รีวิว พรหมลิขิต กับ App Tinder 2017

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเราเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาซึ่งมันเกิดจากการที่เราได้เข้าไปเล่น App Tinder ทำให้ได้เจอกับคนคนนึงที่มีความหมายกับเรามาถึงทุกวันนี้

    ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าเราก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึงไม่ได้สวยไม่ได้อะไรแต่ก็พอมีคนมาจีบบ้าง มีคนคุยบ้างแต่เราไม่ได้คิดจริงจังกับใครเลยเพราะเราเหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ แล้วเห็นเพื่อน หรือ คนรอบข้างที่มีแฟน พอถึงเวลามันทะเลาะกันเราจะรู้สึกแบบเออไม่มีดี  รำคาญ แล้วก็วุ่นวาย ทำให้เวลาใครเข้ามาคุยเราก็จะคุยไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับใครเท่าไหร่ พอเข้ามากี่คน ๆ ก็คุยหมดใครไม่โอเคเราก็ออกห่าง เท อะไรแบบนี้ จนมาช่วงปิดเทอมซัมเมอร์อยู่ ๆ เราก็รู้สึกเบื่อชีวิตแบบนี้อยากอยู่คนเดียว ขี้เกียจมานั่งตอบใคร เราเลยตัดสินใจเทคนที่คุยอยู่ตอนนั้นแล้วใช้ชีวิตแบบแชทว่าง ๆ คุยแต่กับเพื่อน จนวันนึงไม่มีไรทำขึ้นมาซะงั้น เพราะระหว่างฝึกงานช่วงแรกก็คือจะไปนั่งเฉยๆ นั่งมองพี่ที่บริษัทเค้าทำงาน พอว่างจัดเราเลยนึกคึกลองเล่น App tinder นี่แหละ คือมันเป็น App แบบหาคนคุยจากพื้นที่รอบ ๆ แล้วถ้าถูกใจใครก็ไลค์ ไป ซึ่งถ้าอีกฝั่งถูกใจเราเหมือนกันแล้วไลค์กลับก็จะขึ้นแชทให้คุยกัน แต่ว่าแต่ละฝ่ายจะไม่มีทางรู้เลยนะว่าอีกฝ่ายไลค์เรามารึป่าว ....

