึ้น เพราะรักษาสิว ครั้งที่ 6 ปี ที่คลินิก ศวบ.อิอิ (กลัวโดนฟ้อง)
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 6
1. รักษาโดยมีผลิตภัณฑ์ เล็กๆทาหน้า เช้า เย็น เรียงตามลำดับ และยา Acnotin 10 mg.
2. กดสิว เดือนละ 1 ครั้ง
3. เช็คสภาพผิวหน้าทุก 1 เดือนเพื่อนการลด และปรับตัวครีมตามสภาพที่หน้าจะรับได้
ค่าใช้จ่ายรวมสุทธิ โดยประมาณ 1500 ×10 = 15,000 บาท
**การรักษานี้เป็นไปด้วยความทรมาน เพราะหน้าลอก แดง แสบ คัน ทาครีมปึ๊บ ต้องไปนั่งหน้าพัดลมอาศัยความเย็นช่วย
รักษาใช้เวลา 6 เดือนหน้าเริ่มใส ทุกอย่างที่ใบหน้าหายไป
และจากนั้นต้องไปฝึกงานในอำเภอที่ไกล จึงไม่ได้ไปอีก ผลที่ได้จากการไม่ไปรักษาคือ
เริ่มจากการลอก แดง แสบ คัน (ทางร้านบอกเป็นปฏิกิริยาของครีม) จ้าาา -___-
ฝั่งขวาคือมันลุกลาม จากที่ไม่เคยมีสิวที่คอ กลับมี และเยอะ พาพักพวกมาจ้าาา
คุณพระ หน้าแหกยิ่งกว่าแหก เรียกว่าการเลี้ยงสิว ของแท้
ร่องห๊ายยยย จบปี 4 ด้วยหน้าแบบนี้อ่ะ
จบปึ๊บมาทำงานเลย ก็แบบนี้ เลยเข้าคลินิกรักษาโรคผิวหนัง กึ่งๆกับเสริมความงามอีกครั้ง
ชื่อ คต.อิอิ ในจังหวัดมหาสารคาม
ขั้นตอนของการรักษาสิว ครั้งที่ 7
ขั้นตอนของการรักษา คอสรักษาสิว
1. การใช้แสงช่วยรักษาสิว LED (เป็นการใช้พลังงานแสงช่วยฆ่าเชื้อสิว และลดการทำงานของต่อมไขมัน)
2. การกดสิว ตามที่เราต้องการ เลยเลือกที่จะกด 1 เดือนครั้ง
3. ครีมจากทางร้าน
ผลที่ได้จากการรักษา สิวลดลง หน้ามันเท่าเดิม รอยแดง รอยดำ ยังชัด
ตัดสินใจซื้ออีกคอส ซึ่งเป็นการใช้ Laser รักษารอยแดง จากการเกิดสิว ราคาลด 30 % เหลือ 13,000 บาท สามารถทำได้ 5 ครั้ง และไม่รวมครีมทา
ครั้งที่ 1
สิวเริ่มแห้ง รอยยังชัดจากการยิง 600 ช๊อต
ครั้งที่ 2
ความแดงของหน้าลดลง
ครั้งที่ 3
ประทับใจ รอยจางลงเห็นได้ชัดเจน หน้าใสขึ้น สิวลดลงไปมาก
ครั้งที่ 4
สิวหายลูกเพี้ย รอยก็จางลง แต่หลุมสิวก็ใหญ่เท่าอุกาบาตเหมือนเดิมช่างมัน
ผลที่เกิดจากการทำ Laser คือ รอยแดงลดลง รอยดำลดลงเห็นได้ชัด หลุมสิวเท่าเดิม
แต่ราคาค่อนข้างสูง
ส่วนเรื่องสิว เริ่มมารักษาเองโดยการใช้สกินแคร์ที่ซื้อได้ตามร้านขายค้า หรือ Watson, Boots
มีดังนี้ ขั้นตอนของการรักษาสิวเอง ครั้งที่ 8
1. BenZac AC 2.5 % 260 – 300 บาท (เกินกว่านี้ถือว่าขายแพง ลองหาดูร้านอื่นเลย)
วิธีใช้ : ให้ทาบางๆทั่วใบหน้า 5 – 10 นาที
2. โฟมล้างหน้า Acne aid บรรจุภัณฑ์สีแดง ราคา 179 -280 บาท แล้วแต่ช่วงโปรโมนชั่น
ล้างแล้วหน้าไม่ตึง
ความมันของใบหน้าลดน้อยลง
3. Defenza cream เป็นครีมบำรุง ทาทั้งเช้า และ เย็น ราคา 290 บาท
4. ครีมกันแดด SpectarBAN SPF 50 ราคา 580 – 600 บาท
5.ปฏิบัติในตัวเองใหม่ ไม่กินเหล้า เบียร์ ทำได้แล้วจะหน้าดีขึ้น ไม่อ้วน มีตังค์เก็บอีกก
ออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 นาที 3 วัน/สัปดาห์ หลังจากออกกำลังกายให้รีบใช้น้ำเปล่าล้างหน้า เพราะเหงือเป็นกรดจะทำให้กัดหน้า บางคนแพ้เหงือก็มี
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยให้มันได้ 6 ชั่วโมง หรือให้นอนนานกว่านั้นก็ยิ่งดี
ดื่มน้ำเยอะๆเลย วันนึงให้ได้ขวดลิตรใหญ่ไปเลย (ร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบที่เยอะ)
กินอาหารที่มีประโยชน์ แต่ถ้าอยากกินอดไม่ได้พวกหมูกระทะ ชาบู เค้ก น้ำหวาน ก็กินได้ แต่ก็น้อยๆไม่ใช่กินทุกวัน
6.อดทนรอเวลา รอยจากสิวจะหายได้เอง 6 เดือนจะเริ่มจาง
7.ออกไปใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข แต่งหน้าเบาๆ เลือกใช้เครื่องสำอางที่ดีมีคุณภาพ
ไม่อิงกระแส อะไรเข้าใหม่ซื้อเอาๆ เก็บไว้หมดอายุเอามาใช้หน้าเป็นสิวได้
สิ่งสุดท้ายที่เราต้องมี คือความมั่นใจในตัวเอง รักในความเป็นตัวเอง สวยในฉบับของเรา
ยิ้มรับกับเรื่องสิวๆ ที่มันจะต้องมาอีกแน่ ^^//
เป็นกำลังใจให้นะคะ