         อ่ะมาต่อ คือApp นี้เพื่อนเราเล่นกันเราก็พอรู้จักแหละ แล้วเราก็ตอนฝึกงาน คือมันว่าง เราก็เลยโหลดมาเล่นบ้าง พอเล่นไปมันก็มีคนทักมาคุย ทักๆไปๆมาๆแต่เราก็ไม่ได้อะไรนะคุยบ้างตอบบ้าง มันดูไม่ผูกพันธ์ดี อยากตอบก็ตอบ ไม่อยากก็ไม่ตอบ จนมาวันนึงเพื่อนสนิทเราเอามือถือเราไปเล่น App นี้แล้วก็เจอผู้ชายคนนึงโผล่ขึ้นมา คือ ผู้ชายคนนั้นมีหนวด แล้วเพื่อนเราอะมันรู้สเป็คว่าเราชอบคนมีหนวด มันเลยถามว่า "ๆคนนี้มีหนวดกดถูกใจมั้ย" คือตอนนั้นเราจำได้ว่าเราหันไปเห็นแวบๆละพยักหน้าเชิงว่า “เอาเลยๆ” ไรงี้ หน้าตาเป็นไงยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เสร็จแล้วพอไลค์ไปมันก็เกิดการ match กันขึ้นมา เพราะผู้ชายคนนั้นก็ถูกใจเรามาเหมือนกัน สักพักเค้าก็ทักมา เราก็คุยปกติเหมือนผู้ชายตาม tinder ทั่วไปแหละ ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง แต่มันสะดุดที่ว่า ชื่อเค้าคนนั้นมันแปลก แล้วสรรพนามการคุยก็ใช้คำแปลก ๆ เรียกว่า คุณ กับ ผม เหมือนกำลังคุยกับนักธุรกิจ ทำให้เราพอที่จะจำเค้าได้มากกว่าคนอื่น จนเวลาผ่านไปประมาณ 20 กว่าวัน เราก็งงๆว่าเออ ทำไมแชทของผู้ชายคนนี้ถึงเป็นแชทที่เรายังตอบประจำ เพราะ ปกติแล้วใน tinder ที่เราเจอก็จะมีแต่หน้าหม้อ คุย 3 ประโยคขอไลน์ คุย 3 ประโยคขอเฟส อะไรแบบนี้ ซึ่งเราไม่ชอบเลย ( อันนี้ที่เราเจอนะแต่คนอื่นอาจจะไม่เจอแบบเรา) พอเวลาเราเจอพวกแบบนี้เราก็จะเลิกตอบ แต่แชทผู้ชายคนนี้เรายังตอบปกติ เพราะเค้าทักมาคุยแบบคุยเรื่องทั่วไป ถามโน้นนี่ ไม่มีการเชิงจีบ หรือขอคอนแทคใดๆทั้งสิ้น แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรนะแค่แบบเออน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ เพราะเค้าดูไลฟ์สไตล์เป็นเด็กบ้านๆ มาจากต่างจังหวัด อะไรแบบนี้ จนมาวันนึงเราเบื่อเลยจะลบ tinder ละ เราเลยบอกเค้าไปว่า เราจะลบ App นี้แล้วนะ มีไลน์มั้ย (เออสรุปเราขอไลน์) แต่ที่เราขอคือ เราเห็นว่าเค้าเป็นเพื่อนคนนึง คุยได้ ดูจริงใจดี เสร็จแล้วเค้าก็เป็นฝ่ายเอาไลน์เราไปแทน แล้วเค้าก็แอดมา หลังจากนั้นก็คุยไลน์กันปกติ แต่ก็ยังไม่ได้ตอบตลอด ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เพราะตอนนั้นเราแบบยังอินกับชีวิตที่ไม่มีคนคุย รู้สึกสบายอยู่ จนมาวันนึงเรามีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวเรื่องฝึกงาน ซึ่งเราเล่าให้ใครฟังไม่ได้ เราจำได้ว่าเราขึ้นดิสดำ แล้วขึ้นตัสว่าไม่โอเค แล้วเค้าก็ทักมาถามแล้วพูดกับเราว่ามีอะไรเล่าให้เค้าฟังได้นะ เราเลยตัดสินใจเล่าไปพอเล่าไปก็เหมือนได้ระบายจนโล่ง แล้วหลังจากวันนั้นทำให้เราสองคนได้คุยกันมากขึ้น บ่อยขึ้น มารู้ตัวอีกทีคือผ่านมาประมาณเดือนนึงซึ่งเค้าก็ต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแล้วเพราะเค้าฝึกงานเสร็จก่อนเรา ตอนนั้นเรามีแพลนจะนัดเจอกันที่ห้างแต่มีเรื่องการนับวันผิดพลาดนิดหน่อยทำให้เราสองคนไม่ได้เจอกัน แล้วเค้าก็กลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดไป ซึ่งการกลับไปก็กลับไปแบบไม่รู้จะได้เจอกันตอนไหนด้วย เพราะความสัมพันธ์ตอนนั้นมันก็แค่คนที่คุยกันผ่านตัวอักษร ซึ่งเราก็รู้สึกเซงๆเหมือนกันนะที่ไม่ได้มีโอกาสเจอกันเลยแต่ก็ยังไม่ได้อะไรเพราะคิดว่าพอเค้ากลับบ้านไปเดี๋ยวก็คงห่างกันเองแหละ แต่มันกลับไม่เป็นงั้นเพราะพอเค้ากลับบ้านไปยิ่งทำให้มีเวลาคุยกันมากขึ้นจนมารู้ตัวอีกทีคือเราฝึกงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วเราก็กลับไปที่มอ ตอนนั้นเราเริ่มรู้ตัวแล้วว่า เห้ยเรารู้สึกแปลกๆกับผู้ชายคนนี้ ทำไมเค้าทำให้เราไม่อยากคุยกับใครเลยอะ แบบมีคนคุยเก่าทักมาเราก็รู้สึกไม่อยากคุย อยากคุยกับแค่คนนี้คนเดียว พอเรากลับมอไปเรากับเค้าก็เริ่มคุยกันมากขึ้นไปอีกจนไปถึงการคอลไลน์คุยกัน และตามด้วยวีดีโอคอล คือมารู้ตัวอีกทีคือเราคอลคุยกันทุกวัน กลางคืนเจอกันผ่านหน้าจอ กลางวันพิมพ์คุยไลน์ เป็นแบบนี้มา 3 เดือน ซึ่งเราโคตรจะกลัวเราคิดไปเองเลยว่าเค้าจะไม่คิดแบบเรา ว่าเค้าจะคุยแบบนี้กับใครมั้ยแต่ก็มีโอกาสได้ตกลง ได้ถามนะว่าเค้ามีใครรึป่าว เค้าคุยกับใครบ้างอะไรแบบนี้ซึ่งเค้าก็ตอบว่าไม่มี แล้วบางวันก็มานั่งคิดว่า เออเราชอบเค้าตรงไหนว่ะ ทั้งๆที่นิสัยก็เหมือนผู้ชายห่ามๆทั่วไป ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากคนเก่าๆที่เราเคยเจอ บางทีก็ขี้คิดมาก ขี้นอยด์กว่าผู้หญิงอย่างเราอีก แต่ตลอดเวลาที่คุยกันก็ไม่ได้หวานชื่นนะ มีงอนมีทะเลาะกันบ้างแต่เราก็ไม่ได้คิดจะไปไหน หรือว่าอยากจะเลิกคุยกับเค้า แล้วมารู้ตัวอีกทีคือตอนนั้นรู้สึกชอบไปแล้ว ชอบแบบว่าไม่รู้จะมีโอกาสได้เจอตัวจริงกันตอนไหนด้วยแต่ในใจตัวเองยังมีแวบนึงที่คัดค้านนะว่า ไม่จริงอะกูไม่ได้ชอบขนาดนั้นก็แค่คุยไปวันๆแหละแต่ก็คุยกับเค้าคนนั้นแค่คนเดียวนะ !!!

    พอคุยกันมาได้เกือบจะเข้าเดือนที่ 4 เราก็พบกับความโชคร้าย หรือ โชคอะไรก็ไม่รู้มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้เรากับเค้าต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้ง เราขอไม่เล่าเรื่องราวที่ผ่านมานะเพราะบุคคลที่ 3 4 5 6 เยอะมากเราไม่อยากรื้อฟื้น แต่นั่นแหละเป็นเรื่องราวที่ผู้หญิงคนนึงและผู้ชายคนนึงจะต้องผ่านกันไป ตอนนั้นมีสองทางให้เลือกคือ จับมือกันเดินต่อ หรือ แยกย้ายกันก็จบแต่ไม่รู้ทำไมใจเรามันเลือกจะเดินต่อรวมทั้งใจเค้าด้วย เราสองคนเลยจับมือกันเดินต่อมาเรื่อยๆ โดยผ่านเรื่องราวพวกนั้นมาได้แบบที่ว่าตอนนี้มองย้อนกลับไปคือ “ผ่านกันมาได้ไงว่ะ” ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นต้องให้ความอดทน เข้มแข็ง และใช้ใจแลกใจกันมากพอสมควร ซึ่งส่วนตัวเราและเค้าก็ยังหาคำตอบไม่ได้จนถึงตอนนี้ว่าทำไมเราสองคนถึงกล้าแลกทั้งๆที่ไม่เคยได้เจอกันสักครั้ง มีแต่ผ่านมองหน้ากันผ่านหน้าจอและตัวหนังสือที่พิมพ์หากัน แต่สุดท้ายคือเราสามารถผ่านกันมาได้ ซึ่งในระหว่างนั้นเราสองคนมีทริปการนัดเจอกันด้วยการจะไปเที่ยวกันสักที่นึง เราก็ตัดสินใจละว่าเออจะไปจังหวัดนี้ เที่ยวที่นี่ๆๆๆ วางแผนทริปกันไป ซึ่งก็คือ การเจอกันของเราครั้งแรกคือการไปเที่ยวด้วยกันเลย ซึ่งจะต้องรอการปิดเทอม ทำให้ระยะเวลารวมที่เราคุยกันก็คือ 6 เดือนกว่า ก่อนที่จะได้เจอกัน

    แปลกมั้ย ?? แปลก !! ตัวเราเองยังว่าแปลกเลยยยยย จนวันนั้นมาถึงวันที่เจอกัน พอเจอกันปุ๊ปความรู้สึกเราครั้งแรกเลยคือ เออเจอแล้ววว แล้วหลังจากนั้นเราก็ไปเดินเที่ยวกัน แปลกกว่านั้นคือ เราสามารถเดินคุยกัน เม้าท์มอยกัน กินข้าว เลือกของ ทำแบบนี้ได้เหมือนกับเรารู้จักกันมาเป็นปี ไม่มีความเขินใด ๆ ทั้งสิ้น เหมือนไม่ใช่การเจอกันครั้งแรกเลย  (เขินแค่แวบแรกที่เจอ) แล้วเราก็เดินเล่นกันที่กรุงเทพก่อน 1 วัน แล้วพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน

    วันต่อมาเริ่มเดินทางเราต้องใช้ชีวิตด้วยกันในทริปนี้คือ 7 วัน สำหรับเรานะผู้หญิงอย่างเราก็กลัวอยู่ไม่กี่อย่าง คือ กลัวไปไม่รอด กลัวจบทริปแล้วเราจะไม่มีความประทับใจ กลัวแบบจะจบกัน และที่สำคัญแอบกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไรเรามั้ยถึงแม้ปากจะบอกว่าเชื่อใจว่าเค้าจะไม่ทำอะไร แต่ในใจลึกๆก็แอบกลัวเด้อ ซึ่งพอถึงเวลาจริง ๆ ในระหว่างนั่งรถไฟไปต่างจังหวัด เราโดนขอเป็นแฟนด้วย55555555555555555555 เขิน แล้วเราก็ดันตอบตกลงนะ พอหลังจากนั้นก็เที่ยวด้วยกัน 7 วันแบบแฟนกันคู่หนึ่ง จะบอกว่ามีความสุขแบบที่ไม้เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ เหมือนกับที่คนชอบบอกว่า “เคมีตรงกัน” แต่ก็ไม่ใช่ว่าทั้งทริปจะหวานชื่นเด้อ ก็มีงอนกันบ้างมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างแต่มันก็ผ่านไปด้วยดีหรืออาจเป็นเพราะเราคุยกันมานานก็ไม่รู้เลยรู้ใจกัน ส่วนเรื่องความไว้ใจผู้ชายคนนี้ว่าจะทำอะไรเรามั้ย ขอบอกเลยว่าเราคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกเค้า เค้าให้เกียรติเราแบบที่โอเคเลยแหละ วางตัวโอเคต่อหน้าทุกคน ทำให้เรารู้สึกคิดไม่ผิดที่เลือกผู้ชายคนนี้เป็นแฟน ตลอดการเจอกันมีแต่สิ่งดีๆ เรื่องราวดีๆ ความเฮฮา ความบ้าบอของเราสองคน ผสมกับความลำบากของทริปที่พิสูจน์ไปในตัวว่าคนใดคนนึงจะทนอยู่ด้วยกันได้มั้ย เพราะทริปนี้ลำบากจริง แล้วก็เหนื่อยมากๆ แต่โคตรมีความสุขเลย

    ถึงแม้เรื่องการเจอกันของเราสองคนอาจจะดูแปลกไปหน่อยก็ตาม แต่เราว่ามันถือเป็นความโชคดี และอยากขอบคุณทุกปัจจัยที่ทำให้เราเจอกับแฟนเราตั้งแต่การรู้จักกันครั้งแรก มาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับเราทุกต้นปีเราจะนึกอยู่ตลอดว่าของขวัญสำหรับปีนี้ๆมีอะไรบ้างซึ่งก็คือ ครอบครัวเรา และเพื่อนๆของเรา แต่ปีนี้ของขวัญที่พรหมลิขิตให้มาอีกชิ้นนึงคือ เค้าคนนี้แหละ อิอิ เราไม่รู้ว่าอนาคตข้างจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครตอบได้ แต่สำหรับเราและเค้าก็จะทำทุกวันให้ดีที่สุด เป็นความสุขของกันและกันไปแบบนี้แหละ สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรมากแค่อยากแชร์เรื่องราวดีๆให้เพื่อนๆฟังเฉยๆ เราไม่รู้ว่าจะเรียกว่าพรหมลิขิตตามชื่อเรื่องได้ไหมแต่ก็อยากขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะคะ  อมยิ้ม01 อมยิ้ม17
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่